คู่มือผู้ใช้ iPad
- คู่มือผู้ใช้ iPad
- มีอะไรใหม่ใน iPadOS
- รุ่นที่รองรับ
-
- ปลุกและปลดล็อค
- ปรับระดับเสียง
- ปรับหรือปิดเสียง
- เข้าถึงคุณสมบัติจากหน้าจอล็อค
- เปิดแอพบนหน้าจอโฮม
- ถ่ายภาพหน้าจอหรือบันทึกหน้าจอ
- เปลี่ยนหรือล็อคแนวหน้าจอ
- เปลี่ยนภาพพื้นหลัง
- ซูมแอพเพื่อให้แสดงเต็มทั้งหน้าจอ
- ลากแล้วปล่อย
- ค้นหาด้วย iPad
- ใช้ AirDrop เพื่อส่งรายการ
- ดำเนินการการทำงานด่วน
- ใช้และกำหนดศูนย์ควบคุมเอง
- ดูและจัดระเบียบมุมมองวันนี้
- ชาร์จและตรวจสอบแบตเตอรี่
- เรียนรู้ความหมายของไอคอนสถานะ
- เดินทางไปพร้อมกับ iPad
-
-
- ดูรูปภาพและวิดีโอ
- แก้ไขรูปภาพและวิดีโอ
- แก้ไข Live Photos
- แก้ไขรูปภาพในโหมดภาพถ่ายบุคคล
- จัดระเบียบรูปภาพในอัลบั้ม
- ค้นหาในแอพรูปภาพ
- แชร์รูปภาพและวิดีโอ
- ดูความทรงจำ
- ค้นหาผู้คนในแอพรูปภาพ
- เลือกหารูปภาพตามตำแหน่งที่ตั้ง
- ใช้ “รูปภาพ iCloud”
- แชร์รูปภาพด้วยการแชร์อัลบั้มบน iCloud
- ใช้การสตรีมรูปภาพของฉัน
- นำเข้ารูปภาพและวิดีโอ
- พิมพ์รูปภาพ
- คำสั่งลัด
- หุ้น
- เคล็ดลับ
-
- แชร์การเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตของคุณ
- โทรออกและรับสายโทรศัพท์
- ใช้ iPad เป็นจอภาพที่สองสำหรับ Mac
- ส่งต่องานระหว่าง iPad กับ Mac
- ตัด คัดลอก และวางระหว่าง iPad กับ Mac ของคุณ
- เชื่อมต่อ iPad กับคอมพิวเตอร์ของคุณโดยใช้ USB
- เชื่อมข้อมูล iPad กับคอมพิวเตอร์ของคุณ
- ถ่ายโอนไฟล์ระหว่าง iPad กับคอมพิวเตอร์ของคุณ
-
-
- เริ่มการทำงาน iPad ใหม่
- อัพเดท iPadOS
- สำรองข้อมูล iPad
- คืนการตั้งค่า iPad กลับเป็นค่าเริ่มต้น
- กู้คืนเนื้อหาทั้งหมดจากข้อมูลสำรอง
- กู้คืนรายการที่ซื้อและรายการที่ลบ
- ขายหรือยก iPad ของคุณให้คนอื่น
- ลบข้อมูลเนื้อหาและการตั้งค่าทั้งหมด
- กู้คืน iPad กลับเป็นการตั้งค่าจากโรงงาน
- ติดตั้งหรือเอาโปรไฟล์การกำหนดค่าออก
-
- เริ่มต้นด้วยคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึง
-
-
- เปิดใช้แล้วฝึกหัดใช้ VoiceOver
- เปลี่ยนการตั้งค่า VoiceOver ของคุณ
- เรียนรู้คำสั่งนิ้ว VoiceOver
- สั่งงาน iPad โดยใช้คำสั่งนิ้ว VoiceOver
- ควบคุม VoiceOver โดยใช้ตัวหมุน
- ใช้แป้นพิมพ์บนหน้าจอ
- เขียนด้วยนิ้วของคุณ
- ใช้ VoiceOver กับแป้นพิมพ์ภายนอกของ Apple
- ป้อนอักษรเบรลล์ให้แสดงบนหน้าจอโดยใช้ VoiceOver
- ใช้เครื่องแสดงผลอักษรเบรลล์
- กำหนดคำสั่งนิ้วและคำสั่งลัดแป้นพิมพ์เอง
- ใช้ VoiceOver กับอุปกรณ์ตัวชี้
- ใช้ VoiceOver ในแอพต่างๆ
- ซูม
- แว่นขยาย
- จอภาพและขนาดข้อความ
- การเคลื่อนไหว
- การอ่านเนื้อหา
- คำบรรยายเสียง
-
-
- ข้อมูลด้านความปลอดภัยที่สำคัญ
- ข้อมูลด้านการดูแลที่สำคัญ
- รับข้อมูลเกี่ยวกับ iPad ของคุณ
- ดูหรือเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าเซลลูลาร์
- ค้นหาแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซอฟต์แวร์และบริการ
- แถลงการณ์การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ FCC
- แถลงการณ์การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ ISED Canada
- ข้อมูลเกี่ยวกับเลเซอร์คลาส 1
- Apple กับสิ่งแวดล้อม
- ข้อมูลด้านการกำจัดและการรีไซเคิล
- แถลงการณ์การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ ENERGY STAR
- ลิขสิทธิ์
ส่งและรับข้อความตัวอักษรบน iPad
ใช้แอพข้อความ เพื่อส่งและรับข้อความ รูปภาพ วิดีโอ และข้อความเสียง คุณยังสามารถกำหนดข้อความสำหรับคุณโดยเฉพาะด้วยเอฟเฟ็กต์ภาพเคลื่อนไหว สติ๊กเกอร์ Memoji แอพ iMessage และอื่นๆ ได้อีกด้วย
ส่งข้อความ
คุณสามารถส่งข้อความตัวอักษรไปยังผู้คนอย่างน้อยหนึ่งคนได้
แตะ ที่ด้านบนสุดของหน้าจอเพื่อเริ่มข้อความใหม่ หรือแตะข้อความที่มีอยู่แล้ว
ป้อนเบอร์โทรศัพท์ ชื่อผู้ติดต่อ หรือ Apple ID ของผู้รับแต่ละคน หรือ แตะ แล้วเลือกผู้ติดต่อ
แตะช่องข้อความ ป้อนข้อความของคุณ แล้วแตะ เพื่อส่ง
ปุ่มส่งสีน้ำเงินแสดงข้อความที่จะส่งด้วย iMessage ปุ่มส่งสีเขียวแสดงข้อความที่จะส่งด้วย SMS/MMS หรือบริการเซลลูลาร์ของคุณ
การเตือน จะแสดงหากไม่สามารถส่งข้อความได้ แตะการเตือนเพื่อลองส่งข้อความนั้นอีกครั้ง
เคล็ดลับ: ในการดูเวลาที่ส่งหรือรับข้อความ ให้ลากฟองข้อความไปทางซ้าย
ในการดูรายละเอียดการสนทนา ให้แตะชื่อหรือเบอร์โทรศัพท์ที่ด้านบนสุดของหน้าจอ แล้วแตะ คุณสามารถแตะรายชื่อเพื่อแก้ไขบัตรรายชื่อ แชร์ตำแหน่งที่ตั้งของคุณ ดูไฟล์แนบ ออกจากการสนทนากลุ่ม และอื่นๆ ได้
ตอบข้อความ
ถาม Siri ลองพูดว่า:
“ส่งข้อความถึงอลิสา บอกว่าพรุ่งนี้ไหม”
“ส่งข้อความกลับไปว่าเป็นข่าวดีจริงๆ”
“อ่านข้อความล่าสุดจากนิติ”
เคล็ดลับ: เมื่อคุณใส่ AirPods Pro, AirPods (รุ่นที่ 2) หรือหูฟังที่รองรับแบบอื่นๆ Siri สามารถอ่านข้อความเข้าของคุณ และคุณสามารถพูดคำตอบเพื่อให้ Siri ส่งได้ (iPadOS 13.2 ขึ้นไป) ให้ดูที่ ฟังและตอบกลับข้อความ
หรือปฏิบัติตามวิธีต่อไปนี้:
ในรายการข้อความ ให้แตะการสนทนาที่คุณต้องการตอบกลับ
ในการค้นหารายชื่อและเนื้อหาในการสนทนา ให้ดึงรายการข้อความลง แล้วป้อนสิ่งที่คุณต้องการค้นหาในช่องค้นหา หรือ เลือกจากรายชื่อที่แนะนำ ลิงก์ รูปภาพ และอื่นๆ
แตะช่องข้อความ จากนั้นป้อนข้อความของคุณ
เคล็ดลับ: ในการแทนที่ข้อความด้วยอิโมจิ ให้แตะ หรือ แล้วแตะคำที่ถูกไฮไลท์แต่ละคำ
แตะ เพื่อส่งข้อความของคุณ
คุณสามารถตอบข้อความอย่างรวดเร็วด้วย Tapback ได้ (ตัวอย่างเช่น ยกนิ้วโป้งหรือหัวใจ) แตะสองครั้งที่ฟองข้อความที่คุณต้องการตอบสนอง แล้วเลือก Tapback
แชร์ชื่อและรูปภาพของคุณ
ในแอพข้อความ คุณสามารถแชร์ชื่อและรูปภาพของคุณเมื่อคุณเริ่มหรือตอบกลับข้อความใหม่ได้ รูปภาพของคุณสามารถเป็น Memoji, Animoji หรือภาพที่กำหนดเองก็ได้ เมื่อคุณเปิดแอพข้อความเป็นครั้งแรก ให้ทำตามคำแนะนำบน iPad ของคุณเพื่อเลือกชื่อและรูปภาพของคุณ
ในการเปลี่ยนตัวเลือกชื่อ รูปภาพ หรือการแชร์ ให้เปิดแอพข้อความ แล้วแตะ แตะ แก้ไขชื่อและรูปภาพ แล้วปฏิบัติตามวิธีใดๆ ต่อไปนี้:
เปลี่ยนภาพโปรไฟล์ของคุณ: แตะ แก้ไข แล้วเลือกตัวเลือก
เปลี่ยนชื่อของคุณ: แตะช่องข้อความที่ชื่อของคุณแสดงขึ้น
เปิดใช้หรือปิดใช้การแชร์: แตะปุ่มถัดจากการแชร์ชื่อและรูปภาพ (สีเขียวแสดงว่าปุ่มเปิดอยู่)
เปลี่ยนคนที่สามารถเห็นโปรไฟล์ของคุณได้: แตะตัวเลือกด้านล่างแชร์โดยอัตโนมัติ (การแชร์ชื่อและรูปภาพจะต้องเปิดใช้อยู่)
ชื่อและรูปภาพในแอพข้อความของคุณยังสามารถใช้สำหรับ Apple ID ของคุณและบัตรรายชื่อของฉันในแอพรายชื่อได้อีกด้วย
สลับจากการสนทนาในแอพข้อความไปเป็นการโทร FaceTime หรือการโทรแบบเสียง
ในบทสนทนาในแอพข้อความ คุณสามารถเริ่มโทร FaceTime หรือโทรแบบเสียงกับคนที่คุณกำลังสนทนาด้วยได้ในแอพข้อความ
ในบทสนทนาในแอพข้อความ ให้แตะรูปภาพโปรไฟล์หรือชื่อที่ด้านบนสุดของบทสนทนา
แตะ FaceTime หรือเสียง
ใช้การสนทนาทางธุรกิจ
(รุ่นเบต้า) ในแอพข้อความ คุณสามารถติดต่อสื่อสารกับธุรกิจต่างๆ ที่ให้บริการการสนทนาทางธุรกิจได้ คุณสามารถรับคำตอบสำหรับคำถาม แก้ไขปัญหา และรับคำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่จะซื้อ ซื้อสินค้าด้วย Apple Pay และอื่นๆ ได้
ค้นหาธุรกิจที่คุณต้องการสนทนาด้วยโดยใช้แผนที่, Safari, ค้นหา หรือ Siri
เริ่มบทสนทนาโดยแตะที่ลิงก์การสนทนาในผลการค้นหา ตัวอย่างเช่น โลโก้ของบริษัท หรือลิงก์ที่ไปยังข้อความ (ลักษณะของลิงก์ที่ไปยังการสนทนาจะแตกต่างกันไปตามบริบท)
คุณยังสามารถเริ่มสนทนากับบางธุรกิจได้จากเว็บไซต์หรือแอพของธุรกิจนั้นได้ด้วย ดูบทความบริการช่วยเหลือของ Apple วิธีใช้การสนทนาทางธุรกิจ
หมายเหตุ: ข้อความจากการสนทนาทางธุรกิจที่คุณส่งแสดงขึ้นเป็นสีเทาเข้ม เพื่อแยกข้อความจาก iMessage (แสดงเป็นสีน้ำเงิน) และข้อความ SMS/MMS (แสดงเป็นสีเขียว)