หาก iPhone หรือ iPad ทำงานช้า

หากอุปกรณ์ iOS หรือ iPadOS หยุดทำงานหรือมีปัญหาด้านประสิทธิภาพ ให้ลองทำตามเคล็ดลับเหล่านี้

ตรวจสอบสภาพเครือข่ายของคุณ

แอปหลายแอปจำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อแสดงคอนเทนต์และทำงานอื่นๆ หากเครือข่ายที่คุณเชื่อมต่อด้วยมีการใช้งานหนาแน่น เช่น ในสถานการณ์ที่มีคนจำนวนมากใช้เครือข่ายเดียวกัน แอปอาจใช้เวลาสักพักเพื่อเปิดหรือแสดงคอนเทนต์ นอกจากนี้ อุปกรณ์ของคุณอาจดูช้าเมื่อต้องเชื่อมต่อกับเสาส่งสัญญาณต้นใหม่อยู่เรื่อยๆ เวลาที่คุณอยู่ในยานพาหนะที่กำลังเคลื่อนที่

แม้อุปกรณ์ของคุณจะระบุว่ามีสัญญาณแรง คุณอาจต้องรอ ลองใหม่ในตำแหน่งอื่น หรือใช้ Wi-Fi ที่มีให้ใช้งาน หากคุณยังประสบปัญหาด้านความเร็ว ความพร้อมใช้งาน หรือประสิทธิภาพการทำงานของข้อมูลเซลลูลาร์ในตำแหน่งที่ตั้งหลายๆ แห่งอยู่ ให้ติดต่อผู้ให้บริการเครือข่ายของคุณ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลเซลลูลาร์ >

ปิดแอปที่ไม่ตอบสนอง

หากแอปหยุดตอบสนองหรือค้าง คุณอาจต้องบังคับปิดแอปแล้วเปิดใหม่*

  1. จากหน้าจอโฮมของ iPhone X หรือใหม่กว่า หรือ iPad ให้ปัดขึ้นจากด้านล่างสุดของหน้าจอแล้วค้างสักครู่ที่ตรงกลางหน้าจอ บน iPhone 8 หรือก่อนหน้า ให้ดับเบิ้ลคลิกที่ปุ่มโฮมเพื่อแสดงแอปที่คุณใช้ล่าสุด

  2. ปัดไปทางขวาหรือซ้ายเพื่อค้นหาแอปที่คุณต้องการปิด

  3. ปัดขึ้นที่ตัวอย่างของแอปเพื่อปิดแอปนั้น

* ในสภาวะปกติ การบังคับปิดแอปเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นและไม่ทำให้อุปกรณ์ทำงานเร็วขึ้น อันที่จริงแล้วแอปจะใช้เวลานานขึ้นในการเปิดหลังจากที่ถูกบังคับปิด เพราะจำเป็นต้องโหลดข้อมูลใหม่ทั้งหมด

ดูสิ่งที่ควรทำหากแอปหยุดตอบสนองหลายๆ ครั้ง >

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีพื้นที่เก็บข้อมูลเพียงพอ

หากอุปกรณ์มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเหลือน้อย iOS หรือ iPadOS จะเพิ่มพื้นที่ว่างโดยอัตโนมัติขณะติดตั้งแอป, อัปเดต iOS หรือ iPadOS, ดาวน์โหลดเพลง, บันทึกวิดีโอ และอื่นๆ iOS หรือ iPadOS จะลบเฉพาะรายการที่สามารถดาวน์โหลดซ้ำได้หรือไม่จำเป็นต้องใช้แล้ว

คุณสามารถตรวจสอบพื้นที่เก็บข้อมูลของอุปกรณ์ได้ในการตั้งค่า > ทั่วไป > พื้นที่เก็บข้อมูล [อุปกรณ์] เพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุด ให้พยายามรักษาพื้นที่ว่างไว้อย่างน้อย 1 GB หากพื้นที่เก็บข้อมูลของคุณเหลือน้อยกว่า 1 GB อย่างต่อเนื่อง อุปกรณ์ของคุณอาจช้าลงเนื่องจาก iOS หรือ iPadOS จะต้องสร้างพื้นที่ว่างสำหรับคอนเทนต์เพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆ

หากคุณจำเป็นต้องเพิ่มพื้นที่ว่าง ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อเปิดคำแนะนำเกี่ยวกับการประหยัดพื้นที่เก็บข้อมูลในตัว iOS หรือ iPadOS

  1. ไปที่การตั้งค่า > ทั่วไป > พื้นที่เก็บข้อมูล [อุปกรณ์] แล้วอ่านคำแนะนำที่ iOS หรือ iPadOS อาจมีให้

  2. แตะเปิดใช้งานเพื่อเปิดคำแนะนำ หรือแตะชื่อหัวข้อคำแนะนำเพื่อดูคอนเทนต์ที่คุณสามารถลบได้

หากคุณไม่เห็นคำแนะนำใดๆ หรือหากต้องการพื้นที่ว่างเพิ่มขึ้นอีก คุณสามารถตรวจสอบแอปในอุปกรณ์ของคุณ แอปต่างๆ จะแสดงอยู่ในหน้าจอพื้นที่เก็บข้อมูล [อุปกรณ์] เดียวกันนี้พร้อมกับปริมาณพื้นที่ที่ใช้

แตะแอป แล้วเลือกจากตัวเลือกต่อไปนี้

  • เอาแอปออก ซึ่งจะเพิ่มพื้นที่ว่างที่แอปนั้นใช้แต่จะเก็บเอกสารและข้อมูลไว้

  • ลบแอปออก ซึ่งจะลบทั้งแอปและข้อมูลที่เกี่ยวข้องออกไปด้วย

  • คุณอาจสามารถลบเอกสารและข้อมูลออกเป็นบางส่วนได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแอป

ดูวิธีต่างๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่เก็บข้อมูล >

ปิดโหมดพลังงานต่ำ

โหมดพลังงานต่ำเป็นคุณสมบัติของ iPhone และ iPad ที่ช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ด้วยการลดปริมาณพลังงานที่อุปกรณ์ของคุณใช้ ในโหมดพลังงานต่ำ คุณสมบัติบางอย่างจะถูกปิด และการทำงานบางอย่างอาจใช้เวลานานขึ้นในการดำเนินการให้เสร็จสิ้น หากไอคอนแบตเตอรี่ของคุณเป็นสีเหลือง แสดงว่าโหมดพลังงานต่ำเปิดอยู่

ควรพิจารณาปิดโหมดพลังงานต่ำ หากต้องการให้ iPhone หรือ iPad ทำงานโดยไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับพลังงานต่ำ คุณสามารถเปิดหรือปิดโหมดพลังงานต่ำได้ในการตั้งค่า > แบตเตอรี่

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโหมดพลังงานต่ำ >

รักษาอุปกรณ์ไม่ให้ร้อนหรือเย็นเกินไป

iOS หรือ iPadOS จะปรับประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์หากเครื่องร้อนเกินไปเนื่องจากสภาพภายนอก เช่น ถูกทิ้งไว้ในรถที่ร้อน หรือใช้เป็นเวลานานโดยสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง ย้ายอุปกรณ์ของคุณไปยังตำแหน่งที่เย็นขึ้นและปล่อยให้เครื่องปรับอุณหภูมิ

อุณหภูมิที่เย็นจัดก็อาจทำให้อุปกรณ์ของคุณช้าลงได้ หากอุปกรณ์ของคุณทำงานช้าลงหลังจากสัมผัสกับความเย็น ให้ย้ายเครื่องไปยังตำแหน่งที่อุ่นขึ้น

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุณหภูมิในการทำงานที่ยอมรับได้ >

ดูที่สภาพแบตเตอรี่ของคุณ

แบตเตอรี่แบบชาร์จซ้ำได้ทุกชนิดเป็นชิ้นส่วนสิ้นเปลืองซึ่งจะมีประสิทธิภาพลดลงเมื่อมีอายุทางเคมีเพิ่มขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป ความจุและประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดของแบตเตอรี่แบบชาร์จได้ใน iPhone และ iPad ทุกรุ่นจะเสื่อมสภาพลงและจะต้องเปลี่ยนใหม่ในที่สุด iOS สามารถแสดงสภาพแบตเตอรี่หรือให้คำแนะนำหากจำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ iPhone ไปที่การตั้งค่า > แบตเตอรี่ แล้วแตะสุขภาพแบตเตอรี่ สุขภาพแบตเตอรี่มีให้บริการเฉพาะบน iPhone เท่านั้น

ตรวจสอบแบตเตอรี่ iPhone >

ดูข้อมูลช่วยเหลือเพิ่มเติม

การให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ผลิตโดย Apple หรือเว็บไซต์อิสระที่ Apple ไม่ได้ควบคุมหรือทดสอบไม่ถือเป็นการแนะนำหรือการรับรองใดๆ Apple จะไม่รับผิดชอบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเลือก ประสิทธิภาพการทำงาน หรือการใช้งานเว็บไซต์หรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทอื่น Apple ไม่รับรองความถูกต้องหรือความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ของบริษัทอื่น โปรดติดต่อผู้จำหน่ายหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

วันที่เผยแพร่: