การแก้ไขปัญหาแล็ปท็อป Mac ปัญหาเกี่ยวกับกำลังไฟและการเริ่มต้นระบบ

การแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่และอะแดปเตอร์แปลงไฟ หรือเปิดไม่ติด

การแก้ไขปัญหาการพักและปลุก

การแก้ไขปัญหาเครื่องปิดเองบ่อยครั้งหรือความไม่เสถียรของระบบ

การแก้ไขปัญหาการเริ่มต้นระบบ

การแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่และอะแดปเตอร์แปลงไฟ หรือเปิดไม่ติด

ระบุปัญหา

อ่านบทความต่อไปนี้หากคุณสังเกตเห็นปัญหาใดๆ ต่อไปนี้

  • เมนูแบตเตอรี่จะแสดงข้อความต่างๆ เช่น บำรุงรักษาแบตเตอรี่ เปลี่ยนทันที หรือเปลี่ยนในอีกไม่ช้า

  • แบตเตอรี่ไม่ชาร์จ

  • แบตเตอรี่หมดเร็วมาก หรือหมดโดยไม่มีการแจ้งเตือน

  • ไม่มีไอคอนรูปสายฟ้าในเมนูสถานะแบตเตอรี่หรือมีสัญญาณว่าเชื่อมต่อกับแหล่งจ่ายไฟ เมื่อเสียบอะแดปเตอร์แปลงไฟ

  • “X” ในเมนูสถานะของแบตเตอรี่

  • คอมพิวเตอร์ไม่เริ่มต้นระบบจากการปิดเครื่องระหว่างที่อะแดปเตอร์แปลงไฟเสียบอยู่

  • คอมพิวเตอร์เปิดไม่ติดเมื่อจอภาพเปิดขึ้น

  • คอมพิวเตอร์เปิดไม่ติดเมื่อคุณกดปุ่มเปิดปิด

  • คอมพิวเตอร์เปิดไม่ติดเมื่อเสียบอะแดปเตอร์แปลงไฟ

  • คอมพิวเตอร์เปิดไม่ติดเมื่อมีการกดปุ่มคีย์บอร์ดในระหว่างที่จอภาพเปิดอยู่

  • คอมพิวเตอร์เปิดไม่ติดเมื่อมีการกดแทร็คแพดในระหว่างที่จอภาพเปิดอยู่

  • ภาพไม่ปรากฏบนจอภาพในตัว

ระบุรุ่นของ MacBook

ระบุรุ่นของ MacBook Air

ระบุโหมดของ MacBook Pro ของคุณ

ระบุอะแดปเตอร์แปลงไฟของ Mac

การใช้อะแดปเตอร์แปลงไฟ สาย และเต้าเสียบของ Apple กับผลิตภัณฑ์ Apple

ชาร์จ MacBook Air หรือ MacBook Pro แบบเร็ว

หาก Mac ของคุณเปิดไม่ติด

หาก Mac เริ่มต้นระบบไม่สำเร็จ

หากสายหรืออะแดปเตอร์แปลงไฟ MagSafe ไม่ทำงาน

หากอะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C ไม่ชาร์จแล็ปท็อป Mac ของคุณ

หากคุณเห็น "แนะนำให้เข้ารับบริการ" บน MacBook Air หรือ MacBook Pro

เกี่ยวกับอะแดปเตอร์แปลงไฟของแล็ปท็อป Mac

หากแบตเตอรี่ Mac ของคุณหมดอย่างรวดเร็ว

หากสถานะแบตเตอรี่ของ Mac ของคุณเป็น “ไม่ได้ชาร์จอยู่”

หากแบตเตอรี่ Mac ไม่ชาร์จ

ใช้เซฟโหมดบน Mac

หาก Mac เริ่มต้นระบบเป็นเครื่องหมายอัศเจรีย์ในวงกลม

หาก Mac เริ่มต้นระบบเป็นตัวเลือกที่มีไอคอนรูปเฟือง

หากคุณไม่สามารถเริ่มต้นระบบจากการกู้คืน macOS

ใช้การกู้คืน macOS บน Mac ที่มี Apple Silicon

หากยังแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้หลังจากที่ทำตามบทความบริการช่วยเหลือแล้ว ให้ดำเนินการต่อในส่วนถัดไป

ลองทำตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว

  1. ตรวจสอบคอมพิวเตอร์เพื่อหาความเสียหายจากของเหลว การสัมผัสกับของเหลวอาจทำให้วงจรภายในลัดวงจร และทำให้พัดลมหยุดทำงาน

  2. ตรวจสอบว่าอะแดปเตอร์แปลงไฟและสายชาร์จเป็นประเภทที่ถูกต้องสำหรับคอมพิวเตอร์ดังกล่าว อะแดปเตอร์แปลงไฟและสายชาร์จต่างๆ อาจมีลักษณะคล้ายกัน แต่อาจจ่ายไฟไม่เพียงพอที่จะเปิดเครื่องหรือชาร์จคอมพิวเตอร์ บางรุ่นจะต้องชาร์จด้วย USB-C เท่านั้น ในขณะที่รุ่นอื่นๆ ยังสามารถชาร์จด้วย MagSafe ได้อีกด้วย โปรดทราบว่ามีอะแดปเตอร์แปลงไฟและสายชาร์จเพียงบางรุ่นเท่านั้นที่มีความสามารถในการชาร์จเร็ว โปรดดูบทความบริการช่วยเหลือด้านบนสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีระบุอะแดปเตอร์แปลงไฟของ Mac และการชาร์จแบบเร็ว

    • หมายเหตุ: เมื่อใช้ทั้งสายชาร์จ USB-C และ MagSafe อุปกรณ์จะใช้ USB-C เป็นหลักแทน MagSafe ในการชาร์จไฟ

  3. ตรวจสอบพอร์ต USB-C และ MagSafe รวมถึงช่องบนฝาครอบตัวเครื่องด้านบนทั้งหมดบนคอมพิวเตอร์เพื่อหาร่องรอยการผิดรูป ความเสียหาย หรือเศษสิ่งสกปรกที่อาจกีดขวางการเชื่อมต่อ ค่อยๆ ทำความสะอาดขั้วต่อแต่ละขั้วโดยใช้แปรงขนนุ่มขนาดเล็กที่ไม่ใช่โลหะ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแปรงที่ใช้สะอาดและแห้ง ใช้ขนแปรงให้ยาวพอดีกับด้านในช่องต่อ บิดแปรงขนแข็งเพื่อให้คลายตัวออกและเศษสิ่งสกปรกหลุดออกมา ปัดเศษสิ่งสกปรกออกจากช่องต่อเพื่อป้องกันไม่ให้เศษสิ่งสกปรกหลุดเข้าไปในช่องต่อ

    •  ข้อควรระวัง: ถอดสายทั้งหมดและปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ก่อน ห้ามใช้สเปรย์อัดแก๊ส สารตัวทำละลาย สารกัดกร่อน หรือสารทำความสะอาดที่มีไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ซึ่งอาจทำให้พื้นผิวเสียหาย อย่าให้ความชื้นสัมผัสกับช่องเปิดใดๆ และห้ามฉีดพ่นของเหลวลงบนคอมพิวเตอร์โดยตรง อย่าใช้อากาศอัด

  4. หากแบตเตอรี่ในคอมพิวเตอร์หมด ให้เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับอะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C และสายชาร์จของ Apple ที่ใช้งานร่วมกันได้ และชาร์จคอมพิวเตอร์นานสูงสุด 10 นาทีเพื่อตรวจสอบยืนยันว่าแบตเตอรี่ของคอมพิวเตอร์สามารถชาร์จได้ หากคอมพิวเตอร์เปิดไม่ติดโดยที่เสียบอะแดปเตอร์แปลงไฟหลังจากชาร์จ ให้ดำเนินการขั้นตอนถัดไป หากคอมพิวเตอร์เปิดติดแต่เริ่มต้นระบบไม่เสร็จสมบูรณ์ ให้ดูการแก้ไขปัญหาปัญหาการเริ่มต้นระบบ

  5. ตรวจสอบยืนยันว่าคอมพิวเตอร์ปิดอยู่ หากคุณไม่แน่ใจว่าคอมพิวเตอร์เปิดหรือปิดอยู่ ให้กดปุ่มเปิดปิดค้างไว้เพื่อปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ รอสักครู่ แล้วกดปุ่มเปิดปิดอีกครั้งเพื่อเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์

  6. เชื่อมต่ออะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C ของ Apple และสายชาร์จที่ใช้งานร่วมกันได้เข้ากับพอร์ต USB-C หรือ MagSafe แต่ละพอร์ตเพื่อตรวจสอบยืนยันการทำงานพื้นฐานของพอร์ตชาร์จ USB-C และ MagSafe ตรวจสอบยืนยันว่าคอมพิวเตอร์ตรวจพบการเชื่อมต่อ ทดสอบการทำงานของขั้วต่อทั้งสองด้านด้วยการพลิกกลับด้านแล้วเชื่อมต่ออีกครั้ง

  7. เชื่อมต่ออะแดปเตอร์แปลงไฟและสายชาร์จของคอมพิวเตอร์เข้ากับคอมพิวเตอร์ ตรวจสอบว่าอะแดปเตอร์แปลงไฟและสายชาร์จของคอมพิวเตอร์กำลังชาร์จคอมพิวเตอร์ดังกล่าวอยู่ อะแดปเตอร์แปลงไฟหรือสายชาร์จ (หรือทั้งสองอย่าง) ที่มีข้อบกพร่องอาจทำให้แบตเตอรี่ใช้งานได้ไม่นาน

  8. เกี่ยวกับลักษณะการทำงานของไฟแสดงสถานะของอะแดปเตอร์แปลงไฟ MagSafe: เมื่อคุณเชื่อมต่ออะแดปเตอร์แปลงไฟ MagSafe เข้ากับคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานร่วมกันได้เป็นครั้งแรก ไฟของอะแดปเตอร์จะสว่างเป็นสีเขียวประมาณ 1 วินาทีเพื่อแสดงว่ามีพลังงานอยู่ หลังจากนั้นไฟของอะแดปเตอร์จะสว่างเป็นสีเขียวหรือสีเหลือง ไฟสีเขียวติดสว่างแสดงว่าแบตเตอรี่ชาร์จเต็มแล้วหรือหยุดชาร์จแล้ว ไฟสีเหลืองติดสว่างแสดงว่ากำลังชาร์จแบตเตอรี่ หากไฟแสดงสถานะบนขั้วต่อ MagSafe 3 กะพริบเป็นสีเหลือง 3 ครั้งแล้วหยุด แสดงว่าอาจมีปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ หากไฟแสดงสถานะบนขั้วต่อ MagSafe 3 กะพริบเป็นสีเหลืองซ้ำๆ ให้ลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้

    1. ถอดสาย USB-C เป็น MagSafe 3 ออกจาก Mac และจากอะแดปเตอร์แปลงไฟ

    2. ถอดอะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C ออกจากเต้ารับบนผนัง

    3. ใช้ผ้าแห้งเช็ดพอร์ต MagSafe 3 และขั้วต่อ MagSafe 3 ตรวจสอบว่าพอร์ตและขั้วต่อแห้งและปราศจากสิ่งสกปรก โปรดดูขั้นตอนก่อนหน้าในส่วนนี้เพื่อดูคำแนะนำในการทำความสะอาด

    4. ตรวจสอบว่าพอร์ต USB-C บนอะแดปเตอร์แปลงไฟและขั้วต่อ USB-C ปราศจากสิ่งสกปรก โปรดดูขั้นตอนก่อนหน้าในส่วนนี้เพื่อดูคำแนะนำในการทำความสะอาด

    5. รีสตาร์ท Mac

    6. เชื่อมต่ออะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C เข้ากับเต้ารับบนผนัง เชื่อมต่อสาย USB-C เป็น MagSafe 3 เข้ากับอะแดปเตอร์แปลงไฟและเข้ากับ Mac จากนั้นลองชาร์จอีกครั้ง

    7. หากปัญหายังคงเกิดขึ้นกับอะแดปเตอร์แปลงไฟที่มีประวัติว่าทำงานปกติ ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไปเพื่อเรียกใช้การวินิจฉัยบนอะแดปเตอร์แปลงไฟและคอมพิวเตอร์

  9. โปรดดูขั้นตอนและบทความบริการช่วยเหลือใน การตรวจสอบอย่างรวดเร็วเพื่อแก้ไขปัญหา

เรียกใช้การทดสอบด้วยตนเองและการทดสอบเพื่อวินิจฉัย

หากยังแก้ไขปัญหาไม่สำเร็จหลังจากที่ทำตามบทความบริการช่วยเหลือหรือลองทําตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วแล้ว ให้เรียกใช้เครื่องมือวินิจฉัยและทำการทดสอบด้วยตัวเองดังต่อไปนี้เพื่อช่วยแยกแยะสาเหตุของปัญหา

  1. ระบุว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนี้เปิดอยู่หรือไม่ด้วยการยืนยันสิ่งต่อไปนี้

    • พัดลมหมุน (บางรุ่นเท่านั้น)

    • แทร็คแพดคลิกเมื่อกด

    • คอมพิวเตอร์บ่งบอกให้รู้ว่ามีการเชื่อมต่อสายชาร์จ (เช่น ส่งเสียง)

    • จอภาพในตัวใช้งานได้

    • จอภาพภายนอกที่เชื่อมต่ออยู่ใช้งานได้

    • หมายเหตุ: หากคอมพิวเตอร์แสดงสัญญาณบ่งบอกว่าเปิดติด ให้ดูการแก้ไขปัญหาปัญหาการเริ่มต้นระบบ

  2. เรียกใช้ชุดการวินิจฉัยตัวตรวจสอบทรัพยากร Mac (MRI) ระหว่างที่เชื่อมต่ออยู่กับอะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C ของ Apple และสายชาร์จที่ใช้งานร่วมกันได้ หากเป็นไปได้

    • หมายเหตุ: การทดสอบนี้จะรวบรวมข้อมูลการวินิจฉัยเกี่ยวกับแบตเตอรี่และตรวจสอบยืนยันว่าการอ่านค่าเซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อนอยู่ภายในขีดจำกัด ตรวจสอบผล MRI เพื่อดูคำเตือนหรือข้อบกพร่องที่เกี่ยวกับแบตเตอรี่ กำลังไฟ พัดลม หรือความร้อน

แกะเปิดและตรวจสอบคอมพิวเตอร์

หากปัญหานี้แก้ไขไม่สำเร็จหรือจำแนกไม่ได้หลังจากที่ได้ทำตามบทความบริการช่วยเหลือหรือทำการทดสอบการวินิจฉัยแล้ว ให้ดูคู่มือการซ่อมของคอมพิวเตอร์รุ่นดังกล่าวเพื่อแกะเปิดและตรวจสอบคอมพิวเตอร์ อาจมีชิ้นส่วนที่เสียหายหรืออยู่ผิดที่ซึ่งทำให้เกิดหนึ่งในปัญหาเหล่านี้

  1. ทำตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในคู่มือการซ่อมเพื่อถอดฝาครอบตัวเครื่องด้านล่างออกและถอดแบตเตอรี่ออกจากลอจิกบอร์ด

  2. ตรวจสอบส่วนประกอบภายในและตัวเครื่องเพื่อมองหาสิ่งบ่งชี้ถึงความเสียหายทางกายภาพหรือความเสียหายจากของเหลว การปนเปื้อน หรือบริเวณที่ไหม้หรือเป็นสีเข้ม

  3. ตรวจสอบบริเวณรอบๆ แผงระบายความร้อนและพัดลมแต่ละตัว (สำหรับรุ่นที่มีพัดลม) เพื่อมองหาฝุ่นหรือเศษสิ่งสกปรก ใช้เครื่องดูดฝุ่นที่ไม่มีอันตรายจาก ESD หรือลมอัดเพื่อดูดเอาฝุ่นและเศษสิ่งสกปรกออกจากแผงระบายความร้อนและพัดลมอย่างระมัดระวัง ตรวจสอบว่าพัดลมแต่ละตัวหมุนได้อย่างอิสระและไม่มีสิ่งกีดขวาง

  4. ถอดบอร์ดระบบเสียงออกแล้วพยายามเปิดคอมพิวเตอร์ หากคอมพิวเตอร์เปิดขึ้นระหว่างที่บอร์ดระบบเสียงถูกถอดออก แนะนำให้เปลี่ยนบอร์ดระบบเสียง

  5. ถอดแบตเตอรี่ออกและพยายามเปิดคอมพิวเตอร์โดยเชื่อมต่อสายชาร์จ หากคอมพิวเตอร์เปิดขึ้นระหว่างที่แบตเตอรี่ถอดออก แนะนำให้เปลี่ยนแบตเตอรี่หรือฝาครอบตัวเครื่องด้านบน (ขึ้นอยู่กับรุ่น)

หมายเหตุ: หัวข้อนี้ต้องมีการสั่งซื้อชิ้นส่วนและเครื่องมือ การเปลี่ยนชิ้นส่วนอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาของอุปกรณ์ได้ ค้นหาตัวเลือกบริการอื่นๆ ได้ที่ support.apple.com/th-th/repair

เปลี่ยนชิ้นส่วนดังกล่าว

หากยังแก้ไขปัญหาไม่สำเร็จหรือจำแนกปัญหาไม่ได้หลังจากที่ได้ทำตามขั้นตอนก่อนหน้าแล้ว ให้เปลี่ยนชิ้นส่วนต่อไปนี้ทีละชิ้นตามลำดับที่แสดง ซึ่งหลังจากที่คุณเปลี่ยนชิ้นส่วนแรกแล้ว ให้ทำตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอีกครั้งเพื่อดูว่าการเปลี่ยนชิ้นส่วนหนึ่งชิ้นสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ไหม หากแก้ไขไม่สำเร็จ ให้เปลี่ยนชิ้นส่วนถัดไป

  • หากคุณพบความเสียหายในพอร์ตชาร์จ ให้เปลี่ยนบอร์ด I/O บอร์ด USB-C หรือบอร์ด MagSafe 3 ที่ได้รับผลกระทบ (ขึ้นอยู่กับรุ่น)

  • หากผลการวินิจฉัยรายงานว่ามีข้อผิดพลาดหรือข้อบกพร่องที่เกี่ยวกับแบตเตอรี่ ให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ (ในรุ่นที่มีแบตเตอรี่แบบเปลี่ยนได้) เปลี่ยนฝาครอบตัวเครื่องด้านบน (ในรุ่นที่ไม่มีแบตเตอรี่แบบเปลี่ยนได้แยกต่างหาก)

  • หากคอมพิวเตอร์เปิดขึ้นระหว่างที่บอร์ดระบบเสียงถูกถอดออก ให้เปลี่ยนบอร์ดระบบเสียง

  • หากคอมพิวเตอร์เปิดขึ้นระหว่างที่แบตเตอรี่ถูกถอดออก ให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ (ในรุ่นที่มีแบตเตอรี่แบบเปลี่ยนได้) เปลี่ยนฝาครอบตัวเครื่องด้านบน (ในรุ่นที่ไม่มีแบตเตอรี่แบบเปลี่ยนได้แยกต่างหาก)

  • เปลี่ยนลอจิกบอร์ด

หลังจากซ่อมเสร็จแล้ว ให้เปิดคอมพิวเตอร์และตรวจสอบยืนยันว่าปัญหานี้ได้รับการแก้ไขแล้ว

หมายเหตุ: หัวข้อนี้ต้องมีการสั่งซื้อชิ้นส่วนและเครื่องมือ การเปลี่ยนชิ้นส่วนอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาของอุปกรณ์ได้ ค้นหาตัวเลือกบริการอื่นๆ ได้ที่ support.apple.com/th-th/repair

กลับขึ้นด้านบน

การแก้ไขปัญหาการพักและปลุก

ระบุปัญหา

  • คอมพิวเตอร์ไม่ปลุกเครื่องเมื่อฝาจอภาพถูกเปิด

  • คอมพิวเตอร์ไม่พักเครื่องเมื่อฝาจอภาพถูกปิด

ลองทำตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว

  1. เปิดจอภาพบนแล็ปท็อป กดปุ่มใดก็ได้บนคีย์บอร์ด หรือคลิกแทร็คแพดหรือเมาส์ที่เชื่อมต่ออยู่เพื่อปลุกคอมพิวเตอร์ ปิดจอภาพเพื่อยืนยันว่าคอมพิวเตอร์เข้าสู่โหมดพักเครื่อง

  2. ตรวจสอบความสว่างของจอภาพคอมพิวเตอร์เพื่อดูว่าได้มีการปรับลดหรือไม่

  3. คอมพิวเตอร์อาจอยู่ในโหมดพักเครื่องแบบปลอดภัย หากต้องการปลุกจากโหมดพักเครื่องแบบปลอดภัย ให้เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับอะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C และสายชาร์จของ Apple ที่ใช้งานร่วมกันได้ซึ่งเสียบอยู่กับเต้ารับไฟฟ้า จากนั้นกดปุ่มเปิดปิด

  4. ตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์อยู่ในโหมดพักเครื่องและไม่ได้ปิดอยู่ หากคุณไม่แน่ใจว่าคอมพิวเตอร์เปิดหรือปิดอยู่ ให้กดปุ่มเปิดปิดค้างไว้ รอสักครู่ แล้วกดปุ่มเปิดปิดอีกครั้งเพื่อเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์

  5. หากแบตเตอรี่หมด ให้เชื่อมต่อกับอะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C และสายชาร์จของ Apple ที่ใช้งานร่วมกันได้ และชาร์จคอมพิวเตอร์นานสูงสุด 10 นาทีเพื่อตรวจสอบยืนยันว่าแบตเตอรี่ของคอมพิวเตอร์สามารถชาร์จได้ หากคอมพิวเตอร์เปิดไม่ติดหลังจากชาร์จ ให้ดูการแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่และอะแดปเตอร์แปลงไฟ หรือเปิดไม่ติด หากคอมพิวเตอร์เปิดติดแต่เริ่มต้นระบบไม่เสร็จสมบูรณ์ ให้ดูการแก้ไขปัญหาปัญหาการเริ่มต้นระบบ

  6. ทำตามขั้นตอนในหาก Mac ของคุณเปิดไม่ติด

  7. โปรดดูขั้นตอนและบทความบริการช่วยเหลือใน การตรวจสอบอย่างรวดเร็วเพื่อแก้ไขปัญหา

เรียกใช้การทดสอบด้วยตนเองและการทดสอบเพื่อวินิจฉัย

หากยังแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้หลังจากที่ทำตามบทความบริการช่วยเหลือหรือลองทําตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วแล้ว ให้ทำการทดสอบวินิจฉัยและทำการทดสอบด้วยตัวเองเพื่อช่วยแยกแยะสาเหตุของปัญหา

  1. เรียกใช้ชุดเครื่องมือวินิจฉัยตัวตรวจสอบทรัพยากร Mac (MRI)

แกะเปิดและตรวจสอบคอมพิวเตอร์

หากปัญหานี้แก้ไขไม่สำเร็จหรือจำแนกไม่ได้หลังจากที่ได้ทำตามบทความบริการช่วยเหลือหรือทำการทดสอบการวินิจฉัยแล้ว ให้ดูคู่มือการซ่อมของคอมพิวเตอร์รุ่นดังกล่าวเพื่อแกะเปิดและตรวจสอบคอมพิวเตอร์ อาจมีชิ้นส่วนที่เสียหายหรืออยู่ผิดที่ซึ่งทำให้เกิดหนึ่งในปัญหาเหล่านี้

  1. ทำตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในคู่มือการซ่อมเพื่อถอดฝาครอบตัวเครื่องด้านล่างออกและถอดแบตเตอรี่ออกจากลอจิกบอร์ด

  2. ตรวจสอบเซ็นเซอร์มุมฝา สายแพเซ็นเซอร์มุมฝา และขั้วต่อด้วยสายตา ตรวจสอบชิ้นส่วนในบริเวณนี้อย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่ามีชิ้นส่วนอยู่ครบและจัดวางอย่างเหมาะสม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าชิ้นส่วนทุกชิ้นติดตั้งอย่างถูกต้องและไม่ได้รับความเสียหาย

  3. ถอดสายแพเซ็นเซอร์มุมฝา ตรวจสอบสายแพและขั้วต่อด้วยสายตาเพื่อมองหาความเสียหาย ตรวจสอบฝาครอบบานพับจอภาพเพื่อให้แน่ใจว่าแม่เหล็กเซ็นเซอร์มุมฝาอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง รวมทั้งไม่สูญหายหรือจัดวางไม่ถูกต้อง กดปลายสายแพเซ็นเซอร์มุมฝาเข้ากับขั้วต่อจนกว่าจะได้ยินเสียงคลิกเพื่อให้แน่ใจว่าเข้าที่

  4. ตรวจสอบส่วนประกอบต่างๆ ในบริเวณนี้โดยละเอียดเพื่อยืนยันว่ามีส่วนประกอบครบทั้งหมด มีการติดตั้งอย่างถูกต้อง และไม่มีความเสียหาย ถอดสายแพเซ็นเซอร์เปิด/ปิด (AMR) (เฉพาะแล็ปท็อปบางรุ่นเท่านั้น) ตรวจสอบสายแพของบอร์ดลอจิกและขั้วต่อว่ามีความเสียหายหรือไม่ เชื่อมต่อสายแพเซ็นเซอร์กลับเข้าที่ โดยตรวจสอบว่าเสียบขั้วต่อทั้งหมดเข้าที่ดีแล้ว

หมายเหตุ: หัวข้อนี้ต้องมีการสั่งซื้อชิ้นส่วนและเครื่องมือ การเปลี่ยนชิ้นส่วนอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาของอุปกรณ์ได้ ค้นหาตัวเลือกบริการอื่นๆ ได้ที่ support.apple.com/th-th/repair

เปลี่ยนชิ้นส่วนดังกล่าว

หากยังแก้ไขปัญหาไม่สำเร็จหรือจำแนกปัญหาไม่ได้หลังจากที่ได้ทำตามขั้นตอนก่อนหน้าแล้ว ให้เปลี่ยนชิ้นส่วนต่อไปนี้ทีละชิ้นตามลำดับที่แสดง ซึ่งหลังจากที่คุณเปลี่ยนชิ้นส่วนแรกแล้ว ให้ทำตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอีกครั้งเพื่อดูว่าการเปลี่ยนชิ้นส่วนหนึ่งชิ้นสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ไหม หากแก้ไขไม่สำเร็จ ให้เปลี่ยนชิ้นส่วนถัดไป

  • เปลี่ยนเซ็นเซอร์มุมฝา

  • เปลี่ยนชุดประกอบฝาครอบตัวเครื่องด้านบน (ในรุ่นที่มีเซ็นเซอร์เปิด/ปิด (AMR))

หลังจากซ่อมเสร็จแล้ว ให้เปิดคอมพิวเตอร์และตรวจสอบยืนยันว่าปัญหานี้ได้รับการแก้ไขแล้ว

หมายเหตุ: หัวข้อนี้ต้องมีการสั่งซื้อชิ้นส่วนและเครื่องมือ การเปลี่ยนชิ้นส่วนอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาของอุปกรณ์ได้ ค้นหาตัวเลือกบริการอื่นๆ ได้ที่ support.apple.com/th-th/repair

กลับขึ้นด้านบน

การแก้ไขปัญหาเครื่องปิดเองบ่อยครั้งหรือความไม่เสถียรของระบบ

ระบุปัญหา

อ่านบทความต่อไปนี้หากคุณสังเกตเห็นปัญหาใดๆ ต่อไปนี้

  • เครื่องปิดโดยไม่คาดคิดระหว่างเริ่มต้นระบบ

  • เครื่องปิดโดยไม่คาดคิดระหว่างใช้งาน

  • รีสตาร์ทโดยไม่คาดคิดพร้อมแสดงข้อความเตือน

  • ไม่ตอบสนองหลังจากเริ่มต้นระบบ

  • ไม่ตอบสนองหลังจากปลุกจากโหมดพักเครื่อง

  • ทำงานช้า

หาก Mac ของคุณเปิดไม่ติด

หาก Mac เริ่มต้นระบบไม่สำเร็จ

หาก Mac ของคุณรีสตาร์ทเนื่องจากมีปัญหา

ใช้เซฟโหมดบน Mac

หากยังแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้หลังจากที่ทำตามบทความบริการช่วยเหลือแล้ว ให้ดำเนินการต่อในส่วนถัดไป

ลองทำตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว

  1. เก็บข้อมูลต่อไปนี้

    • เวลาใดที่คอมพิวเตอร์ปิดเครื่อง (เช่น เมื่อใช้พลังงานจากแบตเตอรี่หรือหลังจากทำงานไปสักพัก)

    • ความถี่ที่คอมพิวเตอร์ปิดเครื่อง

    • แอปพลิเคชันใดบ้างที่ทำงานอยู่ในขณะนั้น

    • ยากง่ายแค่ไหนที่จะทำให้คอมพิวเตอร์ปิดเครื่อง

  2. ตรวจสอบคอมพิวเตอร์เพื่อหาความเสียหายจากของเหลว การสัมผัสกับของเหลวอาจทำให้วงจรภายในลัดวงจร และทำให้พัดลมหยุดทำงาน

  3. หากแบตเตอรี่ในคอมพิวเตอร์หมด ให้เชื่อมต่อกับอะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C และสายชาร์จของ Apple ที่ใช้งานร่วมกันได้ และชาร์จคอมพิวเตอร์นานสูงสุด 10 นาทีเพื่อตรวจสอบยืนยันว่าแบตเตอรี่ของคอมพิวเตอร์สามารถชาร์จได้ หากคอมพิวเตอร์เปิดไม่ติดโดยที่เสียบอะแดปเตอร์แปลงไฟหลังจากชาร์จ ให้ดูการแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่และอะแดปเตอร์แปลงไฟ หรือเปิดไม่ติด หากคอมพิวเตอร์เปิดติดแต่เริ่มต้นระบบไม่เสร็จสมบูรณ์ ให้ดูการแก้ไขปัญหาปัญหาการเริ่มต้นระบบ

  4. ทำตามคำแนะนำในหาก Mac ของคุณรีสตาร์ทเนื่องจากมีปัญหา

  5. โปรดดูขั้นตอนและบทความบริการช่วยเหลือใน การตรวจสอบอย่างรวดเร็วเพื่อแก้ไขปัญหา

เรียกใช้การทดสอบด้วยตนเองและการทดสอบเพื่อวินิจฉัย

หากยังแก้ไขปัญหาไม่สำเร็จหลังจากที่ทำตามบทความบริการช่วยเหลือหรือลองทําตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วแล้ว ให้เรียกใช้เครื่องมือวินิจฉัยและทำการทดสอบด้วยตัวเองดังต่อไปนี้เพื่อช่วยแยกแยะสาเหตุของปัญหา

  1. พยายามเริ่มต้นระบบคอมพิวเตอร์ในเซฟโหมดเพื่อตรวจสอบยืนยันว่าคอมพิวเตอร์สามารถเริ่มต้นระบบได้อย่างสมบูรณ์โดยไม่มีปัญหาใดๆ

  2. เรียกใช้ชุดการวินิจฉัยตัวตรวจสอบทรัพยากร Mac (MRI) ระหว่างที่เชื่อมต่ออยู่กับอะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C ของ Apple และสายชาร์จที่ใช้งานร่วมกันได้

    • หมายเหตุ: การทดสอบนี้จะรวบรวมข้อมูลการวินิจฉัยเกี่ยวกับแบตเตอรี่และตรวจสอบยืนยันว่าการอ่านค่าเซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อนอยู่ภายในขีดจำกัด ตรวจสอบผล MRI เพื่อดูคำเตือนหรือข้อบกพร่องที่เกี่ยวกับแบตเตอรี่ กำลังไฟ พัดลม หรือความร้อน

แกะเปิดและตรวจสอบคอมพิวเตอร์

หากปัญหานี้แก้ไขไม่สำเร็จหรือจำแนกไม่ได้หลังจากที่ได้ทำตามบทความบริการช่วยเหลือหรือทำการทดสอบการวินิจฉัยแล้ว ให้ดูคู่มือการซ่อมของคอมพิวเตอร์รุ่นดังกล่าวเพื่อแกะเปิดและตรวจสอบคอมพิวเตอร์ อาจมีชิ้นส่วนที่เสียหายหรืออยู่ผิดที่ซึ่งทำให้เกิดหนึ่งในปัญหาเหล่านี้

  1. ทำตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในคู่มือการซ่อมเพื่อถอดฝาครอบตัวเครื่องด้านล่างออกและถอดแบตเตอรี่ออกจากลอจิกบอร์ด

  2. ตรวจสอบส่วนประกอบภายในและตัวเครื่องเพื่อมองหาสิ่งบ่งชี้ถึงความเสียหายทางกายภาพหรือความเสียหายจากของเหลว การปนเปื้อน หรือบริเวณที่ไหม้หรือเป็นสีเข้ม

  3. ตรวจสอบบริเวณรอบๆ แผงระบายความร้อนและพัดลมแต่ละตัว (สำหรับรุ่นที่มีพัดลม) เพื่อมองหาฝุ่นหรือเศษสิ่งสกปรก ใช้เครื่องดูดฝุ่นที่ไม่มีอันตรายจาก ESD หรือลมอัดเพื่อดูดเอาฝุ่นและเศษสิ่งสกปรกออกจากแผงระบายความร้อนและพัดลมอย่างระมัดระวัง ตรวจสอบว่าพัดลมแต่ละตัวหมุนได้อย่างอิสระและไม่มีสิ่งกีดขวาง

หมายเหตุ: หัวข้อนี้ต้องมีการสั่งซื้อชิ้นส่วนและเครื่องมือ การเปลี่ยนชิ้นส่วนอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาของอุปกรณ์ได้ ค้นหาตัวเลือกบริการอื่นๆ ได้ที่ support.apple.com/th-th/repair

เปลี่ยนชิ้นส่วนดังกล่าว

หากยังแก้ไขปัญหาไม่สำเร็จหรือจำแนกปัญหาไม่ได้หลังจากที่ได้ทำตามขั้นตอนก่อนหน้าแล้ว ให้เปลี่ยนชิ้นส่วนต่อไปนี้ทีละชิ้นตามลำดับที่แสดง ซึ่งหลังจากที่คุณเปลี่ยนชิ้นส่วนแรกแล้ว ให้ทำตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอีกครั้งเพื่อดูว่าการเปลี่ยนชิ้นส่วนหนึ่งชิ้นสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ไหม หากแก้ไขไม่สำเร็จ ให้เปลี่ยนชิ้นส่วนถัดไป

  • หากผลการวินิจฉัยรายงานว่ามีข้อผิดพลาดหรือข้อบกพร่องที่เกี่ยวกับแบตเตอรี่ ให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ (ในรุ่นที่มีแบตเตอรี่แบบเปลี่ยนได้) เปลี่ยนฝาครอบตัวเครื่องด้านบน (ในรุ่นที่ไม่มีแบตเตอรี่แบบเปลี่ยนได้แยกต่างหาก)

  • เปลี่ยนลอจิกบอร์ด

หลังจากซ่อมเสร็จแล้ว ให้เปิดคอมพิวเตอร์และตรวจสอบยืนยันว่าปัญหานี้ได้รับการแก้ไขแล้ว

หมายเหตุ: หัวข้อนี้ต้องมีการสั่งซื้อชิ้นส่วนและเครื่องมือ การเปลี่ยนชิ้นส่วนอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาของอุปกรณ์ได้ ค้นหาตัวเลือกบริการอื่นๆ ได้ที่ support.apple.com/th-th/repair

กลับขึ้นด้านบน

การแก้ไขปัญหาปัญหาการเริ่มต้นระบบ

ระบุปัญหา

อ่านบทความต่อไปนี้หากคุณสังเกตเห็นปัญหาใดๆ ต่อไปนี้

  • คอมพิวเตอร์ไม่สามารถเริ่มต้นระบบได้อย่างสมบูรณ์เมื่อเปิดเครื่อง

  • คอมพิวเตอร์แสดงไอคอนเครื่องหมายอัศเจรีย์ในวงกลม

  • ในตอนแรกดูเหมือนว่าคอมพิวเตอร์จะปิดเครื่อง แต่กลับแสดงสัญญาณว่าเปิดอยู่ เช่น แทร็คแพดคลิกเมื่อกด

หาก Mac ของคุณเปิดไม่ติด

หาก Mac เริ่มต้นระบบไม่สำเร็จ

หาก Mac ของคุณรีสตาร์ทเนื่องจากมีปัญหา

ใช้เซฟโหมดบน Mac

หาก Mac เริ่มต้นระบบเป็นเครื่องหมายอัศเจรีย์ในวงกลม

หาก Mac เริ่มต้นระบบเป็นตัวเลือกที่มีไอคอนรูปเฟือง

หากคุณไม่สามารถเริ่มต้นระบบจากการกู้คืน macOS

ใช้การกู้คืน macOS บน Mac ที่มี Apple Silicon

หากยังแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้หลังจากที่ทำตามบทความบริการช่วยเหลือแล้ว ให้ดำเนินการต่อในส่วนถัดไป

ลองทำตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว

  1. ตรวจสอบคอมพิวเตอร์เพื่อหาความเสียหายจากของเหลว การสัมผัสกับของเหลวอาจทำให้วงจรภายในลัดวงจร และทำให้พัดลมหยุดทำงาน

  2. หากแบตเตอรี่ในคอมพิวเตอร์หมด ให้เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับอะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C และสายชาร์จของ Apple ที่ใช้งานร่วมกันได้ และชาร์จคอมพิวเตอร์นานสูงสุด 10 นาทีเพื่อตรวจสอบยืนยันว่าแบตเตอรี่ของคอมพิวเตอร์สามารถชาร์จได้ หากคอมพิวเตอร์เปิดไม่ติดโดยที่เสียบอะแดปเตอร์แปลงไฟหลังจากชาร์จ ให้ดูการแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่และอะแดปเตอร์แปลงไฟ หรือเปิดไม่ติด

  3. โปรดดูขั้นตอนและบทความบริการช่วยเหลือใน การตรวจสอบอย่างรวดเร็วเพื่อแก้ไขปัญหา

เรียกใช้การทดสอบด้วยตนเองและการทดสอบเพื่อวินิจฉัย

หากยังแก้ไขปัญหาไม่สำเร็จหลังจากที่ทำตามบทความบริการช่วยเหลือหรือลองทําตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วแล้ว ให้เรียกใช้เครื่องมือวินิจฉัยและทำการทดสอบด้วยตัวเองดังต่อไปนี้เพื่อช่วยแยกแยะสาเหตุของปัญหา

  1. ระบุว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนี้เปิดอยู่หรือไม่ด้วยการยืนยันสิ่งต่อไปนี้

    1. พัดลมหมุน (บางรุ่นเท่านั้น)

    2. แทร็คแพดคลิกเมื่อกด

    3. คอมพิวเตอร์บ่งบอกให้รู้ว่ามีการเชื่อมต่อสายชาร์จ (เช่น ส่งเสียง)

    4. จอภาพในตัวใช้งานได้

    5. จอภาพภายนอกที่เชื่อมต่ออยู่ใช้งานได้

  2. หากคอมพิวเตอร์ไม่มีท่าทีบ่งบอกใดๆ หรือเปิดไม่ติด ให้ดูการแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่และอะแดปเตอร์แปลงไฟ หรือเปิดไม่ติด

  3. เรียกใช้ชุดการวินิจฉัยตัวตรวจสอบทรัพยากร Mac (MRI) ระหว่างที่เชื่อมต่ออยู่กับอะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C ของ Apple และสายชาร์จที่ใช้งานร่วมกันได้ หากเป็นไปได้

    • ายเหตุ: การทดสอบนี้จะรวบรวมข้อมูลการวินิจฉัยเกี่ยวกับแบตเตอรี่และตรวจสอบยืนยันว่าการอ่านค่าเซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อนอยู่ภายในขีดจำกัด ตรวจสอบผล MRI เพื่อดูคำเตือนหรือข้อบกพร่องที่เกี่ยวกับแบตเตอรี่ กำลังไฟ พัดลม หรือความร้อน

  4. พยายามเริ่มต้นระบบในเซฟโหมด เพื่อตรวจสอบยืนยันว่าคอมพิวเตอร์สามารถเริ่มต้นระบบได้อย่างสมบูรณ์โดยไม่มีปัญหาใดๆ

  5. เชื่อมต่อจอภาพภายนอกที่ใช้ร่วมกันได้เข้ากับคอมพิวเตอร์ เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับอะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C ของ Apple และสายชาร์จที่ใช้งานร่วมกันได้ คอมพิวเตอร์ควรเริ่มต้นโดยอัตโนมัติหากปิดอยู่เมื่อเชื่อมต่ออะแดปเตอร์แปลงไฟ ตรวจดูภาพบนจอภาพในตัว แล้วตรวจสอบภาพบนจอภาพภายนอกที่เชื่อมต่ออยู่ หากจอภาพในตัวแสดงภาพได้ไม่ชัดแต่ในเวลาเดียวกันนั้น จอภาพภายนอกที่เชื่อมต่ออยู่กลับแสดงภาพได้อย่างชัดเจน แสดงว่าอาจมีปัญหาเกิดขึ้นกับจอภาพในตัว โปรดดูการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับจอภาพหรือภาพ

  6. พยายามเริ่มต้นระบบคอมพิวเตอร์ไปที่การกู้คืน macOS ตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์เริ่มต้นระบบไปยังการกู้คืน macOS เรียกใช้ชุดการวินิจฉัยระบบเต็มรูปแบบบนคอมพิวเตอร์ ตรวจสอบผลการวินิจฉัยเพื่อดูข้อบกพร่อง

  7. ขณะเริ่มต้นระบบไปยังการกู้คืน macOS ให้ใช้ยูทิลิตี้ดิสก์เพื่อตรวจสอบยืนยันโวลุ่มเริ่มต้นระบบภายในของคอมพิวเตอร์ หากคุณสังเกตเห็นข้อผิดพลาด ให้ใช้ยูทิลิตี้ดิสก์เพื่อซ่อมแซมโวลุ่มเริ่มต้นระบบภายในของคอมพิวเตอร์

  8. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์และตรวจสอบว่าเสร็จสิ้นกระบวนการเริ่มต้นระบบแล้ว หากคอมพิวเตอร์ยังคงเริ่มต้นระบบได้ไม่สมบูรณ์ ให้เลือกตัวเลือกติดตั้ง macOS ในการกู้คืน macOS เพื่ออัปเดตหรือติดตั้ง macOS อีกครั้ง

  9. หากคอมพิวเตอร์ไม่สามารถเริ่มต้นระบบไปยัง macOS และไม่สามารถเริ่มต้นระบบไปยังการกู้คืน macOS ได้ ไอคอนเครื่องหมายอัศเจรีย์ในวงกลมจะปรากฏขึ้น หากคุณเห็นไอคอนนี้เมื่อพยายามเริ่มต้นระบบคอมพิวเตอร์ ให้ทำตามขั้นตอนที่แนะนำในหาก Mac ของคุณเริ่มต้นระบบเป็นเครื่องหมายอัศเจรีย์ในวงกลม

แกะเปิดและตรวจสอบคอมพิวเตอร์

หากปัญหานี้แก้ไขไม่สำเร็จหรือจำแนกไม่ได้หลังจากที่ได้ทำตามบทความบริการช่วยเหลือหรือทำการทดสอบการวินิจฉัยแล้ว ให้ดูคู่มือการซ่อมของคอมพิวเตอร์รุ่นดังกล่าวเพื่อแกะเปิดและตรวจสอบคอมพิวเตอร์ อาจมีชิ้นส่วนที่เสียหายหรืออยู่ผิดที่ซึ่งทำให้เกิดหนึ่งในปัญหาเหล่านี้

  1. ทำตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในคู่มือการซ่อมเพื่อถอดฝาครอบตัวเครื่องด้านล่างออกและถอดแบตเตอรี่ออกจากลอจิกบอร์ด

  2. ตรวจสอบส่วนประกอบภายในและตัวเครื่องเพื่อมองหาสิ่งบ่งชี้ถึงความเสียหายทางกายภาพหรือความเสียหายจากของเหลว การปนเปื้อน หรือบริเวณที่ไหม้หรือเป็นสีเข้ม

  3. ตรวจสอบบริเวณรอบๆ แผงระบายความร้อนและพัดลมแต่ละตัว (สำหรับรุ่นที่มีพัดลม) เพื่อมองหาฝุ่นหรือเศษสิ่งสกปรก ใช้เครื่องดูดฝุ่นที่ไม่มีอันตรายจาก ESD หรือลมอัดเพื่อดูดเอาฝุ่นและเศษสิ่งสกปรกออกจากแผงระบายความร้อนและพัดลมอย่างระมัดระวัง ตรวจสอบว่าพัดลมแต่ละตัวหมุนได้อย่างอิสระและไม่มีสิ่งกีดขวาง

หมายเหตุ: หัวข้อนี้ต้องมีการสั่งซื้อชิ้นส่วนและเครื่องมือ การเปลี่ยนชิ้นส่วนอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาของอุปกรณ์ได้ ค้นหาตัวเลือกบริการอื่นๆ ได้ที่ support.apple.com/th-th/repair

เปลี่ยนชิ้นส่วนดังกล่าว

หากปัญหานี้แก้ไขไม่สำเร็จหรือจำแนกไม่ได้หลังจากที่ได้ทำตามขั้นตอนก่อนหน้า ให้เปลี่ยนลอจิกบอร์ด

หลังจากซ่อมเสร็จแล้ว ให้เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์และตรวจสอบยืนยันว่าคอมพิวเตอร์สามารถเริ่มต้นระบบให้เสร็จสมบูรณ์ได้หลังจากที่ลองทำหลายๆ ครั้ง

หมายเหตุ: หัวข้อนี้ต้องมีการสั่งซื้อชิ้นส่วนและเครื่องมือ การเปลี่ยนชิ้นส่วนอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาของอุปกรณ์ได้ ค้นหาตัวเลือกบริการอื่นๆ ได้ที่ support.apple.com/th-th/repair

กลับขึ้นด้านบน

วันที่เผยแพร่: