คู่มือผู้ใช้ iPad
- ยินดีต้อนรับ
-
- รุ่นที่สามารถใช้งานร่วมกับ iPadOS 17 ได้
- iPad mini (รุ่นที่ 5)
- iPad mini (รุ่นที่ 6)
- iPad (รุ่นที่ 6)
- iPad (รุ่นที่ 7)
- iPad (รุ่นที่ 8)
- iPad (รุ่นที่ 9)
- iPad (รุ่นที่ 10)
- iPad Air (รุ่นที่ 3)
- iPad Air (รุ่นที่ 4)
- iPad Air (รุ่นที่ 5)
- iPad Pro 10.5 นิ้ว
- iPad Pro 11 นิ้ว (รุ่นที่ 1)
- iPad Pro 11 นิ้ว (รุ่นที่ 2)
- iPad Pro 11 นิ้ว (รุ่นที่ 3)
- iPad Pro 11 นิ้ว (รุ่นที่ 4)
- iPad Pro 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 2)
- iPad Pro 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 3)
- iPad Pro 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 4)
- iPad Pro 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 5)
- iPad Pro 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 6)
- มีอะไรใหม่ใน iPadOS 17
-
-
- เริ่มต้นใช้งาน FaceTime
- สร้างลิงก์ FaceTime
- ถ่าย Live Photos
- เปิดใช้คำบรรยายเสียงสด
- ใช้แอปอื่นระหว่างโทรศัพท์
- โทร FaceTime แบบกลุ่ม
- ดูผู้เข้าร่วมในรูปแบบตาราง
- ใช้ SharePlay เพื่อดู ฟัง และเล่นด้วยกัน
- แชร์หน้าจอของคุณในการโทร FaceTime
- ใช้งานเอกสารร่วมกันในการโทร FaceTime
- ใช้คุณสมบัติการประชุมสายวิดีโอ
- ส่งต่อการโทร FaceTime ไปยังอุปกรณ์ Apple อีกเครื่อง
- เปลี่ยนการตั้งค่า FaceTime แบบวิดีโอ
- เปลี่ยนการตั้งค่าเสียง
- เปลี่ยนรูปลักษณ์ของคุณ
- ออกจากการโทรหรือสลับไปใช้แอปข้อความ
- ปิดกั้นผู้โทรที่ไม่ต้องการ
- แจ้งการโทรว่าเป็นสแปม
-
- ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับบ้าน
- อัปเกรดเป็นสถาปัตยกรรมบ้านแบบใหม่
- ตั้งค่าอุปกรณ์เสริม
- ควบคุมอุปกรณ์เสริม
- ควบคุมบ้านของคุณโดยใช้ Siri
- ใช้พยากรณ์โครงข่ายไฟฟ้าเพื่อวางแผนการใช้พลังงานของคุณ
- ตั้งค่า HomePod
- ควบคุมบ้านของคุณจากระยะไกล
- สร้างและใช้บรรยากาศ
- ใช้การทำงานอัตโนมัติ
- ตั้งค่ากล้องรักษาความปลอดภัย
- ใช้การจำใบหน้า
- กำหนดค่าเราท์เตอร์
- เชิญคนอื่นให้ควบคุมอุปกรณ์เสริม
- เพิ่มบ้านเพิ่มเติม
-
- ตั้งค่าแอปข้อความ
- เกี่ยวกับ iMessage
- ส่งและตอบกลับข้อความ
- เลิกส่งและแก้ไขข้อความ
- ติดตามข้อความ
- ค้นหา
- ส่งต่อและแชร์ข้อความ
- การสนทนาแบบกลุ่ม
- ดู ฟัง หรือเล่นด้วยกันโดยใช้ SharePlay
- ใช้งานโปรเจ็กต์ร่วมกัน
- ใช้แอป iMessage
- ถ่ายและแก้ไขรูปภาพหรือวิดีโอ
- แชร์รูปภาพ ลิงก์ และอื่นๆ
- ส่งสติกเกอร์
- ขอ ส่ง และรับการชำระเงิน
- ส่งและรับข้อความเสียง
- แชร์ตำแหน่งที่ตั้งของคุณ
- ทำให้ข้อความเคลื่อนไหว
- เปลี่ยนการแจ้งเตือน
- ปิดกั้น ฟิลเตอร์ และแจ้งข้อความ
- ลบข้อความและไฟล์แนบ
- กู้คืนข้อความที่ลบไปแล้ว
-
- เริ่มต้นใช้งานโน้ต
- เพิ่มหรือเอาบัญชีออก
- สร้างและจัดรูปแบบโน้ต
- วาดหรือเขียน
- เพิ่มรูปภาพ วิดีโอ และอื่นๆ
- สแกนข้อความและเอกสาร
- ใช้งานกับ PDF
- เพิ่มลิงก์
- สร้างโน้ตด่วน
- ค้นหาโน้ต
- จัดระเบียบในโฟลเดอร์
- จัดระเบียบด้วยแท็ก
- ใช้โฟลเดอร์อัจฉริยะ
- แชร์และใช้งานร่วมกัน
- ส่งออกหรือพิมพ์โน้ต
- ล็อคโน้ต
- เปลี่ยนการตั้งค่าของแอปโน้ต
- ใช้ปุ่มลัดแป้นพิมพ์
-
- ดูรูปภาพและวิดีโอ
- เล่นวิดีโอและสไลด์โชว์
- ลบหรือซ่อนรูปภาพและวิดีโอ
- แก้ไขรูปภาพและวิดีโอ
- ตัดต่อความยาววิดีโอและปรับสโลว์โมชั่น
- แก้ไข Live Photos
- แก้ไขวิดีโอแบบภาพยนตร์
- แก้ไขภาพถ่ายบุคคล
- ใช้อัลบั้มรูปภาพ
- แก้ไข แชร์ และจัดระเบียบอัลบั้ม
- ฟิลเตอร์และเรียงรูปภาพและวิดีโอในอัลบั้ม
- สร้างสติกเกอร์จากรูปภาพของคุณ
- ทำสำเนาและคัดลอกรูปภาพและวิดีโอ
- ผสานรูปภาพซ้ำ
- ค้นหารูปภาพ
- ระบุผู้คนและสัตว์เลี้ยงในแอปรูปภาพ
- เลือกหารูปภาพตามตำแหน่งที่ตั้ง
- แชร์รูปภาพและวิดีโอ
- แชร์วิดีโอแบบยาว
- ดูรูปภาพและวิดีโอที่แชร์กับคุณ
- ดูความทรงจำ
- ปรับแต่งความทรงจำของคุณสำหรับคุณโดยเฉพาะ
- จัดการความทรงจำและรูปภาพแนะนำ
- นำเข้าและส่งออกรูปภาพและวิดีโอ
- พิมพ์รูปภาพ
-
- ท่องเว็บ
- ค้นหาเว็บไซต์
- กำหนดการตั้งค่า Safari ของคุณเอง
- เปลี่ยนเค้าโครง
- ใช้โปรไฟล์ Safari
- ใช้ Siri เพื่อฟังหน้าเว็บ
- คั่นหน้าหน้าเว็บโปรด
- บันทึกหน้าเป็นรายการอ่าน
- ค้นหาลิงก์ที่แชร์กับคุณ
- ใส่คำอธิบายประกอบและบันทึกหน้าเว็บเป็น PDF
- กรอกแบบฟอร์มโดยอัตโนมัติ
- รับส่วนขยาย
- ซ่อนโฆษณาและสิ่งรบกวน
- ล้างแคชของคุณ
- คำสั่งลัด
- เคล็ดลับ
-
- อะแดปเตอร์แปลงไฟและสายชาร์จ
- ใช้คุณสมบัติระดับเสียงหูฟัง
-
- ความเข้ากันได้กับ Apple Pencil
- จับคู่และชาร์จ Apple Pencil (รุ่นที่ 1)
- จับคู่และชาร์จ Apple Pencil (รุ่นที่ 2)
- จับคู่และชาร์จ Apple Pencil (USB-C)
- ป้อนข้อความด้วยขีดเขียนข้อความ
- วาดด้วย Apple Pencil
- ถ่ายภาพหน้าจอและทำเครื่องหมายด้วย Apple Pencil
- เขียนโน้ตอย่างรวดเร็ว
- แสดงตัวอย่างเครื่องมือและตัวควบคุมด้วยการยกปลาย Apple Pencil
- HomePod และลำโพงไร้สายอื่นๆ
- อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก
- อุปกรณ์เสริมบลูทูธ
- Apple Watch ที่มี Fitness+
- เครื่องพิมพ์
-
- แชร์การเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตของคุณ
- โทรออกและรับสายโทรศัพท์
- ใช้ iPad เป็นจอภาพที่สองสำหรับ Mac
- ใช้ iPad เป็นเว็บแคม
- ใช้แป้นพิมพ์และเมาส์หรือแทร็คแพดบน Mac และ iPad ของคุณ
- ส่งต่องานระหว่างอุปกรณ์
- ตัด คัดลอก และวางระหว่าง iPad กับอุปกรณ์เครื่องอื่น
- สตรีมวิดีโอหรือสะท้อนหน้าจอของ iPad ของคุณ
- ใช้ AirDrop เพื่อส่งรายการ
- เชื่อมต่อ iPad และคอมพิวเตอร์ของคุณด้วยสาย
-
- เริ่มต้นด้วยคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึง
- เปิดใช้คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงสำหรับการตั้งค่า
- เปลี่ยนการตั้งค่าการช่วยการเข้าถึงสำหรับ Siri
- เปิดคุณสมบัติด้วยปุ่มลัดการช่วยการเข้าถึง
-
- ภาพรวม
- ซูมเข้า
- ขยายข้อความโดยการวางเมาส์ไว้เหนือข้อความ
- เปลี่ยนสีและความสว่าง
- ทำให้ข้อความอ่านง่ายขึ้น
- ลดการเคลื่อนไหวบนหน้าจอ
- กำหนดการตั้งค่าภาพเฉพาะแอป
- ฟังสิ่งที่อยู่บนหน้าจอหรือที่ถูกป้อน
- ฟังคำบรรยายเสียง
-
- เปิดใช้แล้วฝึกหัดใช้ VoiceOver
- เปลี่ยนการตั้งค่า VoiceOver ของคุณ
- ใช้คำสั่งนิ้ว VoiceOver
- สั่งงาน iPad เมื่อ VoiceOver เปิดอยู่
- ควบคุม VoiceOver โดยใช้ตัวหมุน
- ใช้แป้นพิมพ์บนหน้าจอ
- เขียนด้วยนิ้วของคุณ
- ใช้ VoiceOver กับแป้นพิมพ์ภายนอกของ Apple
- ใช้เครื่องแสดงผลอักษรเบรลล์
- ป้อนอักษรเบรลล์บนหน้าจอ
- กำหนดคำสั่งนิ้วและคำสั่งลัดแป้นพิมพ์เอง
- ใช้ VoiceOver กับอุปกรณ์ตัวชี้
- ใช้ VoiceOver สำหรับภาพและวิดีโอ
- ใช้ VoiceOver ในแอปต่างๆ
-
- ภาพรวม
- ใช้ AssistiveTouch
- ใช้อุปกรณ์ติดตามสายตา
- ปรับการตอบสนองต่อการสัมผัสของคุณของ iPad
- การรับสายอัตโนมัติ
- เปลี่ยนการตั้งค่า Face ID และการตั้งใจมอง
- ใช้การสั่งการด้วยเสียง
- ปรับปุ่มด้านบนหรือปุ่มโฮม
- ใช้ปุ่มต่างๆ ของ Apple TV Remote
- ปรับการตั้งค่าตัวชี้
- ปรับการตั้งค่าแป้นพิมพ์
- ปรับการตั้งค่า AirPods
- ปรับการตั้งค่า Apple Pencil
- ควบคุมอุปกรณ์ Apple ที่อยู่ใกล้เคียง
-
- ใช้การปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในตัว
- ทำให้ Apple ID ของคุณปลอดภัย
-
- ใช้พาสคีย์เพื่อลงชื่อเข้าแอปและเว็บไซต์
- ลงชื่อเข้าด้วย Apple
- แชร์รหัสผ่าน
- ป้อนรหัสผ่านที่ปลอดภัยสูงโดยอัตโนมัติ
- เปลี่ยนรหัสผ่านที่ปลอดภัยต่ำหรือถูกลดหย่อนความปลอดภัย
- ดูรหัสผ่านและข้อมูลที่เกี่ยวข้องของคุณ
- แชร์พาสคีย์และรหัสผ่านอย่างปลอดภัยด้วย AirDrop
- ทำให้พาสคีย์และรหัสผ่านของคุณมีบนอุปกรณ์ทุกเครื่องของคุณ
- ป้อนรหัสการตรวจสอบยืนยันโดยอัตโนมัติ
- ลงชื่อเข้าด้วยความท้าทาย CAPTCHA ที่น้อยลงบน iPad
- การตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัย
- ใช้กุญแจความปลอดภัย
- สร้างและจัดการที่อยู่สำหรับซ่อนอีเมลของฉัน
- ปกป้องการท่องเว็บของคุณด้วย iCloud Private Relay
- ใช้ที่อยู่เครือข่ายส่วนตัว
- ใช้การปกป้องข้อมูลขั้นสูง
- ใช้โหมดล็อคดาวน์
- รับคำเตือนเกี่ยวกับเนื้อหาที่ละเอียดอ่อน
-
- ข้อมูลด้านความปลอดภัยที่สำคัญ
- ข้อมูลด้านการดูแลที่สำคัญ
- ค้นหาแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซอฟต์แวร์และบริการ
- แถลงการณ์การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ FCC
- แถลงการณ์การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ ISED Canada
- Apple กับสิ่งแวดล้อม
- ข้อมูลเกี่ยวกับเลเซอร์คลาส 1
- ข้อมูลด้านการกำจัดและการรีไซเคิล
- การแก้ไข iPadOS โดยไม่ได้รับอนุญาต
- แถลงการณ์การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ ENERGY STAR
- ลิขสิทธิ์
ระบุว่าอุปกรณ์สูญหายในแอป “ค้นหาของฉัน” บน iPad
ใช้แอป “ค้นหาของฉัน” เพื่อระบุ iPhone, iPad, iPod touch, Apple Watch, Mac, AirPods ที่รองรับหรือกระเป๋าสตางค์สำหรับ iPhone พร้อม MagSafe ที่หายไปว่าสูญหาย ในการระบุว่าอุปกรณ์สูญหาย คุณต้องเปิดใช้ “ค้นหา [อุปกรณ์] ของฉัน” ก่อนที่อุปกรณ์จะสูญหาย
หมายเหตุ: การแชร์ตำแหน่งที่ตั้งและการค้นหาอุปกรณ์ไม่ได้มีในทุกประเทศหรือภูมิภาค

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคุณระบุว่าอุปกรณ์สูญหาย
อีเมลยืนยันจะถูกส่งไปที่ที่อยู่อีเมล Apple ID ของคุณ
คุณสามารถสร้างข้อความสำหรับอุปกรณ์ที่แจ้งว่าสูญหายและวิธีติดต่อคุณได้
สำหรับ iPhone, iPad, iPod touch, Mac หรือ Apple Watch อุปกรณ์ของคุณจะไม่แสดงการเตือนหรือส่งเสียงเมื่อคุณได้รับข้อความหรือการแจ้งเตือน หรือถ้ามี การตั้งปลุกจะไม่ทำงาน อุปกรณ์ของคุณยังคงสามารถรับสายโทรและการโทร FaceTime ได้อยู่
สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้งานได้ บัตรชำระเงินและบริการอื่นๆ จะถูกระงับ
ระบุว่าอุปกรณ์สูญหาย
ถ้าอุปกรณ์ของคุณสูญหายหรือถูกขโมย คุณสามารถเปิดใช้โหมดสูญหาย (สำหรับ iPhone, iPad, iPod touch, Apple Watch, AirPods ที่รองรับ หรือกระเป๋าสตางค์สำหรับ iPhone พร้อม MagSafe) หรือล็อค Mac ของคุณได้
แตะ อุปกรณ์ ที่ด้านซ้ายล่างสุดของหน้าจอ แล้วแตะชื่อของอุปกรณ์ที่สูญหาย
ที่ด้านล่าง ระบุว่าสูญหาย ให้แตะ เปิดใช้งาน
ทำตามขั้นตอนบนหน้าจอ โดยคำนึงถึงสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้:
รหัส: ถ้า iPhone, iPad, iPod touch หรือ Apple Watch ของคุณไม่มีรหัส ระบบจะขอให้คุณสร้างรหัสนั้นตอนนี้ สำหรับ Mac คุณต้องสร้างรหัสตัวเลขแม้ว่าคุณจะมีรหัสผ่านที่ตั้งค่าไว้บน Mac ของคุณอยู่แล้ว รหัสนี้จะแตกต่างจากรหัสผ่านของคุณและใช้เฉพาะเมื่อคุณระบุว่าอุปกรณ์ของคุณสูญหาย
ข้อมูลติดต่อ: สำหรับ iPhone, iPad, iPod touch, Mac หรือ Apple Watch ข้อมูลติดต่อและข้อความจะแสดงขึ้นที่หน้าจอล็อคของอุปกรณ์ สำหรับ AirPods หรือกระเป๋าสตางค์สำหรับ iPhone พร้อม MagSafe ข้อมูลจะแสดงขึ้นเมื่อมีใครบางคนพยายามที่จะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของคุณ
แตะ เปิดใช้งาน (สำหรับ iPhone, iPad, iPod touch, Apple Watch, AirPods หรือกระเป๋าสตางค์สำหรับ iPhone พร้อม MagSafe) หรือ ล็อค (สำหรับ Mac)
เมื่ออุปกรณ์ถูกระบุว่าสูญหาย คุณจะเห็นคำว่า เปิดใช้งานแล้ว ที่ด้านล่างส่วนระบุว่าสูญหาย ถ้าอุปกรณ์ไม่ได้เชื่อมต่อกับเครือข่ายเมื่อคุณระบุว่าสูญหาย คุณจะเห็นคำว่า รอดำเนินการ จนกว่าอุปกรณ์จะออนไลน์อีกครั้ง
นอกจากนี้ ให้ดูที่ระบุ AirPods ว่าสูญหาย ในคู่มือผู้ใช้ AirPods
เปลี่ยนข้อมูลสำหรับอุปกรณ์ที่สูญหาย
หลังจากที่คุณระบุ iPhone, iPad, iPod touch, Apple Watch หรือกระเป๋าสตางค์สำหรับ iPhone พร้อม MagSafe ว่าสูญหายแล้ว คุณสามารถปรับข้อมูลในข้อความโหมดสูญหายได้
แตะ อุปกรณ์ ที่ด้านซ้ายล่างสุดของหน้าจอ แล้วแตะชื่อของอุปกรณ์ที่สูญหาย
ที่ด้านล่าง ระบุว่าสูญหาย ให้แตะ รอดำเนินการ หรือ เปิดใช้งานแล้ว
อัปเดตข้อมูล แล้วแตะ เสร็จสิ้น
ปิดใช้โหมดสูญหายสำหรับ iPhone, iPad, iPod touch, Apple Watch, AirPods หรือกระเป๋าสตางค์สำหรับ iPhone พร้อม MagSafe
เมื่อคุณพบอุปกรณ์ที่สูญหายของคุณแล้ว คุณสามารถปิดใช้โหมดสูญหายได้
แตะ “ค้นหาของฉัน” ที่ด้านซ้ายล่างสุดของหน้าจอ แล้วแตะชื่อของอุปกรณ์
แตะ รอดำเนินการ หรือ เปิดใช้งานแล้ว ที่ด้านล่าง ระบุว่าสูญหาย แตะ ปิดใช้การระบุว่าสูญหาย จากนั้นแตะ ปิดใช้
สำหรับ iPhone, iPad, iPod touch หรือ Apple Watch คุณสามารถปิดใช้โหมดสูญหายได้ด้วยการป้อนรหัสบนอุปกรณ์ของคุณ สำหรับกระเป๋าสตางค์สำหรับ iPhone พร้อม MagSafe คุณสามารถปิดใช้โหมดสูญหายได้ด้วยการติดกระเป๋าสตางค์กับ iPhone ของคุณ
ปลดล็อค Mac
เมื่อคุณค้นหา Mac ที่สูญหายของคุณ ให้ปฏิบัติตามวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้:
Mac ที่มี Apple Silicon: ป้อน Apple ID และรหัสผ่านของคุณ
ดูบทความบริการช่วยเหลือของ Apple ถ้าคุณลืมที่อยู่อีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์ Apple ID ของคุณและถ้าคุณลืมรหัสผ่าน Apple ID ของคุณ
Mac ที่ใช้ Intel: ป้อนรหัสตัวเลขบน Mac เพื่อปลดล็อค (รหัสที่คุณตั้งค่าเมื่อคุณระบุว่า Mac ของคุณสูญหาย)
ถ้าคุณลืมรหัสของคุณ คุณสามารถกู้คืนได้โดยใช้ “ค้นหาอุปกรณ์” บน iCloud.com โปรดดูที่ใช้โหมดสูญหายใน “ค้นหาอุปกรณ์” บน iCloud.com ในคู่มือผู้ใช้ iCloud สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ถ้าคุณทำ iPad สูญหาย คุณสามารถเปิดใช้ โหมดสูญหาย ได้โดยใช้ “ค้นหาอุปกรณ์” บน iCloud.com