คู่มือผู้ใช้ iPhone
- ยินดีต้อนรับ
-
-
- iPhone รุ่นที่สามารถใช้งานร่วมกับ iOS 18 ได้
- iPhone XR
- iPhone XS
- iPhone XS Max
- iPhone 11
- iPhone 11 Pro
- iPhone 11 Pro Max
- iPhone SE (รุ่นที่ 2)
- iPhone 12 mini
- iPhone 12
- iPhone 12 Pro
- iPhone 12 Pro Max
- iPhone 13 mini
- iPhone 13
- iPhone 13 Pro
- iPhone 13 Pro Max
- iPhone SE (รุ่นที่ 3)
- iPhone 14
- iPhone 14 Plus
- iPhone 14 Pro
- iPhone 14 Pro Max
- iPhone 15
- iPhone 15 Plus
- iPhone 15 Pro
- iPhone 15 Pro Max
- iPhone 16
- iPhone 16 Plus
- iPhone 16 Pro
- iPhone 16 Pro Max
- ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการตั้งค่า
- นำ iPhone มาใช้ในแบบของคุณเอง
- ถ่ายรูปและวิดีโอที่ยอดเยี่ยม
- ติดต่อกับเพื่อนและครอบครัว
- แชร์คุณสมบัติกับครอบครัวของคุณ
- ใช้ iPhone สำหรับชีวิตประจำวันของคุณ
- คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญจากบริการช่วยเหลือของ Apple
-
- มีอะไรใหม่ใน iOS 18
-
- เปลี่ยนเสียงและการสั่น
- ใช้และกำหนดปุ่มแอ็คชั่นเอง
- สร้างหน้าจอล็อคแบบกำหนดเอง
- เปลี่ยนภาพพื้นหลัง
- ปรับความสว่างหน้าจอและค่าสมดุลแสงสี
- เปิดหน้าจอ iPhone ทิ้งไว้เป็นเวลานานขึ้น
- ใช้สแตนด์บาย
- กำหนดขนาดข้อความและการตั้งค่าการซูมเอง
- เปลี่ยนชื่อ iPhone ของคุณ
- เปลี่ยนวันที่และเวลา
- เปลี่ยนภาษาและภูมิภาค
- ใช้และกำหนดศูนย์ควบคุมเอง
- เปลี่ยนเว็บเบราว์เซอร์หรือแอปอีเมลเริ่มต้นของคุณ
- หมุนหน้าจอ iPhone ของคุณ
- กำหนดตัวเลือกการแชร์เอง
-
- ใช้ตัวควบคุมกล้อง
- ใช้ตัวควบคุมกล้องเพื่อเปิดแอปอื่น
- ปรับระดับเสียงของชัตเตอร์
- ปรับการตั้งค่ากล้อง HDR
- บันทึกวิดีโอ
- ถ่ายรูปภาพเชิงมิติพื้นที่และบันทึกวิดีโอเชิงมิติพื้นที่สำหรับ Apple Vision Pro
- เปลี่ยนตัวเลือกการบันทึกเสียงบน iPhone 16 รุ่นต่างๆ
- บันทึกวิดีโอ ProRes
- บันทึกวิดีโอในโหมดภาพยนตร์
- เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าการบันทึกวิดีโอ
- บันทึกการตั้งค่ากล้อง
- กำหนดเลนส์บนกล้องหลักและกล้อง Fusion
- เปลี่ยนแปลงการตั้งค่ากล้องขั้นสูง
- ดู แชร์ และพิมพ์รูปภาพ
- ใช้ข้อความในภาพ
- สแกนคิวอาร์โค้ด
-
- เข็มทิศ
-
- เริ่มต้นใช้งาน FaceTime
- สร้างลิงก์ FaceTime
- ถ่าย Live Photo
- เปิดใช้คำบรรยายเสียงสดในสายโทร FaceTime
- ใช้แอปอื่นระหว่างโทรศัพท์
- โทร FaceTime แบบกลุ่ม
- ดูผู้เข้าร่วมในรูปแบบตาราง
- ใช้ SharePlay เพื่อดู ฟัง และเล่นด้วยกัน
- แชร์หน้าจอของคุณในการโทร FaceTime
- ร้องขอหรือให้การควบคุมระยะไกลในการโทร FaceTime
- ใช้งานเอกสารร่วมกันในแอป FaceTime
- ใช้คุณสมบัติการประชุมสายวิดีโอ
- ส่งต่อการโทร FaceTime ไปยังอุปกรณ์ Apple อีกเครื่อง
- เปลี่ยนการตั้งค่า FaceTime แบบวิดีโอ
- เปลี่ยนการตั้งค่า FaceTime แบบเสียง
- เปลี่ยนรูปลักษณ์ของคุณ
- ออกจากการโทรหรือสลับไปใช้แอปข้อความ
- ปิดกั้นและปิดเสียงการโทร FaceTime จากผู้โทรที่ไม่รู้จัก
- แจ้งการโทรว่าเป็นสแปม
-
- เริ่มต้นใช้งาน Freeform
- สร้างบอร์ด Freeform
- วาดหรือเขียนข้อความ
- แก้โจทย์คณิตศาสตร์ที่เขียนด้วยลายมือ
- เพิ่มข้อความในโน้ตแปะ รูปร่าง และกล่องข้อความ
- เพิ่มรูปร่าง เส้น และลูกศร
- เพิ่มไอดะแกรม
- เพิ่มรูปภาพ วิดีโอ และไฟล์อื่นๆ
- ปรับใช้รูปแบบที่สอดคล้องกัน
- จัดวางรายการบนบอร์ด
- นำทางและแสดงตำแหน่ง
- ส่งสำเนาหรือ PDF
- พิมพ์บอร์ด
- แชร์บอร์ดและใช้งานร่วมกัน
- ค้นหาบอร์ด Freeform
- ลบและกู้คืนบอร์ด
- เปลี่ยนการตั้งค่า Freeform
-
- ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับบ้าน
- อัปเกรดเป็นสถาปัตยกรรมบ้านแบบใหม่
- ตั้งค่าอุปกรณ์เสริม
- ควบคุมอุปกรณ์เสริม
- ควบคุมบ้านของคุณโดยใช้ Siri
- ใช้พยากรณ์โครงข่ายไฟฟ้าเพื่อวางแผนการใช้พลังงานของคุณ
- ดูการใช้ไฟฟ้าและอัตราค่าไฟฟ้า
- ตั้งค่า HomePod
- ควบคุมบ้านของคุณจากระยะไกล
- สร้างและใช้บรรยากาศ
- ใช้การทำงานอัตโนมัติ
- ตั้งค่ากล้องรักษาความปลอดภัย
- ใช้การจำใบหน้า
- ปลดล็อคประตูของคุณด้วยกุญแจบ้าน
- กำหนดค่าเราท์เตอร์
- เชิญคนอื่นให้ควบคุมอุปกรณ์เสริม
- เพิ่มบ้านเพิ่มเติม
-
- ดูแผนที่
- สำรวจแผนที่ 3D
-
- รับเส้นทางการเดินทาง
- เปลี่ยนหรือเพิ่มจุดแวะไปยังเส้นทางของคุณ
- ดูภาพรวมเส้นทางหรือรายการของการเลี้ยว
- เปลี่ยนการตั้งค่าสำหรับเสียงบอกเส้นทาง
- รับเส้นทางขับขี่
- รับเส้นทางไปยังรถที่คุณจอดอยู่
- ตั้งค่าเส้นทางยานยนต์ไฟฟ้า
- แจ้งเหตุการณ์จราจร
- รับเส้นทางปั่นจักรยาน
- รับเส้นทางเดิน
- บันทึกการเดินหรือการเดินเขา
- รับเส้นทางโดยสาร
- รับข้อมูลจราจรและข้อมูลสภาพอากาศ
- จองรถรับส่ง
- ประมาณเวลาเดินทางและเวลาที่คาดว่าจะถึง
- ดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์
- มองไปรอบๆ สถานที่
- เที่ยวชมด้วยทัวร์ Flyover
- ล้างประวัติตำแหน่งที่ตั้ง
- ลบเส้นทางล่าสุด
- เลือกโหมดเดินทางเริ่มต้นและหน่วย
- แจ้งปัญหาเกี่ยวกับแผนที่
-
- ตั้งค่าแอปข้อความ
- เกี่ยวกับ iMessage
- ส่งและตอบกลับข้อความ
- ส่งข้อความผ่านดาวเทียม
- ส่งภายหลัง
- เลิกส่งและแก้ไขข้อความ
- ติดตามข้อความ
- ค้นหา
- ส่งต่อและแชร์ข้อความ
- การสนทนาแบบกลุ่ม
- แชร์หน้าจอ
- ใช้งานโปรเจ็กต์ร่วมกัน
- ใช้แอป iMessage
- ถ่ายและแก้ไขรูปภาพหรือวิดีโอ
- แชร์รูปภาพ ลิงก์ และอื่นๆ
- ส่งสติกเกอร์
- สร้างและส่ง Memoji
- โต้ตอบด้วย Tapback
- ทำให้ข้อความมีสไตล์และเคลื่อนไหว
- วาดและเขียนข้อความ
- ส่งและบันทึก GIF
- ขอ ส่ง และรับการชำระเงิน
- ส่งและรับข้อความเสียง
- แชร์ตำแหน่งที่ตั้งของคุณ
- เปิดใช้หรือปิดใช้การแจ้งว่าได้อ่านแล้ว
- เปลี่ยนการแจ้งเตือน
- ปิดกั้น ฟิลเตอร์ และแจ้งข้อความ
- ลบข้อความและไฟล์แนบ
- กู้คืนข้อความที่ลบไปแล้ว
-
- เริ่มต้นใช้งานโน้ต
- สร้างและจัดรูปแบบโน้ต
- ใช้โน้ตด่วน
- เพิ่มการวาดและลายมือเขียน
- ป้อนสูตรและสมการ
- เพิ่มรูปภาพ วิดีโอ และอื่นๆ
- บันทึกเสียงและถอดเสียง
- สแกนข้อความและเอกสาร
- ใช้งานกับ PDF
- เพิ่มลิงก์
- ค้นหาโน้ต
- จัดระเบียบในโฟลเดอร์
- จัดระเบียบด้วยแท็ก
- ใช้โฟลเดอร์อัจฉริยะ
- แชร์และใช้งานร่วมกัน
- ส่งออกหรือพิมพ์โน้ต
- ล็อคโน้ต
- เพิ่มหรือเอาบัญชีออก
- เปลี่ยนมุมมองโน้ต
- เปลี่ยนการตั้งค่าของแอปโน้ต
-
- ใช้รหัสผ่าน
- ค้นหารหัสผ่านของคุณสำหรับเว็บไซต์หรือแอป
- เปลี่ยนรหัสผ่านสำหรับเว็บไซต์หรือแอป
- เอารหัสผ่านออก
- กู้คืนรหัสผ่านที่ลบไปแล้ว
- สร้างรหัสผ่านสำหรับเว็บไซต์หรือแอป
- ใช้พาสคีย์เพื่อลงชื่อเข้าแอปและเว็บไซต์
- ลงชื่อเข้าด้วย Apple
- แชร์รหัสผ่าน
- ป้อนรหัสผ่านที่ปลอดภัยสูงโดยอัตโนมัติ
- เปลี่ยนรหัสผ่านที่ปลอดภัยต่ำหรือถูกลดหย่อนความปลอดภัย
- ดูรหัสผ่านและข้อมูลที่เกี่ยวข้องของคุณ
- ค้นหาและแชร์รหัสผ่าน Wi-Fi ของคุณ
- แชร์รหัสผ่านอย่างปลอดภัยด้วย AirDrop
- ทำให้รหัสผ่านของคุณมีบนอุปกรณ์ทุกเครื่องของคุณ
- ป้อนรหัสการตรวจสอบยืนยันโดยอัตโนมัติ
- ป้อนรหัส SMS โดยอัตโนมัติ
- ลงชื่อเข้าด้วยความท้าทาย CAPTCHA ที่น้อยลง
- ใช้การตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัย
- ใช้กุญแจความปลอดภัย
-
- โทรออก
- เปลี่ยนการตั้งค่าโทรศัพท์ของคุณ
- ดูและลบประวัติการโทร
- รับสายหรือปฏิเสธสายโทรเข้า
- ขณะคุยโทรศัพท์
- ประชุมสายหรือโทรแบบสามสายบน iPhone
- ตั้งค่าวอยซ์เมล
- ตรวจสอบวอยซ์เมล
- เปลี่ยนเสียงตอบรับวอยซ์เมลและการตั้งค่า
- เลือกเสียงเรียกเข้าและการสั่น
- โทรออกโดยใช้ Wi-Fi
- ตั้งค่าการโอนสาย
- ตั้งค่าสายเรียกซ้อน
- ปิดกั้นหรือหลีกเลี่ยงสายโทรที่ไม่ต้องการ
-
- เริ่มต้นใช้งานรูปภาพ
- ดูรูปภาพและวิดีโอ
- ดูข้อมูลรูปภาพและวิดีโอ
- กำหนดแอปรูปภาพเอง
- ฟิลเตอร์และเรียงคลังรูปภาพ
- สำรองข้อมูลของคุณด้วย iCloud
- ลบหรือซ่อนรูปภาพและวิดีโอ
- ค้นหารูปภาพและวิดีโอ
- รับคำแนะนำภาพพื้นหลัง
- สร้างสติกเกอร์จากรูปภาพของคุณ
- ทำสำเนาและคัดลอกรูปภาพและวิดีโอ
- รวมรูปภาพและวิดีโอซ้ำ
- นำเข้าและส่งออกรูปภาพและวิดีโอ
- พิมพ์รูปภาพ
-
- เริ่มต้นใช้งานเตือนความจำ
- ตั้งค่าเตือนความจำ
- สร้างรายการของที่ต้องซื้อ
- เพิ่มรายละเอียด
- ทำรายการให้เสร็จและเอารายการออก
- แก้ไขและจัดระเบียบลิสต์
- ค้นหาลิสต์ของคุณ
- จัดระเบียบหลายลิสต์
- แท็กรายการ
- ใช้ลิสต์อัจฉริยะ
- แชร์และใช้งานร่วมกัน
- พิมพ์ลิสต์
- ทำงานกับแม่แบบ
- เพิ่มหรือเอาบัญชีออก
- เปลี่ยนการตั้งค่าเตือนความจำ
-
- ท่องเว็บ
- ค้นหาเว็บไซต์
- ดูไฮไลท์
- กำหนดการตั้งค่า Safari ของคุณเอง
- เปลี่ยนเค้าโครง
- สร้างโปรไฟล์ Safari หลายไฟล์
- ใช้ Siri เพื่อฟังหน้าเว็บ
- คั่นหน้าเว็บไซต์
- บันทึกหน้าเป็นรายการอ่าน
- ค้นหาลิงก์ที่แชร์กับคุณ
- ใส่คำอธิบายประกอบและบันทึกหน้าเว็บเป็น PDF
- กรอกแบบฟอร์มโดยอัตโนมัติ
- รับส่วนขยาย
- ล้างแคชและคุกกี้ของคุณ
- เปิดใช้งานคุกกี้
- คำสั่งลัด
- เคล็ดลับ
-
- ทำงานบนอุปกรณ์ทุกเครื่องโดยใช้ความต่อเนื่อง
- ใช้ iPhone ของคุณจาก Mac ของคุณ
- รับการแจ้งเตือน iPhone บน Mac ของคุณ
- ใช้ AirDrop เพื่อส่งรายการไปยังอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้เคียง
- ส่งต่องานระหว่างอุปกรณ์
- คัดลอกและวางระหว่างอุปกรณ์
- สตรีมวิดีโอและเสียงจาก iPhone ของคุณ
- อนุญาตสายโทรศัพท์และข้อความตัวอักษรบน iPad และ Mac ของคุณ
- แชร์การเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตของคุณด้วยฮอตปอตส่วนบุคคล
- ใช้ iPhone เป็นเว็บแคม
- แทรกภาพสเก็ตช์ รูปภาพ และภาพสแกนบน Mac
- เริ่ม SharePlay ทันที
- เชื่อมต่อ iPhone และคอมพิวเตอร์ของคุณด้วยสาย
-
- ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ CarPlay
- เชื่อมต่อกับ CarPlay
- ใช้ Siri
- ใช้ตัวควบคุมในรถของคุณ
- รับเส้นทางแบบเลี้ยวต่อเลี้ยว
- แจ้งเหตุการณ์จราจร
- เปลี่ยนมุมมองแผนที่
- โทรออก
- เล่นเพลง
- ดูปฏิทินของคุณ
- ส่งและรับข้อความตัวอักษร
- อ่านข้อความตัวอักษรขาเข้า
- เล่นพ็อดคาสท์
- เล่นหนังสือเสียง
- ฟังข่าวสาร
- ควบคุมบ้านของคุณ
- ใช้แอปอื่นด้วย CarPlay
- จัดเรียงไอคอนต่างๆ ใหม่บนหน้าโฮมของ CarPlay
- เปลี่ยนการตั้งค่าใน CarPlay
-
- เริ่มต้นด้วยคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึง
- ใช้คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงในระหว่างการตั้งค่า
- เปลี่ยนการตั้งค่าการช่วยการเข้าถึงสำหรับ Siri
- เปิดใช้หรือปิดใช้คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงอย่างรวดเร็ว
-
- ภาพรวมของคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงสำหรับการมองเห็น
- ซูมเข้า
- ดูข้อความที่คุณกำลังอ่านหรือป้อนในเวอร์ชั่นที่ใหญ่กว่า
- เปลี่ยนสีหน้าจอ
- ทำให้อ่านข้อความง่ายขึ้น
- ลดการเคลื่อนไหวบนหน้าจอ
- ใช้ iPhone อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้นในขณะโดยสารรถยนต์
- กำหนดการตั้งค่าภาพเฉพาะแอป
- ฟังสิ่งที่อยู่บนหน้าจอหรือที่ถูกป้อน
- ฟังคำบรรยายเสียง
- ปรับการตั้งค่า CarPlay
-
- เปิดใช้แล้วฝึกหัดใช้ VoiceOver
- เปลี่ยนการตั้งค่า VoiceOver ของคุณ
- ใช้คำสั่งนิ้ว VoiceOver
- สั่งงาน iPhone เมื่อ VoiceOver เปิดอยู่
- ควบคุม VoiceOver โดยใช้ตัวหมุน
- ใช้แป้นพิมพ์บนหน้าจอ
- เขียนด้วยนิ้วของคุณ
- ปิดหน้าจออยู่เสมอ
- ใช้ VoiceOver กับแป้นพิมพ์ภายนอก
- ใช้เครื่องแสดงผลอักษรเบรลล์
- ป้อนอักษรเบรลล์บนหน้าจอ
- กำหนดคำสั่งนิ้วและคำสั่งลัดแป้นพิมพ์เอง
- ใช้ VoiceOver กับอุปกรณ์ตัวชี้
- รับคำอธิบายของสิ่งรอบข้างคุณแบบสดๆ
- ใช้ VoiceOver ในแอปต่างๆ
-
- ภาพรวมของคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงสำหรับการเคลื่อนไหว
- ใช้ AssistiveTouch
- ปรับการตอบสนองต่อการสัมผัสของคุณของ iPhone
- การแตะด้านหลัง
- ใช้การดึงจอลงเพื่อแตะ
- การรับสายอัตโนมัติ
- ปิดใช้การสั่น
- เปลี่ยนการตั้งค่า Face ID และการตั้งใจมอง
- ใช้การสั่งการด้วยเสียง
- ใช้คำสั่งการสั่งการด้วยเสียงกับ CarPlay
- ปรับปุ่มด้านข้างหรือปุ่มโฮม
- ปรับการตั้งค่าการช่วยการเข้าถึงสำหรับตัวควบคุมกล้อง
- ใช้ปุ่มต่างๆ ของ Apple TV Remote
- ปรับการตั้งค่าตัวชี้
- ปรับการตั้งค่าแป้นพิมพ์
- ควบคุม iPhone ด้วยแป้นพิมพ์ภายนอก
- ปรับการตั้งค่า AirPods
- เปิดใช้การสะท้อนหน้าจอ Apple Watch
- ควบคุมอุปกรณ์ Apple ที่อยู่ใกล้เคียง
- ควบคุม iPhone ด้วยการเคลื่อนไหวของดวงตาของคุณ
-
- ภาพรวมของคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงสำหรับการได้ยิน
- ใช้อุปกรณ์รับฟัง
- ใช้ฟังสด
- ใช้การจำเสียง
- ตั้งค่าและใช้ RTT และ TTY
- กะพริบไฟแสดงสถานะสำหรับการแจ้งเตือน
- ปรับการตั้งค่าเสียง
- เล่นเสียงเบื้องหลัง
- แสดงคำบรรยายและคำบรรยายภาพ
- แสดงข้อความถอดเสียงสำหรับข้อความอินเตอร์คอม
- รับคำบรรยายเสียงสดของเสียงพูด
- เล่นเพลงด้วยการแตะ พื้นผิว และอื่นๆ
- รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับแตรรถยนต์และไซเรนใน CarPlay
-
- ควบคุมสิ่งที่คุณแชร์
- เปิดใช้คุณสมบัติหน้าจอล็อค
- ทำให้บัญชี Apple ของคุณปลอดภัย
- สร้างและจัดการที่อยู่สำหรับซ่อนอีเมลของฉัน
- ปกป้องการท่องเว็บของคุณด้วย iCloud Private Relay
- ใช้ที่อยู่เครือข่ายส่วนตัว
- ใช้การปกป้องข้อมูลขั้นสูง
- ใช้โหมดล็อคดาวน์
- ใช้การปกป้องอุปกรณ์เมื่อถูกขโมย
- รับคำเตือนเกี่ยวกับเนื้อหาที่ละเอียดอ่อน
- ใช้การตรวจสอบยืนยันรหัสผู้ติดต่อ
-
- ข้อมูลด้านความปลอดภัยที่สำคัญ
- ข้อมูลด้านการดูแลที่สำคัญ
- ค้นหาแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซอฟต์แวร์และบริการ
- แถลงการณ์การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ FCC
- แถลงการณ์การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ ISED Canada
- ข้อมูลแถบความถี่กว้างยิ่งยวด
- ข้อมูลเกี่ยวกับเลเซอร์คลาส 1
- Apple กับสิ่งแวดล้อม
- ข้อมูลด้านการกำจัดและการรีไซเคิล
- การแก้ไข iOS โดยไม่ได้รับอนุญาต
- ลิขสิทธิ์
ดูหรือเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าข้อมูลเซลลูลาร์บน iPhone
คุณสามารถเปิดใช้หรือปิดใช้ข้อมูลเซลลูลาร์และการโรมมิ่ง ตั้งค่าว่าจะให้แอปและบริการใดใช้ข้อมูลเซลลูลาร์ ดูการใช้งานข้อมูลเซลลูลาร์ และตั้งค่าตัวเลือกข้อมูลเซลลูลาร์อื่นๆ ได้
หมายเหตุ: สำหรับความช่วยเหลือเกี่ยวกับบริการเครือข่ายเซลลูลาร์ ข้อความเสียงและการเรียกเก็บเงิน ให้ติดต่อผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายของคุณ
เกี่ยวกับเครือข่ายเซลลูลาร์
ถ้า iPhone ของคุณเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายข้อมูลเซลลูลาร์ ไอคอนที่ระบุเครือข่ายเซลลูลาร์จะแสดงในแถบสถานะ
บริการ 5G, LTE, 4G และ 3G บนเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ GSM จะรองรับการสื่อสารด้วยเสียงและข้อมูลพร้อมกันได้ สำหรับการเชื่อมต่อกับเซลลูลาร์แบบอื่นๆ ทั้งหมด คุณจะไม่สามารถใช้บริการอินเทอร์เน็ตได้ขณะพูดโทรศัพท์ นอกจาก iPhone ของคุณจะมีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi คุณไม่อาจรับสายขณะที่ iPhone ของคุณส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ และขณะที่กำลังดาวน์โหลดหน้าเว็บได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเชื่อมต่อกับเครือข่ายของคุณ
เครือข่าย GSM: เมื่อเชื่อมต่อกับ EDGE หรือ GPRS สายโทรเข้าอาจต่อตรงไปที่ข้อความเสียงในระหว่างที่มีการถ่ายโอนข้อมูล สำหรับสายโทรเข้าที่คุณรับ การถ่ายโอนข้อมูลจะหยุดชั่วคราว
เครือข่าย CDMA: เมื่อเชื่อมต่อกับ EV-DO การถ่ายโอนข้อมูลจะหยุดชั่วคราวเมื่อคุณรับสายโทรเข้า เมื่อเชื่อมต่อกับ 1xRTT สายโทรเข้าอาจโอนโดยตรงไปยังข้อความเสียงระหว่างที่มีการส่งข้อมูล สำหรับสายโทรเข้าที่คุณรับ การถ่ายโอนข้อมูลจะหยุดชั่วคราว
การถ่ายโอนข้อมูลจะกลับมาทำงานเมื่อคุณวางสาย
ถ้าข้อมูลเซลลูลาร์ปิดอยู่ บริการข้อมูลทั้งหมด ซึ่งรวมถึงอีเมล การท่องเว็บ และการแจ้งเตือนแบบผลักข้อมูล จะใช้เฉพาะ Wi-Fi เท่านั้น ถ้าข้อมูลเซลลูลาร์เปิดอยู่ ผู้ให้บริการอาจเรียกเก็บค่าบริการได้ ตัวอย่างเช่น การใช้คุณสมบัติและบริการบางอย่างที่ถ่ายโอนข้อมูล เช่น Siri และ ข้อความ อาจส่งผลให้มีการเก็บค่าบริการแผนข้อมูลของคุณ
ในการโทรออกโดยใช้ Wi-Fi ให้ดูที่โทรออกโดยใช้ Wi-Fi
จัดการตัวเลือกการโรมมิ่งและเลือกตัวเลือกข้อมูลเซลลูลาร์อื่นๆ
ในการเปิดใช้หรือปิดใช้ข้อมูลเซลลูลาร์ ให้ไปที่ การตั้งค่า > เซลลูลาร์ จากนั้นแตะ ข้อมูลเซลลูลาร์
ในการตั้งค่าตัวเลือกว่าเมื่อใดที่จะเปิดข้อมูลเซลลูลาร์ ให้ไปที่ การตั้งค่า > เซลลูลาร์ > ตัวเลือกข้อมูลเซลลูลาร์ จากนั้นปฏิบัติตามวิธีใดๆ ต่อไปนี้:
เปิดใช้หรือปิดใช้การใช้ดาต้าโรมมิ่ง: ดาต้าโรมมิ่งจะอนุญาตให้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายข้อมูลเซลลูลาร์เมื่อคุณอยู่นอกภูมิภาคของเครือข่ายของผู้ให้บริการ เมื่อคุณเดินทาง คุณสามารถปิดใช้ดาต้าโรมมิ่งเพื่อป้องกันการเรียกเก็บค่าบริการข้ามแดน
ลดการใช้งานเซลลูลาร์: แตะ โหมดข้อมูล แล้วเลือก โหมดประหยัดข้อมูล โหมดนี้จะหยุดพักการอัปเดตอัตโนมัติและงานเบื้องหลังเมื่อ iPhone ไม่ได้เชื่อมต่ออยู่กับ Wi-Fi
ตัวเลือกต่อไปนี้อาจมีให้ใช้งาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่น ผู้ให้บริการ และภูมิภาคของ iPhone ของคุณ:
เปิดใช้หรือปิดใช้การโรมมิ่งเสียง: (CDMA) ปิดใช้การโรมมิ่งเสียงเพื่อหลีกเลี่ยงการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากการใช้เครือข่ายของผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์มือถือรายอื่น เมื่อเครือข่ายของผู้ให้บริการของคุณไม่มีให้ใช้งาน iPhone จะไม่มีบริการเซลลูลาร์ (ข้อมูลหรือเสียง)
เปิดใช้งานหรือปิดใช้งาน 4G หรือ LTE: การใช้ 4G หรือ LTE จะโหลดข้อมูลอินเทอร์เน็ตเร็วกว่าในบางกรณี แต่อาจส่งผลให้แบตเตอรี่หมดเร็วได้ อาจจะมีตัวเลือกสำหรับปิดใช้ 4G/LTE หรือสำหรับเลือกเสียงและข้อมูล (VoLTE) หรือ ข้อมูลเท่านั้น
บน iPhone 12 รุ่นต่างๆ ขึ้นไปที่มีแผนบริการข้อมูล 5G คุณสามารถทำสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้ได้:
เปิดใช้งานโหมดข้อมูลอัจฉริยะเพื่อปรับระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ให้เหมาะสม: แตะ เสียงและข้อมูล แล้วเลือก 5G อัตโนมัติ ในโหมดนี้ iPhone ของคุณจะสลับไปใช้ LTE โดยอัตโนมัติเมื่อความเร็ว 5G ไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้นอย่างชัดเจน
ใช้วิดีโอที่มีคุณภาพสูงขึ้นและ FaceTime HD บนเครือข่าย 5G: แตะ โหมดข้อมูล แล้วเลือก อนุญาตข้อมูลเพิ่มเติมบน 5G
ปิดใช้ 5G: แตะ เสียงและข้อมูล แล้วเลือก LTE
ในการตั้งค่าฮอตสปอตส่วนบุคคลเพื่อแชร์การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณ ให้ดูที่แชร์การเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตจาก iPhone ของคุณด้วยฮอตปอตส่วนบุคคล
ดูปริมาณข้อมูลที่คุณใช้อยู่
ในการดูปริมาณข้อมูลเซลลูลาร์ที่คุณใช้ ให้ไปที่ การตั้งค่า > เซลลูลาร์ จากนั้นปฏิบัติตามวิธีใดๆ ต่อไปนี้:
ดูการใช้งานข้อมูลเซลลูลาร์สำหรับแต่ละแอป: เลื่อนลงไปยังรายการแอปของคุณ จากนั้นแตะ แสดงทั้งหมด ปริมาณข้อมูลเซลลูลาร์ที่ใช้จะแสดงที่ด้านล่างของแต่ละแอป ถ้าคุณไม่ต้องการให้แอปใช้ข้อมูลเซลลูลาร์ คุณสามารถปิดใช้การใช้ข้อมูลเซลลูลาร์ของแอปนั้นได้ เมื่อข้อมูลเซลลูลาร์ถูกปิด แอปจะใช้เฉพาะ Wi-Fi สำหรับข้อมูล
ดูการใช้งานข้อมูลเซลลูลาร์สำหรับบริการระบบแต่ละบริการ: บริการระบบจะแสดงขึ้นเหนือรายการแอปในส่วนเซลลูลาร์ ข้อมูลเซลลูลาร์จะไม่สามารถเปิดใช้หรือปิดใช้ได้สำหรับบริการระบบแต่ละบริการ
คุณสามารถดูสถิติการใช้ข้อมูลของแอปจากช่วงเวลาปัจจุบันหรือดูสถิติข้อมูลของแอปที่ใช้ข้อมูลเมื่อคุณใช้บริการโรมมิ่งได้ ในการรีเซ็ตสถิติเหล่านี้ ให้ไปที่ การตั้งค่า > เซลลูลาร์ แล้วเลื่อนลงมายังด้านล่างสุด จากนั้นแตะ รีเซ็ตสถิติ
ถ้าคุณใช้ iPhone ที่มีซิมคู่ คุณสามารถดูปริมาณข้อมูลเซลลูลาร์ที่คุณใช้กับเบอร์โทรที่ใช้ข้อมูลเซลลูลาร์ที่เลือกของคุณได้
หมายเหตุ: ในการรับการใช้งานข้อมูลเซลลูลาร์ที่แม่นยำที่สุดจากช่วงเวลาปัจจุบัน ให้ติดต่อผู้ให้บริการของคุณ
ตั้งค่าการใช้งานข้อมูลเซลลูลาร์สำหรับแอปและบริการต่างๆ
ไปที่ การตั้งค่า > เซลลูลาร์ แล้วเปิดใช้หรือปิดใช้ ข้อมูลเซลลูลาร์ สำหรับแอป (เช่น แผนที่) หรือบริการใดๆ (เช่น ช่วยเหลือ Wi-Fi) ที่สามารถใช้ข้อมูลเซลลูลาร์ได้
ถ้าการตั้งค่าเป็นปิดอยู่ iPhone จะใช้เฉพาะ Wi-Fi สำหรับบริการนั้น
หมายเหตุ: ช่วยเหลือ Wi-Fi เปิดใช้อยู่ตามค่าเริ่มต้น ถ้าการเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ไม่ดี ช่วยเหลือ Wi-Fi จะสลับไปใช้ข้อมูลเซลลูลาร์โดยอัตโนมัติเพื่อเพิ่มสัญญาณ เนื่องจากคุณยังเชื่อมอยู่ต่อกับอินเทอร์เน็ตเมื่อการเชื่อมต่อ Wi-Fi ของคุณสัญญาณไม่ดี คุณอาจใช้ข้อมูลเซลลูลาร์มากขึ้น ซึ่งจะคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากคุณ โดยขึ้นอยู่กับแผนบริการข้อมูลของคุณ ดูบทความบริการช่วยเหลือของ Apple เกี่ยวกับช่วยเหลือ Wi-Fi
ล็อคซิมการ์ดของคุณ
ถ้าอุปกรณ์ของคุณใช้ซิมการ์ดสำหรับสายโทรหรือข้อมูลเซลลูลาร์ คุณสามารถล็อคซิมการ์ดด้วยเลขประจำตัว (รหัส PIN) เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นใช้ซิมการ์ดได้ จากนั้น ทุกครั้งที่คุณเริ่มการทำงานอุปกรณ์ของคุณใหม่หรือเอาซิมการ์ดออก ซิมการ์ดของคุณจะล็อคโดยอัตโนมัติ และคุณต้องป้อนรหัส PIN ของคุณ ให้ดูที่ใช้รหัส PIN ของซิมกับ iPhone หรือ iPad ของคุณ
ในการเพิ่ม eSIM ให้ดูที่ตั้งค่าบริการเซลลูลาร์