คู่มือผู้ใช้ iPhone
- ยินดีต้อนรับ
-
- รุ่นที่รองรับ
- iPhone 8
- iPhone 8 Plus
- iPhone X
- iPhone XR
- iPhone XS
- iPhone XS Max
- iPhone 11
- iPhone 11 Pro
- iPhone 11 Pro Max
- iPhone SE (รุ่นที่ 2)
- iPhone 12 mini
- iPhone 12
- iPhone 12 Pro
- iPhone 12 Pro Max
- iPhone 13 mini
- iPhone 13
- iPhone 13 Pro
- iPhone 13 Pro Max
- iPhone SE (รุ่นที่ 3)
- iPhone 14
- iPhone 14 Plus
- iPhone 14 Pro
- iPhone 14 Pro Max
- มีอะไรใหม่ใน iOS 16
-
- ปรับระดับเสียง
- ทำงานมัลติทาสก์ด้วยหน้าต่างย่อยในหน้าต่างหลัก
- เข้าถึงคุณสมบัติจากหน้าจอล็อค
- ดูกิจกรรมใน Dynamic Island
- ดำเนินการการทำงานด่วน
- ค้นหาจากหน้าจอโฮมหรือหน้าจอล็อค
- ใช้ AirDrop เพื่อส่งรายการ
- ถ่ายภาพหน้าจอหรือบันทึกหน้าจอ
- รับข้อมูลเกี่ยวกับ iPhone ของคุณ
- ดูหรือเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าข้อมูลเซลลูลาร์
- เดินทางพร้อมกับ iPhone
-
- เครื่องคิดเลข
- เข็มทิศ
-
- ตั้งค่า FaceTime
- โทรออกและรับสาย
- สร้างลิงก์ FaceTime
- ถ่าย Live Photos
- เปิดใช้คำบรรยายเสียงสดในสายโทร FaceTime
- ใช้แอปอื่นระหว่างโทรศัพท์
- โทร FaceTime แบบกลุ่ม
- ดูผู้เข้าร่วมในรูปแบบตาราง
- ใช้ SharePlay เพื่อดู ฟัง และเล่นด้วยกัน
- แชร์หน้าจอของคุณ
- ส่งต่อจากสายโทร FaceTime ไปยังอุปกรณ์อีกเครื่องหนึ่ง
- เปลี่ยนการตั้งค่าวิดีโอ
- เปลี่ยนการตั้งค่าเสียง
- เพิ่มเอฟเฟ็กต์กล้อง
- ออกจากการโทรหรือสลับไปใช้แอปข้อความ
- ปิดกั้นผู้โทรที่ไม่ต้องการ
-
- บทนำเรื่องแอปบ้าน
- อัปเกรดเป็นสถาปัตยกรรมบ้านแบบใหม่
- ตั้งค่าอุปกรณ์เสริม
- ควบคุมอุปกรณ์เสริม
- ควบคุมบ้านของคุณโดยใช้ Siri
- กำหนดค่า HomePod
- ควบคุมบ้านของคุณจากระยะไกล
- สร้างและใช้บรรยากาศ
- สร้างการทำงานอัตโนมัติ
- กำหนดค่ากล้อง
- การจำใบหน้า
- ปลดล็อคประตูของคุณด้วยกุญแจบ้าน
- กำหนดค่าเราท์เตอร์
- แชร์ตัวควบคุมกับคนอื่น
- เพิ่มบ้านเพิ่มเติม
-
- ดูแผนที่
-
- ค้นหาสถานที่
- ค้นหาสถานที่น่าสนใจ ร้านอาหาร และบริการที่อยู่ใกล้เคียง
- รับข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่
- ทำเครื่องหมายสถานที่
- แชร์สถานที่
- จัดอันดับสถานที่
- บันทึกสถานที่โปรด
- สำรวจสถานที่ใหม่ๆ ด้วยสถานที่น่าสนใจ
- จัดระเบียบสถานที่ในสถานที่น่าสนใจของฉัน
- รับข้อมูลจราจรและข้อมูลสภาพอากาศ
- ลบตำแหน่งที่ตั้งสำคัญ
- ค้นหาการตั้งค่าแผนที่ของคุณ
- เรียกรถรับส่ง
-
- ตั้งค่าแอปข้อความ
- ส่งและตอบกลับข้อความ
- เลิกส่งและแก้ไขข้อความ
- ติดตามข้อความและการสนทนา
- ส่งต่อและแชร์ข้อความ
- เริ่มต้นการสนทนาแบบกลุ่ม
- เพิ่มรูปภาพและวิดีโอ
- ส่งและรับเนื้อหา
- ดู ฟัง หรือเล่นด้วยกันโดยใช้ SharePlay
- ใช้งานโปรเจ็กต์ร่วมกัน
- ทำให้ข้อความเคลื่อนไหว
- ใช้แอป iMessage
- ใช้ Memoji
- ส่งข้อความเสียงที่บันทึกไว้
- ส่งเอฟเฟ็กต์ Digital Touch
- ส่งเงิน รับเงิน และขอเงินผ่าน Apple Cash
- เปลี่ยนการแจ้งเตือน
- ปิดกั้น ฟิลเตอร์ และแจ้งข้อความ
- ลบข้อความ
- กู้คืนข้อความที่ถูกลบ
-
- ดูรูปภาพ
- เล่นวิดีโอและสไลด์โชว์
- ลบหรือซ่อนรูปภาพและวิดีโอ
- แก้ไขรูปภาพและวิดีโอ
- ตัดต่อความยาววิดีโอและปรับสโลว์โมชั่น
- แก้ไขวิดีโอโหมดภาพยนตร์
- แก้ไข Live Photos
- แก้ไขรูปภาพในโหมดภาพถ่ายบุคคล
- ใช้อัลบั้มรูปภาพ
- แก้ไขและจัดระเบียบอัลบั้ม
- ฟิลเตอร์และเรียงรูปภาพและวิดีโอในอัลบั้ม
- ทำสำเนาและคัดลอกรูปภาพและวิดีโอ
- ค้นหาและลบรูปภาพและวิดีโอซ้ำ
- ค้นหารูปภาพ
- ค้นหาและระบุผู้คนในแอปรูปภาพ
- เลือกหารูปภาพตามตำแหน่งที่ตั้ง
- แชร์รูปภาพและวิดีโอ
- แชร์วิดีโอแบบยาว
- ดูรูปภาพและวิดีโอที่แชร์กับคุณ
- ใช้ข้อความในภาพเพื่อโต้ตอบกับเนื้อหาในรูปภาพหรือวิดีโอ
- ใช้ค้นดูจากภาพเพื่อระบุวัตถุในรูปภาพของคุณ
- ยกสิ่งที่ถ่ายขึ้นจากพื้นหลังของรูปภาพ
- ดูความทรงจำ
- ปรับแต่งความทรงจำของคุณสำหรับคุณโดยเฉพาะ
- จัดการความทรงจำและรูปภาพแนะนำ
- นำเข้ารูปภาพและวิดีโอ
- พิมพ์รูปภาพ
- คำสั่งลัด
- เคล็ดลับ
-
- เก็บบัตรและตั๋วในแอปกระเป๋าสตางค์
- ตั้งค่า Apple Pay
- ใช้ Apple Pay สำหรับการชำระเงินแบบไร้การสัมผัส
- ใช้ Apple Pay ในแอป แอปคลิป และ Safari
- ใช้ Apple Cash
- ใช้ Apple Card
- ใช้ Savings
- จัดการบัตรชำระเงินและกิจกรรม
- ชำระค่าโดยสาร
- ใช้กุญแจดิจิทัล
- ใช้ใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนมลรัฐของคุณ
- ใช้บัตรประจำตัวนักเรียน
- บัตรบัญชี Apple
- เพิ่มและใช้บัตร
- จัดการบัตร
- ใช้บัตรการฉีดวัคซีนโควิด-19
-
- แชร์การเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตของคุณ
- อนุญาตสายโทรศัพท์บน iPad, iPod touch และ Mac ของคุณ
- ใช้ iPhone เป็นเว็บแคม
- ส่งต่องานระหว่างอุปกรณ์
- สตรีมวิดีโอ รูปภาพ และเสียงแบบไร้สายไปยัง Mac
- ตัด คัดลอก และวางระหว่าง iPhone กับอุปกรณ์เครื่องอื่น
- เชื่อมต่อ iPhone และคอมพิวเตอร์ของคุณด้วยสาย
-
- ถ่ายโอนไฟล์ระหว่างอุปกรณ์
- ถ่ายโอนไฟล์โดยใช้อีเมล ข้อความ หรือ AirDrop
- อัปเดตไฟล์ให้ตรงกันอยู่เสมอโดยอัตโนมัติด้วย iCloud
- ถ่ายโอนไฟล์โดยใช้อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก
- ใช้เซิร์ฟเวอร์ไฟล์เพื่อแชร์ไฟล์ระหว่าง iPhone กับคอมพิวเตอร์ของคุณ
- แชร์ไฟล์กับบริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบคลาวด์
- เชื่อมข้อมูลเนื้อหาหรือถ่ายโอนไฟล์โดยใช้ Finder หรือ iTunes
-
- บทนำเรื่อง CarPlay
- เชื่อมต่อกับ CarPlay
- ใช้ Siri
- ใช้ตัวควบคุมในรถของคุณ
- รับเส้นทางแบบเลี้ยวต่อเลี้ยว
- แจ้งเหตุการณ์จราจร
- เปลี่ยนมุมมองแผนที่
- โทรออก
- เล่นเพลง
- ดูปฏิทินของคุณ
- ส่งและรับข้อความตัวอักษร
- อ่านข้อความตัวอักษรขาเข้า
- เล่นพ็อดคาสท์
- เล่นหนังสือเสียง
- ฟังข่าวสาร
- ควบคุมบ้านของคุณ
- ใช้แอปอื่นด้วย CarPlay
- จัดเรียงไอคอนต่างๆ ใหม่บนหน้าโฮมของ CarPlay
- เปลี่ยนการตั้งค่าใน CarPlay
-
- เริ่มต้นด้วยคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึง
-
-
- เปิดใช้แล้วฝึกหัดใช้ VoiceOver
- เปลี่ยนการตั้งค่า VoiceOver ของคุณ
- เรียนรู้คำสั่งนิ้ว VoiceOver
- สั่งงาน iPhone เมื่อ VoiceOver เปิดอยู่
- ควบคุม VoiceOver โดยใช้ตัวหมุน
- ใช้แป้นพิมพ์บนหน้าจอ
- เขียนด้วยนิ้วของคุณ
- ใช้ VoiceOver กับแป้นพิมพ์ภายนอกของ Apple
- ใช้เครื่องแสดงผลอักษรเบรลล์
- ป้อนอักษรเบรลล์ให้แสดงบนหน้าจอ
- กำหนดคำสั่งนิ้วและคำสั่งลัดแป้นพิมพ์เอง
- ใช้ VoiceOver กับอุปกรณ์ตัวชี้
- ใช้ VoiceOver สำหรับภาพและวิดีโอ
- ใช้ VoiceOver ในแอปต่างๆ
- ซูม
- จอภาพและขนาดข้อความ
- การเคลื่อนไหว
- การอ่านเนื้อหา
- คำบรรยายเสียง
-
-
- ใช้การปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในตัว
- ทำให้ Apple ID ของคุณปลอดภัย
-
- ลงชื่อเข้าด้วยพาสคีย์
- ลงชื่อเข้าด้วย Apple
- ป้อนรหัสผ่านที่ปลอดภัยสูงโดยอัตโนมัติ
- เปลี่ยนรหัสผ่านที่ปลอดภัยต่ำหรือถูกลดหย่อนความปลอดภัย
- ดูรหัสผ่านและข้อมูลที่เกี่ยวข้องของคุณ
- แชร์พาสคีย์และรหัสผ่านอย่างปลอดภัยด้วย AirDrop
- ทำให้พาสคีย์และรหัสผ่านของคุณมีบนอุปกรณ์ทุกเครื่องของคุณ
- ป้อนรหัสการตรวจสอบยืนยันโดยอัตโนมัติ
- ป้อนรหัส SMS โดยอัตโนมัติ
- ลงชื่อเข้าด้วยความท้าทาย CAPTCHA ที่น้อยลงบน iPhone
- จัดการการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยสำหรับ Apple ID ของคุณ
- ใช้รหัสความปลอดภัย
- สร้างและจัดการที่อยู่สำหรับซ่อนอีเมลของฉัน
- ปกป้องการท่องเว็บของคุณด้วย iCloud Private Relay
- ใช้ที่อยู่เครือข่ายส่วนตัว
- ใช้การปกป้องข้อมูลขั้นสูง
- โหมดล็อคดาวน์
-
- เปิดหรือปิดเครื่อง iPhone
- บังคับให้ iPhone เริ่มการทำงานเครื่องใหม่
- อัปเดต iOS
- สำรองข้อมูล iPhone
- คืนการตั้งค่า iPhone กลับเป็นค่าเริ่มต้น
- กู้คืนเนื้อหาทั้งหมดจากข้อมูลสำรอง
- กู้คืนรายการที่ซื้อและรายการที่ลบ
- ขาย ยกให้ หรือแลกเปลี่ยน iPhone ของคุณกับผู้อื่น
- ลบข้อมูล iPhone
- ติดตั้งหรือเอาโปรไฟล์การกำหนดค่าออก
-
- ข้อมูลด้านความปลอดภัยที่สำคัญ
- ข้อมูลด้านการดูแลที่สำคัญ
- ค้นหาแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซอฟต์แวร์และบริการ
- แถลงการณ์การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ FCC
- แถลงการณ์การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ ISED Canada
- ข้อมูลแถบความถี่กว้างยิ่งยวด
- ข้อมูลเกี่ยวกับเลเซอร์คลาส 1
- Apple กับสิ่งแวดล้อม
- ข้อมูลด้านการกำจัดและการรีไซเคิล
- การแก้ไข iOS โดยไม่ได้รับอนุญาต
- ลิขสิทธิ์
ข้อมูลด้านการดูแลที่สำคัญสำหรับ iPhone
การทำความสะอาด ทำความสะอาด iPhone ทันทีหากเครื่องสัมผัสกับสิ่งใดก็ตามที่อาจทำให้เกิดคราบหรือความเสียหายอื่น เช่น ดิน ทราย น้ำหมึก เครื่องสำอาง สบู่ สารซักล้าง กรดหรืออาหารที่เป็นกรด หรือโลชั่น การทำความสะอาด:
ถอดสายทั้งหมดออก แล้วปฏิบัติตามวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้เพื่อปิด iPhone:
บน iPhone ที่มี Face ID: กดปุ่มด้านข้างและปุ่มปรับเสียง โดยกดทั้งสองปุ่มพร้อมกันค้างไว้จนกว่าแถบเลื่อนจะแสดงขึ้น จากนั้นลากแถบเลื่อนด้านบนสุด
บน iPhone ที่มีปุ่มโฮม: กดปุ่มด้านข้างค้างไว้แล้วลากแถบเลื่อน
ทุกรุ่น: ไปที่ การตั้งค่า > ทั่วไป > ปิดเครื่อง แล้วลากแถบเลื่อน
ใช้ผ้านุ่มไม่เป็นขุยที่บิดหมาดเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น ผ้าเช็ดเลนส์
อย่าให้มีความชื้นเข้าไปในช่องเปิดใดๆ
ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหรือสเปรย์อัดอากาศ
iPhone มีการเคลือบสารป้องกันรอยนิ้วมือ (ป้องกันน้ำมัน) สารเคลือบนี้จะหลุดลอกไปตามเวลาด้วยการใช้งานปกติ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและวัสดุขัดถูจะยิ่งทำให้สารเคลือบนี้หายไป และอาจขีดข่วน iPhone ได้
การสัมผัสกับของเหลวและฝุ่น ถ้า iPhone ถูกน้ำกระเซ็นใส่หรือมีฝุ่นเกาะบนตัวเครื่อง ให้เช็ดออกด้วยผ้านุ่มที่ไม่เป็นขุย (เช่น ผ้าเช็ดเลนส์) แล้วตรวจสอบให้แน่ใจว่า iPhone ของคุณแห้งและปราศจากฝุ่นก่อนเปิดถาดซิม โปรดหลีกเลี่ยงไม่ให้ iPhone สัมผัสกับสบู่ สารซักล้าง กรดหรืออาหารที่เป็นกรด และของเหลวทุกประเภท เช่น น้ำเค็ม น้ำสบู่ น้ำในสระว่ายน้ำ น้ำหอม ยาไล่แมลง โลชั่น สารกันแดด น้ำมัน น้ำยาล้างกาว ยาย้อมผม และตัวทำละลายต่างๆ ถ้า iPhone สัมผัสกับสารใดๆ เหล่านี้ ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านบนในส่วน “การทำความสะอาด”
รุ่นที่รองรับ สามารถทนต่อการกระเซ็นของน้ำและทนฝุ่นละอองได้ อุปกรณ์ได้รับการทดสอบภายใต้สภาพห้องทดลองที่ได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวดให้มีอัตราเป็น IP68 หรือ IP67 ตามมาตรฐาน IEC 60529 การทนต่อกระเซ็นของน้ำ น้ำ และฝุ่นละอองนั้นไม่ใช่สภาพถาวร การทนต่อสิ่งต่างๆ นี้อาจลดลงไปได้จากผลของการสึกหรอตามปกติ การรับประกันไม่ได้รวมถึงความเสียหายจากของเหลว ดูบทความบริการช่วยเหลือของ Apple เกี่ยวกับคุณสมบัติการทนน้ำ ทนน้ำที่กระเด็นใส่ และทนฝุ่นของ iPhone 7 ขึ้นไป เพื่อป้องกันไม่ให้ iPhone เกิดความเสียหายจากของเหลว ให้หลีกเลี่ยงการกระทำต่อไปนี้:
ว่ายน้ำหรืออาบน้ำพร้อม iPhone
การทำให้ iPhone สัมผัสน้ำที่มีแรงดันหรือน้ำที่มีความเร่งสูง เช่น น้ำที่สัมผัสในขณะที่คุณอาบน้ำฝักบัว เล่นสกีน้ำ เล่นเวคบอร์ด เล่นโต้คลื่น เล่นเจ็ตสกี และอื่นๆ
การใช้ iPhone ในห้องอบเซาว์น่าหรือห้องอบไอน้ำ
การตั้งใจจุ่ม iPhone ลงในน้ำ
การใช้งาน iPhone นอกเหนือขอบเขตอุณหภูมิที่กำหนดหรือใช้ในสภาพที่มีความชื้นสูงมาก
การทำ iPhone ตกหรือโดนแรงกระแทกอื่นๆ
แกะแยกชิ้นส่วน iPhone ซึ่งรวมถึงเอาสกรูต่างๆ ออกด้วย
ถ้า iPhone ของคุณสัมผัสของเหลว ให้ถอดสายทั้งหมดออก แล้วอย่าชาร์จอุปกรณ์ของคุณจนกว่าจะแห้งสนิท การใช้อุปกรณ์เสริมหรือการชาร์จ iPhone ในขณะที่ยังเปียกอยู่อาจทำให้ iPhone ของคุณเสียหายได้ ทิ้งไว้อย่างน้อย 5 ชั่วโมงก่อนชาร์จหรือเสียบอุปกรณ์เสริม Lightning
ในการทำให้ iPhone แห้ง ให้เคาะ iPhone เบาๆ กับมือของคุณโดยหันให้ช่องต่อ Lightning อยู่ด้านล่างเพื่อให้ของเหลวไหลออกมา ปล่อยให้อุปกรณ์นั้นอยู่ในที่แห้งและมีการถ่ายเทอากาศ การวางอุปกรณ์นั้นไว้หน้าพัดลมที่เป่าลมเย็นโดยตรงใส่ช่องต่อ Lightning อาจช่วยทำให้แห้งได้
อย่าทำให้ iPhone ของคุณแห้งโดยใช้แหล่งความร้อนภายนอกหรือเสียบสิ่งแปลกปลอม เช่น สำลีพันปลายไม้หรือกระดาษชำระ เข้าไปในช่องต่อ Lightning
การใช้หัวต่อ พอร์ต และปุ่มต่างๆ อย่าฝืนเสียบหัวต่อเข้าไปในพอร์ตหรือใช้แรงกดปุ่มมากเกินไป เพราะการกระทำนี้อาจทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การรับประกัน ถ้าขั้วต่อและช่องต่อเสียบเข้ากันไม่ได้ตามที่ควรจะเป็น แสดงว่าอุปกรณ์ทั้งสองอาจไม่เข้ากัน ตรวจสอบหาสิ่งกีดขวางแล้วตรวจสอบให้แน่ใจว่าหัวต่อนั้นเข้ากันได้กับพอร์ต และคุณได้เสียบหัวต่อเข้ากับพอร์ตในตำแหน่งที่ถูกต้องแล้ว
สาย Lightning เป็น USB หรือสาย USB-C เป็น Lightning เป็นเรื่องปกติที่ช่องต่อ Lightning จะมีสีที่เปลี่ยนไปหลังจากการใช้งานตามปกติ ฝุ่น เศษผง และการสัมผัสความชื้นอาจทำให้สีเปลี่ยนได้ ถ้าสายหรือหัวต่อ Lightning อุ่นขึ้นระหว่างการใช้ หรือ iPhone ของคุณไม่ชาร์จไฟหรือเชื่อมข้อมูล ให้ถอดสายออกจากคอมพิวเตอร์หรืออะแดปเตอร์แปลงไฟของคุณ แล้วทำความสะอาดช่องต่อ Lightning ด้วยผ้าที่นุ่ม แห้ง และไม่เป็นขุย อย่าใช้ของเหลวหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในการทำความสะอาดช่องต่อ Lightning
รูปแบบการใช้งานบางอย่างสามารถนำไปสู่การชำรุดหรือหักขาดของสายชาร์จได้ สายที่ให้มาด้วยก็เหมือนลวดโลหะหรือสายไฟทั่วไป คืออาจจะอ่อนและเปราะหักได้หากมีการงอที่จุดเดิมซ้ำๆ เน้นจับที่ช่วงโค้งอ่อนนุ่มแทนที่จะเป็นบริเวณมุม ตรวจสอบสายและหัวต่อเพื่อหาตำหนิ รอยฉีกขาด ส่วนที่งอ หรือความเสียหายอื่นๆ เป็นประจำ ถ้าคุณพบความเสียหายดังกล่าว ให้หยุดใช้สายทันที
อุณหภูมิการทำงาน iPhone ได้รับการออกแบบให้ทำงานในที่ที่มีอุณหภูมิรอบข้างอยู่ระหว่าง 0° ถึง 35°C (32° ถึง 95°F) และให้จัดเก็บไว้ในอุณหภูมิระหว่าง -20° ถึง 45°C (-4° ถึง 113°F) iPhone อาจเสียหายและมีระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่สั้นลงได้หากจัดเก็บหรือใช้งานนอกเหนือช่วงอุณหภูมิเหล่านี้ หลีกเลี่ยงการนำ iPhone ออกมาใช้ในที่ที่อุณหภูมิหรือความชื้นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่คุณใช้ iPhone ของคุณหรือชาร์จแบตเตอรี่ ถือเป็นเรื่องปกติถ้า iPhone จะอุ่นขึ้น
ถ้าอุณหภูมิภายใน iPhone เกินอุณหภูมิการใช้งานปกติ (เช่น ในรถยนต์ที่ร้อน หรืออยู่ใต้แสงแดดโดยตรงเป็นระยะเวลานาน) คุณอาจเจอสถานการณ์ดังต่อไปนี้ขณะ iPhone พยายามควบคุมอุณหภูมิให้เป็นปกติ:
iPhone หยุดชาร์จ
หน้าจอหรี่ลง
หน้าจอเตือนเรื่องอุณหภูมิแสดงขึ้น
แอปบางตัวปิดลง
สิ่งสำคัญ: คุณอาจไม่สามารถใช้ iPhone ได้ขณะที่หน้าจอเตือนเรื่องอุณหภูมิแสดงอยู่ ถ้า iPhone ไม่สามารถกลับสู่อุณหภูมิภายในตามปกติได้ เครื่องจะเข้าสู่โหมดพักจนกว่าเครื่องจะเย็น ย้าย iPhone มายังที่ที่เย็นขึ้นให้ห่างจากแสงแดดโดยตรง และรอสักครู่ก่อนลองใช้ iPhone ใหม่อีกครั้ง
ดูบทความบริการช่วยเหลือของ Apple การรักษา iPhone, iPad และ iPod touch ให้อยู่ภายในอุณหภูมิการใช้งานที่เหมาะสม