คู่มือผู้ใช้ iPhone
- ยินดีต้อนรับ
-
- รุ่นที่รองรับ
- iPhone 8
- iPhone 8 Plus
- iPhone X
- iPhone XR
- iPhone XS
- iPhone XS Max
- iPhone 11
- iPhone 11 Pro
- iPhone 11 Pro Max
- iPhone SE (รุ่นที่ 2)
- iPhone 12 mini
- iPhone 12
- iPhone 12 Pro
- iPhone 12 Pro Max
- iPhone 13 mini
- iPhone 13
- iPhone 13 Pro
- iPhone 13 Pro Max
- iPhone SE (รุ่นที่ 3)
- iPhone 14
- iPhone 14 Plus
- iPhone 14 Pro
- iPhone 14 Pro Max
- มีอะไรใหม่ใน iOS 16
-
- ปรับระดับเสียง
- ทำงานมัลติทาสก์ด้วยหน้าต่างย่อยในหน้าต่างหลัก
- เข้าถึงคุณสมบัติจากหน้าจอล็อค
- ดูกิจกรรมใน Dynamic Island
- ดำเนินการการทำงานด่วน
- ค้นหาจากหน้าจอโฮมหรือหน้าจอล็อค
- ใช้ AirDrop เพื่อส่งรายการ
- ถ่ายภาพหน้าจอหรือบันทึกหน้าจอ
- รับข้อมูลเกี่ยวกับ iPhone ของคุณ
- ดูหรือเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าข้อมูลเซลลูลาร์
- เดินทางพร้อมกับ iPhone
-
- เครื่องคิดเลข
- เข็มทิศ
-
- ตั้งค่า FaceTime
- โทรออกและรับสาย
- สร้างลิงก์ FaceTime
- ถ่าย Live Photos
- เปิดใช้คำบรรยายเสียงสดในสายโทร FaceTime
- ใช้แอปอื่นระหว่างโทรศัพท์
- โทร FaceTime แบบกลุ่ม
- ดูผู้เข้าร่วมในรูปแบบตาราง
- ใช้ SharePlay เพื่อดู ฟัง และเล่นด้วยกัน
- แชร์หน้าจอของคุณ
- ส่งต่อจากสายโทร FaceTime ไปยังอุปกรณ์อีกเครื่องหนึ่ง
- เปลี่ยนการตั้งค่าวิดีโอ
- เปลี่ยนการตั้งค่าเสียง
- เพิ่มเอฟเฟ็กต์กล้อง
- ออกจากการโทรหรือสลับไปใช้แอปข้อความ
- ปิดกั้นผู้โทรที่ไม่ต้องการ
-
- บทนำเรื่องแอปบ้าน
- อัปเกรดเป็นสถาปัตยกรรมบ้านแบบใหม่
- ตั้งค่าอุปกรณ์เสริม
- ควบคุมอุปกรณ์เสริม
- ควบคุมบ้านของคุณโดยใช้ Siri
- กำหนดค่า HomePod
- ควบคุมบ้านของคุณจากระยะไกล
- สร้างและใช้บรรยากาศ
- สร้างการทำงานอัตโนมัติ
- กำหนดค่ากล้อง
- การจำใบหน้า
- ปลดล็อคประตูของคุณด้วยกุญแจบ้าน
- กำหนดค่าเราท์เตอร์
- แชร์ตัวควบคุมกับคนอื่น
- เพิ่มบ้านเพิ่มเติม
-
- ดูแผนที่
-
- ค้นหาสถานที่
- ค้นหาสถานที่น่าสนใจ ร้านอาหาร และบริการที่อยู่ใกล้เคียง
- รับข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่
- ทำเครื่องหมายสถานที่
- แชร์สถานที่
- จัดอันดับสถานที่
- บันทึกสถานที่โปรด
- สำรวจสถานที่ใหม่ๆ ด้วยสถานที่น่าสนใจ
- จัดระเบียบสถานที่ในสถานที่น่าสนใจของฉัน
- รับข้อมูลจราจรและข้อมูลสภาพอากาศ
- ลบตำแหน่งที่ตั้งสำคัญ
- ค้นหาการตั้งค่าแผนที่ของคุณ
- เรียกรถรับส่ง
-
- ตั้งค่าแอปข้อความ
- ส่งและตอบกลับข้อความ
- เลิกส่งและแก้ไขข้อความ
- ติดตามข้อความและการสนทนา
- ส่งต่อและแชร์ข้อความ
- เริ่มต้นการสนทนาแบบกลุ่ม
- เพิ่มรูปภาพและวิดีโอ
- ส่งและรับเนื้อหา
- ดู ฟัง หรือเล่นด้วยกันโดยใช้ SharePlay
- ใช้งานโปรเจ็กต์ร่วมกัน
- ทำให้ข้อความเคลื่อนไหว
- ใช้แอป iMessage
- ใช้ Memoji
- ส่งข้อความเสียงที่บันทึกไว้
- ส่งเอฟเฟ็กต์ Digital Touch
- ส่งเงิน รับเงิน และขอเงินผ่าน Apple Cash
- เปลี่ยนการแจ้งเตือน
- ปิดกั้น ฟิลเตอร์ และแจ้งข้อความ
- ลบข้อความ
- กู้คืนข้อความที่ถูกลบ
-
- ดูรูปภาพ
- เล่นวิดีโอและสไลด์โชว์
- ลบหรือซ่อนรูปภาพและวิดีโอ
- แก้ไขรูปภาพและวิดีโอ
- ตัดต่อความยาววิดีโอและปรับสโลว์โมชั่น
- แก้ไขวิดีโอโหมดภาพยนตร์
- แก้ไข Live Photos
- แก้ไขรูปภาพในโหมดภาพถ่ายบุคคล
- ใช้อัลบั้มรูปภาพ
- แก้ไขและจัดระเบียบอัลบั้ม
- ฟิลเตอร์และเรียงรูปภาพและวิดีโอในอัลบั้ม
- ทำสำเนาและคัดลอกรูปภาพและวิดีโอ
- ค้นหาและลบรูปภาพและวิดีโอซ้ำ
- ค้นหารูปภาพ
- ค้นหาและระบุผู้คนในแอปรูปภาพ
- เลือกหารูปภาพตามตำแหน่งที่ตั้ง
- แชร์รูปภาพและวิดีโอ
- แชร์วิดีโอแบบยาว
- ดูรูปภาพและวิดีโอที่แชร์กับคุณ
- ใช้ข้อความในภาพเพื่อโต้ตอบกับเนื้อหาในรูปภาพหรือวิดีโอ
- ใช้ค้นดูจากภาพเพื่อระบุวัตถุในรูปภาพของคุณ
- ยกสิ่งที่ถ่ายขึ้นจากพื้นหลังของรูปภาพ
- ดูความทรงจำ
- ปรับแต่งความทรงจำของคุณสำหรับคุณโดยเฉพาะ
- จัดการความทรงจำและรูปภาพแนะนำ
- นำเข้ารูปภาพและวิดีโอ
- พิมพ์รูปภาพ
- คำสั่งลัด
- เคล็ดลับ
-
- เก็บบัตรและตั๋วในแอปกระเป๋าสตางค์
- ตั้งค่า Apple Pay
- ใช้ Apple Pay สำหรับการชำระเงินแบบไร้การสัมผัส
- ใช้ Apple Pay ในแอป แอปคลิป และ Safari
- ใช้ Apple Cash
- ใช้ Apple Card
- ใช้ Savings
- จัดการบัตรชำระเงินและกิจกรรม
- ชำระค่าโดยสาร
- ใช้กุญแจดิจิทัล
- ใช้ใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนมลรัฐของคุณ
- ใช้บัตรประจำตัวนักเรียน
- บัตรบัญชี Apple
- เพิ่มและใช้บัตร
- จัดการบัตร
- ใช้บัตรการฉีดวัคซีนโควิด-19
-
- แชร์การเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตของคุณ
- อนุญาตสายโทรศัพท์บน iPad, iPod touch และ Mac ของคุณ
- ใช้ iPhone เป็นเว็บแคม
- ส่งต่องานระหว่างอุปกรณ์
- สตรีมวิดีโอ รูปภาพ และเสียงแบบไร้สายไปยัง Mac
- ตัด คัดลอก และวางระหว่าง iPhone กับอุปกรณ์เครื่องอื่น
- เชื่อมต่อ iPhone และคอมพิวเตอร์ของคุณด้วยสาย
-
- ถ่ายโอนไฟล์ระหว่างอุปกรณ์
- ถ่ายโอนไฟล์โดยใช้อีเมล ข้อความ หรือ AirDrop
- อัปเดตไฟล์ให้ตรงกันอยู่เสมอโดยอัตโนมัติด้วย iCloud
- ถ่ายโอนไฟล์โดยใช้อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก
- ใช้เซิร์ฟเวอร์ไฟล์เพื่อแชร์ไฟล์ระหว่าง iPhone กับคอมพิวเตอร์ของคุณ
- แชร์ไฟล์กับบริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบคลาวด์
- เชื่อมข้อมูลเนื้อหาหรือถ่ายโอนไฟล์โดยใช้ Finder หรือ iTunes
-
- บทนำเรื่อง CarPlay
- เชื่อมต่อกับ CarPlay
- ใช้ Siri
- ใช้ตัวควบคุมในรถของคุณ
- รับเส้นทางแบบเลี้ยวต่อเลี้ยว
- แจ้งเหตุการณ์จราจร
- เปลี่ยนมุมมองแผนที่
- โทรออก
- เล่นเพลง
- ดูปฏิทินของคุณ
- ส่งและรับข้อความตัวอักษร
- อ่านข้อความตัวอักษรขาเข้า
- เล่นพ็อดคาสท์
- เล่นหนังสือเสียง
- ฟังข่าวสาร
- ควบคุมบ้านของคุณ
- ใช้แอปอื่นด้วย CarPlay
- จัดเรียงไอคอนต่างๆ ใหม่บนหน้าโฮมของ CarPlay
- เปลี่ยนการตั้งค่าใน CarPlay
-
- เริ่มต้นด้วยคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึง
-
-
- เปิดใช้แล้วฝึกหัดใช้ VoiceOver
- เปลี่ยนการตั้งค่า VoiceOver ของคุณ
- เรียนรู้คำสั่งนิ้ว VoiceOver
- สั่งงาน iPhone เมื่อ VoiceOver เปิดอยู่
- ควบคุม VoiceOver โดยใช้ตัวหมุน
- ใช้แป้นพิมพ์บนหน้าจอ
- เขียนด้วยนิ้วของคุณ
- ใช้ VoiceOver กับแป้นพิมพ์ภายนอกของ Apple
- ใช้เครื่องแสดงผลอักษรเบรลล์
- ป้อนอักษรเบรลล์ให้แสดงบนหน้าจอ
- กำหนดคำสั่งนิ้วและคำสั่งลัดแป้นพิมพ์เอง
- ใช้ VoiceOver กับอุปกรณ์ตัวชี้
- ใช้ VoiceOver สำหรับภาพและวิดีโอ
- ใช้ VoiceOver ในแอปต่างๆ
- ซูม
- จอภาพและขนาดข้อความ
- การเคลื่อนไหว
- การอ่านเนื้อหา
- คำบรรยายเสียง
-
-
- ใช้การปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในตัว
- ทำให้ Apple ID ของคุณปลอดภัย
-
- ลงชื่อเข้าด้วยพาสคีย์
- ลงชื่อเข้าด้วย Apple
- ป้อนรหัสผ่านที่ปลอดภัยสูงโดยอัตโนมัติ
- เปลี่ยนรหัสผ่านที่ปลอดภัยต่ำหรือถูกลดหย่อนความปลอดภัย
- ดูรหัสผ่านและข้อมูลที่เกี่ยวข้องของคุณ
- แชร์พาสคีย์และรหัสผ่านอย่างปลอดภัยด้วย AirDrop
- ทำให้พาสคีย์และรหัสผ่านของคุณมีบนอุปกรณ์ทุกเครื่องของคุณ
- ป้อนรหัสการตรวจสอบยืนยันโดยอัตโนมัติ
- ป้อนรหัส SMS โดยอัตโนมัติ
- ลงชื่อเข้าด้วยความท้าทาย CAPTCHA ที่น้อยลงบน iPhone
- จัดการการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยสำหรับ Apple ID ของคุณ
- ใช้รหัสความปลอดภัย
- สร้างและจัดการที่อยู่สำหรับซ่อนอีเมลของฉัน
- ปกป้องการท่องเว็บของคุณด้วย iCloud Private Relay
- ใช้ที่อยู่เครือข่ายส่วนตัว
- ใช้การปกป้องข้อมูลขั้นสูง
- โหมดล็อคดาวน์
-
- เปิดหรือปิดเครื่อง iPhone
- บังคับให้ iPhone เริ่มการทำงานเครื่องใหม่
- อัปเดต iOS
- สำรองข้อมูล iPhone
- คืนการตั้งค่า iPhone กลับเป็นค่าเริ่มต้น
- กู้คืนเนื้อหาทั้งหมดจากข้อมูลสำรอง
- กู้คืนรายการที่ซื้อและรายการที่ลบ
- ขาย ยกให้ หรือแลกเปลี่ยน iPhone ของคุณกับผู้อื่น
- ลบข้อมูล iPhone
- ติดตั้งหรือเอาโปรไฟล์การกำหนดค่าออก
-
- ข้อมูลด้านความปลอดภัยที่สำคัญ
- ข้อมูลด้านการดูแลที่สำคัญ
- ค้นหาแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซอฟต์แวร์และบริการ
- แถลงการณ์การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ FCC
- แถลงการณ์การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ ISED Canada
- ข้อมูลแถบความถี่กว้างยิ่งยวด
- ข้อมูลเกี่ยวกับเลเซอร์คลาส 1
- Apple กับสิ่งแวดล้อม
- ข้อมูลด้านการกำจัดและการรีไซเคิล
- การแก้ไข iOS โดยไม่ได้รับอนุญาต
- ลิขสิทธิ์
เมื่อกำลังใช้สายโทรบน iPhone
เมื่อคุณกำลังใช้สายโทรศัพท์ คุณสามารถสลับให้เสียงออกทางลำโพงหรืออุปกรณ์บลูทูธได้ ถ้าคุณได้รับสายโทรเข้าอีกสาย คุณสามารถรับหรือไม่สนใจสายโทรนั้นได้
ปรับเสียงในระหว่างโทรศัพท์
ในการเปลี่ยนระดับเสียง ให้กดปุ่มปรับเสียงที่ด้านข้างของ iPhone หรือปัดลงจากป้ายประกาศสายโทร แล้วปฏิบัติตามวิธีใดๆ ต่อไปนี้:
ปิดเสียง: แตะปุ่มปิดเสียง
พักสาย: แตะค้างไว้ที่ปุ่มปิดเสียง
พูดคุยโดยไม่ต้องถือ: แตะปุ่มเสียง แล้วเลือกปลายทางเสียง
ใช้แอปอื่นในระหว่างคุยสาย
ไปที่หน้าจอโฮม แล้วเปิดแอป
ในการกลับไปยังสายโทร ให้แตะตัวบ่งชี้สายโทรสีเขียวที่ด้านบนสุดของหน้าจอ
ตอบรับสายโทรเข้าสายที่สองจากเบอร์โทรซิมเดียวกัน
ถ้าคุณกำลังคุยสายอยู่แล้วรับสายโทรเข้าสายที่สอง ให้ปฏิบัติตามวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้:
ไม่สนใจและโอนสายไปที่วอยซ์เมล: แตะ ไม่สนใจ
วางสายแรกและรับสายที่โทรเข้ามาใหม่: เมื่อใช้เครือข่าย GSM ให้แตะ วางสาย + ตอบรับ เมื่อใช้เครือข่าย CDMA ให้แตะ วางสาย และเมื่อสายที่สองโทรเข้ามา ให้แตะ ตอบรับ หรือลากแถบเลื่อนหาก iPhone ล็อคอยู่
พักสายแรกไว้และรับสายที่โทรเข้ามาใหม่: แตะ พักสาย + ตอบรับ
ด้วยการพักสาย ให้แตะ สลับ เพื่อสลับระหว่างสายโทร หรือแตะ รวมสาย เพื่อพูดคุยกับทั้งสองกลุ่มพร้อมกันทีเดียว ให้ดูที่เริ่มประชุมสาย
หมายเหตุ: กรณี CDMA คุณจะไม่สามารถสลับระหว่างสายได้หากสายที่สองเป็นสายที่โทรออก แต่คุณจะสามารถรวมสายเข้าด้วยกันได้ คุณจะไม่สามารถรวมสายได้หากสายที่สองเป็นสายเรียกเข้า ถ้าคุณวางสายของสายที่สองหรือสายแรก สายทั้งสองสายก็จะถูกตัดไปพร้อมกัน
บนรุ่นที่มีซิมคู่ ให้จดจำสิ่งต่อไปนี้:
ต้องเปิดใช้การโทรผ่าน Wi-Fi สำหรับเบอร์โทรซิมหนึ่งเพื่อให้เบอร์โทรซิมนั้นสามารถรับสายได้ในขณะที่เบอร์โทรซิมอีกเบอร์กำลังใช้สายอยู่ ถ้าคุณรับสายจากเบอร์โทรซิมหนึ่งในขณะที่เบอร์โทรซิมอีกเบอร์กำลังใช้สายอยู่ และไม่มีการเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ให้ใช้งาน iPhone จะใช้ข้อมูลเซลลูลาร์ของเบอร์โทรซิมที่กำลังใช้สายอยู่เพื่อรับสายโทรของเบอร์โทรซิมอีกเบอร์ ทั้งนี้อาจมีค่าบริการเพิ่มเติม เบอร์โทรซิมที่กำลังใช้สายอยู่ต้องได้รับอนุญาตให้ใช้งานข้อมูลในการตั้งค่าข้อมูลเซลลูลาร์ของคุณ (ในฐานะที่เป็นเบอร์โทรซิมเริ่มต้น หรือเป็นเบอร์โทรซิมที่ไม่ได้เป็นค่าเริ่มต้นโดยที่ อนุญาตการเปลี่ยนใช้ข้อมูลเซลลูลาร์ เปิดใช้อยู่) เพื่อรับสายโทรของเบอร์โทรซิมอีกเบอร์
ถ้าคุณไม่ได้เปิดใช้การโทรผ่าน Wi-Fi สำหรับเบอร์โทรซิมหนึ่ง สายโทรเข้าใดๆ จากเบอร์โทรซิมนั้น (รวมถึงสายโทรจากบริการฉุกเฉิน) จะถูกโอนไปยังวอยซ์เมลโดยตรง (หากมีให้บริการจากผู้ให้บริการของคุณ) เมื่อเบอร์โทรซิมอีกเบอร์ใช้สายอยู่ โดยคุณจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนสายที่ไม่ได้รับ
ถ้าคุณตั้งค่าการโอนสายแบบมีเงื่อนไข (หากมีให้บริการจากผู้ให้บริการของคุณ) จากเบอร์โทรของซิมหนึ่งไปยังเบอร์โทรของอีกซิมหนึ่ง เมื่อสายไม่ว่างหรือไม่เปิดให้บริการ สายโทรนั้นจะไม่โอนเข้าไปยังวอยซ์เมล ให้ติดต่อผู้ให้บริการของคุณสำหรับข้อมูลด้านการตั้งค่า
เริ่มประชุมสาย
ด้วย GSM คุณสามารถตั้งค่าการประชุมสายเพื่อพูดคุยกันได้มากถึงห้าคน (โดยจะขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการของคุณ)
หมายเหตุ: การประชุมสายอาจไม่มีให้บริการ หากคุณโทรโดยใช้ VoLTE (การโทรผ่านเสียง LTE) หรือโทรผ่าน Wi-Fi
ขณะที่กำลังคุยสาย ให้แตะ เพิ่มสาย แล้วโทรออกอีกสาย จากนั้นแตะ รวมสาย
ทำซ้ำเพื่อเพิ่มผู้คนในการประชุมอีก
ระหว่างการประชุมสาย ให้ปฏิบัติตามวิธีใดๆ ต่อไปนี้:
ใช้สายส่วนตัวกับคนหนึ่ง: แตะ จากนั้นแตะ ส่วนตัว ถัดจากคนนั้น แตะ รวมสาย เพื่อประชุมสายต่อ
เพิ่มสายโทรเข้าไปยังเบอร์โทรซิมเดียวกัน: แตะ พักสาย + รับสาย แล้วแตะ รวมสาย
ตัดสายหนึ่งสาย: แตะ ถัดจากบุคคล จากนั้นแตะ วางสาย