การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับแบตเตอรี่ การชาร์จ และกำลังไฟของ iPhone

การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับกำลังไฟ

การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับแบตเตอรี่

การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการชาร์จแบบใช้สาย

การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการชาร์จแบบไร้สาย

การแก้ไขปัญหาหยุดการทำงาน รีสตาร์ท หรือเครื่องปิดโดยไม่คาดคิด

การแก้ไขปัญหาเรื่องกำลังไฟ

ระบุปัญหา

อ่านบทความบริการช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องหากคุณสังเกตเห็นปัญหาใดๆ ต่อไปนี้

  • iPhone เปิดไม่ติด

  • หน้าจอเป็นสีดำหรือว่างเปล่า

บทความบริการช่วยเหลือที่เกี่ยวข้อง

หากยังแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้หลังจากที่ทำตามบทความบริการช่วยเหลือแล้ว ให้ดำเนินการต่อในส่วนถัดไป

ลองทำตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว

  1. iPhone 8 และใหม่กว่ารองรับการชาร์จแบบไร้สาย ส่วน iPhone 12 และใหม่กว่าโดยส่วนใหญ่จะรองรับการชาร์จแบบ MagSafe นอกจากนี้การประกบที่ชาร์จแบบไร้สายจะเป็นการเปิดเครื่อง iPhone ด้วยในกรณีที่เครื่องปิดอยู่ คุณสามารถประกบที่ชาร์จแบบไร้สายเพื่อช่วยยืนยันว่า iPhone เปิดหรือปิดอยู่ในขณะนั้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์เมื่อช่องต่อสำหรับชาร์จอาจเสียหาย

  2. ทำความสะอาด iPhone ตรวจสอบช่องต่อสำหรับชาร์จ iPhone ว่ามีเศษสิ่งสกปรกหรือไม่ ค่อยๆ ทำความสะอาดช่องต่อโดยใช้แปรงขนนุ่มขนาดเล็กที่ขนแปรงไม่มีส่วนผสมของโลหะ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแปรงที่ใช้สะอาดและแห้ง ใช้ขนแปรงให้ยาวพอดีกับด้านในช่องต่อ บิดแปรงขนแข็งเพื่อให้คลายตัวออกและเศษสิ่งสกปรกหลุดออกมา ปัดเศษสิ่งสกปรกออกจากช่องต่อเพื่อป้องกันไม่ให้เศษสิ่งสกปรกหลุดเข้าไปในช่องต่อ

    • ข้อสำคัญ: ถอดสายทั้งหมดและปิด iPhone ก่อน ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารฟอกขาวหรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หลีกเลี่ยงไม่ให้ความชื้นเข้าไปในช่องเปิดต่างๆ และห้ามแช่ iPhone ในสารทำความสะอาด อย่าใช้อากาศอัด

  3. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณใช้อะแดปเตอร์แปลงไฟที่แนะนำเพื่อชาร์จ iPhone เนื่องจากอะแดปเตอร์แปลงไฟอื่นๆ อาจจ่ายกำลังไฟได้ไม่เพียงพอต่อการชาร์จ iPhone

  4. ใช้สายชาร์จที่เข้ากันได้เพื่อเชื่อมต่อ iPhone เข้ากับอะแดปเตอร์แปลงไฟที่เสียบกับเต้ารับไฟฟ้า อย่าใช้พอร์ตคอมพิวเตอร์หรือการชาร์จแบบไร้สาย ชาร์จ iPhone อย่างน้อย 10 นาที รอจนกระทั่งภาพปรากฏบนหน้าจอหรือเมื่อเวลาผ่านไป 10 นาที

    • หมายเหตุ: iPhone อาจเข้าสู่สถานะคายประจุจนหมด ซึ่งจะต้องใช้เวลาชาร์จประมาณ 20-30 นาทีก่อนที่จะเปิดเครื่องได้ โดยไอคอนแสดงสถานะชาร์จไฟควรปรากฏขึ้นหลังจากที่ชาร์จเป็นเวลาสองนาที

  5. ค่อยๆ ขยับสายไปมาตรงช่องต่อเพื่อให้แน่ใจว่าการเชื่อมต่อไม่มีปัญหาติดๆ ดับๆ หากการเชื่อมต่อติดๆ ดับๆ แม้ว่าจะใช้สายชาร์จที่ทำงานปกติแล้วก็ตาม แสดงว่าช่องต่อสำหรับชาร์จ iPhone อาจชำรุดหรือเสียหาย

  6. พลิกสายชาร์จกลับด้าน

  7. ถอดสายชาร์จ แล้วเสียบกลับเข้าไปใหม่

  8. ลองใช้สายชาร์จเส้นอื่น

  9. ลองใช้อะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C ตัวอื่น

  10. ใช้แผ่นชาร์จไร้สายที่รองรับซึ่งเสียบกับเต้ารับไฟฟ้า

  11. ถอดสายชาร์จออกก่อนที่คุณจะทดสอบการชาร์จแบบไร้สาย เมื่อชาร์จทั้งสองแบบพร้อมกัน เครื่องจะชาร์จแบบใช้สายก่อน วาง iPhone ลงบนแผ่นชาร์จโดยตรง วาง iPhone โดยหงายจอภาพขึ้นและอยู่ตรงกลางที่ชาร์จ หรืออยู่ในตำแหน่งที่ผู้ผลิตแผ่นชาร์จไร้สายแนะนำ

  12. รอจนกระทั่งภาพปรากฏบนหน้าจอหรือเมื่อเวลาผ่านไป 10 นาที หาก iPhone เปิดไม่ติดเมื่อชาร์จแบบใช้สาย และจะเปิดก็ต่อเมื่อชาร์จแบบไร้สายเท่านั้น แสดงว่า iPhone อาจมีปัญหาเกี่ยวกับการชาร์จแบบใช้สาย

  13. ดูขั้นตอนและแหล่งข้อมูลบริการช่วยเหลือใน การตรวจสอบอย่างรวดเร็วเพื่อแก้ไขปัญหา

เรียกใช้การทดสอบด้วยตนเองและการทดสอบเพื่อวินิจฉัย

หากยังแก้ไขปัญหาไม่สำเร็จหลังจากที่ทำตามบทความบริการช่วยเหลือหรือลองทำตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วแล้ว ให้เรียกใช้การวินิจฉัยและทำการทดสอบด้วยตนเองดังต่อไปนี้เพื่อช่วยแยกสาเหตุของปัญหา

  1. ทำตามขั้นตอนทั้งหมดในหาก iPhone เปิดไม่ติดหรือหน้าจอเป็นสีดำ เพื่อพยายามทำให้อุปกรณ์อยู่ในโหมดกู้คืน หากมีภาพปรากฏในโหมดการกู้คืน ให้ใช้สายที่ทำงานปกติเพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์กับคอมพิวเตอร์ที่ใช้ macOS เวอร์ชั่นล่าสุด หากคอมพิวเตอร์ตรวจพบอุปกรณ์ แสดงว่าอุปกรณ์เปิดติดแล้ว กู้คืนอุปกรณ์เมื่อได้รับแจ้ง

  2. ทำตามหลักปฏิบัติในคู่มือการให้บริการเพื่อแกะอุปกรณ์และถอดแบตเตอรี่ออก ใช้สายชาร์จที่เข้ากันได้เพื่อเชื่อมต่อ iPhone เข้ากับอะแดปเตอร์แปลงไฟที่เสียบกับเต้ารับไฟฟ้า อย่าใช้พอร์ตคอมพิวเตอร์หรือการชาร์จแบบไร้สาย พยายามเปิด iPhone เมื่อถอดแบตเตอรี่ออก หากโลโก้ Apple ปรากฏบนหน้าจอ iPhone ที่ถอดแบตเตอรี่ออก แนะนำให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ หาก iPhone ยังคงปิดเครื่องอยู่และไม่มีการตอบสนอง แสดงว่าปัญหาอาจไม่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่

แกะเปิดและตรวจสอบ iPhone

หากยังแก้ไขปัญหาไม่สำเร็จหรือจำแนกปัญหาไม่ได้หลังจากทำตามบทความบริการช่วยเหลือหรือเรียกใช้การทดสอบเพื่อวินิจฉัยแล้ว ให้ดูคู่มือการซ่อม iPhone เพื่อแกะเปิดและตรวจสอบ iPhone อาจมีชิ้นส่วนที่เสียหายหรืออยู่ผิดที่ซึ่งทำให้เกิดหนึ่งในปัญหาเหล่านี้

  1. ทำตามหลักปฏิบัติในคู่มือการซ่อมเพื่อแกะเปิดอุปกรณ์

  2. ถอดสายแพที่เชื่อมต่อแบตเตอรี่กับลอจิกบอร์ด

  3. ตรวจสอบช่องต่อเพื่อหาร่องรอยความเสียหายหรือฝุ่นผง

  4. หากช่องต่อมีลักษณะปกติและไม่เสียหาย ให้เชื่อมต่อสายแพกลับเข้าที่ ค่อยๆ เสียบช่องต่อกลับเข้าที่โดยใช้สองนิ้วกดเบาๆ

  5. ประกอบชิ้นส่วนทั้งหมดที่ถอดออกมากลับเข้าที่เดิมแล้วปิดเครื่อง

  6. ทดสอบกำลังไฟและแบตเตอรี่ของอุปกรณ์อีกครั้งโดยใช้ที่ชาร์จแบบมีสาย จากนั้นทดสอบที่ชาร์จแบบไร้สายเพื่อจำแนกปัญหาเกี่ยวกับการชาร์จออกจากปัญหาในการเปิดเครื่อง

หมายเหตุ: หัวข้อนี้ต้องมีการสั่งซื้อชิ้นส่วนและเครื่องมือ การเปลี่ยนชิ้นส่วนอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาของอุปกรณ์ได้ ค้นหาตัวเลือกบริการอื่นๆ ได้ที่ support.apple.com/th-th/repair

เปลี่ยนชิ้นส่วนดังกล่าว

หากยังแก้ไขปัญหาไม่สำเร็จหรือจำแนกปัญหาไม่ได้หลังจากที่ทำตามขั้นตอนก่อนหน้าแล้ว ให้เปลี่ยนลอจิกบอร์ดใน iPhone 17 ทุกรุ่นและ iPhone Air

หลังจากซ่อมเสร็จแล้ว ให้เปิดเครื่องอุปกรณ์และตรวจสอบยืนยันว่าอุปกรณ์เปิดติดและเริ่มต้นระบบได้สมบูรณ์ ทดสอบฟังก์ชั่นการชาร์จแบบใช้สายและไร้สายด้วย

หมายเหตุ: หัวข้อนี้ต้องมีการสั่งซื้อชิ้นส่วนและเครื่องมือ การเปลี่ยนชิ้นส่วนอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาของอุปกรณ์ได้ สำหรับรุ่นอื่นๆ คุณสามารถค้นหาตัวเลือกการให้บริการอื่นๆ ได้ที่ support.apple.com/th-th/repair

กลับขึ้นด้านบน

การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับแบตเตอรี่

ระบุปัญหา

อ่านบทความบริการช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องหากคุณสังเกตเห็นปัญหาใดๆ ต่อไปนี้

  • พลังงานแบตเตอรี่หมดลงอย่างรวดเร็ว

  • แบตเตอรี่ไม่เก็บประจุ

  • iPhone ดับทันทีหลังจากถอดอะแดปเตอร์แปลงไฟ

  • แบตเตอรี่ชาร์จไม่เข้าหรือชาร์จได้ช้า หรือมีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการใช้แบตเตอรี่ปรากฏขึ้น

หากยังแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้หลังจากที่ทำตามบทความบริการช่วยเหลือแล้ว ให้ดำเนินการต่อในส่วนถัดไป

ลองทำตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว

  1. iPhone 8 และใหม่กว่ารองรับการชาร์จแบบไร้สาย ส่วน iPhone 12 และใหม่กว่ารองรับการชาร์จแบบ MagSafe นอกจากนี้การประกบที่ชาร์จแบบไร้สายจะเป็นการเปิดเครื่อง iPhone ด้วยในกรณีที่เครื่องปิดอยู่ คุณสามารถประกบที่ชาร์จแบบไร้สายเพื่อช่วยยืนยันว่า iPhone เปิดหรือปิดอยู่ในขณะนั้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์เมื่อช่องต่อสำหรับชาร์จอาจเสียหาย

  2. ทำความสะอาด iPhone ตรวจสอบช่องต่อสำหรับชาร์จ iPhone ว่ามีเศษสิ่งสกปรกหรือไม่ ค่อยๆ ทำความสะอาดช่องต่อโดยใช้แปรงขนนุ่มขนาดเล็กที่ขนแปรงไม่มีส่วนผสมของโลหะ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแปรงที่ใช้สะอาดและแห้ง ใช้ขนแปรงให้ยาวพอดีกับด้านในช่องต่อ บิดแปรงขนแข็งเพื่อให้คลายตัวออกและเศษสิ่งสกปรกหลุดออกมา ปัดเศษสิ่งสกปรกออกจากช่องต่อเพื่อป้องกันไม่ให้เศษสิ่งสกปรกหลุดเข้าไปในช่องต่อ

    • ข้อสำคัญ: ถอดสายทั้งหมดและปิด iPhone ก่อน ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารฟอกขาวหรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หลีกเลี่ยงไม่ให้ความชื้นเข้าไปในช่องเปิดต่างๆ และห้ามแช่ iPhone ในสารทำความสะอาด อย่าใช้อากาศอัด

  3. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณใช้อะแดปเตอร์แปลงไฟที่แนะนำเพื่อชาร์จ iPhone เนื่องจากอะแดปเตอร์แปลงไฟอื่นๆ อาจจ่ายกำลังไฟได้ไม่เพียงพอต่อการชาร์จ iPhone

  4. ใช้สายชาร์จที่เข้ากันได้เพื่อเชื่อมต่อ iPhone เข้ากับอะแดปเตอร์แปลงไฟที่เสียบกับเต้ารับไฟฟ้า อย่าใช้พอร์ตคอมพิวเตอร์หรือการชาร์จแบบไร้สาย ชาร์จ iPhone อย่างน้อย 10 นาที รอจนกระทั่งภาพปรากฏบนหน้าจอหรือเมื่อเวลาผ่านไป 10 นาที

    • หมายเหตุ: iPhone อาจเข้าสู่สถานะคายประจุจนหมด ซึ่งจะต้องใช้เวลาชาร์จประมาณ 20-30 นาทีก่อนที่จะเปิดเครื่องได้ โดยไอคอนแสดงสถานะชาร์จไฟควรปรากฏขึ้นหลังจากที่ชาร์จเป็นเวลาสองนาที

  5. ค่อยๆ ขยับสายไปมาตรงช่องต่อเพื่อให้แน่ใจว่าการเชื่อมต่อไม่มีปัญหาติดๆ ดับๆ หากการเชื่อมต่อติดๆ ดับๆ แม้ว่าจะใช้สายชาร์จที่ทำงานปกติแล้วก็ตาม แสดงว่าช่องต่อสำหรับชาร์จ iPhone อาจชำรุดหรือเสียหาย

  6. พลิกสายชาร์จกลับด้าน

  7. ถอดสายชาร์จ แล้วเสียบกลับเข้าไปใหม่

  8. ลองใช้สายชาร์จเส้นอื่น

  9. ลองใช้อะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C ตัวอื่น

  10. ใช้แผ่นชาร์จไร้สายที่รองรับซึ่งเสียบกับเต้ารับไฟฟ้า

  11. ถอดสายชาร์จออกก่อนที่คุณจะทดสอบการชาร์จแบบไร้สาย เมื่อชาร์จทั้งสองแบบพร้อมกัน เครื่องจะชาร์จแบบใช้สายก่อน วาง iPhone ลงบนแผ่นชาร์จโดยตรง วาง iPhone โดยหงายจอภาพขึ้นและอยู่ตรงกลางที่ชาร์จ หรืออยู่ในตำแหน่งที่ผู้ผลิตแผ่นชาร์จไร้สายแนะนำ

  12. รอจนกระทั่งภาพปรากฏบนหน้าจอหรือเมื่อเวลาผ่านไป 10 นาที หาก iPhone เปิดไม่ติดเมื่อชาร์จแบบใช้สาย และจะเปิดก็ต่อเมื่อชาร์จแบบไร้สายเท่านั้น แสดงว่า iPhone อาจมีปัญหาเกี่ยวกับการชาร์จแบบใช้สาย

  13. ดูขั้นตอนและแหล่งข้อมูลบริการช่วยเหลือใน การตรวจสอบอย่างรวดเร็วเพื่อแก้ไขปัญหา

เรียกใช้การทดสอบด้วยตนเองและการทดสอบเพื่อวินิจฉัย

หากยังแก้ไขปัญหาไม่สำเร็จหลังจากที่ทำตามบทความบริการช่วยเหลือหรือลองทำตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วแล้ว ให้เรียกใช้การวินิจฉัยและทำการทดสอบด้วยตนเองดังต่อไปนี้เพื่อช่วยแยกสาเหตุของปัญหา

  1. เรียกใช้ชุดการวินิจฉัย Mobile Resource Inspector (MRI)

  2. สำคัญ: อุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่ที่ไม่ใช่ของแท้หรือไม่รู้จักอาจแสดงอาการต่อไปนี้

    • ข้อบกพร่องที่ไม่ได้เกิดจาก MagSafe หรือการชาร์จแบบไร้สายจริง

    • ตรวจไม่พบ MagSafe

    • การปิดโดยไม่คาดคิด

    • ปัญหาการชาร์จที่อุปกรณ์ชาร์จได้ไม่เกิน 1%

  3. หากมีอาการใดๆ หรือทั้งหมดข้างต้น ให้ตรวจสอบผลลัพธ์ MRI หากผลลัพธ์ MRI แสดงคำเตือนเกี่ยวกับแบตเตอรี่ที่ไม่รู้จักพร้อมข้อบกพร่องเกี่ยวกับ MagSafe เช่น ตรวจไม่พบ MagSafe หรือปัญหาการชาร์จโดยที่อุปกรณ์ชาร์จได้ไม่เกิน 1% แนะนำให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ หากการเปลี่ยนแบตเตอรี่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อ หากปัญหาไม่เกี่ยวข้องกับอาการเหล่านี้ ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อ

หมายเหตุ: ตัวแสดงสถานะแบตเตอรี่และการชาร์จอาจผันผวนชั่วครู่เมื่อคุณเชื่อมต่อ iPhone กับแหล่งจ่ายไฟหรือปลุกจากการพัก หากเกิดกรณีเช่นนี้ ให้รอสักครู่ แล้วตรวจสอบใหม่อีกครั้ง แบตเตอรี่อาจคงเหลือ 99% เมื่อชาร์จเต็มแล้ว ซึ่งไม่ได้บ่งชี้ว่าแบตเตอรี่หรือฮาร์ดแวร์มีปัญหา โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่แบตเตอรี่และประสิทธิภาพการทำงานของ iPhone

แกะเปิดและตรวจสอบ iPhone

หากยังแก้ไขปัญหาไม่สำเร็จหรือจำแนกปัญหาไม่ได้หลังจากทำตามบทความบริการช่วยเหลือหรือเรียกใช้การทดสอบเพื่อวินิจฉัยแล้ว ให้ดูคู่มือการซ่อม iPhone เพื่อแกะเปิดและตรวจสอบ iPhone อาจมีชิ้นส่วนที่เสียหายหรืออยู่ผิดที่ซึ่งทำให้เกิดหนึ่งในปัญหาเหล่านี้

  1. ทำตามหลักปฏิบัติในคู่มือการซ่อมเพื่อแกะเปิดอุปกรณ์

  2. ถอดสายแพที่เชื่อมต่อแบตเตอรี่กับลอจิกบอร์ด

  3. ตรวจสอบช่องต่อเพื่อหาร่องรอยความเสียหายหรือฝุ่นผง

  4. หากช่องต่อมีลักษณะปกติและไม่เสียหาย ให้เชื่อมต่อสายแพกลับเข้าที่ ค่อยๆ เสียบช่องต่อกลับเข้าที่โดยใช้สองนิ้วกดเบาๆ

  5. ประกอบชิ้นส่วนทั้งหมดที่ถอดออกมากลับเข้าที่เดิมแล้วปิดเครื่อง

  6. ทดสอบอุปกรณ์อีกครั้งสำหรับระบบจ่ายไฟและแบตเตอรี่

หมายเหตุ: หัวข้อนี้ต้องมีการสั่งซื้อชิ้นส่วนและเครื่องมือ การเปลี่ยนชิ้นส่วนอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาของอุปกรณ์ได้ ค้นหาตัวเลือกบริการอื่นๆ ได้ที่ support.apple.com/th-th/repair

เปลี่ยนชิ้นส่วนดังกล่าว

หากยังแก้ไขหรือแยกแยะปัญหานี้ไม่ได้หลังจากที่ทำตามขั้นตอนก่อนหน้าแล้ว ให้เปลี่ยนแบตเตอรี่

หลังจากซ่อมเสร็จแล้ว ให้เปิดอุปกรณ์และตรวจสอบยืนยันว่าการชาร์จแบบใช้สายและแบบไร้สายทำงานเป็นปกติ

หมายเหตุ: หัวข้อนี้ต้องมีการสั่งซื้อชิ้นส่วนและเครื่องมือ การเปลี่ยนชิ้นส่วนอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาของอุปกรณ์ได้ สำหรับรุ่นอื่นๆ คุณสามารถค้นหาตัวเลือกการให้บริการอื่นๆ ได้ที่ support.apple.com/th-th/repair

กลับขึ้นด้านบน

การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการชาร์จแบบใช้สาย

ระบุปัญหา

อ่านบทความบริการช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องหากคุณสังเกตเห็นปัญหาใดๆ ต่อไปนี้

  • iPhone ไม่ชาร์จเมื่อเชื่อมต่อแบบใช้สาย แต่ชาร์จแบบไร้สายได้

  • อะแดปเตอร์แปลงไฟชาร์จ iPhone ไม่เข้า

  • อะแดปเตอร์แปลงไฟชาร์จ iPhone ช้า

  • ไอคอนชาร์จแบตเตอรี่ไม่แสดงให้เห็นว่า iPhone ชาร์จเต็มแล้ว

  • iPhone ดับทันทีหลังจากถอดอะแดปเตอร์แปลงไฟ

  • แบตเตอรี่ชาร์จไม่เข้าหรือชาร์จได้ช้า หรือมีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการใช้แบตเตอรี่ปรากฏขึ้น

บทความบริการช่วยเหลือที่เกี่ยวข้อง

หากยังแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้หลังจากที่ทำตามบทความบริการช่วยเหลือแล้ว ให้ดำเนินการต่อในส่วนถัดไป

ลองทำตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว

  1. iPhone 8 และใหม่กว่ารองรับการชาร์จแบบไร้สาย ส่วน iPhone 12 และใหม่กว่ารองรับการชาร์จแบบ MagSafe นอกจากนี้การประกบที่ชาร์จแบบไร้สายจะเป็นการเปิดเครื่อง iPhone ด้วยในกรณีที่เครื่องปิดอยู่ คุณสามารถประกบที่ชาร์จแบบไร้สายเพื่อช่วยยืนยันว่า iPhone เปิดหรือปิดอยู่ในขณะนั้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์เมื่อช่องต่อสำหรับชาร์จอาจเสียหาย

  2. ทำความสะอาด iPhone ตรวจสอบช่องต่อสำหรับชาร์จ iPhone ว่ามีเศษสิ่งสกปรกหรือไม่ ค่อยๆ ทำความสะอาดช่องต่อโดยใช้แปรงขนนุ่มขนาดเล็กที่ขนแปรงไม่มีส่วนผสมของโลหะ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแปรงที่ใช้สะอาดและแห้ง ใช้ขนแปรงให้ยาวพอดีกับด้านในช่องต่อ บิดแปรงขนแข็งเพื่อให้คลายตัวออกและเศษสิ่งสกปรกหลุดออกมา ปัดเศษสิ่งสกปรกออกจากช่องต่อเพื่อป้องกันไม่ให้เศษสิ่งสกปรกหลุดเข้าไปในช่องต่อ

    • ข้อสำคัญ: ถอดสายทั้งหมดและปิด iPhone ก่อน ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารฟอกขาวหรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หลีกเลี่ยงไม่ให้ความชื้นเข้าไปในช่องเปิดต่างๆ และห้ามแช่ iPhone ในสารทำความสะอาด อย่าใช้อากาศอัด

  3. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณใช้อะแดปเตอร์แปลงไฟที่แนะนำเพื่อชาร์จ iPhone เนื่องจากอะแดปเตอร์แปลงไฟอื่นๆ อาจจ่ายกำลังไฟได้ไม่เพียงพอต่อการชาร์จ iPhone

  4. ใช้สายชาร์จที่เข้ากันได้เพื่อเชื่อมต่อ iPhone เข้ากับอะแดปเตอร์แปลงไฟที่เสียบกับเต้ารับไฟฟ้า อย่าใช้พอร์ตคอมพิวเตอร์หรือการชาร์จแบบไร้สาย ชาร์จ iPhone อย่างน้อย 10 นาที รอจนกระทั่งภาพปรากฏบนหน้าจอหรือเมื่อเวลาผ่านไป 10 นาที

    • หมายเหตุ: iPhone อาจเข้าสู่สถานะคายประจุจนหมด ซึ่งจะต้องใช้เวลาชาร์จประมาณ 20-30 นาทีก่อนที่จะเปิดเครื่องได้ โดยไอคอนแสดงสถานะชาร์จไฟควรปรากฏขึ้นหลังจากที่ชาร์จเป็นเวลาสองนาที

  5. ค่อยๆ ขยับสายไปมาตรงช่องต่อเพื่อให้แน่ใจว่าการเชื่อมต่อไม่มีปัญหาติดๆ ดับๆ หากการเชื่อมต่อติดๆ ดับๆ แม้ว่าจะใช้สายชาร์จที่ทำงานปกติแล้วก็ตาม แสดงว่าช่องต่อสำหรับชาร์จ iPhone อาจชำรุดหรือเสียหาย

  6. พลิกสายชาร์จกลับด้าน

  7. ถอดสายชาร์จ แล้วเสียบกลับเข้าไปใหม่

  8. ลองใช้สายชาร์จเส้นอื่น

  9. ลองใช้อะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C ตัวอื่น

  10. ใช้แผ่นชาร์จไร้สายที่รองรับซึ่งเสียบกับเต้ารับไฟฟ้า

  11. ถอดสายชาร์จออกก่อนที่คุณจะทดสอบการชาร์จแบบไร้สาย เมื่อชาร์จทั้งสองแบบพร้อมกัน เครื่องจะชาร์จแบบใช้สายก่อน วาง iPhone ลงบนแผ่นชาร์จโดยตรง วาง iPhone โดยหงายจอภาพขึ้นและอยู่ตรงกลางที่ชาร์จ หรืออยู่ในตำแหน่งที่ผู้ผลิตแผ่นชาร์จไร้สายแนะนำ

  12. รอจนกระทั่งภาพปรากฏบนหน้าจอหรือเมื่อเวลาผ่านไป 10 นาที หาก iPhone เปิดไม่ติดเมื่อชาร์จแบบใช้สาย และจะเปิดก็ต่อเมื่อชาร์จแบบไร้สายเท่านั้น แสดงว่า iPhone อาจมีปัญหาเกี่ยวกับการชาร์จแบบใช้สาย

  13. ดูขั้นตอนและแหล่งข้อมูลบริการช่วยเหลือใน การตรวจสอบอย่างรวดเร็วเพื่อแก้ไขปัญหา

เรียกใช้การทดสอบด้วยตนเองและการทดสอบเพื่อวินิจฉัย

หากยังแก้ไขปัญหาไม่สำเร็จหลังจากที่ทำตามบทความบริการช่วยเหลือหรือลองทำตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วแล้ว ให้เรียกใช้การวินิจฉัยและทำการทดสอบด้วยตนเองดังต่อไปนี้เพื่อช่วยแยกสาเหตุของปัญหา

  1. เรียกใช้ชุดการวินิจฉัย Mobile Resource Inspector (MRI)

หมายเหตุ: ตัวแสดงสถานะแบตเตอรี่และการชาร์จอาจผันผวนชั่วครู่เมื่อคุณเชื่อมต่อ iPhone กับแหล่งจ่ายไฟหรือปลุกจากการพัก หากเกิดกรณีเช่นนี้ ให้รอสักครู่ แล้วตรวจสอบใหม่อีกครั้ง แบตเตอรี่อาจคงเหลือ 99% เมื่อชาร์จเต็มแล้ว ซึ่งไม่ได้บ่งชี้ว่าแบตเตอรี่หรือฮาร์ดแวร์มีปัญหา โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่แบตเตอรี่และประสิทธิภาพการทำงานของ iPhone

แกะเปิดและตรวจสอบ iPhone

หากยังแก้ไขปัญหาไม่สำเร็จหรือจำแนกปัญหาไม่ได้หลังจากทำตามบทความบริการช่วยเหลือหรือเรียกใช้การทดสอบเพื่อวินิจฉัยแล้ว ให้ดูคู่มือการซ่อม iPhone เพื่อแกะเปิดและตรวจสอบ iPhone อาจมีชิ้นส่วนที่เสียหายหรืออยู่ผิดที่ซึ่งทำให้เกิดหนึ่งในปัญหาเหล่านี้

  1. ทำตามหลักปฏิบัติในคู่มือการซ่อมเพื่อแกะเปิดอุปกรณ์

  2. ถอดสายแพที่เชื่อมต่อแบตเตอรี่กับลอจิกบอร์ด

  3. ถอดสายแพ Dock ที่เชื่อมช่องต่อสำหรับชาร์จเข้ากับลอจิกบอร์ด

  4. ตรวจสอบช่องต่อนี้เพื่อหาร่องรอยความเสียหายหรือฝุ่นผง

  5. หากช่องต่อนี้ดูปกติและไม่เสียหาย ให้เชื่อมต่อใหม่ ค่อยๆ เสียบขั้วต่อแต่ละขั้วกลับเข้าที่โดยใช้สองนิ้วกดเบาๆ

  6. ประกอบชิ้นส่วนทั้งหมดที่ถอดออกมากลับเข้าที่เดิมแล้วปิดเครื่อง

  7. ทดสอบอุปกรณ์อีกครั้งสำหรับการชาร์จแบบใช้สาย

หมายเหตุ: หัวข้อนี้ต้องมีการสั่งซื้อชิ้นส่วนและเครื่องมือ การเปลี่ยนชิ้นส่วนอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาของอุปกรณ์ได้ ค้นหาตัวเลือกบริการอื่นๆ ได้ที่ support.apple.com/th-th/repair

เปลี่ยนชิ้นส่วนดังกล่าว

หากยังแก้ไขปัญหาไม่สำเร็จหรือจำแนกปัญหาไม่ได้หลังจากที่ได้ทำตามขั้นตอนก่อนหน้าแล้ว ให้เปลี่ยนชิ้นส่วนต่อไปนี้ใน iPhone รุ่นที่ระบุไว้ทีละชิ้นตามลำดับที่แสดง ซึ่งหลังจากที่คุณเปลี่ยนชิ้นส่วนแรกแล้ว ให้ทำตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอีกครั้งเพื่อดูว่าการเปลี่ยนชิ้นส่วนหนึ่งชิ้นสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ไหม หากแก้ไขไม่สำเร็จ ให้เปลี่ยนชิ้นส่วนถัดไป

  • หากได้รับความเสียหาย ให้เปลี่ยนช่องต่อ USB-C สำหรับปัญหาการชาร์จแบบใช้สายใน iPhone 15, iPhone 15 Plus, iPhone 16, iPhone 16 Plus, iPhone 16 Pro, iPhone 16 Pro Max และ iPhone 16e

  • เปลี่ยนลอจิกบอร์ดใน iPhone 17 ทุกรุ่นและ iPhone Air

  • เปลี่ยนตัวเครื่อง หากอาการไม่หายไปหลังจากที่เปลี่ยนชิ้นส่วนก่อนหน้าใน iPhone 17 ทุกรุ่นและ iPhone Air

หลังจากซ่อมเสร็จแล้ว ให้เปิดอุปกรณ์และตรวจสอบยืนยันว่าการชาร์จแบบใช้สายทำงานเป็นปกติ

หมายเหตุ: หัวข้อนี้ต้องมีการสั่งซื้อชิ้นส่วนและเครื่องมือ การเปลี่ยนชิ้นส่วนอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาของอุปกรณ์ได้ สำหรับรุ่นอื่นๆ คุณสามารถค้นหาตัวเลือกการให้บริการอื่นๆ ได้ที่ support.apple.com/th-th/repair

กลับขึ้นด้านบน

การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการชาร์จแบบไร้สาย

ระบุปัญหา

อ่านบทความบริการช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องหากคุณสังเกตเห็นปัญหาใดๆ ต่อไปนี้

  • iPhone ไม่ชาร์จแบบไร้สาย แต่ชาร์จด้วยการเชื่อมต่อแบบใช้สายได้

  • iPhone ตรวจอุปกรณ์เสริม MagSafe ไม่พบ

  • iPhone ชาร์จช้า

บทความบริการช่วยเหลือที่เกี่ยวข้อง

หากยังแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้หลังจากที่ทำตามบทความบริการช่วยเหลือแล้ว ให้ดำเนินการต่อในส่วนถัดไป

ลองทำตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว

  1. ใช้แผ่นชาร์จไร้สายที่รองรับ ที่เสียบกับเต้ารับไฟฟ้า

  2. หากพบปัญหาในการตรวจหาอุปกรณ์เสริม MagSafe ให้ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ชาร์จแบบไร้สายดังกล่าวเป็นที่ชาร์จ MagSafe ของ Apple

  3. ถอดเคสใดๆ ที่อาจรบกวนการทดสอบ iPhone ออก

  4. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณใช้อะแดปเตอร์แปลงไฟที่แนะนำเพื่อชาร์จ iPhone เนื่องจากอะแดปเตอร์แปลงไฟอื่นๆ อาจจ่ายกำลังไฟได้ไม่เพียงพอต่อการชาร์จ iPhone

  5. ดูขั้นตอนและแหล่งข้อมูลบริการช่วยเหลือใน การตรวจสอบอย่างรวดเร็วเพื่อแก้ไขปัญหา

เรียกใช้การทดสอบด้วยตนเองและการทดสอบเพื่อวินิจฉัย

หากยังแก้ไขปัญหาไม่สำเร็จหลังจากที่ทำตามบทความบริการช่วยเหลือหรือลองทำตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วแล้ว ให้เรียกใช้การวินิจฉัยและทำการทดสอบด้วยตนเองดังต่อไปนี้เพื่อช่วยแยกสาเหตุของปัญหา

  1. เรียกใช้ชุดการวินิจฉัย Mobile Resource Inspector (MRI)

  2. สำคัญ: อุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่ที่ไม่ใช่ของแท้หรือไม่รู้จักอาจแสดงอาการต่อไปนี้

    • ข้อบกพร่องที่ไม่ได้เกิดจาก MagSafe หรือการชาร์จแบบไร้สายจริง

    • ตรวจไม่พบ MagSafe

    • การปิดโดยไม่คาดคิด

    • ปัญหาการชาร์จที่อุปกรณ์ชาร์จได้ไม่เกิน 1%

  3. หากมีอาการใดๆ หรือทั้งหมดข้างต้น ให้ตรวจสอบผลลัพธ์ MRI หากผลลัพธ์ MRI แสดงคำเตือนเกี่ยวกับแบตเตอรี่ที่ไม่รู้จักพร้อมข้อบกพร่องเกี่ยวกับ MagSafe เช่น ตรวจไม่พบ MagSafe หรือปัญหาการชาร์จโดยที่อุปกรณ์ชาร์จได้ไม่เกิน 1% แนะนำให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ หากการเปลี่ยนแบตเตอรี่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อ หากปัญหาไม่เกี่ยวข้องกับอาการเหล่านี้ ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อ

  4. ใช้ที่ชาร์จ MagSafe หรืออุปกรณ์ชาร์จไร้สายที่ได้รับการรับรองจาก Qi ที่เสียบเข้ากับเต้ารับไฟฟ้า

  5. ถอดสายชาร์จออกก่อนที่คุณจะทดสอบการชาร์จแบบไร้สาย เมื่อชาร์จทั้งสองแบบพร้อมกัน เครื่องจะชาร์จแบบใช้สายก่อน วาง iPhone ลงบนแผ่นชาร์จโดยตรง วาง iPhone โดยหงายจอภาพขึ้นและอยู่ตรงกลางที่ชาร์จ หรืออยู่ในตำแหน่งที่ผู้ผลิตแผ่นชาร์จไร้สายแนะนำ

  6. รอจนกระทั่งภาพปรากฏบนหน้าจอหรือเมื่อเวลาผ่านไป 10 นาที หาก iPhone เปิดไม่ติดเมื่อชาร์จแบบไร้สาย และจะเปิดก็ต่อเมื่อชาร์จแบบใช้สายเท่านั้น แสดงว่า iPhone อาจมีปัญหาเกี่ยวกับการชาร์จแบบไร้สาย

หมายเหตุ: ตัวแสดงสถานะแบตเตอรี่และการชาร์จอาจผันผวนชั่วครู่เมื่อคุณเชื่อมต่อ iPhone กับแหล่งจ่ายไฟหรือปลุกจากการพัก หากเกิดกรณีเช่นนี้ ให้รอสักครู่ แล้วตรวจสอบใหม่อีกครั้ง แบตเตอรี่อาจคงเหลือ 99% เมื่อชาร์จเต็มแล้ว ซึ่งไม่ได้บ่งชี้ว่าแบตเตอรี่หรือฮาร์ดแวร์มีปัญหา โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่แบตเตอรี่และประสิทธิภาพการทำงานของ iPhone

แกะเปิดและตรวจสอบ iPhone

หากยังแก้ไขปัญหาไม่สำเร็จหรือจำแนกปัญหาไม่ได้หลังจากทำตามบทความบริการช่วยเหลือหรือเรียกใช้การทดสอบเพื่อวินิจฉัยแล้ว ให้ดูคู่มือการซ่อม iPhone เพื่อแกะเปิดและตรวจสอบ iPhone อาจมีชิ้นส่วนที่เสียหายหรืออยู่ผิดที่ซึ่งทำให้เกิดหนึ่งในปัญหาเหล่านี้

หมายเหตุ: หัวข้อนี้ต้องมีการสั่งซื้อชิ้นส่วนและเครื่องมือ การเปลี่ยนชิ้นส่วนอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาของอุปกรณ์ได้ ค้นหาตัวเลือกบริการอื่นๆ ได้ที่ support.apple.com/th-th/repair

เปลี่ยนชิ้นส่วนดังกล่าว

หากยังแก้ไขปัญหาไม่สำเร็จหรือจำแนกปัญหาไม่ได้หลังจากที่ได้ทำตามขั้นตอนก่อนหน้าแล้ว ให้เปลี่ยนชิ้นส่วนต่อไปนี้ใน iPhone รุ่นที่ระบุไว้ทีละชิ้นตามลำดับที่แสดง ซึ่งหลังจากที่คุณเปลี่ยนชิ้นส่วนแรกแล้ว ให้ทำตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอีกครั้งเพื่อดูว่าการเปลี่ยนชิ้นส่วนหนึ่งชิ้นสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ไหม หากแก้ไขไม่สำเร็จ ให้เปลี่ยนชิ้นส่วนถัดไป

  • หากอุปกรณ์ไม่ชาร์จแบบไร้สาย แต่ชาร์จด้วยการเชื่อมต่อแบบใช้สายได้ ให้เปลี่ยนกระจกหลังซึ่งมีขดลวดชาร์จแบบไร้สาย

  • หากอุปกรณ์ไม่สามารถชาร์จด้วยการเชื่อมต่อแบบใช้สายและแบบไร้สาย ให้เปลี่ยนลอจิกบอร์ดใน iPhone 17 ทุกรุ่นและ iPhone Air

  • เปลี่ยน iPhone หากอาการไม่หายไปหลังจากเปลี่ยนชิ้นส่วนก่อนหน้านี้แล้ว

หลังจากซ่อมเสร็จแล้ว ให้เปิดอุปกรณ์และตรวจสอบยืนยันว่าการชาร์จแบบไร้สายทำงานเป็นปกติ

หมายเหตุ: หัวข้อนี้ต้องมีการสั่งซื้อชิ้นส่วนและเครื่องมือ การเปลี่ยนชิ้นส่วนอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาของอุปกรณ์ได้ สำหรับรุ่นอื่นๆ คุณสามารถค้นหาตัวเลือกการให้บริการอื่นๆ ได้ที่ support.apple.com/th-th/repair

กลับขึ้นด้านบน

การแก้ไขปัญหาหยุดการทำงาน รีสตาร์ท หรือเครื่องปิดโดยไม่คาดคิด

ระบุปัญหา

อ่านบทความบริการช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องหากคุณสังเกตเห็นปัญหาใดๆ ต่อไปนี้

  • อุปกรณ์แสดงโลโก้ Apple เองโดยไม่คาดคิด จากนั้นกลับไปยังหน้าจอโฮม และทำงานได้ตามปกติ

  • อุปกรณ์แสดงโลโก้ Apple เองโดยไม่คาดคิด จากนั้นรีสตาร์ทกลับไปยังหน้าจอล็อคที่ต้องใช้ Touch ID, Face ID หรือรหัสเพื่อกลับไปยังหน้าจอโฮม

  • อุปกรณ์รีสตาร์ท แสดงโลโก้ Apple แล้วรีสตาร์ทอีกครั้ง วนลูปไปเรื่อยๆ

  • อุปกรณ์รีสตาร์ท แสดงโลโก้ Apple แล้วหยุดตอบสนอง

  • หน้าจอของอุปกรณ์หยุดการทำงาน แต่ไม่รีสตาร์ทหรือปิดเครื่อง

  • อุปกรณ์หยุดตอบสนอง และแสดงหน้าจอ "เชื่อมต่อกับ iTunes" หรือ "เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์" โดยไม่คาดคิด

  • อุปกรณ์ปิดเครื่องโดยไม่คาดคิด และต้องกดปุ่มพัก/ปลุก หรือปุ่มด้านข้าง ค้างไว้เพื่อให้อุปกรณ์เปิดเครื่องอีกครั้ง

  • หมายเหตุ: ระหว่างที่อุปกรณ์แสดงอาการข้างต้น หน้าจออาจกะพริบเป็นสีแดง สีฟ้า หรือสีอื่นๆ.

หากยังแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้หลังจากที่ทำตามบทความบริการช่วยเหลือแล้ว ให้ดำเนินการต่อในส่วนถัดไป

ลองทำตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว

  1. หากอุปกรณ์รีสตาร์ท แสดงโลโก้ Apple หรือปิดเครื่องเองขณะกำลังใช้งาน ให้ทำตามขั้นตอนในหากอุปกรณ์ iOS หรือ iPadOS รีสตาร์ทหรือแสดงโลโก้ Apple หรือเฟืองหมุนโดยไม่คาดคิด ก่อนดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป

  2. สำหรับอุปกรณ์ที่ไม่ตอบสนองการทำงาน ให้ตรวจสอบว่าเป็นปัญหาเกี่ยวกับ Multi-Touch หรือไม่ ดูที่แอปนาฬิกาบนหน้าจอโฮม หรือบนไอคอนแอปนาฬิกาเพื่อดูว่าเดินตามเวลาจริงหรือไม่ เข็มวินาทีบนไอคอนแอปนาฬิกาควรเคลื่อนที่ตามเข็มนาฬิกาอย่างราบรื่นรอบวงหน้าปัดนาฬิกา หากนาฬิกาเดินตรงตามเวลาจริงตามที่คาดไว้ ให้แก้ไขปัญหาโดยที่เป็นปัญหาเกี่ยวกับ Multi-Touch


  3. หากอุปกรณ์ไม่ตอบสนองหรือเปิดใช้งานไม่ได้ ให้ทำตามขั้นตอนในหาก iPhone เปิดไม่ติดหรือหน้าจอเป็นสีดำ ตรวจสอบอาการในหลายๆ แอปของ Apple ที่ติดตั้งมาพร้อมเครื่อง เพื่อยืนยันว่าอาการดังกล่าวเกิดขึ้นกับทุกแอป ก่อนที่จะให้บริการอุปกรณ์ หากอาการไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกแอป ให้แก้ไขปัญหาโดยที่เป็นปัญหาเกี่ยวกับแอป

  4. หากอุปกรณ์ปิดเครื่องโดยไม่คาดคิดและเปิดไม่ติด ให้แก้ไขปัญหาโดยที่เป็นปัญหา "ไม่มีพลังงาน"


  5. ใช้สายที่ใช้งานได้เชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานได้และใช้ macOS เวอร์ชั่นล่าสุด หากคอมพิวเตอร์ตรวจพบอุปกรณ์ ให้กู้คืนอุปกรณ์หากได้รับแจ้ง


  6. ดูขั้นตอนและแหล่งข้อมูลบริการช่วยเหลือใน การตรวจสอบอย่างรวดเร็วเพื่อแก้ไขปัญหา

เรียกใช้การทดสอบด้วยตนเองและการทดสอบเพื่อวินิจฉัย

หากยังแก้ไขปัญหาไม่สำเร็จหลังจากที่ทำตามบทความบริการช่วยเหลือหรือลองทำตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วแล้ว ให้เรียกใช้การวินิจฉัยและทำการทดสอบด้วยตนเองดังต่อไปนี้เพื่อช่วยแยกสาเหตุของปัญหา

  1. เรียกใช้ชุดการวินิจฉัย Mobile Resource Inspector (MRI)

แกะเปิดและตรวจสอบ iPhone

หากยังแก้ไขปัญหาไม่สำเร็จหรือจำแนกปัญหาไม่ได้หลังจากทำตามบทความบริการช่วยเหลือหรือเรียกใช้การทดสอบเพื่อวินิจฉัยแล้ว ให้ดูคู่มือการซ่อม iPhone เพื่อแกะเปิดและตรวจสอบ iPhone อาจมีชิ้นส่วนที่เสียหายหรืออยู่ผิดที่ซึ่งทำให้เกิดหนึ่งในปัญหาเหล่านี้

หมายเหตุ: หัวข้อนี้ต้องมีการสั่งซื้อชิ้นส่วนและเครื่องมือ การเปลี่ยนชิ้นส่วนอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาของอุปกรณ์ได้ ค้นหาตัวเลือกบริการอื่นๆ ได้ที่ support.apple.com/th-th/repair

เปลี่ยนชิ้นส่วนดังกล่าว

เปลี่ยนลอจิกบอร์ดใน iPhone 17 ทุกรุ่นและ iPhone Air

หมายเหตุ: หัวข้อนี้ต้องมีการสั่งซื้อชิ้นส่วนและเครื่องมือ การเปลี่ยนชิ้นส่วนอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาของอุปกรณ์ได้ สำหรับรุ่นอื่นๆ คุณสามารถค้นหาตัวเลือกการให้บริการอื่นๆ ได้ที่ support.apple.com/th-th/repair

หลังจากซ่อมเสร็จแล้ว ให้เปิดเครื่องอุปกรณ์และตรวจสอบยืนยันการทำงานโดยรวม

วันที่เผยแพร่: