การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับกล้องของ iPad

การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับกล้องหรือ LiDAR

การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับกล้องหน้าหรือกล้อง TrueDepth หรือ Face ID

การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับกล้องหรือ LiDAR

ระบุปัญหา

อ่านบทความบริการช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องหากคุณสังเกตเห็นปัญหาใดๆ ต่อไปนี้

• ปัญหาเกี่ยวกับรูปภาพหรือภาพวิดีโอ:

  • เบลอหรือไม่ชัด

  • มืดเกินไปหรือสว่างเกินไป

  • มีเส้นหรือแถบสี

  • มีจุด

  • มีสมดุลสีที่ไม่ถูกต้อง

  • มีแสงแฟลร์ แสงฟุ้ง หรือจุดบริเวณขอบที่ผิดปกติ

  • มีรอยขีดเป็นสีและดูสว่าง

• ปัญหาเกี่ยวกับกล้อง:

  • ถ่ายภาพไม่ได้

  • บันทึกวิดีโอไม่ได้

  • แอปกล้องไม่แสดงตัวอย่างภาพก่อนถ่าย

  • แอปกล้องปิดทำงานโดยไม่คาดคิด

  • แฟลช LED ไม่ทำงาน

  • แอปกล้องไม่สลับระหว่างกล้องกับกล้องหน้าหรือกล้อง TrueDepth

  • กล้องไม่สามารถสลับเป็นกล้องเทเลโฟโต้เพื่อซูมแบบออปติคัลมากกว่า 2 เท่าในสภาวะแสงจ้า

  • มีฝุ่นละอองหรือวัสดุแปลกปลอมอื่นๆ ในเลนส์กล้อง

• ปัญหาเกี่ยวกับ LiDAR:

  • สแกนเนอร์ LiDAR วัดไม่ได้

บทความบริการช่วยเหลือที่เกี่ยวข้อง

• หากกล้องหรือแฟลชบน iPhone, iPad หรือ iPod touch ไม่ทำงาน

หากยังแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้หลังจากที่ทำตามบทความบริการช่วยเหลือแล้ว ให้ดำเนินการต่อในส่วนถัดไป

ลองทำตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว

1. iPad รุ่นต่างๆ มีกล้องและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เช่น LiDAR ดูที่ระบุรุ่น iPad เพื่อรับความช่วยเหลือในการระบุรุ่น iPad

2. ใช้แอปเครื่องมือวัดเพื่อตรวจสอบ LiDAR ในรุ่นที่ใช้งานร่วมกันได้

3. ทำความสะอาดเลนส์กล้องทั้งหมดด้วยผ้านุ่มไม่เป็นขุยที่บิดหมาด เช่น ผ้าเช็ดเลนส์

   • ข้อสำคัญ: ถอดสายทั้งหมดและปิด iPad ก่อน ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารฟอกขาวหรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หลีกเลี่ยงไม่ให้ความชื้นเข้าไปในช่องเปิดต่างๆ และห้ามแช่ iPad ในสารทำความสะอาด ห้ามใช้ที่เป่าลม

4. ถอดเคส อุปกรณ์เสริม หรือฟิล์มกันรอยที่อาจบังกล้องหรือแฟลช หรือทำให้มีแม่เหล็กอยู่ใกล้ตัวกล้อง ถอดอุปกรณ์เสริมทั้งหมดก่อนทดสอบ

5. ตรวจสอบ iPad เพื่อดูความเสียหายรอบๆ กล้อง ความเสียหายใดก็ตามที่เกิดกับกล้องอาจทำให้ต้องซ่อมกล้อง เช่น ความเสียหายจากการทำ iPad หล่น

6. โปรดดูขั้นตอนและแหล่งข้อมูลความช่วยเหลือได้ในตรวจสอบอย่างรวดเร็วสำหรับการแก้ไขปัญหา

เรียกใช้การทดสอบด้วยตนเองและการทดสอบเพื่อวินิจฉัย

หากแก้ไขปัญหานี้ไม่สำเร็จหลังจากที่ทำตามบทความบริการช่วยเหลือหรือตรวจหาสาเหตุที่เป็นไปได้แล้ว ให้เรียกใช้เครื่องมือวินิจฉัยและการทดสอบด้วยตนเองต่อไปนี้เพื่อช่วยจำแนกสาเหตุของปัญหา:

1. ถ่ายภาพจากหน้าจอล็อคโดยใช้แอปกล้องเพื่อทดสอบคุณภาพของกล้อง

2. เรียกใช้ชุดการวินิจฉัย Mobile Resource Inspector (MRI)

3. เรียกใช้ชุดการวินิจฉัยคุณภาพของภาพจากกล้องทำตามคำแนะนำของชุดการวินิจฉัยเพื่อบันทึกความผิดปกติหรือการบิดเบือนใดๆ ที่พบระหว่างการทดสอบ

เปลี่ยนชิ้นส่วน

หากยังแก้ไขปัญหาไม่สำเร็จหรือจำแนกปัญหาไม่ได้หลังจากที่ได้ทำตามขั้นตอนก่อนหน้าแล้ว ให้เปลี่ยนใน iPad Air (ชิป M2) และใหม่กว่า, iPad Pro (ชิป M4) และใหม่กว่า, iPad mini (ชิป A17 Pro) และ iPad (ชิป A16) รุ่นต่างๆ

หลังจากซ่อมเสร็จแล้ว ให้เปิดเครื่องอุปกรณ์และตรวจสอบยืนยันว่ากล้องและ LiDAR ทำงานเป็นปกติ

หมายเหตุ: หัวข้อนี้ต้องมีการสั่งชิ้นส่วนและเครื่องมือ การเปลี่ยนชิ้นส่วนอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาของอุปกรณ์ได้ สำหรับรุ่นอื่นๆ คุณสามารถค้นหาตัวเลือกการให้บริการอื่นๆ ได้ที่ support.apple.com/th-th/repair

กลับขึ้นด้านบน

การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับกล้องหน้าหรือกล้อง TrueDepth หรือ Face ID

ระบุปัญหา

อ่านบทความบริการช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องหากคุณสังเกตเห็นปัญหาใดๆ ต่อไปนี้

• ปัญหาเกี่ยวกับรูปภาพหรือภาพวิดีโอ:

  • เบลอหรือไม่ชัด

  • มืดเกินไปหรือสว่างเกินไป

  • มีเส้นหรือแถบสี

  • มีจุด

  • มีสมดุลสีที่ไม่ถูกต้อง

  • มีแสงแฟลร์ แสงฟุ้ง หรือจุดบริเวณขอบที่ผิดปกติ

  • มีรอยขีดเป็นสีและดูสว่าง

• ปัญหาเกี่ยวกับกล้อง:

  • ถ่ายภาพไม่ได้

  • บันทึกวิดีโอไม่ได้

  • แอปกล้องไม่แสดงตัวอย่างภาพก่อนถ่าย

  • แอปกล้องปิดทำงานโดยไม่คาดคิด

  • แอปกล้องไม่สลับระหว่างกล้องกับกล้องหน้าหรือกล้อง TrueDepth

  • มีฝุ่นละอองหรือวัสดุแปลกปลอมอื่นๆ ในเลนส์กล้อง

• ปัญหาเกี่ยวกับ Face ID:

  • ไม่สามารถตั้งค่า Face ID

  • ไม่สามารถจดจำใบหน้าของบุคคล

  • ไม่สามารถปลดล็อค iPad โดยใช้ Face ID

  • ไม่สามารถทำรายการซื้อโดยใช้ Face ID

  • การแจ้งเตือน "Face ID ถูกปิดใช้งาน" ปรากฏขึ้น

หากยังแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้หลังจากที่ทำตามบทความบริการช่วยเหลือแล้ว ให้ดำเนินการต่อในส่วนถัดไป

ลองทำตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว

1. iPad รุ่นต่างๆ มีกล้องและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เช่น Face ID ดูที่ระบุรุ่น iPad เพื่อรับความช่วยเหลือในการระบุรุ่น iPad

2. ทำความสะอาดเลนส์กล้องทั้งหมดด้วยผ้านุ่มไม่เป็นขุยที่บิดหมาด เช่น ผ้าเช็ดเลนส์

   • ข้อสำคัญ: ถอดสายทั้งหมดและปิด iPad ก่อน ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารฟอกขาวหรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หลีกเลี่ยงไม่ให้ความชื้นเข้าไปในช่องเปิดต่างๆ และห้ามแช่ iPad ในสารทำความสะอาด ห้ามใช้ที่เป่าลม

3. ถอดเคส อุปกรณ์เสริม หรือฟิล์มกันรอยที่อาจบังกล้องหรือแฟลช หรือทำให้มีแม่เหล็กอยู่ใกล้ตัวกล้อง ถอดอุปกรณ์เสริมทั้งหมดก่อนทดสอบ

4. ตรวจสอบ iPad เพื่อดูความเสียหายรอบๆ กล้อง ความเสียหายใดก็ตามที่เกิดกับกล้องอาจทำให้ต้องซ่อมกล้อง เช่น ความเสียหายจากการทำ iPad หล่น

5. ตรวจสอบว่ากล้องหน้าหรือกล้อง TrueDepth สามารถเห็นดวงตา จมูก และปากของคุณได้อย่างชัดเจนทั้งหมด หากคุณสวมแว่นกันแดดที่กันแสงบางประเภท ให้ลองใช้ Face ID โดยไม่สวมแว่นกันแดด

6. ตรวจสอบให้แน่ใจว่า iPad อยู่ห่างจากใบหน้า 10-20 นิ้ว

7. โปรดดูขั้นตอนและแหล่งข้อมูลความช่วยเหลือได้ในตรวจสอบอย่างรวดเร็วสำหรับการแก้ไขปัญหา

เรียกใช้การทดสอบด้วยตนเองและการทดสอบเพื่อวินิจฉัย

หากแก้ไขปัญหานี้ไม่สำเร็จหลังจากที่ทำตามบทความบริการช่วยเหลือหรือตรวจหาสาเหตุที่เป็นไปได้แล้ว ให้เรียกใช้เครื่องมือวินิจฉัยและการทดสอบด้วยตนเองต่อไปนี้เพื่อช่วยจำแนกสาเหตุของปัญหา:

1. ถ่ายภาพจากหน้าจอล็อคโดยใช้แอปกล้องเพื่อทดสอบคุณภาพของกล้อง

2. เรียกใช้ชุดการวินิจฉัย Mobile Resource Inspector (MRI)

3. เรียกใช้ชุดการวินิจฉัยคุณภาพของภาพจากกล้องทำตามคำแนะนำของชุดการวินิจฉัยเพื่อบันทึกความผิดปกติหรือการบิดเบือนใดๆ ที่พบระหว่างการทดสอบ

4. เรียกใช้ชุดการวินิจฉัย Face ID

เปลี่ยนชิ้นส่วน

หากยังแก้ไขปัญหาไม่สำเร็จหรือจำแนกปัญหาไม่ได้หลังจากที่ได้ทำตามขั้นตอนก่อนหน้าแล้ว ให้เปลี่ยนกล้องหน้าหรือกล้อง TrueDepthใน iPad Air (ชิป M2) และใหม่กว่า, iPad Pro (ชิป M4) และใหม่กว่า, iPad mini (ชิป A17 Pro) และ iPad (ชิป A16) รุ่นต่างๆ

หลังจากซ่อมเสร็จแล้ว ให้เปิดเครื่องอุปกรณ์และตรวจสอบยืนยันว่ากล้องหน้าหรือกล้อง TrueDepth และ Face ID ทำงานเป็นปกติ

หมายเหตุ: หัวข้อนี้ต้องมีการสั่งชิ้นส่วนและเครื่องมือ การเปลี่ยนชิ้นส่วนอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาของอุปกรณ์ได้ สำหรับรุ่นอื่นๆ คุณสามารถค้นหาตัวเลือกการให้บริการอื่นๆ ได้ที่ support.apple.com/th-th/repair

กลับขึ้นด้านบน