คู่มือผู้ใช้ iPhone
- ยินดีต้อนรับ
-
-
- iPhone รุ่นที่สามารถใช้งานร่วมกับ iOS 18 ได้
- iPhone XR
- iPhone XS
- iPhone XS Max
- iPhone 11
- iPhone 11 Pro
- iPhone 11 Pro Max
- iPhone SE (รุ่นที่ 2)
- iPhone 12 mini
- iPhone 12
- iPhone 12 Pro
- iPhone 12 Pro Max
- iPhone 13 mini
- iPhone 13
- iPhone 13 Pro
- iPhone 13 Pro Max
- iPhone SE (รุ่นที่ 3)
- iPhone 14
- iPhone 14 Plus
- iPhone 14 Pro
- iPhone 14 Pro Max
- iPhone 15
- iPhone 15 Plus
- iPhone 15 Pro
- iPhone 15 Pro Max
- iPhone 16
- iPhone 16 Plus
- iPhone 16 Pro
- iPhone 16 Pro Max
- ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการตั้งค่า
- นำ iPhone มาใช้ในแบบของคุณเอง
- ถ่ายรูปและวิดีโอที่ยอดเยี่ยม
- ติดต่อกับเพื่อนและครอบครัว
- แชร์คุณสมบัติกับครอบครัวของคุณ
- ใช้ iPhone สำหรับชีวิตประจำวันของคุณ
- คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญจากบริการช่วยเหลือของ Apple
-
- มีอะไรใหม่ใน iOS 18
-
- เปลี่ยนเสียงและการสั่น
- ใช้และกำหนดปุ่มแอ็คชั่นเอง
- สร้างหน้าจอล็อคแบบกำหนดเอง
- เปลี่ยนภาพพื้นหลัง
- ปรับความสว่างหน้าจอและค่าสมดุลแสงสี
- เปิดหน้าจอ iPhone ทิ้งไว้เป็นเวลานานขึ้น
- ใช้สแตนด์บาย
- กำหนดขนาดข้อความและการตั้งค่าการซูมเอง
- เปลี่ยนชื่อ iPhone ของคุณ
- เปลี่ยนวันที่และเวลา
- เปลี่ยนภาษาและภูมิภาค
- ใช้และกำหนดศูนย์ควบคุมเอง
- เปลี่ยนเว็บเบราว์เซอร์หรือแอปอีเมลเริ่มต้นของคุณ
- หมุนหน้าจอ iPhone ของคุณ
- กำหนดตัวเลือกการแชร์เอง
-
- ใช้ตัวควบคุมกล้อง
- ใช้ตัวควบคุมกล้องเพื่อเปิดแอปอื่น
- ปรับระดับเสียงของชัตเตอร์
- ปรับการตั้งค่ากล้อง HDR
- บันทึกวิดีโอ
- ถ่ายรูปภาพเชิงมิติพื้นที่และบันทึกวิดีโอเชิงมิติพื้นที่สำหรับ Apple Vision Pro
- เปลี่ยนตัวเลือกการบันทึกเสียงบน iPhone 16 รุ่นต่างๆ
- บันทึกวิดีโอ ProRes
- บันทึกวิดีโอในโหมดภาพยนตร์
- เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าการบันทึกวิดีโอ
- บันทึกการตั้งค่ากล้อง
- กำหนดเลนส์บนกล้องหลักและกล้อง Fusion
- เปลี่ยนแปลงการตั้งค่ากล้องขั้นสูง
- ดู แชร์ และพิมพ์รูปภาพ
- ใช้ข้อความในภาพ
- สแกนคิวอาร์โค้ด
-
- เข็มทิศ
-
- เริ่มต้นใช้งาน FaceTime
- สร้างลิงก์ FaceTime
- ถ่าย Live Photo
- เปิดใช้คำบรรยายเสียงสดในสายโทร FaceTime
- ใช้แอปอื่นระหว่างโทรศัพท์
- โทร FaceTime แบบกลุ่ม
- ดูผู้เข้าร่วมในรูปแบบตาราง
- ใช้ SharePlay เพื่อดู ฟัง และเล่นด้วยกัน
- แชร์หน้าจอของคุณในการโทร FaceTime
- ร้องขอหรือให้การควบคุมระยะไกลในการโทร FaceTime
- ใช้งานเอกสารร่วมกันในแอป FaceTime
- ใช้คุณสมบัติการประชุมสายวิดีโอ
- ส่งต่อการโทร FaceTime ไปยังอุปกรณ์ Apple อีกเครื่อง
- เปลี่ยนการตั้งค่า FaceTime แบบวิดีโอ
- เปลี่ยนการตั้งค่า FaceTime แบบเสียง
- เปลี่ยนรูปลักษณ์ของคุณ
- ออกจากการโทรหรือสลับไปใช้แอปข้อความ
- ปิดกั้นและปิดเสียงการโทร FaceTime จากผู้โทรที่ไม่รู้จัก
- แจ้งการโทรว่าเป็นสแปม
-
- เริ่มต้นใช้งาน Freeform
- สร้างบอร์ด Freeform
- วาดหรือเขียนข้อความ
- แก้โจทย์คณิตศาสตร์ที่เขียนด้วยลายมือ
- เพิ่มข้อความในโน้ตแปะ รูปร่าง และกล่องข้อความ
- เพิ่มรูปร่าง เส้น และลูกศร
- เพิ่มไอดะแกรม
- เพิ่มรูปภาพ วิดีโอ และไฟล์อื่นๆ
- ปรับใช้รูปแบบที่สอดคล้องกัน
- จัดวางรายการบนบอร์ด
- นำทางและแสดงตำแหน่ง
- ส่งสำเนาหรือ PDF
- พิมพ์บอร์ด
- แชร์บอร์ดและใช้งานร่วมกัน
- ค้นหาบอร์ด Freeform
- ลบและกู้คืนบอร์ด
- เปลี่ยนการตั้งค่า Freeform
-
- ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับบ้าน
- อัปเกรดเป็นสถาปัตยกรรมบ้านแบบใหม่
- ตั้งค่าอุปกรณ์เสริม
- ควบคุมอุปกรณ์เสริม
- ควบคุมบ้านของคุณโดยใช้ Siri
- ใช้พยากรณ์โครงข่ายไฟฟ้าเพื่อวางแผนการใช้พลังงานของคุณ
- ดูการใช้ไฟฟ้าและอัตราค่าไฟฟ้า
- ตั้งค่า HomePod
- ควบคุมบ้านของคุณจากระยะไกล
- สร้างและใช้บรรยากาศ
- ใช้การทำงานอัตโนมัติ
- ตั้งค่ากล้องรักษาความปลอดภัย
- ใช้การจำใบหน้า
- ปลดล็อคประตูของคุณด้วยกุญแจบ้าน
- กำหนดค่าเราท์เตอร์
- เชิญคนอื่นให้ควบคุมอุปกรณ์เสริม
- เพิ่มบ้านเพิ่มเติม
-
- ดูแผนที่
- สำรวจแผนที่ 3D
-
- รับเส้นทางการเดินทาง
- เปลี่ยนหรือเพิ่มจุดแวะไปยังเส้นทางของคุณ
- ดูภาพรวมเส้นทางหรือรายการของการเลี้ยว
- เปลี่ยนการตั้งค่าสำหรับเสียงบอกเส้นทาง
- รับเส้นทางขับขี่
- รับเส้นทางไปยังรถที่คุณจอดอยู่
- ตั้งค่าเส้นทางยานยนต์ไฟฟ้า
- แจ้งเหตุการณ์จราจร
- รับเส้นทางปั่นจักรยาน
- รับเส้นทางเดิน
- บันทึกการเดินหรือการเดินเขา
- รับเส้นทางโดยสาร
- รับข้อมูลจราจรและข้อมูลสภาพอากาศ
- จองรถรับส่ง
- ประมาณเวลาเดินทางและเวลาที่คาดว่าจะถึง
- ดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์
- มองไปรอบๆ สถานที่
- เที่ยวชมด้วยทัวร์ Flyover
- ล้างประวัติตำแหน่งที่ตั้ง
- ลบเส้นทางล่าสุด
- เลือกโหมดเดินทางเริ่มต้นและหน่วย
- แจ้งปัญหาเกี่ยวกับแผนที่
-
- ตั้งค่าแอปข้อความ
- เกี่ยวกับ iMessage
- ส่งและตอบกลับข้อความ
- ส่งข้อความผ่านดาวเทียม
- ส่งภายหลัง
- เลิกส่งและแก้ไขข้อความ
- ติดตามข้อความ
- ค้นหา
- ส่งต่อและแชร์ข้อความ
- การสนทนาแบบกลุ่ม
- แชร์หน้าจอ
- ใช้งานโปรเจ็กต์ร่วมกัน
- ใช้แอป iMessage
- ถ่ายและแก้ไขรูปภาพหรือวิดีโอ
- แชร์รูปภาพ ลิงก์ และอื่นๆ
- ส่งสติกเกอร์
- สร้างและส่ง Memoji
- โต้ตอบด้วย Tapback
- ทำให้ข้อความมีสไตล์และเคลื่อนไหว
- วาดและเขียนข้อความ
- ส่งและบันทึก GIF
- ขอ ส่ง และรับการชำระเงิน
- ส่งและรับข้อความเสียง
- แชร์ตำแหน่งที่ตั้งของคุณ
- เปิดใช้หรือปิดใช้การแจ้งว่าได้อ่านแล้ว
- เปลี่ยนการแจ้งเตือน
- ปิดกั้น ฟิลเตอร์ และแจ้งข้อความ
- ลบข้อความและไฟล์แนบ
- กู้คืนข้อความที่ลบไปแล้ว
-
- เริ่มต้นใช้งานโน้ต
- สร้างและจัดรูปแบบโน้ต
- ใช้โน้ตด่วน
- เพิ่มการวาดและลายมือเขียน
- ป้อนสูตรและสมการ
- เพิ่มรูปภาพ วิดีโอ และอื่นๆ
- บันทึกเสียงและถอดเสียง
- สแกนข้อความและเอกสาร
- ใช้งานกับ PDF
- เพิ่มลิงก์
- ค้นหาโน้ต
- จัดระเบียบในโฟลเดอร์
- จัดระเบียบด้วยแท็ก
- ใช้โฟลเดอร์อัจฉริยะ
- แชร์และใช้งานร่วมกัน
- ส่งออกหรือพิมพ์โน้ต
- ล็อคโน้ต
- เพิ่มหรือเอาบัญชีออก
- เปลี่ยนมุมมองโน้ต
- เปลี่ยนการตั้งค่าของแอปโน้ต
-
- ใช้รหัสผ่าน
- ค้นหารหัสผ่านของคุณสำหรับเว็บไซต์หรือแอป
- เปลี่ยนรหัสผ่านสำหรับเว็บไซต์หรือแอป
- เอารหัสผ่านออก
- กู้คืนรหัสผ่านที่ลบไปแล้ว
- สร้างรหัสผ่านสำหรับเว็บไซต์หรือแอป
- ใช้พาสคีย์เพื่อลงชื่อเข้าแอปและเว็บไซต์
- ลงชื่อเข้าด้วย Apple
- แชร์รหัสผ่าน
- ป้อนรหัสผ่านที่ปลอดภัยสูงโดยอัตโนมัติ
- เปลี่ยนรหัสผ่านที่ปลอดภัยต่ำหรือถูกลดหย่อนความปลอดภัย
- ดูรหัสผ่านและข้อมูลที่เกี่ยวข้องของคุณ
- ค้นหาและแชร์รหัสผ่าน Wi-Fi ของคุณ
- แชร์รหัสผ่านอย่างปลอดภัยด้วย AirDrop
- ทำให้รหัสผ่านของคุณมีบนอุปกรณ์ทุกเครื่องของคุณ
- ป้อนรหัสการตรวจสอบยืนยันโดยอัตโนมัติ
- ป้อนรหัส SMS โดยอัตโนมัติ
- ลงชื่อเข้าด้วยความท้าทาย CAPTCHA ที่น้อยลง
- ใช้การตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัย
- ใช้กุญแจความปลอดภัย
-
- โทรออก
- เปลี่ยนการตั้งค่าโทรศัพท์ของคุณ
- ดูและลบประวัติการโทร
- รับสายหรือปฏิเสธสายโทรเข้า
- ขณะคุยโทรศัพท์
- ประชุมสายหรือโทรแบบสามสายบน iPhone
- ตั้งค่าวอยซ์เมล
- ตรวจสอบวอยซ์เมล
- เปลี่ยนเสียงตอบรับวอยซ์เมลและการตั้งค่า
- เลือกเสียงเรียกเข้าและการสั่น
- โทรออกโดยใช้ Wi-Fi
- ตั้งค่าการโอนสาย
- ตั้งค่าสายเรียกซ้อน
- ปิดกั้นหรือหลีกเลี่ยงสายโทรที่ไม่ต้องการ
-
- เริ่มต้นใช้งานรูปภาพ
- ดูรูปภาพและวิดีโอ
- ดูข้อมูลรูปภาพและวิดีโอ
- กำหนดแอปรูปภาพเอง
- ฟิลเตอร์และเรียงคลังรูปภาพ
- สำรองข้อมูลของคุณด้วย iCloud
- ลบหรือซ่อนรูปภาพและวิดีโอ
- ค้นหารูปภาพและวิดีโอ
- รับคำแนะนำภาพพื้นหลัง
- สร้างสติกเกอร์จากรูปภาพของคุณ
- ทำสำเนาและคัดลอกรูปภาพและวิดีโอ
- รวมรูปภาพและวิดีโอซ้ำ
- นำเข้าและส่งออกรูปภาพและวิดีโอ
- พิมพ์รูปภาพ
-
- เริ่มต้นใช้งานเตือนความจำ
- ตั้งค่าเตือนความจำ
- สร้างรายการของที่ต้องซื้อ
- เพิ่มรายละเอียด
- ทำรายการให้เสร็จและเอารายการออก
- แก้ไขและจัดระเบียบลิสต์
- ค้นหาลิสต์ของคุณ
- จัดระเบียบหลายลิสต์
- แท็กรายการ
- ใช้ลิสต์อัจฉริยะ
- แชร์และใช้งานร่วมกัน
- พิมพ์ลิสต์
- ทำงานกับแม่แบบ
- เพิ่มหรือเอาบัญชีออก
- เปลี่ยนการตั้งค่าเตือนความจำ
-
- ท่องเว็บ
- ค้นหาเว็บไซต์
- ดูไฮไลท์
- กำหนดการตั้งค่า Safari ของคุณเอง
- เปลี่ยนเค้าโครง
- สร้างโปรไฟล์ Safari หลายไฟล์
- ใช้ Siri เพื่อฟังหน้าเว็บ
- คั่นหน้าเว็บไซต์
- บันทึกหน้าเป็นรายการอ่าน
- ค้นหาลิงก์ที่แชร์กับคุณ
- ใส่คำอธิบายประกอบและบันทึกหน้าเว็บเป็น PDF
- กรอกแบบฟอร์มโดยอัตโนมัติ
- รับส่วนขยาย
- ล้างแคชและคุกกี้ของคุณ
- เปิดใช้งานคุกกี้
- คำสั่งลัด
- เคล็ดลับ
-
- ทำงานบนอุปกรณ์ทุกเครื่องโดยใช้ความต่อเนื่อง
- ใช้ iPhone ของคุณจาก Mac ของคุณ
- รับการแจ้งเตือน iPhone บน Mac ของคุณ
- ใช้ AirDrop เพื่อส่งรายการไปยังอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้เคียง
- ส่งต่องานระหว่างอุปกรณ์
- คัดลอกและวางระหว่างอุปกรณ์
- สตรีมวิดีโอและเสียงจาก iPhone ของคุณ
- อนุญาตสายโทรศัพท์และข้อความตัวอักษรบน iPad และ Mac ของคุณ
- แชร์การเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตของคุณด้วยฮอตปอตส่วนบุคคล
- ใช้ iPhone เป็นเว็บแคม
- แทรกภาพสเก็ตช์ รูปภาพ และภาพสแกนบน Mac
- เริ่ม SharePlay ทันที
- เชื่อมต่อ iPhone และคอมพิวเตอร์ของคุณด้วยสาย
-
- ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ CarPlay
- เชื่อมต่อกับ CarPlay
- ใช้ Siri
- ใช้ตัวควบคุมในรถของคุณ
- รับเส้นทางแบบเลี้ยวต่อเลี้ยว
- แจ้งเหตุการณ์จราจร
- เปลี่ยนมุมมองแผนที่
- โทรออก
- เล่นเพลง
- ดูปฏิทินของคุณ
- ส่งและรับข้อความตัวอักษร
- อ่านข้อความตัวอักษรขาเข้า
- เล่นพ็อดคาสท์
- เล่นหนังสือเสียง
- ฟังข่าวสาร
- ควบคุมบ้านของคุณ
- ใช้แอปอื่นด้วย CarPlay
- จัดเรียงไอคอนต่างๆ ใหม่บนหน้าโฮมของ CarPlay
- เปลี่ยนการตั้งค่าใน CarPlay
-
- เริ่มต้นด้วยคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึง
- ใช้คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงในระหว่างการตั้งค่า
- เปลี่ยนการตั้งค่าการช่วยการเข้าถึงสำหรับ Siri
- เปิดใช้หรือปิดใช้คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงอย่างรวดเร็ว
-
- ภาพรวมของคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงสำหรับการมองเห็น
- ซูมเข้า
- ดูข้อความที่คุณกำลังอ่านหรือป้อนในเวอร์ชั่นที่ใหญ่กว่า
- เปลี่ยนสีหน้าจอ
- ทำให้อ่านข้อความง่ายขึ้น
- ลดการเคลื่อนไหวบนหน้าจอ
- ใช้ iPhone อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้นในขณะโดยสารรถยนต์
- กำหนดการตั้งค่าภาพเฉพาะแอป
- ฟังสิ่งที่อยู่บนหน้าจอหรือที่ถูกป้อน
- ฟังคำบรรยายเสียง
- ปรับการตั้งค่า CarPlay
-
- เปิดใช้แล้วฝึกหัดใช้ VoiceOver
- เปลี่ยนการตั้งค่า VoiceOver ของคุณ
- ใช้คำสั่งนิ้ว VoiceOver
- สั่งงาน iPhone เมื่อ VoiceOver เปิดอยู่
- ควบคุม VoiceOver โดยใช้ตัวหมุน
- ใช้แป้นพิมพ์บนหน้าจอ
- เขียนด้วยนิ้วของคุณ
- ปิดหน้าจออยู่เสมอ
- ใช้ VoiceOver กับแป้นพิมพ์ภายนอก
- ใช้เครื่องแสดงผลอักษรเบรลล์
- ป้อนอักษรเบรลล์บนหน้าจอ
- กำหนดคำสั่งนิ้วและคำสั่งลัดแป้นพิมพ์เอง
- ใช้ VoiceOver กับอุปกรณ์ตัวชี้
- รับคำอธิบายของสิ่งรอบข้างคุณแบบสดๆ
- ใช้ VoiceOver ในแอปต่างๆ
-
- ภาพรวมของคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงสำหรับการเคลื่อนไหว
- ใช้ AssistiveTouch
- ปรับการตอบสนองต่อการสัมผัสของคุณของ iPhone
- การแตะด้านหลัง
- ใช้การดึงจอลงเพื่อแตะ
- การรับสายอัตโนมัติ
- ปิดใช้การสั่น
- เปลี่ยนการตั้งค่า Face ID และการตั้งใจมอง
- ใช้การสั่งการด้วยเสียง
- ใช้คำสั่งการสั่งการด้วยเสียงกับ CarPlay
- ปรับปุ่มด้านข้างหรือปุ่มโฮม
- ปรับการตั้งค่าการช่วยการเข้าถึงสำหรับตัวควบคุมกล้อง
- ใช้ปุ่มต่างๆ ของ Apple TV Remote
- ปรับการตั้งค่าตัวชี้
- ปรับการตั้งค่าแป้นพิมพ์
- ควบคุม iPhone ด้วยแป้นพิมพ์ภายนอก
- ปรับการตั้งค่า AirPods
- เปิดใช้การสะท้อนหน้าจอ Apple Watch
- ควบคุมอุปกรณ์ Apple ที่อยู่ใกล้เคียง
- ควบคุม iPhone ด้วยการเคลื่อนไหวของดวงตาของคุณ
-
- ภาพรวมของคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงสำหรับการได้ยิน
- ใช้อุปกรณ์รับฟัง
- ใช้ฟังสด
- ใช้การจำเสียง
- ตั้งค่าและใช้ RTT และ TTY
- กะพริบไฟแสดงสถานะสำหรับการแจ้งเตือน
- ปรับการตั้งค่าเสียง
- เล่นเสียงเบื้องหลัง
- แสดงคำบรรยายและคำบรรยายภาพ
- แสดงข้อความถอดเสียงสำหรับข้อความอินเตอร์คอม
- รับคำบรรยายเสียงสดของเสียงพูด
- เล่นเพลงด้วยการแตะ พื้นผิว และอื่นๆ
- รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับแตรรถยนต์และไซเรนใน CarPlay
-
- ควบคุมสิ่งที่คุณแชร์
- เปิดใช้คุณสมบัติหน้าจอล็อค
- ทำให้บัญชี Apple ของคุณปลอดภัย
- สร้างและจัดการที่อยู่สำหรับซ่อนอีเมลของฉัน
- ปกป้องการท่องเว็บของคุณด้วย iCloud Private Relay
- ใช้ที่อยู่เครือข่ายส่วนตัว
- ใช้การปกป้องข้อมูลขั้นสูง
- ใช้โหมดล็อคดาวน์
- ใช้การปกป้องอุปกรณ์เมื่อถูกขโมย
- รับคำเตือนเกี่ยวกับเนื้อหาที่ละเอียดอ่อน
- ใช้การตรวจสอบยืนยันรหัสผู้ติดต่อ
-
- ข้อมูลด้านความปลอดภัยที่สำคัญ
- ข้อมูลด้านการดูแลที่สำคัญ
- ค้นหาแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซอฟต์แวร์และบริการ
- แถลงการณ์การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ FCC
- แถลงการณ์การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ ISED Canada
- ข้อมูลแถบความถี่กว้างยิ่งยวด
- ข้อมูลเกี่ยวกับเลเซอร์คลาส 1
- Apple กับสิ่งแวดล้อม
- ข้อมูลด้านการกำจัดและการรีไซเคิล
- การแก้ไข iOS โดยไม่ได้รับอนุญาต
- ลิขสิทธิ์
ข้อมูลด้านการดูแลที่สำคัญสำหรับ iPhone
การทำความสะอาด ทำความสะอาด iPhone ทันทีหากเครื่องสัมผัสกับสิ่งใดก็ตามที่อาจทำให้เกิดคราบหรือความเสียหายอื่น เช่น ดิน ทราย น้ำหมึก เครื่องสำอาง สบู่ สารซักล้าง กรดหรืออาหารที่เป็นกรด หรือโลชั่น การทำความสะอาด:
ถอดสายทั้งหมดออก แล้วปฏิบัติตามวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้เพื่อปิด iPhone:
บน iPhone ที่มี Face ID: กดปุ่มด้านข้างและปุ่มปรับเสียง โดยกดทั้งสองปุ่มพร้อมกันค้างไว้จนกว่าแถบเลื่อนจะแสดงขึ้น จากนั้นลากแถบเลื่อนด้านบนสุด
บน iPhone ที่มีปุ่มโฮม: กดปุ่มด้านข้างค้างไว้แล้วลากแถบเลื่อน
ทุกรุ่น: ไปที่ การตั้งค่า > ทั่วไป > ปิดเครื่อง แล้วลากแถบเลื่อน
ใช้ผ้านุ่มไม่เป็นขุยที่บิดหมาดเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น ผ้าเช็ดเลนส์
อย่าให้มีความชื้นเข้าไปในช่องเปิดใดๆ
ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหรือสเปรย์อัดอากาศ
iPhone มีการเคลือบสารป้องกันรอยนิ้วมือ (ป้องกันน้ำมัน) สารเคลือบนี้จะหลุดลอกไปตามเวลาด้วยการใช้งานปกติ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและวัสดุขัดถูจะยิ่งทำให้สารเคลือบนี้หายไป และอาจขีดข่วน iPhone ได้
การสัมผัสกับของเหลวและฝุ่น ถ้า iPhone ถูกน้ำกระเซ็นใส่หรือมีฝุ่นเกาะบนตัวเครื่อง ให้เช็ดออกด้วยผ้านุ่มที่ไม่เป็นขุย (เช่น ผ้าเช็ดเลนส์) แล้วตรวจสอบให้แน่ใจว่า iPhone ของคุณแห้งและปราศจากฝุ่นก่อนเปิดถาดซิม โปรดหลีกเลี่ยงไม่ให้ iPhone สัมผัสกับสบู่ สารซักล้าง กรดหรืออาหารที่เป็นกรด และของเหลวทุกประเภท เช่น น้ำเค็ม น้ำสบู่ น้ำในสระว่ายน้ำ น้ำหอม ยาไล่แมลง โลชั่น สารกันแดด น้ำมัน น้ำยาล้างกาว ยาย้อมผม และตัวทำละลายต่างๆ ถ้า iPhone สัมผัสกับสารใดๆ เหล่านี้ ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านบนในส่วน “การทำความสะอาด”
รุ่นที่รองรับ สามารถทนต่อการกระเซ็นของน้ำและทนฝุ่นละอองได้ อุปกรณ์ได้รับการทดสอบภายใต้สภาพห้องทดลองที่ได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวดให้มีอัตราเป็น IP68 หรือ IP67 ตามมาตรฐาน IEC 60529 การทนต่อกระเซ็นของน้ำ น้ำ และฝุ่นละอองนั้นไม่ใช่สภาพถาวร การทนต่อสิ่งต่างๆ นี้อาจลดลงไปได้จากผลของการสึกหรอตามปกติ การรับประกันไม่ได้รวมถึงความเสียหายจากของเหลว ดูบทความบริการช่วยเหลือของ Apple เกี่ยวกับคุณสมบัติการทนน้ำ ทนน้ำที่กระเด็นใส่ และทนฝุ่นของ iPhone 7 ขึ้นไป เพื่อป้องกันไม่ให้ iPhone เกิดความเสียหายจากของเหลว ให้หลีกเลี่ยงการกระทำต่อไปนี้:
ว่ายน้ำหรืออาบน้ำพร้อม iPhone
การทำให้ iPhone สัมผัสน้ำที่มีแรงดันหรือน้ำที่มีความเร่งสูง เช่น น้ำที่สัมผัสในขณะที่คุณอาบน้ำฝักบัว เล่นสกีน้ำ เล่นเวคบอร์ด เล่นโต้คลื่น เล่นเจ็ตสกี และอื่นๆ
การใช้ iPhone ในห้องอบเซาว์น่าหรือห้องอบไอน้ำ
การตั้งใจจุ่ม iPhone ลงในน้ำ
การใช้งาน iPhone นอกเหนือขอบเขตอุณหภูมิที่กำหนดหรือใช้ในสภาพที่มีความชื้นสูงมาก
การทำ iPhone ตกหรือโดนแรงกระแทกอื่นๆ
แกะแยกชิ้นส่วน iPhone ซึ่งรวมถึงเอาสกรูต่างๆ ออกด้วย
ถ้า iPhone ของคุณสัมผัสของเหลว ให้ถอดสายทั้งหมดออก แล้วอย่าชาร์จอุปกรณ์ของคุณจนกว่าจะแห้งสนิท การใช้อุปกรณ์เสริมหรือการชาร์จ iPhone ในขณะที่ยังเปียกอยู่อาจทำให้ iPhone ของคุณเสียหายได้ ทิ้งไว้อย่างน้อย 5 ชั่วโมงก่อนชาร์จหรือเสียบอุปกรณ์เสริม Lightning หรือ USB-C
ในการทำให้ iPhone แห้ง ให้เคาะ iPhone เบาๆ กับมือของคุณโดยหันให้ช่องต่อ Lightning หรือ USB-C อยู่ด้านล่างเพื่อให้ของเหลวไหลออกมา ปล่อยให้อุปกรณ์นั้นอยู่ในที่แห้งและมีการถ่ายเทอากาศ การวางอุปกรณ์นั้นไว้หน้าพัดลมที่เป่าลมเย็นโดยตรงใส่ช่องต่อ Lightning หรือ USB-C อาจช่วยทำให้แห้งได้
อย่าทำให้ iPhone ของคุณแห้งโดยใช้แหล่งความร้อนภายนอกหรือเสียบสิ่งแปลกปลอม เช่น สำลีพันปลายไม้หรือกระดาษชำระ เข้าไปในช่องต่อ Lightning หรือ USB-C
การใช้หัวต่อ พอร์ต และปุ่มต่างๆ อย่าฝืนเสียบหัวต่อเข้าไปในพอร์ตหรือใช้แรงกดปุ่มมากเกินไป เพราะการกระทำนี้อาจทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การรับประกัน ถ้าขั้วต่อและช่องต่อเสียบเข้ากันไม่ได้ตามที่ควรจะเป็น แสดงว่าอุปกรณ์ทั้งสองอาจไม่เข้ากัน ตรวจสอบหาสิ่งกีดขวางแล้วตรวจสอบให้แน่ใจว่าหัวต่อนั้นเข้ากันได้กับพอร์ต และคุณได้เสียบหัวต่อเข้ากับพอร์ตในตำแหน่งที่ถูกต้องแล้ว
สาย USB-C หรือ USB-C เป็น Lightning เป็นเรื่องปกติที่ช่องต่อ Lightning หรือ USB-C จะมีสีที่เปลี่ยนไปหลังจากการใช้งานตามปกติ ฝุ่น เศษผง และการสัมผัสความชื้นอาจทำให้สีเปลี่ยนได้ ถ้าสายหรือหัวต่อ Lightning หรือ USB-C อุ่นขึ้นระหว่างการใช้ หรือ iPhone ของคุณไม่ชาร์จไฟหรือเชื่อมข้อมูล ให้ถอดสายออกจากคอมพิวเตอร์หรืออะแดปเตอร์แปลงไฟของคุณ แล้วทำความสะอาดช่องต่อ Lightning หรือ USB-C ด้วยผ้าที่นุ่ม แห้ง และไม่เป็นขุย อย่าใช้ของเหลวหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในการทำความสะอาดช่องต่อ Lightning หรือ USB-C
รูปแบบการใช้งานบางอย่างสามารถนำไปสู่การชำรุดหรือหักขาดของสายชาร์จได้ สายที่ให้มาด้วยก็เหมือนลวดโลหะหรือสายไฟทั่วไป คืออาจจะอ่อนและเปราะหักได้หากมีการงอที่จุดเดิมซ้ำๆ เน้นจับที่ช่วงโค้งอ่อนนุ่มแทนที่จะเป็นบริเวณมุม ตรวจสอบสายและหัวต่อเพื่อหาตำหนิ รอยฉีกขาด ส่วนที่งอ หรือความเสียหายอื่นๆ เป็นประจำ ถ้าคุณพบความเสียหายดังกล่าว ให้หยุดใช้สายทันที
อุณหภูมิการทำงาน iPhone ได้รับการออกแบบให้ทำงานในที่ที่มีอุณหภูมิรอบข้างอยู่ระหว่าง 0° ถึง 35°C (32° ถึง 95°F) และให้จัดเก็บไว้ในอุณหภูมิระหว่าง -20° ถึง 45°C (-4° ถึง 113°F) iPhone อาจเสียหายและมีระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่สั้นลงได้หากจัดเก็บหรือใช้งานนอกเหนือช่วงอุณหภูมิเหล่านี้ หลีกเลี่ยงการนำ iPhone ออกมาใช้ในที่ที่อุณหภูมิหรือความชื้นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่คุณใช้ iPhone ของคุณหรือชาร์จแบตเตอรี่ ถือเป็นเรื่องปกติถ้า iPhone จะอุ่นขึ้น
ถ้าอุณหภูมิภายใน iPhone เกินอุณหภูมิการใช้งานปกติ (เช่น ในรถยนต์ที่ร้อน หรืออยู่ใต้แสงแดดโดยตรงเป็นระยะเวลานาน) คุณอาจเจอสถานการณ์ดังต่อไปนี้ขณะ iPhone พยายามควบคุมอุณหภูมิให้เป็นปกติ:
iPhone หยุดชาร์จ
หน้าจอหรี่ลง
หน้าจอเตือนเรื่องอุณหภูมิแสดงขึ้น
แอปบางตัวปิดลง
สิ่งสำคัญ: คุณอาจไม่สามารถใช้ iPhone ได้ขณะที่หน้าจอเตือนเรื่องอุณหภูมิแสดงอยู่ ถ้า iPhone ไม่สามารถกลับสู่อุณหภูมิภายในตามปกติได้ เครื่องจะเข้าสู่โหมดพักจนกว่าเครื่องจะเย็น ย้าย iPhone มายังที่ที่เย็นขึ้นให้ห่างจากแสงแดดโดยตรง และรอสักครู่ก่อนลองใช้ iPhone ใหม่อีกครั้ง
ดูบทความบริการช่วยเหลือของ Apple การรักษา iPhone, iPad และ iPod touch ให้อยู่ภายในอุณหภูมิการใช้งานที่เหมาะสม