SLN

ฟังก์ชั่น SLN จะแสดงค่าออกมาเป็นค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์สำหรับช่วงเวลาเดียวที่ใช้วิธีเชิงเส้นตรง อาร์กิวเมนต์ทั้งหมดเป็นค่าตัวเลข

SLN(ต้นทุน, มูลค่าหลังหักค่าเสื่อมราคา, ระยะเวลา)

ต้นทุน: ต้นทุนของสินทรัพย์ที่จะถูกหักค่าเสื่อมราคา ต้นทุนมักจะจัดรูปแบบเป็นสกุลเงินและต้องมีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 0 โดยทั่วไปต้นทุนคือราคาซื้อ รวมทั้งภาษี ค่าขนส่ง และการตั้งค่า ผลประโยชน์ทางภาษีบางกรณีอาจจะหักล้างจากต้นทุน

มูลค่าหลังหักค่าเสื่อมราคา: มูลค่าหลังหักค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ มูลค่าหลังหักค่าเสื่อมราคามักจะจัดรูปแบบเป็นสกุลเงินและต้องมีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 0

ระยะเวลา: จำนวนของระยะเวลาที่สินทรัพย์จะเสื่อมราคา รู้จักในชื่อระยะเวลาเสื่อมราคาหรืออายุการใช้งานที่คาดหวัง ระยะเวลาต้องมากกว่า 0 ส่วนทศนิยม (ส่วนย่อย) ของ ระยะเวลา สามารถใช้งานได้ (เช่น 5.5 สำหรับระยะเวลาเสื่อมราคาเป็น 5 ปีครึ่ง)

หมายเหตุ

สกุลเงินที่แสดงในผลลัพธ์ฟังก์ชั่นนี้จะขึ้นอยู่กับการตั้งค่าภาษาและภูมิภาคของคุณ (ในการตั้งค่าระบบใน macOS และการตั้งค่าใน iOS และ iPadOS) หรือในการตั้งค่าเขตเวลาและภูมิภาคในการตั้งค่า iCloud

ตัวอย่างเช่น
สมมติให้คุณซื้อสินทรัพย์ด้วยราคาเป็น $10,000 (ต้นทุน) และประเมินมูลค่าหลังหักค่าเสื่อมราคาเป็น $1,000 (มูลค่าหลังหักค่าเสื่อมราคา) ที่เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาเสื่อมราคาเมื่อครบ 6 ปี (ระยะเวลา) =SLN(10000, 1000, 6) จะส่งค่ากลับมาเป็น $1,500 ซึ่งเป็นค่าเสื่อมราคาต่อปีในหน่วยดอลลาร์ โดยขึ้นอยู่กับค่าที่กำหนดให้ไว้ =SLN(10000, 0, 6) จะแสดงค่าออกมาเป็น $1,666.67 ซึ่งเป็นค่าเสื่อมราคาต่อปีในหน่วยดอลลาร์ หากเป็นสินทรัพย์เดียวกันและไม่มีการประเมินมูลค่าหลังหักค่าเสื่อมราคา

ตัวอย่างเช่น

สมมติให้คุณซื้อสินทรัพย์ด้วยราคาเป็น $10,000 (ต้นทุน) และประเมินมูลค่าหลังหักค่าเสื่อมราคาเป็น $1,000 (มูลค่าหลังหักค่าเสื่อมราคา) ที่เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาเสื่อมราคาเมื่อครบ 6 ปี (ระยะเวลา)

=SLN(10000, 1000, 6) จะส่งค่ากลับมาเป็น $1,500 ซึ่งเป็นค่าเสื่อมราคาต่อปีในหน่วยดอลลาร์ โดยขึ้นอยู่กับค่าที่กำหนดให้ไว้

=SLN(10000, 0, 6) จะแสดงค่าออกมาเป็น $1,666.67 ซึ่งเป็นค่าเสื่อมราคาต่อปีในหน่วยดอลลาร์ หากเป็นสินทรัพย์เดียวกันและไม่มีการประเมินมูลค่าหลังหักค่าเสื่อมราคา

ดูเพิ่มเติมDB DDB SYD VDB

เป็นประโยชน์ไหม

วิธีใช้สูตรและฟังก์ชั่น

SLN

หมายเหตุ