ใช้ตัวดำเนินการสตริงและอักขระตัวแทนใน Keynote บน Mac
ตัวดำเนินการสตริง (&) สามารถใช้ได้ในรูปแบบสูตรเพื่อเชื่อมหรือรวมสตริงอย่างน้อยสองสตริง หรือรายการเนื้อหาของเซลล์ที่อ้างอิงอย่างน้อยสองรายการ อักขระตัวแทน (*,?,~) สามารถใช้ตามเงื่อนไขเพื่อแทนอักขระอย่างน้อยหนึ่งตัวได้
เชื่อมสตริงหรือรายการเนื้อหาของเซลล์เข้าด้วยกัน
ตัวอย่างการใช้ตัวดำเนินการสตริง & ได้แก่:
“Abc”&”Def” จะส่งค่ากลับมาเป็น “AbcDef”
“Abc”&A1 จะส่งค่ากลับมาเป็น “Abc2” หากเซลล์ A1 มี 2
A1&A2 จะส่งค่ากลับมาเป็น “12” หากเซลล์ A1 มี 1 และเซลล์ A2 มี 2
B2&”, “&E2 จะส่งค่ากลับมาเป็น “Last, First” หาก B2 มี “Last” และ E2 มี “First”
การใช้อักขระตัวแทนเพื่อหาอักขระเดี่ยวใดๆ ที่ตรงกัน
ตัวอย่างการใช้อักขระตัวแทน ? ในรูปแบบที่ตรงกัน:
“Ea?” จะหาสตริงที่ตรงกันที่เริ่มต้นด้วย “Ea” และที่มีอักขระเพิ่มเติมอีกหนึ่งอักขระเท่านั้น เช่น “Ea2” หรือ “Eac”
“Th??” จะหาสตริงที่ตรงกันที่เริ่มต้นด้วย “Th” และที่มีอักขระเพิ่มเติมอีกสองอักขระเท่านั้น เช่น “Then” และ “That”
COUNTIF(B2:E7,“?ip”) จะส่งจำนวนของเซลล์ในช่วง B2:E7 ที่มีค่าที่เริ่มต้นด้วยอักขระซึ่งตามหลังด้วย “ip” เช่น “rip” และ “tip” ซึ่งจะไม่ตรงกันกับ “drip” หรือ “trip”
การใช้อักขระตัวแทนเพื่อหาอักขระที่ตรงกันจำนวนเท่าใดก็ได้
ตัวอย่างการใช้อักขระตัวแทน * ในรูปแบบที่ตรงกัน:
“*ed” จะหาสตริงที่ตรงกันซึ่งยาวเท่าใดก็ได้ โดยลงท้ายด้วย “ed” เช่น “Ted” หรือ “Treed”
COUNTIF(B2:E7,“*it”) จะส่งค่ากลับมาเป็นจำนวนของเซลล์ในช่วง B2:E7 ที่มีค่าซึ่งลงท้ายด้วย “it” เช่น “bit” และ “mit” อักขระไม่ตรงกันกับ “mitt”
การหาอักขระตัวแทนที่ตรงกัน
ตัวอย่างของการใช้อักขระ ~ ในรูปแบบที่ตรงกัน:
“~?” จะหาเครื่องหมายคำถามที่ตรงกัน แทนที่จะใช้เครื่องหมายคำถามเพื่อให้ตรงกันกับอักขระเดี่ยวใดๆ
COUNTIF(E,“~*”) จะส่งค่ากลับมาเป็นจำนวนของเซลล์ในคอลัมน์ E ที่มีอักขระดอกจันอยู่
SEARCH(“~?”,B2) จะส่งค่ากลับมาเป็น 19 หากเซลล์ B2 มี “That is a question? Yes it is!” เมื่อเครื่องหมายคำถามนั้นเป็นอักขระตัวที่ 19 ในสตริง
ใช้อักขระตัวแทนหลายอักขระในเงื่อนไข
อักขระตัวแทน (? * ~) สามารถใช้ด้วยกันในนิพจน์ที่อนุญาตเงื่อนไขได้ ตัวอย่างคือ:
“*a?” จะหานิพจน์ที่ตรงกันซึ่งมีอักขระ “a” และตามหลังด้วยอักขระเดี่ยวอื่นใด เช่น “That,” “Cap,” และ “Irregular”
COUNTIF(B2:E7,“*on?”) จะส่งค่ากลับมาเป็นจำนวนของเซลล์ในช่วง B2:E7 ที่มีค่าซึ่งเริ่มต้นด้วยอักขระจำนวนเท่าใดก็ได้ (รวมถึงไม่มีเลย) ซึ่งตามหลังด้วย “on” จากนั้นเป็นอักขระเดี่ยว ค่านี้จะตรงกันกับคำต่างๆ เช่น “alone”, “bone”, “one” และ “none” ค่านี้จะไม่ตรงกันกับคำว่า “only” (มีสองอักขระตามหลัง “on”) หรือ “eon” (ไม่มีอักขระใดตามหลัง “on”)