คู่มือผู้ใช้ iPhone
- ยินดีต้อนรับ
-
-
- iPhone รุ่นที่สามารถใช้งานร่วมกับ iOS 18 ได้
- iPhone XR
- iPhone XS
- iPhone XS Max
- iPhone 11
- iPhone 11 Pro
- iPhone 11 Pro Max
- iPhone SE (รุ่นที่ 2)
- iPhone 12 mini
- iPhone 12
- iPhone 12 Pro
- iPhone 12 Pro Max
- iPhone 13 mini
- iPhone 13
- iPhone 13 Pro
- iPhone 13 Pro Max
- iPhone SE (รุ่นที่ 3)
- iPhone 14
- iPhone 14 Plus
- iPhone 14 Pro
- iPhone 14 Pro Max
- iPhone 15
- iPhone 15 Plus
- iPhone 15 Pro
- iPhone 15 Pro Max
- iPhone 16
- iPhone 16 Plus
- iPhone 16 Pro
- iPhone 16 Pro Max
- ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการตั้งค่า
- นำ iPhone มาใช้ในแบบของคุณเอง
- ถ่ายรูปและวิดีโอที่ยอดเยี่ยม
- ติดต่อกับเพื่อนและครอบครัว
- แชร์คุณสมบัติกับครอบครัวของคุณ
- ใช้ iPhone สำหรับชีวิตประจำวันของคุณ
- คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญจากบริการช่วยเหลือของ Apple
-
- มีอะไรใหม่ใน iOS 18
-
- เปลี่ยนเสียงและการสั่น
- ใช้และกำหนดปุ่มแอ็คชั่นเอง
- สร้างหน้าจอล็อคแบบกำหนดเอง
- เปลี่ยนภาพพื้นหลัง
- ปรับความสว่างหน้าจอและค่าสมดุลแสงสี
- เปิดหน้าจอ iPhone ทิ้งไว้เป็นเวลานานขึ้น
- ใช้สแตนด์บาย
- กำหนดขนาดข้อความและการตั้งค่าการซูมเอง
- เปลี่ยนชื่อ iPhone ของคุณ
- เปลี่ยนวันที่และเวลา
- เปลี่ยนภาษาและภูมิภาค
- ใช้และกำหนดศูนย์ควบคุมเอง
- เปลี่ยนเว็บเบราว์เซอร์หรือแอปอีเมลเริ่มต้นของคุณ
- หมุนหน้าจอ iPhone ของคุณ
- กำหนดตัวเลือกการแชร์เอง
-
- ใช้ตัวควบคุมกล้อง
- ใช้ตัวควบคุมกล้องเพื่อเปิดแอปอื่น
- ปรับระดับเสียงของชัตเตอร์
- ปรับการตั้งค่ากล้อง HDR
- บันทึกวิดีโอ
- ถ่ายรูปภาพเชิงมิติพื้นที่และบันทึกวิดีโอเชิงมิติพื้นที่สำหรับ Apple Vision Pro
- เปลี่ยนตัวเลือกการบันทึกเสียงบน iPhone 16 รุ่นต่างๆ
- บันทึกวิดีโอ ProRes
- บันทึกวิดีโอในโหมดภาพยนตร์
- เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าการบันทึกวิดีโอ
- บันทึกการตั้งค่ากล้อง
- กำหนดเลนส์บนกล้องหลักและกล้อง Fusion
- เปลี่ยนแปลงการตั้งค่ากล้องขั้นสูง
- ดู แชร์ และพิมพ์รูปภาพ
- ใช้ข้อความในภาพ
- สแกนคิวอาร์โค้ด
-
- เข็มทิศ
-
- เริ่มต้นใช้งาน FaceTime
- สร้างลิงก์ FaceTime
- ถ่าย Live Photo
- เปิดใช้คำบรรยายเสียงสดในสายโทร FaceTime
- ใช้แอปอื่นระหว่างโทรศัพท์
- โทร FaceTime แบบกลุ่ม
- ดูผู้เข้าร่วมในรูปแบบตาราง
- ใช้ SharePlay เพื่อดู ฟัง และเล่นด้วยกัน
- แชร์หน้าจอของคุณในการโทร FaceTime
- ร้องขอหรือให้การควบคุมระยะไกลในการโทร FaceTime
- ใช้งานเอกสารร่วมกันในแอป FaceTime
- ใช้คุณสมบัติการประชุมสายวิดีโอ
- ส่งต่อการโทร FaceTime ไปยังอุปกรณ์ Apple อีกเครื่อง
- เปลี่ยนการตั้งค่า FaceTime แบบวิดีโอ
- เปลี่ยนการตั้งค่า FaceTime แบบเสียง
- เปลี่ยนรูปลักษณ์ของคุณ
- ออกจากการโทรหรือสลับไปใช้แอปข้อความ
- ปิดกั้นและปิดเสียงการโทร FaceTime จากผู้โทรที่ไม่รู้จัก
- แจ้งการโทรว่าเป็นสแปม
-
- เริ่มต้นใช้งาน Freeform
- สร้างบอร์ด Freeform
- วาดหรือเขียนข้อความ
- แก้โจทย์คณิตศาสตร์ที่เขียนด้วยลายมือ
- เพิ่มข้อความในโน้ตแปะ รูปร่าง และกล่องข้อความ
- เพิ่มรูปร่าง เส้น และลูกศร
- เพิ่มไอดะแกรม
- เพิ่มรูปภาพ วิดีโอ และไฟล์อื่นๆ
- ปรับใช้รูปแบบที่สอดคล้องกัน
- จัดวางรายการบนบอร์ด
- นำทางและแสดงตำแหน่ง
- ส่งสำเนาหรือ PDF
- พิมพ์บอร์ด
- แชร์บอร์ดและใช้งานร่วมกัน
- ค้นหาบอร์ด Freeform
- ลบและกู้คืนบอร์ด
- เปลี่ยนการตั้งค่า Freeform
-
- ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับบ้าน
- อัปเกรดเป็นสถาปัตยกรรมบ้านแบบใหม่
- ตั้งค่าอุปกรณ์เสริม
- ควบคุมอุปกรณ์เสริม
- ควบคุมบ้านของคุณโดยใช้ Siri
- ใช้พยากรณ์โครงข่ายไฟฟ้าเพื่อวางแผนการใช้พลังงานของคุณ
- ดูการใช้ไฟฟ้าและอัตราค่าไฟฟ้า
- ตั้งค่า HomePod
- ควบคุมบ้านของคุณจากระยะไกล
- สร้างและใช้บรรยากาศ
- ใช้การทำงานอัตโนมัติ
- ตั้งค่ากล้องรักษาความปลอดภัย
- ใช้การจำใบหน้า
- ปลดล็อคประตูของคุณด้วยกุญแจบ้าน
- กำหนดค่าเราท์เตอร์
- เชิญคนอื่นให้ควบคุมอุปกรณ์เสริม
- เพิ่มบ้านเพิ่มเติม
-
- ดูแผนที่
- สำรวจแผนที่ 3D
-
- รับเส้นทางการเดินทาง
- เปลี่ยนหรือเพิ่มจุดแวะไปยังเส้นทางของคุณ
- ดูภาพรวมเส้นทางหรือรายการของการเลี้ยว
- เปลี่ยนการตั้งค่าสำหรับเสียงบอกเส้นทาง
- รับเส้นทางขับขี่
- รับเส้นทางไปยังรถที่คุณจอดอยู่
- ตั้งค่าเส้นทางยานยนต์ไฟฟ้า
- แจ้งเหตุการณ์จราจร
- รับเส้นทางปั่นจักรยาน
- รับเส้นทางเดิน
- บันทึกการเดินหรือการเดินเขา
- รับเส้นทางโดยสาร
- รับข้อมูลจราจรและข้อมูลสภาพอากาศ
- จองรถรับส่ง
- ประมาณเวลาเดินทางและเวลาที่คาดว่าจะถึง
- ดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์
- มองไปรอบๆ สถานที่
- เที่ยวชมด้วยทัวร์ Flyover
- ล้างประวัติตำแหน่งที่ตั้ง
- ลบเส้นทางล่าสุด
- เลือกโหมดเดินทางเริ่มต้นและหน่วย
- แจ้งปัญหาเกี่ยวกับแผนที่
-
- ตั้งค่าแอปข้อความ
- เกี่ยวกับ iMessage
- ส่งและตอบกลับข้อความ
- ส่งข้อความผ่านดาวเทียม
- ส่งภายหลัง
- เลิกส่งและแก้ไขข้อความ
- ติดตามข้อความ
- ค้นหา
- ส่งต่อและแชร์ข้อความ
- การสนทนาแบบกลุ่ม
- แชร์หน้าจอ
- ใช้งานโปรเจ็กต์ร่วมกัน
- ใช้แอป iMessage
- ถ่ายและแก้ไขรูปภาพหรือวิดีโอ
- แชร์รูปภาพ ลิงก์ และอื่นๆ
- ส่งสติกเกอร์
- สร้างและส่ง Memoji
- โต้ตอบด้วย Tapback
- ทำให้ข้อความมีสไตล์และเคลื่อนไหว
- วาดและเขียนข้อความ
- ส่งและบันทึก GIF
- ขอ ส่ง และรับการชำระเงิน
- ส่งและรับข้อความเสียง
- แชร์ตำแหน่งที่ตั้งของคุณ
- เปิดใช้หรือปิดใช้การแจ้งว่าได้อ่านแล้ว
- เปลี่ยนการแจ้งเตือน
- ปิดกั้น ฟิลเตอร์ และแจ้งข้อความ
- ลบข้อความและไฟล์แนบ
- กู้คืนข้อความที่ลบไปแล้ว
-
- เริ่มต้นใช้งานโน้ต
- สร้างและจัดรูปแบบโน้ต
- ใช้โน้ตด่วน
- เพิ่มการวาดและลายมือเขียน
- ป้อนสูตรและสมการ
- เพิ่มรูปภาพ วิดีโอ และอื่นๆ
- บันทึกเสียงและถอดเสียง
- สแกนข้อความและเอกสาร
- ใช้งานกับ PDF
- เพิ่มลิงก์
- ค้นหาโน้ต
- จัดระเบียบในโฟลเดอร์
- จัดระเบียบด้วยแท็ก
- ใช้โฟลเดอร์อัจฉริยะ
- แชร์และใช้งานร่วมกัน
- ส่งออกหรือพิมพ์โน้ต
- ล็อคโน้ต
- เพิ่มหรือเอาบัญชีออก
- เปลี่ยนมุมมองโน้ต
- เปลี่ยนการตั้งค่าของแอปโน้ต
-
- ใช้รหัสผ่าน
- ค้นหารหัสผ่านของคุณสำหรับเว็บไซต์หรือแอป
- เปลี่ยนรหัสผ่านสำหรับเว็บไซต์หรือแอป
- เอารหัสผ่านออก
- กู้คืนรหัสผ่านที่ลบไปแล้ว
- สร้างรหัสผ่านสำหรับเว็บไซต์หรือแอป
- ใช้พาสคีย์เพื่อลงชื่อเข้าแอปและเว็บไซต์
- ลงชื่อเข้าด้วย Apple
- แชร์รหัสผ่าน
- ป้อนรหัสผ่านที่ปลอดภัยสูงโดยอัตโนมัติ
- เปลี่ยนรหัสผ่านที่ปลอดภัยต่ำหรือถูกลดหย่อนความปลอดภัย
- ดูรหัสผ่านและข้อมูลที่เกี่ยวข้องของคุณ
- ค้นหาและแชร์รหัสผ่าน Wi-Fi ของคุณ
- แชร์รหัสผ่านอย่างปลอดภัยด้วย AirDrop
- ทำให้รหัสผ่านของคุณมีบนอุปกรณ์ทุกเครื่องของคุณ
- ป้อนรหัสการตรวจสอบยืนยันโดยอัตโนมัติ
- ป้อนรหัส SMS โดยอัตโนมัติ
- ลงชื่อเข้าด้วยความท้าทาย CAPTCHA ที่น้อยลง
- ใช้การตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัย
- ใช้กุญแจความปลอดภัย
-
- โทรออก
- เปลี่ยนการตั้งค่าโทรศัพท์ของคุณ
- ดูและลบประวัติการโทร
- รับสายหรือปฏิเสธสายโทรเข้า
- ขณะคุยโทรศัพท์
- ประชุมสายหรือโทรแบบสามสายบน iPhone
- ตั้งค่าวอยซ์เมล
- ตรวจสอบวอยซ์เมล
- เปลี่ยนเสียงตอบรับวอยซ์เมลและการตั้งค่า
- เลือกเสียงเรียกเข้าและการสั่น
- โทรออกโดยใช้ Wi-Fi
- ตั้งค่าการโอนสาย
- ตั้งค่าสายเรียกซ้อน
- ปิดกั้นหรือหลีกเลี่ยงสายโทรที่ไม่ต้องการ
-
- เริ่มต้นใช้งานรูปภาพ
- ดูรูปภาพและวิดีโอ
- ดูข้อมูลรูปภาพและวิดีโอ
- กำหนดแอปรูปภาพเอง
- ฟิลเตอร์และเรียงคลังรูปภาพ
- สำรองข้อมูลของคุณด้วย iCloud
- ลบหรือซ่อนรูปภาพและวิดีโอ
- ค้นหารูปภาพและวิดีโอ
- รับคำแนะนำภาพพื้นหลัง
- สร้างสติกเกอร์จากรูปภาพของคุณ
- ทำสำเนาและคัดลอกรูปภาพและวิดีโอ
- รวมรูปภาพและวิดีโอซ้ำ
- นำเข้าและส่งออกรูปภาพและวิดีโอ
- พิมพ์รูปภาพ
-
- เริ่มต้นใช้งานเตือนความจำ
- ตั้งค่าเตือนความจำ
- สร้างรายการของที่ต้องซื้อ
- เพิ่มรายละเอียด
- ทำรายการให้เสร็จและเอารายการออก
- แก้ไขและจัดระเบียบลิสต์
- ค้นหาลิสต์ของคุณ
- จัดระเบียบหลายลิสต์
- แท็กรายการ
- ใช้ลิสต์อัจฉริยะ
- แชร์และใช้งานร่วมกัน
- พิมพ์ลิสต์
- ทำงานกับแม่แบบ
- เพิ่มหรือเอาบัญชีออก
- เปลี่ยนการตั้งค่าเตือนความจำ
-
- ท่องเว็บ
- ค้นหาเว็บไซต์
- ดูไฮไลท์
- กำหนดการตั้งค่า Safari ของคุณเอง
- เปลี่ยนเค้าโครง
- สร้างโปรไฟล์ Safari หลายไฟล์
- ใช้ Siri เพื่อฟังหน้าเว็บ
- คั่นหน้าเว็บไซต์
- บันทึกหน้าเป็นรายการอ่าน
- ค้นหาลิงก์ที่แชร์กับคุณ
- ใส่คำอธิบายประกอบและบันทึกหน้าเว็บเป็น PDF
- กรอกแบบฟอร์มโดยอัตโนมัติ
- รับส่วนขยาย
- ล้างแคชและคุกกี้ของคุณ
- เปิดใช้งานคุกกี้
- คำสั่งลัด
- เคล็ดลับ
-
- ทำงานบนอุปกรณ์ทุกเครื่องโดยใช้ความต่อเนื่อง
- ใช้ iPhone ของคุณจาก Mac ของคุณ
- รับการแจ้งเตือน iPhone บน Mac ของคุณ
- ใช้ AirDrop เพื่อส่งรายการไปยังอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้เคียง
- ส่งต่องานระหว่างอุปกรณ์
- คัดลอกและวางระหว่างอุปกรณ์
- สตรีมวิดีโอและเสียงจาก iPhone ของคุณ
- อนุญาตสายโทรศัพท์และข้อความตัวอักษรบน iPad และ Mac ของคุณ
- แชร์การเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตของคุณด้วยฮอตปอตส่วนบุคคล
- ใช้ iPhone เป็นเว็บแคม
- แทรกภาพสเก็ตช์ รูปภาพ และภาพสแกนบน Mac
- เริ่ม SharePlay ทันที
- เชื่อมต่อ iPhone และคอมพิวเตอร์ของคุณด้วยสาย
-
- ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ CarPlay
- เชื่อมต่อกับ CarPlay
- ใช้ Siri
- ใช้ตัวควบคุมในรถของคุณ
- รับเส้นทางแบบเลี้ยวต่อเลี้ยว
- แจ้งเหตุการณ์จราจร
- เปลี่ยนมุมมองแผนที่
- โทรออก
- เล่นเพลง
- ดูปฏิทินของคุณ
- ส่งและรับข้อความตัวอักษร
- อ่านข้อความตัวอักษรขาเข้า
- เล่นพ็อดคาสท์
- เล่นหนังสือเสียง
- ฟังข่าวสาร
- ควบคุมบ้านของคุณ
- ใช้แอปอื่นด้วย CarPlay
- จัดเรียงไอคอนต่างๆ ใหม่บนหน้าโฮมของ CarPlay
- เปลี่ยนการตั้งค่าใน CarPlay
-
- เริ่มต้นด้วยคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึง
- ใช้คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงในระหว่างการตั้งค่า
- เปลี่ยนการตั้งค่าการช่วยการเข้าถึงสำหรับ Siri
- เปิดใช้หรือปิดใช้คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงอย่างรวดเร็ว
-
- ภาพรวมของคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงสำหรับการมองเห็น
- ซูมเข้า
- ดูข้อความที่คุณกำลังอ่านหรือป้อนในเวอร์ชั่นที่ใหญ่กว่า
- เปลี่ยนสีหน้าจอ
- ทำให้อ่านข้อความง่ายขึ้น
- ลดการเคลื่อนไหวบนหน้าจอ
- ใช้ iPhone อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้นในขณะโดยสารรถยนต์
- กำหนดการตั้งค่าภาพเฉพาะแอป
- ฟังสิ่งที่อยู่บนหน้าจอหรือที่ถูกป้อน
- ฟังคำบรรยายเสียง
- ปรับการตั้งค่า CarPlay
-
- เปิดใช้แล้วฝึกหัดใช้ VoiceOver
- เปลี่ยนการตั้งค่า VoiceOver ของคุณ
- ใช้คำสั่งนิ้ว VoiceOver
- สั่งงาน iPhone เมื่อ VoiceOver เปิดอยู่
- ควบคุม VoiceOver โดยใช้ตัวหมุน
- ใช้แป้นพิมพ์บนหน้าจอ
- เขียนด้วยนิ้วของคุณ
- ปิดหน้าจออยู่เสมอ
- ใช้ VoiceOver กับแป้นพิมพ์ภายนอก
- ใช้เครื่องแสดงผลอักษรเบรลล์
- ป้อนอักษรเบรลล์บนหน้าจอ
- กำหนดคำสั่งนิ้วและคำสั่งลัดแป้นพิมพ์เอง
- ใช้ VoiceOver กับอุปกรณ์ตัวชี้
- รับคำอธิบายของสิ่งรอบข้างคุณแบบสดๆ
- ใช้ VoiceOver ในแอปต่างๆ
-
- ภาพรวมของคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงสำหรับการเคลื่อนไหว
- ใช้ AssistiveTouch
- ปรับการตอบสนองต่อการสัมผัสของคุณของ iPhone
- การแตะด้านหลัง
- ใช้การดึงจอลงเพื่อแตะ
- การรับสายอัตโนมัติ
- ปิดใช้การสั่น
- เปลี่ยนการตั้งค่า Face ID และการตั้งใจมอง
- ใช้การสั่งการด้วยเสียง
- ใช้คำสั่งการสั่งการด้วยเสียงกับ CarPlay
- ปรับปุ่มด้านข้างหรือปุ่มโฮม
- ปรับการตั้งค่าการช่วยการเข้าถึงสำหรับตัวควบคุมกล้อง
- ใช้ปุ่มต่างๆ ของ Apple TV Remote
- ปรับการตั้งค่าตัวชี้
- ปรับการตั้งค่าแป้นพิมพ์
- ควบคุม iPhone ด้วยแป้นพิมพ์ภายนอก
- ปรับการตั้งค่า AirPods
- เปิดใช้การสะท้อนหน้าจอ Apple Watch
- ควบคุมอุปกรณ์ Apple ที่อยู่ใกล้เคียง
- ควบคุม iPhone ด้วยการเคลื่อนไหวของดวงตาของคุณ
-
- ภาพรวมของคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงสำหรับการได้ยิน
- ใช้อุปกรณ์รับฟัง
- ใช้ฟังสด
- ใช้การจำเสียง
- ตั้งค่าและใช้ RTT และ TTY
- กะพริบไฟแสดงสถานะสำหรับการแจ้งเตือน
- ปรับการตั้งค่าเสียง
- เล่นเสียงเบื้องหลัง
- แสดงคำบรรยายและคำบรรยายภาพ
- แสดงข้อความถอดเสียงสำหรับข้อความอินเตอร์คอม
- รับคำบรรยายเสียงสดของเสียงพูด
- เล่นเพลงด้วยการแตะ พื้นผิว และอื่นๆ
- รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับแตรรถยนต์และไซเรนใน CarPlay
-
- ควบคุมสิ่งที่คุณแชร์
- เปิดใช้คุณสมบัติหน้าจอล็อค
- ทำให้บัญชี Apple ของคุณปลอดภัย
- สร้างและจัดการที่อยู่สำหรับซ่อนอีเมลของฉัน
- ปกป้องการท่องเว็บของคุณด้วย iCloud Private Relay
- ใช้ที่อยู่เครือข่ายส่วนตัว
- ใช้การปกป้องข้อมูลขั้นสูง
- ใช้โหมดล็อคดาวน์
- ใช้การปกป้องอุปกรณ์เมื่อถูกขโมย
- รับคำเตือนเกี่ยวกับเนื้อหาที่ละเอียดอ่อน
- ใช้การตรวจสอบยืนยันรหัสผู้ติดต่อ
-
- ข้อมูลด้านความปลอดภัยที่สำคัญ
- ข้อมูลด้านการดูแลที่สำคัญ
- ค้นหาแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซอฟต์แวร์และบริการ
- แถลงการณ์การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ FCC
- แถลงการณ์การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ ISED Canada
- ข้อมูลแถบความถี่กว้างยิ่งยวด
- ข้อมูลเกี่ยวกับเลเซอร์คลาส 1
- Apple กับสิ่งแวดล้อม
- ข้อมูลด้านการกำจัดและการรีไซเคิล
- การแก้ไข iOS โดยไม่ได้รับอนุญาต
- ลิขสิทธิ์
ใช้ SOS เพื่อติดต่อบริการฉุกเฉินบน iPhone ของคุณ
ในกรณีฉุกเฉิน ให้ใช้ iPhone ของคุณโทรขอความช่วยเหลือและแจ้งเตือนรายชื่อติดต่อฉุกเฉินของคุณ (หากมีบริการเซลลูลาร์) อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
หมายเหตุ: ถ้าคุณมี iPhone 14 ขึ้นไป (รุ่นใดก็ได้) คุณอาจสามารถติดต่อบริการฉุกเฉินผ่านดาวเทียมได้หากไม่มีบริการเซลลูลาร์ ให้ดูที่ใช้ SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียมบน iPhone ของคุณ
โทรหาบริการฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว (ทุกประเทศหรือภูมิภาคยกเว้นอินเดีย)
กดปุ่มด้านข้างและปุ่มปรับเสียง โดยกดทั้งสองปุ่มพร้อมกันค้างไว้จนกว่าแถบเลื่อนจะแสดงขึ้นและการนับถอยหลังของ SOS ฉุกเฉินจะสิ้นสุดลง จากนั้นจึงปล่อยปุ่ม
หรือคุณสามารถทำให้ iPhone เริ่ม SOS ฉุกเฉินเมื่อคุณกดปุ่มด้านข้างห้าครั้งอย่างรวดเร็วก็ได้ ไปที่ การตั้งค่า > SOS ฉุกเฉิน แล้วเปิดใช้ โทรโดยกด 5 ครั้ง
หลังจากวางสายโทรฉุกเฉิน iPhone ของคุณจะแจ้งรายชื่อติดต่อฉุกเฉินของคุณด้วยข้อความตัวอักษร นอกเสียจากว่าคุณเลือกที่จะยกเลิก iPhone ของคุณจะส่งตำแหน่งที่ตั้งปัจจุบันของคุณ (หากมี) และรายชื่อฉุกเฉินของคุณจะได้รับการอัปเดตเมื่อตำแหน่งที่ตั้งของคุณเปลี่ยนแปลงหลังจากที่คุณเข้าสู่โหมด SOS เป็นระยะเวลาหนึ่ง
โทรหาบริการฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว (อินเดีย)
กดปุ่มด้านข้าง 3 ครั้งอย่างรวดเร็วจนกว่าแถบเลื่อนจะแสดงขึ้นและการนับถอยหลังของ SOS ฉุกเฉินจะสิ้นสุด
ถ้าคุณได้เปิดใช้ปุ่มลัดการช่วยการเข้าถึงไว้ ให้กดปุ่มด้านข้างและปุ่มปรับเสียง โดยกดทั้งสองปุ่มพร้อมกันค้างไว้จนกว่าแถบเลื่อนจะแสดงขึ้นและการนับถอยหลังของ SOS ฉุกเฉินจะสิ้นสุดลง จากนั้นจึงปล่อยปุ่ม
ตามค่าเริ่มต้น iPhone จะส่งเสียงเตือน เริ่มนับถอยหลัง แล้วโทรหาบริการฉุกเฉิน
หลังจากวางสายโทรฉุกเฉิน iPhone ของคุณจะแจ้งรายชื่อติดต่อฉุกเฉินของคุณด้วยข้อความตัวอักษร นอกเสียจากว่าคุณเลือกที่จะยกเลิก iPhone ของคุณจะส่งตำแหน่งที่ตั้งปัจจุบันของคุณ (หากมี) และรายชื่อฉุกเฉินของคุณจะได้รับการอัปเดตเมื่อตำแหน่งที่ตั้งของคุณเปลี่ยนแปลงหลังจากที่คุณเข้าสู่โหมด SOS เป็นระยะเวลาหนึ่ง
กดเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินเมื่อ iPhone ของคุณล็อคอยู่
บนหน้าจอรหัส ให้แตะ ฉุกเฉิน
กดเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน (ตัวอย่างเช่น 911 ในสหรัฐอเมริกา) จากนั้นแตะ
ส่งข้อความถึงบริการฉุกเฉิน (ไม่ได้มีในทุกประเทศหรือภูมิภาค)
ไปที่แอปข้อความ บน iPhone ของคุณ
ป้อน 191 หรือเบอร์โทรบริการฉุกเฉินในพื้นที่ของคุณในช่องถึง
ป้อนกรณีฉุกเฉินของคุณ
แตะปุ่มส่ง
แชร์วิดีโอสดหรือรูปภาพที่มีอยู่กับบริการฉุกเฉิน (ไม่ได้มีในทุกประเทศหรือภูมิภาค)
ถ้าบริการฉุกเฉินขอ วิดีโอสดสำหรับ SOS ฉุกเฉินช่วยให้คุณสามารถสตรีมวิดีโอสดหรืออัปโหลดรูปภาพและวิดีโอที่มีอยู่ไปยังบริการฉุกเฉินได้
ถ้าคุณได้รับคำขอให้แชร์วิดีโอหรือรูปภาพในระหว่างอยู่ในสายโทรบริการฉุกเฉิน ให้ปฏิบัติตามวิธีใดๆ ต่อไปนี้:
แชร์วิดีโอสด: แตะ แชร์ เมื่อได้รับแจ้งให้เริ่มสตรีมวิดีโอสดไปยังบริการฉุกเฉิน คุณสามารถหยุดพักหรือเริ่มการทำงานการแชร์ใหม่ได้ตลอดเวลาโดยแตะปุ่มกล้อง คุณสามารถหยุดแชร์ได้ตลอดเวลาโดยแตะ จากนั้นแตะ หยุดแชร์กล้อง หรือ วางสาย
แชร์รูปภาพหรือวิดีโอที่มีอยู่: แตะ เลือก เมื่อได้รับแจ้ง จากนั้นเลือกรูปภาพหรือวิดีโอที่คุณต้องการส่งไปที่บริการฉุกเฉิน
ปฏิเสธ: แตะ ไม่ใช่ตอนนี้ เมื่อได้รับแจ้ง หากคุณไม่ต้องการแชร์วิดีโอหรือรูปภาพกับบริการฉุกเฉิน
หมายเหตุ: วิดีโอสดสำหรับ SOS ฉุกเฉินมีให้ใช้งานบน iPhone 14 ขึ้นไป อาจมีการจำกัดอุปกรณ์ และอาจไม่มีในทุกสถานการณ์
เปลี่ยนการตั้งค่า SOS ฉุกเฉินของคุณ
ไปที่ การตั้งค่า > SOS ฉุกเฉิน บน iPhone ของคุณ
ปฏิบัติตามวิธีใดๆ ต่อไปนี้:
เปิดใช้หรือปิดใช้ “โทรโดยกดค้างและปล่อย”: กดปุ่มด้านข้างและปุ่มปรับเสียงค้างไว้แล้วปล่อยเพื่อเริ่มนับถอยหลังสำหรับโทรหาบริการฉุกเฉิน
เปิดใช้หรือปิดใช้ “การโทรโดยกด 5 ครั้ง”: กดปุ่มด้านข้างอย่างรวดเร็วห้าครั้งเพื่อเริ่มนับถอยหลังสำหรับโทรหาบริการฉุกเฉิน
จัดการรายชื่อติดต่อฉุกเฉินของคุณ: ในสุขภาพ ให้แตะ ตั้งค่ารายชื่อติดต่อฉุกเฉิน หรือ แก้ไขรายชื่อติดต่อฉุกเฉิน ให้ดูที่ตั้งค่าและดูข้อมูลทางการแพทย์ของคุณ
ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการโทรฉุกเฉินบน iPhone
เครือข่ายโทรศัพท์มือถือบางเครือข่ายอาจจะไม่ยอมรับการโทรออกฉุกเฉินจาก iPhone หาก iPhone ไม่ได้เปิดใช้งาน หาก iPhone ไม่สามารถใช้งานร่วมกันได้หรือถูกกำหนดค่าให้ใช้เครือข่ายเซลลูลาร์เฉพาะ หรือ (ถ้ามี) หาก iPhone ไม่มีซิมการ์ดหรือซิมการ์ดถูกล็อคด้วยรหัส PIN
ในบางประเทศหรือภูมิภาค หน่วยบริการฉุกเฉินอาจเข้าถึงข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งของคุณ (หากตรวจพบ) ได้เมื่อคุณโทรฉุกเฉิน
ตรวจสอบข้อมูลการโทรฉุกเฉินของผู้ให้บริการของคุณเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้งานการโทรฉุกเฉินผ่าน Wi-Fi
ใน CDMA เมื่อสายโทรฉุกเฉินสิ้นสุดลง iPhone จะเข้าสู่โหมดการโทรฉุกเฉินชั่วครู่เพื่ออนุญาตให้รอรับสายโทรกลับจากหน่วยบริการฉุกเฉิน ระหว่างนี้ การรับส่งข้อมูลและข้อความตัวอักษรจะถูกปิดกั้น
หลังจากโทรฉุกเฉิน คุณสมบัติการโทรบางประการที่ปิดกั้นหรือปิดเสียงสายโทรเข้าอาจจะถูกปิดใช้งานเป็นเวลาสั้นๆ เพื่อให้บริการฉุกเฉินสามารถโทรกลับได้ ซึ่งรวมถึง ห้ามรบกวน ปิดเสียงผู้โทรที่ไม่ทราบชื่อ และเวลาหน้าจอ
บน iPhone ที่มีซิมคู่ ถ้าคุณไม่ได้เปิดใช้การโทรผ่าน Wi-Fi สำหรับเบอร์โทรซิมหนึ่ง สายโทรเข้าใดๆ จากเบอร์โทรซิมนั้น (รวมถึงสายโทรจากบริการฉุกเฉิน) จะถูกโอนไปยังวอยซ์เมลโดยตรง (หากมีให้บริการจากผู้ให้บริการของคุณ) เมื่อเบอร์โทรซิมอีกเบอร์ใช้สายอยู่ โดยคุณจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนสายที่ไม่ได้รับ
ถ้าคุณตั้งค่าการโอนสายแบบมีเงื่อนไข (หากมีให้บริการจากผู้ให้บริการของคุณ) จากเบอร์โทรของซิมหนึ่งไปยังเบอร์โทรของอีกซิมหนึ่ง เมื่อสายไม่ว่างหรือไม่เปิดให้บริการ สายโทรนั้นจะไม่โอนเข้าไปยังวอยซ์เมล ให้ติดต่อผู้ให้บริการของคุณสำหรับข้อมูลด้านการตั้งค่า
เมื่อใช้ iPhone ที่มีช่องต่อ USB-C และอุปกรณ์เสริมที่ใช้งานร่วมกันได้ การถ่ายโอนข้อมูลผ่านการเชื่อมต่อ USB 3 และ DisplayPort จะไม่สามารถใช้งานได้เมื่อเซสชั่นฉุกเฉิน (โทรหรือส่งข้อความ) ถูกเริ่มต้นขึ้น และจะยังคงไม่สามารถใช้งานได้สูงสุด 5 นาทีนับจากสิ้นสุดเซสชั่น เวลานี้จะแตกต่างกันไปตามประเทศหรือภูมิภาค ในการใช้อุปกรณ์เสริมของคุณต่อ ให้เลิกเชื่อมต่อแล้วเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของคุณอีกครั้งหลังจากช่วงเวลานี้ การชาร์จจะไม่ได้รับผลกระทบและจะทำงานต่อไป