Apple ID คือบัญชีที่คุณใช้เพื่อเข้าถึงบริการต่างๆ ของ Apple เช่น App Store, Apple Music, iCloud, iMessage, FaceTime เป็นต้น โดย Apple ID จะประกอบด้วยที่อยู่อีเมลและรหัสผ่านที่คุณใช้ในการลงชื่อเข้าใช้ รวมถึงข้อมูลการติดต่อ การชำระเงิน และรายละเอียดด้านความปลอดภัยทั้งหมดที่คุณใช้กับบริการต่างๆ ของ Apple ทั้งนี้ Apple ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลของคุณมาก และใช้แนวทางการปฏิบัติที่เป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรมเพื่อปกป้อง Apple ID ของคุณ
นี่คือแนวทางการปฏิบัติที่ดีที่สุดบางประการที่คุณควรดำเนินการเพื่อให้บัญชีของคุณมีความปลอดภัยมากที่สุด
ใช้รหัสผ่านที่เดายากสำหรับ Apple ID
นโยบายของ Apple กำหนดให้คุณใช้รหัสผ่านที่เดายากกับ Apple ID ของคุณ โดยรหัสผ่านของคุณจะต้องมีแปดอักขระขึ้นไปซึ่งประกอบไปด้วยตัวอักษรพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก และมีตัวเลขอย่างน้อยหนึ่งตัว นอกจากนี้ คุณยังสามารถเพิ่มอักขระพิเศษและเครื่องหมายวรรคตอนเพื่อให้รหัสผ่านของคุณเดายากยิ่งขึ้นได้ Apple ยังใช้กฎเกี่ยวกับรหัสผ่านอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่ารหัสผ่านของคุณนั้นคาดเดาได้ยากอีกด้วย
หากคุณไม่แน่ใจว่ารหัสผ่านของคุณคาดเดายาก โปรดไปที่หน้าบัญชี Apple ID เพื่อรีเซ็ตรหัสผ่านโดยเร็วที่สุด
ตั้งคำตอบที่เดาได้ยากให้กับคำถามเพื่อความปลอดภัย
Apple ใช้คำถามเพื่อความปลอดภัยเป็นวิธีการสำรองเพื่อใช้ระบุตัวคุณระหว่างออนไลน์หรือเมื่อคุณติดต่อกับฝ่ายสนับสนุนของ Apple คำถามเพื่อความปลอดภัยได้รับการออกแบบมาให้คุณจดจำได้แต่คนอื่นจะเดาได้ยาก เมื่อใช้ร่วมกับข้อมูลการระบุตัวบุคคลอื่นๆ จะช่วยให้ Apple สามารถยืนยันได้ว่าคุณคือผู้ที่กำลังร้องขอการเข้าถึงบัญชี หากคุณยังไม่ได้เลือกคำถามเพื่อความปลอดภัย โปรดไปที่หน้าบัญชี Apple ID เพื่อตั้งคำถาม
ปกป้องบัญชีของคุณด้วยการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัย
Apple มีวิธีการรักษาความปลอดภัยแบบปรับปรุงใหม่ที่เรียกว่าการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัย ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณเป็นเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าถึงบัญชีของคุณได้ แม้ว่าจะมีบุคคลอื่นที่รู้รหัสผ่านของคุณก็ตาม เมื่อคุณป้อน Apple ID และรหัสผ่านเป็นครั้งแรกในอุปกรณ์ใหม่ เราจะขอให้คุณยืนยันตัวตนด้วยรหัสการตรวจสอบยืนยันหกหลัก โดยรหัสยืนยันนี้จะปรากฏขึ้นโดยอัตโนมัติบนอุปกรณ์อื่นๆ ของคุณ หรือถูกส่งไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่คุณเชื่อถือ เพียงแค่ป้อนรหัสเพื่อลงชื่อเข้าใช้ และเข้าถึงบัญชีของคุณบนอุปกรณ์เครื่องใหม่ อย่าบอกรหัสผ่านหรือรหัสการตรวจสอบยืนยันของคุณให้คนอื่นทราบ
หากคุณใช้ iOS 11.3 ขึ้นไปใน iPhone คุณอาจไม่จำเป็นต้องป้อนรหัสการตรวจสอบยืนยัน ในบางกรณี หมายเลขโทรศัพท์ที่เชื่อถือได้สามารถยืนยันในเบื้องหลังของ iPhone สิ่งที่คุณต้องทำจึงน้อยลงไปหนึ่งอย่าง และบัญชีของคุณก็ยังคงได้รับการป้องกันด้วยการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัย
การตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยสร้างขึ้นมาพร้อมกับ iOS, macOS, tvOS, watchOS รวมถึงเว็บไซต์ต่างๆ ของ Apple โดยตรง การป้องกันด้วยการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยมีให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้ iCloud และ iTunes ด้วยอุปกรณ์ที่ใช้ iOS รุ่นล่าสุดหรือ macOSอย่างน้อยหนึ่งเครื่อง การตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยเป็นวิธีการรักษาความปลอดภัยตามค่าเริ่มต้นสำหรับ Apple ID ใหม่บางหมายเลขที่สร้างขึ้นบน iOS 10.3 ขึ้นไป และ macOS 10.12.4 ขึ้นไป
หากคุณไม่มีอุปกรณ์ที่สามารถอัพเดทเป็น iOS 9 ขึ้นไป หรือ OS X El Capitan ขึ้นไปได้ คุณสามารถตั้งค่าการตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอนสำหรับ Apple ID ของคุณแทน
คุณต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยจึงจะสามารถใช้บริการบางอย่างที่ต้องมีการรักษาความปลอดภัยที่ได้รับการปรับปรุงได้
ตรวจสอบการเข้ารหัสและ SSL
เว็บเพจทั้งหมดที่คุณสามารถดูหรือเปลี่ยน Apple ID จะใช้ Secure Sockets Layer (SSL) เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณ สำหรับ Safari ให้มองหา ในเบราเซอร์เมื่อเข้าถึงบัญชีของคุณที่หน้าบัญชี Apple ID เพื่อให้แน่ใจว่าเซสชันของคุณมีการเข้ารหัสและมีความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์
นโยบายความเป็นส่วนตัวและนโยบายความปลอดภัยสำหรับพนักงาน
นอกเหนือจากรหัสผ่านที่เดายาก การเข้ารหัส และเทคโนโลยีอื่นๆ แล้ว Apple ยังมีนโยบายและขั้นตอนปฏิบัติที่เข้มงวดเพื่อป้องกันการเข้าถึงบัญชีของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต หากคุณไม่สามารถพิสูจน์ตัวตนโดยตอบคำถามเพื่อความปลอดภัยและเกณฑ์อื่นๆ ที่เลือกไว้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ฝ่ายสนับสนุนของ Apple จะไม่สามารถช่วยคุณรีเซ็ตรหัสผ่านหรือกระทำการอื่นใดกับบัญชีของคุณได้ โดยนโยบายเหล่านี้จะมีการตรวจสอบและทบทวนเป็นระยะๆ
เคล็ดลับอื่นๆ ในการดูแลบัญชีของคุณให้ปลอดภัยอยู่เสมอ
การรักษาความปลอดภัยทางออนไลน์ที่ดีนั้นจะต้องอาศัยทั้งการปฏิบัติจากบริษัทต่างๆ โดยใช้บริการอินเทอร์เน็ต ร่วมกับพฤติกรรมการใช้งานอย่างมีความรู้ความเข้าใจของผู้ใช้ ด้านล่างนี้คือเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่ควรทำตามเพื่อให้คุณมีความปลอดภัยสูงสุดเมื่อใช้ Apple ID และบัญชีออนไลน์อื่นๆ โดยมีดังนี้
เคล็ดลับสำหรับรหัสผ่าน มีดังนี้
- ให้ใช้รหัสผ่านที่เดายากเสมอ
- อย่าใช้รหัสผ่าน Apple ID กับบัญชีออนไลน์อื่นๆ
- เปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำ และหลีกเลี่ยงการนำรหัสผ่านเก่ามาใช้
- เลือกคำถามและคำตอบเพื่อความปลอดภัยที่เดาได้ยาก โดยคำตอบของคุณอาจเป็นอะไรที่ไร้สาระก็ได้ ตราบใดที่คุณสามารถจำได้ ตัวอย่างเช่น คำถาม: สีโปรดของคุณคืออะไร คำตอบ: โมซาร์ท
เคล็ดลับสำหรับบัญชี มีดังนี้
- หากคุณไม่ได้ใช้ที่อยู่อีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์ที่ผูกไว้กับ Apple ID แล้ว ขอให้อัพเดท Apple ID ให้เป็นข้อมูลปัจจุบันโดยเร็วที่สุด
- ตั้งค่าการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยสำหรับ Apple ID เพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่งให้กับบัญชีของคุณ และช่วยให้คุณไม่จำเป็นต้องใช้คำถามเพื่อความปลอดภัย
- หลีกเลี่ยงกลอุบายหลอกลวง อย่าคลิกลิงก์ในอีเมลหรือข้อความที่น่าสงสัย และอย่าให้ข้อมูลส่วนตัวกับเว็บไซต์ใดก็ตามที่คุณไม่แน่ใจว่าเป็นเว็บไซต์นั้นจริงหรือไม่โดยเด็ดขาด เรียนรู้วิธีระบุว่าเป็นความพยายามหลอกลวงหรือไม่
- อย่าใช้ Apple ID ร่วมกับคนอื่น แม้ว่าจะเป็นคนในครอบครัวก็ตาม
- เมื่อใช้คอมพิวเตอร์สาธารณะ ให้ลงชื่อออกทุกครั้งเมื่อคุณใช้งานเสร็จเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเข้าใช้บัญชีของคุณได้
อย่าให้รหัสผ่าน คำถามเพื่อความปลอดภัย รหัสยืนยันตัวตน คีย์การกู้คืน หรือรายละเอียดด้านความปลอดภัยของบัญชีอื่นๆ กับคนอื่น และ Apple จะไม่ขอข้อมูลนี้จากคุณโดยเด็ดขาด
หากฝ่ายสนับสนุนของ Apple ต้องการยืนยันตัวตนของคุณ เราอาจขอให้คุณสร้าง PIN บริการช่วยเหลือชั่วคราว โดยเราจะสอบถามเฉพาะข้อมูลนี้ทางโทรศัพท์ หลังจากที่คุณติดต่อขอความช่วยเหลือจากฝ่ายสนับสนุนของ Apple
ดูเพิ่มเติม
ดูสิ่งที่ควรทำหากคุณคิดว่าข้อมูลบัญชีของคุณตกอยู่ในความเสี่ยง หากคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม โปรดติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Apple
FaceTime อาจไม่สามารถใช้งานได้ในบางประเทศหรือบางภูมิภาค