
ใช้ AirDrop เพื่อส่งรายการไปยังอุปกรณ์ Apple ที่อยู่ใกล้เคียง
คุณสามารถส่งเอกรูปภาพ วิดีโอ เอกสาร และอื่นๆ ไปยัง iPhone, iPad หรือ Mac ที่อยู่ใกล้เคียงแบบไร้สายได้โดยใช้ AirDrop คุณสามารถใช้ AirDrop ในการส่งไฟล์ไปยังอุปกรณ์ของคุณเอง หรือแชร์ไฟล์กับคนอื่นๆ ได้อีกด้วย
การถ่ายโอนจะถูกเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัย และผู้รับสามารถตอบรับหรือปฏิเสธการถ่ายโอนที่เข้ามาในแต่ละครั้งได้
หมายเหตุ: ถ้าคุณออกจากระยะบลูทูธหรือ Wi-Fi หลังจากที่การถ่ายโอน AirDrop เริ่มต้นขึ้น การถ่ายโอนจะดำเนินการต่อผ่านบนอินเทอร์เน็ต

ก่อนที่คุณจะเริ่ม
ตรวจสอบสิ่งต่อไปนี้ให้แน่ใจ:
อุปกรณ์ของคุณอยู่ห่างกันไม่เกิน 10 เมตร (30 ฟุต)
ถ้าคุณจะใช้ AirDrop เพื่อส่งรายการระหว่างอุปกรณ์ Apple ของคุณ ให้ลงชื่อเข้าบัญชี Apple เดียวกันเพื่อรับและบันทึกรายการโดยอัตโนมัติ
เปิดใช้ AirDrop
บน iPhone หรือ iPad: เปิดศูนย์ควบคุม แล้วแตะกลุ่มตัวควบคุมที่มุมซ้ายบนสุดค้างไว้ จากนั้นแตะ
แตะ รายชื่อเท่านั้น หรือ ทุกคนเป็นเวลา 10 นาที เพื่อเลือกคนที่คุณต้องรับรายการหมายเหตุ: ตัวเลือกรายชื่อเท่านั้นและทุกคนเป็นเวลา 10 นาทีจะมีบนอุปกรณ์ที่เป็นไปตามความต้องการขั้นต่ำของระบบเท่านั้น
บน Mac: คลิก
ในแถบเมนู จากนั้นคลิก
ถ้าแสดงเป็นสีน้ำเงิน แสดงว่าเปิดอยู่ในการเลือกว่าใครสามารถส่งรายการให้คุณได้ ให้คลิก
ค้างไว้หรือคลิก
ถัดจาก AirDrop จากนั้นคลิก รายชื่อเท่านั้น หรือ ทุกคน
ส่งรายการโดยใช้รหัส AirDrop
เมื่อใช้ iOS 26.2, iPadOS 26.2, macOS 26.2 ขึ้นไป ถ้ามีคนอื่นพยายามส่งรายการให้คุณด้วย AirDrop และไม่ได้อยู่ในรายชื่อของคุณ คนนั้นจะต้องใช้รหัส AirDrop
ถ้าคุณเลือกที่จะรับรายการ ให้เลือก ดำเนินการต่อ รหัส AirDrop จะแสดงบนอุปกรณ์ของคุณ หลังจากที่คุณแชร์รหัสกับผู้ส่งและผู้ส่งป้อนรหัสบนอุปกรณ์ของตัวเองแล้ว รายการนั้นจะถูกแชร์
คุณสามารถแชร์และรับรายการโดยใช้ AirDrop กับคนนั้นได้ต่อเนื่องเป็นเวลา 30 วันโดยไม่ต้องใช้รหัส AirDrop อีกรหัส ถ้าคุณไม่ต้องการแชร์รายการอีกต่อไปก่อนครบ 30 วัน ให้ไปที่แอปรายชื่อ
ค้นหาผู้ส่งในรายชื่ออื่นที่รู้จักของคุณ แล้วเลือก ลบคนนี้
ส่งรายการด้วย AirDrop
ในการส่งรายการให้คนอื่นด้วย AirDrop ทั้งคุณและผู้รับจะต้องเปิดใช้ AirDrop
ถ้าคุณส่งรายการให้คนอื่นที่รับรายการจากรายชื่อเท่านั้น คุณจะต้องอยู่ในลิสต์รายชื่อของผู้รับและจะต้องมีที่อยู่อีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์บัญชี Apple ของคุณรวมอยู่ในบัตรรายชื่อของคุณด้วย
ปฏิบัติตามวิธีใดๆ ต่อไปนี้:
บน iPhone หรือ iPad: เปิดรายการ จากนั้นแตะ
, แชร์,
,
หรือปุ่มอื่น (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแอป) แตะ
จากนั้นแตะผู้รับที่คุณต้องการแชร์ด้วย ผู้รับที่คุณเห็นคือคนที่อยู่ใกล้ๆ ที่เปิด Wi-Fi และบลูทูธอยู่และสามารถรับไฟล์จากอุปกรณ์ของคุณได้เคล็ดลับ: ถ้าคุณอยู่ในระยะใกล้เคียงกับคนที่อยู่ในรายชื่อของคุณ คุณสามารถเริ่มต้นการถ่ายโอน AirDrop ได้ด้วยการเปิดไฟล์ที่คุณต้องการแชร์ จากนั้นย้าย iPhone ของคุณไปใกล้ๆ iPhone ของคนที่อยู่ในรายชื่อของคุณ (บนรุ่นที่รองรับที่ใช้ iOS 17 ขึ้นไป)
บน Mac: เปิดรายการ แล้วคลิก
ในแถบเครื่องมือ จากนั้นคลิก AirDrop เลือกผู้รับที่คุณต้องการแชร์ด้วย ผู้รับที่คุณเห็นคือคนที่อยู่ใกล้ๆ ที่เปิด Wi-Fi และบลูทูธอยู่และสามารถรับไฟล์จากอุปกรณ์ของคุณได้เคล็ดลับ: คุณยังสามารถแชร์รายการด้วย AirDrop ใน Finder ได้อีกด้วย ในการเปิดหน้าต่าง Finder ให้คลิก
บน Dock คลิก AirDrop ในแถบด้านข้าง จากนั้นลากรายการที่คุณต้องการแชร์ไปยังผู้รับที่คุณต้องการส่งให้
ถ้าคุณเห็นการแจ้งเตือนให้ป้อนรหัสเพื่อแชร์รายการ ให้ป้อนรหัส AirDrop ที่สร้างขึ้นบนอุปกรณ์ของผู้รับ
ในการใช้ AirDrop เพื่อแชร์รหัสผ่านแอปและเว็บไซต์อย่างปลอดภัยกับคนอื่นที่ใช้ iPhone, iPad หรือ Mac ให้ดูที่แชร์รหัสผ่านและพาสคีย์อย่างปลอดภัยด้วย AirDrop บน iPhone, แชร์รหัสผ่านและพาสคีย์อย่างปลอดภัยด้วย AirDrop บน iPad หรือแชร์รหัสผ่านและพาสคีย์อย่างปลอดภัยด้วย AirDrop บน Mac
รับรายการต่างๆ ด้วย AirDrop
บนอุปกรณ์ของคุณ ให้แตะหรือคลิก ตอบรับ บนการแจ้งเตือน AirDrop
ถ้าคุณเห็นการแจ้งเตือนว่าคุณต้องใช้รหัส AirDrop เพื่อรับรายการ ให้แตะหรือคลิก รับรหัส AirDrop แล้วแชร์กับผู้ส่ง ผู้ส่งป้อนรหัสบนอุปกรณ์ของตัวเองเพื่อส่งรายการด้วย AirDrop
หมายเหตุ: ถ้าคุณส่งรายการระหว่างอุปกรณ์ที่คุณลงชื่อเข้าบัญชี Apple ของคุณไว้ รายการจะได้รับการตอบรับโดยอัตโนมัติ
รายการส่วนใหญ่จะถูกบันทึกในแอปที่ส่งรายการนั้นมา ตัวอย่างเช่น ถ้ามีคนใช้ AirDrop ในการส่งรูปภาพจากแอปรูปภาพให้คุณ รูปภาพนั้นจะถูกบันทึกลงในแอปรูปภาพบนอุปกรณ์ของคุณ
คุณอาจพบไฟล์ของคุณอยู่ในตำแหน่งอื่น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ บน iPhone หรือ iPad รายการบางรายการอาจถูกบันทึกลงในแอปไฟล์ บน Mac บางรายการจะถูกบันทึกในโฟลเดอร์รายการดาวน์โหลดโดยอัตโนมัติ แต่คุณยังมีตัวเลือกเพื่อเลือกตำแหน่งที่จะบันทึกรายการอีกด้วย ตัวอย่างเช่น เลือกว่าจะบันทึกรูปภาพในโฟลเดอร์รายการดาวน์โหลดหรือเปิดรูปภาพในแอปรูปภาพ
หมายเหตุ: ถ้าคุณเปิด AirDrop ไว้ใน Finder บน Mac การแจ้งเตือนให้ตอบรับหรือปฏิเสธจะแสดงขึ้นที่นี่แทนที่จะแสดงในศูนย์การแจ้งเตือน
ถ้าคุณส่งรายการจากอุปกรณ์ Apple เครื่องหนึ่งของคุณไปยังอุปกรณ์อีกเครื่องหนึ่ง (ตัวอย่างเช่น จาก Mac ไปยัง iPhone ของคุณ) และคุณได้ลงชื่อเข้าบัญชี Apple เดียวกันสำหรับ iCloud บนอุปกรณ์ทั้งสองเครื่องแล้ว รายการนั้นจะได้รับการยอมรับและถูกบันทึกโดยอัตโนมัติ
ถ้า AirDrop ไม่ทำงาน
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทั้งผู้ส่งและผู้รับมี Wi-Fi และบลูทูธเปิดอยู่ และทั้งสองคนใช้ iPhone, iPad หรือ Mac
ตรวจสอบว่าผู้รับได้ตั้งค่าการตั้งค่า AirDrop ของตัวเองไว้เพื่อรับรายการจากทุกคนหรือรายชื่อเท่านั้น
อุปกรณ์ของคุณจะต้องอยู่ภายในระยะ 10 เมตร (30 ฟุต) จากอุปกรณ์อีกเครื่องหนึ่ง
ถ้าคุณมีปัญหาในการทำให้ AirDrop ใช้งานได้ ให้เริ่มการทำงานอุปกรณ์ของคุณใหม่แล้วลองอีกครั้ง
สำหรับบริการช่วยเหลือเพิ่มเติม ให้ดูที่บทความบริการช่วยเหลือของ Apple ใช้ AirDrop บน iPhone หรือ iPad
AirDrop เป็นวิธีการที่งานได้ดีในการแชร์ไฟล์ที่เลือกไว้จำนวนหนึ่งระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ถ้าคุณต้องการแชร์หลายไฟล์ระหว่าง Mac กับอุปกรณ์ Apple อื่นๆ ของคุณ ให้ดูที่เชื่อมข้อมูลเนื้อหาระหว่าง Mac และ iPhone, iPad หรือ iPod touch ของคุณ หรือวิธีที่ iCloud อัปเดตข้อมูลในอุปกรณ์ทุกเครื่องของคุณอยู่เสมอ