ระบุเพลงโดยใช้ Shazam บน iPhone, iPad หรือ Android
คุณสามารถระบุเพลงที่เล่นอยู่รอบตัวคุณได้หลายวิธีบน iPhone, iPad หรืออุปกรณ์ Android
ในการตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ของคุณมีการตั้งค่าอย่างถูกต้องเพื่อประสบการณ์ Shazam ที่ดีที่สุด และเพื่อบันทึกเพลงที่ระบุของคุณ ให้ดูที่ก่อนที่คุณจะใช้ Shazam
หมายเหตุ: Shazam จะไม่บันทึกหรือจัดเก็บเสียงที่ตรวจหา และ Apple ไม่สามารถเข้าถึงเสียงที่บันทึกบนอุปกรณ์ได้ โปรดดูที่ Shazam และความเป็นส่วนตัวและนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Apple สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุเพลงที่เล่นอยู่รอบตัวคุณ
บน iPhone, iPad หรือ Android ให้ปฏิบัติตามวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้:
เปิดแอป Shazam แล้วแตะปุ่ม Shazam
แตะไอคอนแอป Shazam บนหน้าจอโฮมของคุณค้างไว้ จากนั้นแตะ Shazam Now (Shazam ตอนนี้)
ถ้านี่เป็นครั้งแรกที่คุณใช้ Shazam ให้ทำตามขั้นตอนบนหน้าจอสำหรับการเข้าถึงไมโครโฟนและตำแหน่งที่ตั้ง
หน้าจอแทร็คจะเปิดขึ้นและแสดงเพลงที่ระบุ ซึ่งจะถูกบันทึกในแอป Shazam ด้วย
คอนเสิร์ตใดๆ ที่กำลังจะจัดขึ้นจะแสดงด้านล่างเพลงและศิลปินในหน้าจอแทร็ค ให้ดูที่ค้นหาคอนเสิร์ตด้วย Shazam
คุณสามารถระบุเพลงเมื่อคุณไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ Shazam จะจดจำคำขอ จากนั้นจะระบุเพลง (หากเพลงนั้นมีอยู่ในแค็ตตาล็อกเพลง Shazam) และเพิ่มเพลงไปยังคอลเลกชั่นของคุณหลังจากที่คุณกลับมาออนไลน์
ระบุเพลงโดยใช้ Auto Shazam (Shazam อัตโนมัติ)
ต้องการระบุและบันทึกเพลงทั้งหมดในตอนหนึ่งของรายการทีวีที่คุณชื่นชอบหรือเพลงที่เล่นอยู่รอบตัวคุณขณะรับประทานอาหารนอกบ้านใช่หรือไม่ เปิดใช้ Auto Shazam (Shazam อัตโนมัติ) เพื่อให้ Shazam ระบุเพลงโดยอัตโนมัติ แม้ว่าคุณจะสลับไปยังแอปอื่นหรืออุปกรณ์ของคุณจะล็อคอยู่
บน iPhone, iPad หรือ Android ให้ปฏิบัติตามวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้เพื่อเปิดใช้ Auto Shazam (Shazam อัตโนมัติ):
ในแอป Shazam: แตะปุ่ม Shazam ค้างไว้
บนหน้าจอโฮมของอุปกรณ์ของคุณ: แตะไอคอนแอป Shazam ค้างไว้ แล้วแตะ Auto Shazam (Shazam อัตโนมัติ)
บน iPhone หรือ iPad เมื่อ Auto Shazam (Shazam อัตโนมัติ) จะถูกเปิดใช้ เพลงที่ระบุทั้งหมดจะถูกบันทึกไปยัง My Music (เพลงของฉัน) ในแอป Shazam โดยจัดกลุ่มตามวันที่
บน Android เพลงทั้งหมดที่ระบุแล้วจะถูกบันทึกไปยัง Library (คลัง) ในแอป Shazam โดยจัดกลุ่มตามวันที่
ในการปิดใช้ Auto Shazam (Shazam อัตโนมัติ) ให้ปฏิบัติตามวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้:
ในแอป Shazam: แตะปุ่ม Shazam
บนหน้าจอโฮมของ iPhone หรือ iPad ของคุณหรือในแอปอื่น: แตะ (หรือการแสดงเวลาสีส้ม) ใน Dynamic Island (iPhone 14 Pro ขึ้นไป) หรือที่มุมซ้ายบนของหน้าจอ จากนั้นแตะปุ่ม Shazam ในแอป
บนหน้าจอโฮมของอุปกรณ์ Android ของคุณหรือในแอปอื่น: ปัดลงจากขอบด้านบนสุดของหน้าจอเพื่อแสดงการแจ้งเตือน แล้วแตะ ทางด้านขวาของ “Auto Shazam is on” (Auto Shazam เปิดอยู่) จากนั้นแตะ ปิดใช้
ระบุเพลงที่เล่นในแอปอื่น
คุณสามารถใช้แอป Shazam เพื่อระบุเพลงที่เล่นในแอปอื่นบนอุปกรณ์ของคุณได้อย่างรวดเร็ว (เช่น TikTok, YouTube หรือ Instagram)
ขณะที่เพลงเล่นอยู่ในแอปอื่น ให้เปิดแอป Shazam บน iPhone, iPad หรือ Android จากนั้นแตะปุ่ม Shazam
บน iPhone 14 Pro ขึ้นไป Dynamic Island จะแสดงไอคอนไมโครโฟน (หรือจุดสีส้ม) ซึ่งบ่งชี้ว่า Shazam กำลังทำงานเพื่อระบุเพลง
เพลงที่ระบุแล้วจะแสดงในการแจ้งเตือน
ระบุเพลงที่เล่นในแอปหรือเล่นผ่านหูฟังบน iPhone หรือ iPad
ถ้าเฮดโฟนหรือหูฟังของคุณมีไมโครโฟน ให้ใช้การบอกชื่อเพลงด้วย Shazam ในศูนย์ควบคุมเพื่อระบุเพลงที่เล่นอยู่รอบตัวคุณหรือในแอป เช่น TikTok, YouTube หรือ Instagram อย่างรวดเร็ว
บน iPhone หรือ iPad ให้เพิ่มการบอกชื่อเพลงไปยังศูนย์ควบคุม
เปิดศูนย์ควบคุม แล้วแตะ
เพลงที่ระบุแล้วจะแสดงในการแจ้งเตือนและจะถูกบันทึกไปยังแอป Shazam จากนั้นคุณจะสามารถบันทึกเพลงไปยังเพลย์ลิสต์ Apple Music หรือเปิดเพลงใน Spotify ได้
ในการรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเพลง ให้ปฏิบัติตามวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้ในศูนย์ควบคุม:
แตะการแจ้งเตือนเพื่อเปิดหน้าจอแทร็คของเพลงใน Shazam
แตะ ค้างไว้เพื่อดูประวัติการบอกชื่อเพลงด้วย Shazam จากนั้นแตะเพลงเพื่อเปิดหน้าจอแทร็คของเพลงนั้นในแอป Shazam
ถ้าคุณไม่มีแอป Shazam ติดตั้งอยู่ การแตะการแจ้งเตือนจะแสดงผลลัพธ์ของแทร็ค Shazam แตะ เปิดใน Apple Music เพื่อเปิดเพลงในแอปเพลง
ระบุเพลงที่เล่นในแอปหรือเล่นผ่านหูฟังบน Android
ถ้าเฮดโฟนหรือหูฟังของคุณมีไมโครโฟน คุณสามารถใช้แถบการแจ้งเตือนหรือ Pop-Up Shazam (Shazam จากหน้าต่างที่แสดงขึ้น) เพื่อระบุเพลงที่เล่นอยู่รอบตัวคุณหรือในแอป เช่น TikTok, YouTube หรือ Instagram อย่างรวดเร็วได้
บน Android ให้ปฏิบัติตามวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้:
ปัดลงจากด้านบนสุดของหน้าจออุปกรณ์ แล้วเลือก Tap to Shazam (แตะเพื่อ Shazam) ในการแจ้งเตือน หลังจากที่ระบุเพลงแล้ว ให้แตะการแจ้งเตือนเพื่อเปิดหน้าจอแทร็คใน Shazam
ถ้า Tap to Shazam (แตะเพื่อ Shazam) ไม่แสดงขึ้นมาเมื่อคุณปัดลง ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่า “Shazam from notification bar” (Shazam จากแถบการแจ้งเตือน) เปิดใช้อยู่ในการตั้งค่าแอป Shazam
เปิดใช้ Pop-Up Shazam (Shazam จากหน้าต่างที่แสดงขึ้น) แล้วเริ่มเล่นเพลงในแอปอื่นที่ไม่ใช่ Shazam จากนั้นแตะปุ่ม Pop-Up Shazam (Shazam จากหน้าต่างที่แสดงขึ้น) ที่ขอบด้านขวาของหน้าจอ หลังจากที่ระบุเพลงแล้ว ให้แตะผลลัพธ์เพื่อเปิดหน้าจอแทร็คใน Shazam หรือแตะ เพื่อปิดเนื้อเพลง
ถ้าคุณไม่เห็นปุ่ม Pop-Up Shazam (Shazam จากหน้าต่างที่แสดงขึ้น) ตรวจสอบให้แน่ใจว่า “Appear on top” (แสดงอยู่บนสุด) เปิดใช้อยู่ใน Android Settings (การตั้งค่า Android) > Apps (แอป) > Shazam
เพลงที่คุณระบุโดยใช้แถบการแจ้งเตือนหรือ Pop-up Shazam (Shazam จากหน้าต่างที่แสดงขึ้น) จะถูกบันทึกไปยังแอป Shazam
ระบุเพลงโดยใช้วิดเจ็ต
วิดเจ็ตแสดงข้อมูลปัจจุบันจากแอปโปรดของคุณแบบทันที คุณสามารถเพิ่มวิดเจ็ต Shazam เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าถึงเพลงล่าสุด และปุ่ม Shazam ได้
ปฏิบัติตามวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้:
บน iPhone หรือ iPad: เพิ่มวิดเจ็ต Shazam ไปยังมุมมองวันนี้หรือหน้าจอโฮม หรือเพิ่มวิดเจ็ต Shazam ไปยังหน้าจอล็อค
บน Android: เพิ่มวิดเจ็ต Shazam ไปยังหน้าจอโฮม
แตะ ในวิดเจ็ตเพื่อระบุเพลง
ในมุมมองวันนี้หรือบนหน้าจอโฮมของคุณบน iPhone หรือ iPad คุณสามารถแตะเพลงล่าสุดในวิดเจ็ต แล้วแตะ เพื่อแสดงตัวอย่างหรือเล่นเพลงในแอป Shazam ได้
หมายเหตุ: ในการฟังเพลงเต็มในแอป Shazam หรือในแอปเพลง คุณจะต้องเป็นผู้สมัครรับ Apple Music ดูบทความบริการช่วยเหลือของ Apple เข้าร่วม Apple Music
แจ้งเพลงที่ระบุไม่ถูกต้อง
ถ้าคุณคิดว่า Shazam ระบุเพลงไม่ถูกต้อง คุณสามารถแจ้งในแอปได้ง่ายๆ
ในแอป Shazam บน iPhone, iPad หรือ Android ให้ปฏิบัติตามวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้:
ในหน้าจอแทร็คหรือหน้าจอกำลังเล่นอยู่ ให้แตะ แล้วแตะปุ่ม “เพลงผิดใช่ไหม” จากนั้นแตะ แจ้ง
แตะ บนเพลง แล้วแตะปุ่ม “Wrong song?” (เพลงผิดใช่ไหม) จากนั้นแตะ แจ้ง
เคล็ดลับ: คุณยังสามารถระบุเพลงในเว็บเบราว์เซอร์ที่คุณชื่นชอบ หรือระบุเพลงในแอปข้อความได้อีกด้วย