Apple Watch Ultra 2 - ข้อมูลทางเทคนิ
ปีที่เริ่มวางจำหน่าย: 2023
ขนาด
49 มม.
ความสูง: 49 มม.
ความกว้าง: 44 มม.
ความหนา: 14.4 มม.
น้ำหนักตัวเรือน: 61.4 กรัม
ดีไซน์
ตัวเรือน 49 มม.
ไทเทเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ
ลำโพงคู่
ชุดไมโครโฟน 3 ตัว พร้อมบีมฟอร์มมิ่งและการลดเสียงรบกวนจากลม
การควบคุม:
ปุ่มการทำงานที่ปรับแต่งได้
Digital Crown พร้อมการตอบสนองแบบสั่น
ปุ่มด้านข้าง
คำสั่งนิ้ว "แตะสองครั้ง"
จอภาพ:
จอภาพ LTPO OLED Retina แบบติดตลอด
จอภาพผลึกแซฟไฟร์ที่แบนเรียบ
ความสว่างสูงสุดเพิ่มได้สูงถึง 3,000 นิต
ความสว่างต่ำสุด 1 นิต
ชิป:
SiP รุ่น S9 พร้อมโปรเซสเซอร์แบบ Dual-core 64 บิต
Apple Neural Engine แบบ 4-core
ความจุ 64GB
เซ็นเซอร์:
เซ็นเซอร์และแอปวัดออกซิเจนในเลือด1
เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบไฟฟ้าและแอป ECG2
เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบออปติคัล รุ่นที่ 3
การแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจเร็วและช้า2
แอป IRNF3
ระยะของการนอนหลับ
การตรวจวัดอุณหภูมิ4
ความแม่นยำของตัววัดความลึก ±1ม. และแอป
เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิน้ำ
เข็มทิศพร้อมคุณสมบัติจุดอ้างอิงและการติดตามการเดิน
มาตรวัดความสูงแบบทำงานตลอด
อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวแบบแรง G สูง
ไจโรสโคปแบบช่วงไดนามิกสูง
เซ็นเซอร์ตรวจวัดแสงโดยรอบ
ความปลอดภัย:
SOS ฉุกเฉิน5
การโทรฉุกเฉินทั่วโลก6
เสียงไซเรน
การตรวจจับการชนกัน5
การตรวจจับการล้ม5
น้ำที่กระเด็นใส่ น้ำ และฝุ่น:
ความสามารถในการทนน้ำ 100 ม. (กันน้ำขณะว่ายน้ำ)7
ทนฝุ่นที่ระดับ IP6X10
มาตรฐาน EN13319 สำหรับการดำน้ำแบบสกูบาเชิงนันทนาการที่ความลึกถึง 40 ม.7
ทดสอบตามมาตรฐาน MIL-STD 810H: ระดับความสูง, อุณหภูมิสูง, อุณหภูมิต่ำ, การเปลี่ยนอุณหภูมิกะทันหัน, การแช่, การแช่แข็งพร้อมการละลาย, น้ำแข็งและฝนเยือกแข็ง รวมถึงการกระแทกและสั่นสะเทือน11
การเชื่อมต่อและการสื่อสาร:
GPS แบบสองคลื่นความถี่ที่แม่นยำ: GPS, GNSS, Galileo และ BeiDou
LTE และ UMTS8
Wi-Fi 4 (802.11n)
Bluetooth 5.3
ชิปอัลตร้าไวด์แบนด์ รุ่นที่ 212
GymKit
พลังงานและระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่:
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนชนิดชาร์จซ้ำได้ภายในตัวเครื่อง
นานสูงสุด 36 ชั่วโมงเมื่อใช้งานปกติ9
สูงสุด 72 ชั่วโมงในโหมดประหยัดพลังงาน9
สายชาร์จเร็วแบบแม่เหล็กเป็น USB-C
ข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม:
อุณหภูมิในการใช้งานบนข้อมือ: -20°C ถึง 55°C (-4°F ถึง 130°F)
อุณหภูมิในการใช้งาน: 0°C ถึง 35°C (32°F ถึง 95°F)
อุณหภูมิในการจัดเก็บขณะไม่ใช้งาน: -20°C ถึง 45°C (4°F ถึง 113°F)
อุณหภูมิในการใช้งานขณะดำน้ำ: 0°C ถึง 40°C (32°F ถึง 104°F)
ความชื้นสัมพัทธ์: 5% ถึง 90% ไม่ควบแน่น
ระดับความสูงในการใช้งาน: -500 ม. ถึง 9,000 ม.
ภายในกล่อง
Apple Watch Ultra 2
สาย/ห่วง
สายชาร์จแบบแม่เหล็กเป็น USB-C สำหรับ Apple Watch (1 ม.)
วัสดุของตัวเรือนนาฬิกาและชนิดของสายนาฬิกาจะเป็นไปตามที่คุณเลือก
การวัดค่าด้วยแอปออกซิเจนในเลือดไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้งานทางการแพทย์ รวมถึงเพื่อวินิจฉัยตนเองหรือปรึกษาแพทย์ แต่ออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ด้านฟิตเนสและสุขภาพที่ดีโดยทั่วไปเท่านั้น
แอป ECG พร้อมให้ใช้งานบน Apple Watch Series 4 และใหม่กว่า (ไม่รวม Apple Watch SE) และสามารถประมวลผลคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ได้เหมือนกับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบจุดเดียว ออกแบบมาเพื่อให้บุคคลอายุ 22 ปีขึ้นไปใช้งาน
การแจ้งเตือนจังหวะการเต้นที่ไม่สม่ำเสมอจำเป็นต้องใช้งานกับ watchOS และ iOS เวอร์ชั่นล่าสุด คุณสมบัตินี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการใช้งานโดยบุคคลอายุต่ำกว่า 22 ปี หรือผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (AFib) มาก่อน
คุณสมบัติการตรวจวัดอุณหภูมิไม่ใช่อุปกรณ์ทางการแพทย์และไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้ในการวินิจฉัยทางการแพทย์ การรักษา หรือเพื่อจุดประสงค์ทางการแพทย์อื่นๆ
คุณสมบัติ SOS ฉุกเฉินต้องใช้การเชื่อมต่อระบบเซลลูลาร์หรือการโทรผ่าน Wi-Fi โดยมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจาก Apple Watch หรือ iPhone ที่อยู่ใกล้ๆ
คุณสมบัติการโทรฉุกเฉินทั่วโลกต้องใช้กับ Apple Watch Ultra 2 (รุ่น Cellular), Apple Watch Series 9 (รุ่น GPS + Cellular) หรือ Apple Watch SE (รุ่น GPS + Cellular) ดูรายชื่อประเทศและภูมิภาคที่รองรับได้ที่ apple.com/th/watchos/feature-availability
Apple Watch Ultra 2 มีความสามารถในการทนน้ำที่ระดับ 100 เมตร ตามมาตรฐาน ISO 22810 ซึ่งอาจใช้สำหรับการดำน้ำสกูบาเชิงนันทนาการ (ร่วมกับแอปของบริษัทอื่นที่รองรับจาก App Store) ที่ความลึกถึง 40 เมตร และกีฬาทางน้ำความเร็วสูง ไม่ควรใช้ Apple Watch Ultra 2 ในการดำน้ำที่ลึกกว่าระดับ 40 เมตร ความสามารถในการทนน้ำจะไม่คงอยู่ถาวรและอาจลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ support.apple.com/th-th/HT205000
ต้องมีแผนบริการระบบไร้สายสำหรับบริการระบบเซลลูลาร์ โปรดติดต่อผู้ให้บริการของคุณเพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม การเชื่อมต่ออาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความพร้อมในการให้บริการเครือข่าย ตรวจสอบผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายที่เข้าร่วมและคุณสมบัติที่เข้าเกณฑ์ได้ที่ apple.com/th/watch/cellular ดูคำแนะนำการตั้งค่าเพิ่มเติมได้ที่ support.apple.com/th-th/HT207578
แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ตลอดวันอ้างอิงจากการใช้งานดังนี้ ดูเวลา 180 ครั้ง แจ้งเตือน 180 ครั้ง ใช้งานแอป 90 นาที และออกกำลังกายพร้อมกับเล่นเพลงจาก Apple Watch ผ่าน Bluetooth เป็นเวลา 60 นาที ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลา 36 ชั่วโมง ส่วนการใช้งาน Apple Watch Ultra 2 (รุ่น GPS + Cellular) นั้นรวมถึงการเชื่อมต่อ LTE เป็นเวลา 8 ชั่วโมง และการเชื่อมต่อกับ iPhone ผ่าน Bluetooth เป็นเวลา 28 ชั่วโมง ตลอดช่วงระยะเวลาการทดสอบ 36 ชั่วโมง ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ในโหมดประหยัดพลังงานอ้างอิงจากการใช้งานดังนี้ ดูเวลา 360 ครั้ง แจ้งเตือน 360 ครั้ง ใช้งานแอป 180 นาที และออกกำลังกายพร้อมกับเล่นเพลงจาก Apple Watch ผ่าน Bluetooth เป็นเวลา 60 นาที ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลา 72 ชั่วโมง ส่วนการใช้งาน Apple Watch Ultra 2 (รุ่น GPS + Cellular) นั้นรวมถึงการเชื่อมต่อ LTE เมื่อต้องการใช้งาน และการเชื่อมต่อกับ iPhone ผ่าน Bluetooth เป็นเวลา 60 ชั่วโมง ตลอดช่วงระยะเวลาการทดสอบ 72 ชั่วโมง ซึ่ง Apple ทำการทดสอบในเดือนสิงหาคม 2023 โดยใช้ Apple Watch Ultra 2 (รุ่น GPS + Cellular) รุ่นก่อนการผลิตจริง ซึ่งจับคู่กับ iPhone ทั้งนี้อุปกรณ์ทุกเครื่องได้รับการทดสอบโดยใช้ซอฟต์แวร์รุ่นก่อนเปิดให้ใช้งานจริง ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่นั้นแตกต่างกันไปตามการใช้งาน การกำหนดค่า เครือข่ายเซลลูลาร์ ความแรงของสัญญาณ และปัจจัยอื่นๆ อีกหลายอย่าง โดยผลลัพธ์จริงจะแตกต่างออกไป
Apple Watch Ultra 2 ผ่านการรับรองการทนฝุ่นที่ระดับ IP6X
ผ่านการทดสอบตามหัวข้อย่อยสำหรับระดับความสูง, อุณหภูมิสูง, อุณหภูมิต่ำ, การเปลี่ยนอุณหภูมิกะทันหัน, การแช่, การแช่แข็ง/การละลาย, การกระแทก, การสั่นสะเทือน
ความพร้อมใช้งานของเทคโนโลยีอัลตร้าไวด์แบนด์จะแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค
Apple Watch Ultra 2, Apple Watch Series 9 และ Apple Watch SE ต้องใช้กับ iPhone Xs หรือใหม่กว่า ที่ใช้ iOS 17 หรือใหม่กว่า
คุณสมบัติอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ คุณสมบัติ แอปพลิเคชัน และบริการบางประเภทอาจใช้ไม่ได้ในบางภูมิภาคหรือบางภาษา ดูรายการทั้งหมด