การชาร์จและเชื่อมต่อกับช่องต่อ USB-C บน iPhone 15

USB-C เป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลซึ่งช่วยให้คุณสามารถชาร์จ ซิงค์ข้อมูล รวมถึงเล่นเสียงและวิดีโอได้ และ iPhone 15 ก็มาพร้อมช่องต่อ USB-C ที่ให้คุณชาร์จและเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ เช่น Mac, iPad, AirPods Pro (รุ่นที่ 2), อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก และจอภาพ

การชาร์จ iPhone

คุณสามารถชาร์จ iPhone ของคุณด้วยสาย USB-C และอะแดปเตอร์แปลงไฟที่สอดคล้องกับมาตรฐาน USB-C ซึ่งรวมถึงการจ่ายไฟผ่าน USB เช่น สายที่มาพร้อมกับ iPhone ของคุณ สายและอะแดปเตอร์แปลงไฟเหล่านี้มีจําหน่ายโดยทั่วไปทั้งจาก Apple และผู้ผลิตรายอื่น

เชื่อมต่อสายกับขั้วต่อ USB-C บน iPhone ของคุณ และกับอะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C ที่ใช้ร่วมกันได้ จากนั้นเสียบอะแดปเตอร์แปลงไฟเข้ากับเต้ารับที่ผนัง

หากคุณมีอะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C ขนาด 20 วัตต์ หรืออะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C ที่มีกําลังวัตต์สูงกว่าเหมือนที่ให้มาพร้อมกับแล็ปท็อป Mac คุณสามารถใช้อะแดปเตอร์นั้นเพื่อชาร์จ iPhone ได้เร็วขึ้น และยังสามารถชาร์จ iPhone โดยการต่อกับพอร์ต USB-C บนคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย

การเชื่อมต่อ iPhone กับ iPad, Mac และคอมพิวเตอร์อื่นๆ

คุณสามารถเชื่อมต่อ iPhone ของคุณกับ iPad, Mac และคอมพิวเตอร์อื่นๆ เพื่อถ่ายโอนข้อมูล เช่น รูปภาพและวิดีโอของคุณ โดยใช้สาย USB-C ที่สอดคล้องกับมาตรฐาน USB-C เช่น สายที่มาพร้อมกับ iPhone ของคุณ สายและอะแดปเตอร์แปลงไฟเหล่านี้มีจําหน่ายโดยทั่วไปทั้งจาก Apple และผู้ผลิตรายอื่น เพียงแค่ต่อปลายด้านหนึ่งของสายชาร์จ USB-C ที่ให้มาเข้ากับช่องต่อ USB-C บน iPhone และอีกด้านเข้ากับพอร์ต USB-C บนคอมพิวเตอร์

iPhone จะชาร์จไปด้วยขณะที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เหล่านี้ นอกจากนี้ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ยังรองรับความเร็วระดับ USB 3.2 Gen 2 สูงสุด 10Gbit ต่อวินาที เมื่อใช้สาย USB 3 ที่มีจำหน่าย1

การชาร์จอุปกรณ์อื่นๆ ด้วย iPhone 15

คุณสามารถใช้ iPhone เพื่อชาร์จ AirPods, Apple Watch หรืออุปกรณ์ขนาดเล็กอื่นๆ ที่รองรับ USB Power Delivery ได้สูงสุด 4.5 วัตต์

  • หากคุณมีอุปกรณ์อื่นที่มีช่องต่อ USB-C ให้ต่ออุปกรณ์นั้นกับ iPhone ด้วยสาย USB-C แบบเดียวกับที่ให้มาพร้อมกับ iPhone ของคุณ

  • หากต้องการชาร์จอุปกรณ์ที่มีช่องต่อ Lightning ให้ต่ออุปกรณ์นั้นกับ iPhone โดยใช้สาย Apple USB-C เป็น Lightning

  • ชาร์จ Apple Watch โดยต่อสายชาร์จเร็วแบบแม่เหล็กเป็น USB-C สำหรับ Apple Watch เข้ากับ iPhone โดยตรง หรือจะต่อสายชาร์จแบบแม่เหล็กเข้ากับ iPhone ของคุณด้วยอะแดปเตอร์ Apple USB-C เป็น USB ก็ได้เช่นกัน

เล่นเสียง

หากต้องการเล่นเสียงบน iPhone คุณสามารถใช้ลำโพงในตัว, เชื่อมต่อกับ AirPods หรืออุปกรณ์ Bluetooth อื่นๆ หรือใช้ AirPlay ได้ และยังสามารถใช้ช่องต่อ USB-C เพื่อฟังด้วยหูฟังแบบมีสายหรืออุปกรณ์เสริมด้านเสียงอื่นๆ เช่น EarPods (USB-C) ใหม่ ซึ่งจําหน่ายแยกต่างหาก

หากต้องการเล่นเสียงผ่านช่องต่อ USB-C ไปยังลําโพงหรือหูฟังอื่นๆ คุณสามารถเชื่อมต่อโดยใช้อะแดปเตอร์ Apple USB-C เป็นช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มม. หรืออะแดปเตอร์ Apple USB-C เป็น Lightning

การเชื่อมต่อกับจอภาพและมอนิเตอร์

คุณสามารถเชื่อมต่อ iPhone กับจอภาพภายนอกโดยใช้ช่องต่อ USB-C เพื่อดูวิดีโอ รูปภาพ และอื่นๆ บนหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นได้ แต่คุณอาจต้องใช้อะแดปเตอร์ เช่น อะแดปเตอร์มัลติพอร์ต Digital AV แบบ USB-C ของ Apple ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจอภาพที่เชื่อมต่อด้วย

เมื่อคุณเชื่อมต่อกับจอภาพภายนอก จอภาพนั้นจะแสดงสิ่งที่อยู่ในจอภาพ iPhone เว้นแต่คุณจะใช้แอปที่รองรับการใช้หน้าจอที่สอง (เช่น แอปวิดีโอ)

จอภาพ USB-C

iPhone ใช้โปรโตคอล DisplayPort เพื่อรองรับการเชื่อมต่อกับจอภาพ USB-C ด้วยความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 60Hz2

หากต้องการเชื่อมต่อ iPhone กับจอภาพความละเอียดสูง ให้ใช้สาย USB-C ที่รองรับ USB 3.1 หรือสูงกว่า เช่น สายที่มาพร้อมกับจอภาพ หรือสาย Thunderbolt 4 (USB-C) Pro (1 ม.) ซึ่งจําหน่ายแยกต่างหาก2

นอกจากนี้ iPhone ยังรองรับจอภาพ USB-C ที่มีช่วงไดนามิกสูงด้วย และคุณสามารถสลับระหว่างโหมด SDR และ HDR ได้โดยไปที่การตั้งค่า > จอภาพและความสว่าง แล้วเลือกจอภาพที่เชื่อมต่ออยู่ โดยที่ iPhone จะเลือกใช้อัตราเฟรมและช่วงไดนามิกตรงกับคอนเทนต์ที่เล่นอยู่ในขณะนั้นเมื่อคุณเปิด "อนุญาตให้เปลี่ยนโหมดจอภาพ"

จอภาพ USB-C บางรุ่นสามารถชาร์จ iPhone ได้ด้วยเมื่อเชื่อมต่อ

จอภาพและทีวี HDMI

คุณสามารถเชื่อมต่อ iPhone กับจอภาพหรือทีวี HDMI ได้ด้วยอะแดปเตอร์หรือสาย USB-C เป็น HDMI นอกจากนี้ อะแดปเตอร์และสายที่รองรับ HDMI 2.0 ยังสามารถส่งสัญญาณภาพจาก iPhone ด้วยความละเอียด 4K ที่ 60Hz

อะแดปเตอร์มัลติพอร์ต Digital AV แบบ USB-C ของ Apple สามารถใช้งานร่วมกับ iPhone ได้ โดยอะแดปเตอร์นี้สามารถส่งสัญญาณภาพจาก iPhone ด้วยความละเอียดสูงสุด 4K และ 60Hz1 รวมถึงคอนเทนต์ในแบบ HDR10 หรือ Dolby Vision หากจอภาพหรือทีวีของคุณรองรับ HDR

เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ

ขั้วต่อ USB-C บน iPhone ของคุณยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่สอดคล้องกับมาตรฐาน USB-C ได้อีกด้วย เช่น

  • รถที่ใช้งานร่วมกับ CarPlay ได้

  • อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก

  • มอนิเตอร์และจอภาพภายนอก

  • ไมโครโฟน

  • ชุดแบตเตอรี่ภายนอก

  • อะแดปเตอร์ USB เป็นอีเธอร์เน็ต

  • การ์ด SD โดยใช้อะแดปเตอร์การ์ด SD

ช่องต่อ USB-C บน iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max รองรับ USB 3 สำหรับการถ่ายโอนข้อมูลเมื่อใช้กับสาย USB-C ที่รองรับ USB 32 นอกจากนี้ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ยังรองรับการบันทึกวิดีโอ ProRes ลงในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอกโดยตรง สูงสุดถึงระดับ 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที

คุณอาจต้องใช้อะแดปเตอร์ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์บางอย่างกับ iPhone วิธีการเชื่อมต่อโดยทั่วไป มีดังนี้

  • หากอุปกรณ์ที่คุณกําลังเชื่อมต่อมีช่องต่อ USB-C ให้ใช้สาย USB-C ที่มีหัวต่อ USB-C ทั้งสองด้าน เช่น สายที่มาพร้อมกับ iPhone 151

  • หากรถของคุณมีช่องต่อ USB-A คุณสามารถใช้สาย USB-C เป็น USB-A ที่ได้มาตรฐาน

  • เมื่อต้องการใช้อุปกรณ์เสริม Lightning ที่คุณมีอยู่แล้ว คุณสามารถใช้อะแดปเตอร์ USB-C เป็น Lightning ซึ่งรองรับทั้งการจ่ายไฟ ข้อมูล และเสียง

อุปกรณ์และสายที่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐาน USB-C อาจไม่ทํางานตามที่คาดไว้ ในบางสถานการณ์ อุปกรณ์เสริมและสาย USB-C อย่างเช่นอุปกรณ์และสายของบริษัทอื่น อาจรบกวนการเชื่อมต่อของระบบไร้สายได้ หากคุณพบว่า Wi-Fi หรือเซลลูลาร์ทำงานช้าลงขณะใช้อุปกรณ์เสริม USB-C ประสิทธิภาพควรกลับมาเป็นปกติหลังจากที่คุณถอดอุปกรณ์เสริมนั้นออก และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการรบกวนขึ้นอีก ให้ถอดอุปกรณ์เสริมนั้นออกเมื่อใช้เสร็จแล้วหรือลองใช้สายเส้นอื่น เช่น สาย Thunderbolt 4 (USB-C) Pro (1 ม.) ซึ่งออกแบบมาเพื่อลดการรบกวนให้เหลือน้อยที่สุด

  1. สาย USB-C ที่มาพร้อมกับ iPhone ของคุณรองรับการชาร์จและความเร็วระดับ USB 2 แต่ถ้าคุณต้องการใช้อุปกรณ์ USB 3 ให้ใช้สาย USB 3 ที่ได้มาตรฐานและรองรับ 10Gbit/s

  2. สาย Thunderbolt 4 (USB-C) Pro (1 ม.) มีสัญลักษณ์ Thunderboltสัญลักษณ์ Thunderbolt เพื่อช่วยแยกแยะความแตกต่างกับสาย USB-C และสาย Thunderbolt 4 (USB-C) Pro (1 ม.) สามารถใช้งานร่วมกับโปรโตคอล USB 3 และ DisplayPort เดิมได้

การให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ผลิตโดย Apple หรือเว็บไซต์อิสระที่ Apple ไม่ได้ควบคุมหรือทดสอบไม่ถือเป็นการแนะนำหรือการรับรองใดๆ Apple จะไม่รับผิดชอบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเลือก ประสิทธิภาพการทำงาน หรือการใช้งานเว็บไซต์หรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทอื่น Apple ไม่รับรองความถูกต้องหรือความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ของบริษัทอื่น โปรดติดต่อผู้จำหน่ายหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

วันที่เผยแพร่: