เพิ่มอุปกรณ์โดยใช้ Apple Configurator ไปยัง Apple Business Manager

ตรวจดูข้อกำหนดก่อนที่คุณจะเพิ่มอุปกรณ์ใน Apple Business Manager โดยใช้ Apple Configurator สำหรับ iPhone

ก่อนที่คุณจะเพิ่ม iPhone, iPad, Mac หรือ Apple Vision Pro ใน Apple Business Manager ได้ คุณจะต้องลงชื่อเข้าสู่ Apple Business Manager โดยเป็นผู้ใช้พร้อมบทบาทที่มีสิทธิ์ในการจัดการอุปกรณ์ เช่น ผู้ดูแลระบบ หรือผู้จัดการการลงทะเบียนอุปกรณ์

1. ตรวจดูให้แน่ใจว่า iPhone สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่าย Wi-Fi หรือเครือข่ายเซลลูลาร์ แล้วเปิดใช้ Apple Configurator  ใน iPhone

2. เข้าสู่ บัญชี Apple ที่มีการจัดการ

3. หากมีความจำเป็น โปรดไปที่ "การตั้งค่า" ในแอป Apple Configurator แล้วดำเนินการตามขั้นตอนที่ 4 หรือขั้นตอนที่ 5

4. เลือกวิธีการเชื่อมต่อเครือข่ายที่คุณต้องการใช้ดังนี้

   • แชร์ Wi-Fi: วิธีการนี้แชร์การเชื่อมต่อ Wi-Fi ของ iPhone กับอุปกรณ์ที่คุณต้องการเพิ่ม

   • โปรไฟล์การกำหนดค่า: วิธีการนี้จำเป็นต้องมีโปรไฟล์การกำหนดค่าสำหรับอุปกรณ์ที่คุณต้องการเพิ่ม

   • ไม่ต้องแชร์: วิธีการนี้กำหนดให้ผู้ใช้ต้องเลือกวิธีการเชื่อมต่อ

     หมายเหตุ: วิธีการนี้ไม่รองรับกับ Apple Vision Pro

5. เลือกวิธีการมอบหมายบริการสำหรับการจัดการอุปกรณ์ดังนี้

   • ไม่มี: ไม่ต้องมอบหมายอุปกรณ์ไปยังบริการการจัดการอุปกรณ์โดยอัตโนมัติ

     หากคุณเลือก "ไม่มี" คุณต้องทำงาน มอบหมายอุปกรณ์ที่คุณเพิ่มด้วย Apple Configurator ไปยังบริการการจัดการอุปกรณ์ ให้เสร็จ

   • ค่าเริ่มต้น: มอบหมายอุปกรณ์ไปยังบริการการจัดการอุปกรณ์ที่กำหนดค่าใน Apple Business Manager สำหรับประเภทอุปกรณ์เฉพาะ (iPhone, iPad, Mac, Apple Vision Pro)

   • เฉพาะเจาะจง: มอบหมายอุปกรณ์ไปยังบริการการจัดการอุปกรณ์แบบเฉพาะเจาะจงโดยอัตโนมัติ

ก่อนที่คุณจะเริ่มต้น คุณต้องตรวจดูข้อกำหนดและ ลงชื่อเข้าใน Apple Configurator สำหรับ iPhone

1. เปิดใช้ Apple Configurator  ใน iPhone

2. หากคุณกำลังเพิ่มแล็ปท็อป Mac ให้เสียบปลั๊กเข้ากับแหล่งจ่ายไฟเพื่อไม่ให้เข้าสู่โหมดสลีปในระหว่างกระบวนการนี้

3. หาก Mac กำลังเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยใช้อีเทอร์เน็ต ให้เสียบสายเคเบิลและอะแดปเตอร์ที่จำเป็นทั้งหมด

4. เริ่มต้นใช้งาน Mac

5. เลือกภาษาใน "ผู้ช่วยการตั้งค่า" จากนั้นคลิก "ดำเนินการต่อ" แล้วหยุดเมื่อคุณเห็นบานหน้าต่าง "เลือกประเทศหรือภูมิภาคของคุณ"

   หมายเหตุ: หากคุณผ่านบานหน้าต่าง "เลือกประเทศหรือภูมิภาคของคุณ" ไปแล้ว ต้องรีสตาร์ท Mac

6. นำ iPhone เข้ามาใกล้กับ Mac แล้วดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้

   • สแกนรูปภาพที่ปรากฏใน "ผู้ช่วยการตั้งค่า"

   • คลิก "จับคู่ด้วยตนเอง" ทางมุมซ้ายล่างของ "ผู้ช่วยการตั้งค่า" แล้วแตะ "การจับคู่ด้วยตนเอง" ใน Apple Configurator จากนั้นป้อนรหัส 6 หลักที่ปรากฏ

   

   หมายเลขประจำเครื่องและข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับการอัปโหลด Mac ใน Apple Business Manager

7. รอให้กระบวนการเสร็จสมบูรณ์ แล้วคลิก "ปิดเครื่อง" เพื่อปิดใช้งาน Mac

   สิ่งสำคัญ: หากคุณไม่เลือกที่จะมอบหมายอุปกรณ์ที่เพิ่มใหม่ไปยังบริการการจัดการอุปกรณ์โดยอัตโนมัติในเวลาที่คุณเพิ่ม Mac คุณจะต้องทำงาน มอบหมายอุปกรณ์ที่คุณเพิ่มด้วย Apple Configurator ไปยังบริการการจัดการอุปกรณ์ ให้เสร็จ

   

หากคุณต้องการเพิ่ม Mac ที่กำหนดค่าใน Apple Business Manager คุณจะต้องลบเนื้อหาและการตั้งค่าทั้งหมดก่อน

ก่อนที่คุณจะเริ่มต้น คุณต้องตรวจดูข้อกำหนดและ ลงชื่อเข้าใน Apple Configurator สำหรับ iPhone

1. เปิดใช้ Apple Configurator  ใน iPhone

2. หากคุณกำลังเพิ่มแล็ปท็อป Mac ให้เสียบปลั๊กเข้ากับแหล่งจ่ายไฟเพื่อไม่ให้เข้าสู่โหมดสลีปในระหว่างกระบวนการนี้

3. หาก Mac กำลังเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยใช้อีเทอร์เน็ต ให้เสียบสายเคเบิลและอะแดปเตอร์ที่จำเป็นทั้งหมด

4. เลือกเมนู Apple > การตั้งค่าระบบ คลิก "ทั่วไป" คลิก "โอนย้ายหรือรีเซ็ต" แล้วคลิก "ลบเนื้อหาและการตั้งค่าทั้งหมด"

5. ในผู้ช่วยการลบ ให้ป้อนข้อมูลผู้ดูแลระบบ

6. ตรวจดูรายการต่างๆ ที่ผู้ช่วยการลบจะลบนอกเหนือจากเนื้อหาและการตั้งค่า

   หาก Mac มีบัญชีผู้ใช้หลายรายการ ให้คลิกลูกศรถัดจากชื่อบัญชีเพื่อตรวจดูรายการต่างๆ

7. คลิก "ดำเนินการต่อ" แล้วทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ

   หมายเหตุ: หากคุณมี macOS เวอร์ชันที่ได้รับการปรับเปลี่ยน ผู้ช่วยการลบจะไม่สามารถลบ Mac ของคุณได้ โดยจะแสดงการแจ้งเตือนที่ระบุว่าคุณต้องติดตั้ง macOS ใหม่ก่อน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูหัวข้อ ลบและติดตั้ง macOS ใหม่ ในคู่มือผู้ใช้ Mac

8. รอให้ Mac รีสตาร์ท

9. เลือกภาษาใน "ผู้ช่วยการตั้งค่า" จากนั้นคลิก "ดำเนินการต่อ" แล้วหยุดเมื่อคุณเห็นบานหน้าต่าง "เลือกประเทศหรือภูมิภาคของคุณ"

   หมายเหตุ: หากคุณผ่านบานหน้าต่าง "เลือกประเทศหรือภูมิภาคของคุณ" ไปแล้ว ต้องรีสตาร์ท Mac

10. นำ iPhone เข้ามาใกล้กับ Mac แล้วดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้

    • สแกนรูปภาพที่ปรากฏใน "ผู้ช่วยการตั้งค่า"

    • คลิก "จับคู่ด้วยตนเอง" ทางมุมซ้ายล่างของ "ผู้ช่วยการตั้งค่า" แล้วแตะ "การจับคู่ด้วยตนเอง" ใน Apple Configurator จากนั้นป้อนรหัส 6 หลักที่ปรากฏ

    

    หมายเลขประจำเครื่องและข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับการอัปโหลด Mac ใน Apple Business Manager

11. รอให้กระบวนการเสร็จสมบูรณ์ แล้วคลิก "ปิดเครื่อง" เพื่อปิดใช้งาน Mac

    สิ่งสำคัญ: หากคุณไม่เลือกที่จะมอบหมายอุปกรณ์ที่เพิ่มใหม่ไปยังบริการการจัดการอุปกรณ์โดยอัตโนมัติในเวลาที่คุณเพิ่ม Mac คุณจะต้องทำงาน มอบหมายอุปกรณ์ที่คุณเพิ่มด้วย Apple Configurator ไปยังบริการการจัดการอุปกรณ์ ให้เสร็จ

    

ก่อนที่คุณจะเริ่มต้น คุณต้องตรวจดูข้อกำหนดและ ลงชื่อเข้าใน Apple Configurator สำหรับ iPhone

1. เปิดใช้ Apple Configurator  ใน iPhone

2. เริ่มต้นใช้งาน iPhone หรือ iPad

3. ดำเนินการต่อผ่านผู้ช่วยการตั้งค่า แล้วจึงหยุดเมื่อคุณเห็นบานหน้าต่าง "เลือกเครือข่าย Wi-Fi"

   หมายเหตุ: คุณต้องรีสตาร์ท iPhone หรือ iPad หากคุณผ่านบานหน้าต่าง "เลือกเครือข่าย Wi-Fi" ไปแล้ว

4. นำ iPhone ที่มี Apple Configurator เข้ามาใกล้กับ iPhone หรือ iPad แล้วดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้

   • สแกนรูปภาพที่ปรากฏใน "ผู้ช่วยการตั้งค่า"

   • แตะ "จับคู่ด้วยตนเอง" ทางมุมซ้ายล่างของ "ผู้ช่วยการตั้งค่า" แล้วแตะ "การจับคู่ด้วยตนเอง" ใน Apple Configurator แล้วป้อนรหัส 6 หลักที่ปรากฏ

   หมายเหตุ: หากผู้ช่วยการตั้งค่าไม่แสดงบานหน้าต่างการจับคู่ใน iPhone หรือ iPad ที่คุณต้องการเพิ่ม โปรดย้อนกลับไปที่หน้าจอหลักใน iPhone แล้วแตะแอป Apple Configurator

   หมายเลขประจำเครื่องและข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับ iPhone หรือ iPad จะอัปโหลดไปยัง Apple Business Manager

5. รอให้กระบวนการเสร็จสมบูรณ์ แล้วแตะ "ลบและปิดเครื่อง"

   สิ่งสำคัญ: หากคุณไม่เลือกที่จะมอบหมายอุปกรณ์ที่เพิ่มใหม่ไปยังบริการการจัดการอุปกรณ์โดยอัตโนมัติในเวลาที่คุณเพิ่ม iPhone หรือ iPad คุณจะต้องทำงาน มอบหมายอุปกรณ์ที่คุณเพิ่มด้วย Apple Configurator ไปยังบริการการจัดการอุปกรณ์ ให้เสร็จ

6. ตรวจดูให้แน่ใจว่าบริการการจัดการอุปกรณ์มีบันทึกอุปกรณ์เพื่อดำเนินการต่อในการลงทะเบียนอุปกรณ์อัตโนมัติ

7. หากได้รับแจ้ง โปรดละเว้นตัวเลือกการตั้งค่าเกี่ยวกับระยะใกล้

8. ดำเนินการต่อกับผู้ช่วยการตั้งค่าใน iPhone หรือ iPad ที่กำหนดค่าใหม่

ก่อนที่คุณจะเริ่มต้น คุณต้องตรวจดูข้อกำหนดและ ลงชื่อเข้าใน Apple Configurator สำหรับ iPhone

1. เปิดใช้ Apple Configurator  ใน iPhone

2. เริ่มต้นใช้งาน Apple Vision Pro

3. ผู้ช่วยการตั้งค่าต้องอยู่ที่บานหน้าต่าง "สวัสดี" ของผู้ช่วยการตั้งค่า

   หมายเหตุ: คุณต้องรีสตาร์ท Apple Vision Pro หากคุณผ่านบานหน้าต่าง "สวัสดี"

4. นำ iPhone ที่มี Apple Configurator เข้ามาใกล้กับ Apple Vision Pro จากนั้นแตะ "การจับคู่ด้วยตนเอง" ใน Apple Configurator แล้วป้อนตัวเลข 6 หลักที่ปรากฏต่อผู้ใช้ที่สวม Apple Vision Pro

   หมายเหตุ: หากผู้ช่วยการตั้งค่าไม่แสดงบานหน้าต่างการจับคู่ใน Apple Vision Pro ที่คุณต้องการเพิ่ม โปรดย้อนกลับไปที่หน้าจอหลักใน iPhone แล้วแตะแอป Apple Configurator

   หมายเลขประจำเครื่องและข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับ Apple Vision Pro จะอัปโหลดไปยัง Apple Business Manager

5. รอให้กระบวนการเสร็จสมบูรณ์ แล้วแตะ "ลบและปิดเครื่อง"

   สิ่งสำคัญ: หากคุณไม่เลือกที่จะมอบหมายอุปกรณ์ที่เพิ่มใหม่ไปยังบริการการจัดการอุปกรณ์โดยอัตโนมัติในเวลาที่คุณเพิ่ม Apple Vision Pro คุณจะต้องทำงาน มอบหมายอุปกรณ์ที่คุณเพิ่มด้วย Apple Configurator ไปยังบริการการจัดการอุปกรณ์ ให้เสร็จ

6. ตรวจดูให้แน่ใจว่าบริการการจัดการอุปกรณ์มีบันทึก Apple Vision Pro เพื่อดำเนินการต่อในการลงทะเบียนอุปกรณ์อัตโนมัติ

7. หากได้รับแจ้ง โปรดละเว้นตัวเลือกการตั้งค่าเกี่ยวกับระยะใกล้

8. ดำเนินการต่อกับผู้ช่วยการตั้งค่าใน Apple Vision Pro ที่กำหนดค่าใหม่

หากใช้อุปกรณ์อยู่ ให้ลงชื่อออกจาก iCloud แล้วปิด “ค้นหาของฉัน” ก่อนที่จะลบข้อมูลอุปกรณ์ และปล่อยให้อุปกรณ์เสียบชาร์จไว้ในขณะที่กระบวนการเสร็จสิ้น

1. ใน Apple Configurator สำหรับ Mac โปรดเลือกอุปกรณ์อย่างน้อยหนึ่งเครื่องที่คุณต้องการเตรียมหรือใช้พิมพ์เขียว แล้วดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้

   • คลิก “เตรียม” ในแถบเครื่องมือ

   • เลือก “การดำเนินการ > เตรียม”

   • กด Control ค้างไว้แล้วคลิกที่อุปกรณ์ที่เลือกหรือพิมพ์เขียว แล้วเลือก “เตรียม”

     ผู้ช่วยการเตรียมการจะปรากฏขึ้น

2. เลือก “การกำหนดค่าด้วยตนเอง” แล้วเพิ่มอุปกรณ์ใน Apple School Manager หรือ Apple Business Manager

3. ยกเลิกการเลือก “เปิดใช้งาน” และ “ลงทะเบียนให้เสร็จสมบูรณ์” คลิก “ถัดไป” จากนั้นเลือก “บริการใหม่” จากเมนู “บริการจัดการอุปกรณ์” แล้วคลิก “ถัดไป”

4. ป้อน “Apple School Manager” หรือ “Apple Business Manager” ในช่อง "ชื่อ" และปล่อย URL บริการจัดการอุปกรณ์ไว้เหมือนเดิม จากนั้นคลิก “ถัดไป”

   URL จะไม่ตรวจสอบยืนยัน

5. คลิก “ถัดไป” ไม่ต้องเพิ่มสิทธิ์การใช้งาน จากนั้นคลิก “ถัดไป”

6. ดำเนินการข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้:

   • เลือกองค์กรของคุณ

   • เลือก “องค์กรใหม่”

7. คลิก “ถัดไป” แล้วป้อนบัญชี Apple ที่มีการจัดการสำหรับผู้ใช้ที่มีบทบาทผู้ดูแลระบบ, ผู้จัดการไซต์ (Apple School Manager เท่านั้น) หรือผู้จัดการการลงทะเบียนอุปกรณ์ จากนั้นคลิก “ถัดไป”

8. คลิก “ดำเนินการต่อ” เพื่อลงชื่อเข้าให้เสร็จสิ้น จากนั้นเลือก “สร้างข้อมูลประจำตัวการกำกับดูแลใหม่”

9. เลือกบานหน้าต่าง “ผู้ช่วยการตั้งค่า” ที่คุณต้องการข้ามใน “ผู้ช่วยการตั้งค่า” จากนั้นคลิก “ถัดไป”

10. เลือกโปรไฟล์การกำหนดค่า Wi-Fi แล้วเลือก “ถัดไป”

    หากต้องการเรียนรู้วิธีสร้างโปรไฟล์การกำหนดค่า โปรดดู สร้างและแก้ไขโปรไฟล์การกำหนดค่า ใน Apple Configurator สำหรับคู่มือผู้ใช้ Mac

11. รับรองความถูกต้องโดยใช้ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของผู้ดูแลระบบ macOS ของคุณ จากนั้นคลิก “อัปเดตการตั้งค่า”

12. หากได้รับการแจ้งเตือน ให้ปลดล็อคอุปกรณ์

13. หากได้รับการแจ้งเตือนว่าอุปกรณ์ได้รับการตั้งค่าแล้วและจำเป็นต้องลบ โปรดคลิก “ลบ” เพื่อดำเนินการต่อ

    จากนั้นอุปกรณ์จะถูกทิ้งไว้ที่ผู้ช่วยการตั้งค่า และผู้ใช้จะต้องทำการลงทะเบียนให้เสร็จสมบูรณ์

หลังจากเพิ่มอุปกรณ์ด้วย Apple Configurator แล้ว อุปกรณ์นั้นจะปรากฏในกลุ่มที่ชื่อว่า “Apple Configurator” ตรงส่วน "อุปกรณ์" ใน Apple Business Manager จากนั้นคุณสามารถมอบหมายอุปกรณ์ให้กับหนึ่งในบริการจัดการอุปกรณ์ของคุณได้ หลังจากมอบหมายอุปกรณ์ให้กับบริการของคุณแล้ว อุปกรณ์นั้นจะไม่ใช้การตั้งค่าใดๆ จาก Apple Configurator อีกต่อไป

1. ใน Apple Business Manager ให้ลงชื่อเข้าด้วยผู้ใช้ที่มีบทบาทเป็นผู้ดูแลระบบหรือผู้จัดการการลงทะเบียนอุปกรณ์

2. เลือก “อุปกรณ์” ในแถบด้านข้าง จากนั้นเลือก “กรอง”

3. เลือก “แหล่งที่มา” จากนั้นเลือก “เพิ่มด้วยตนเอง” และ “Apple Configurator” แล้วเลือก “ค้นหา”

4. เลือกอุปกรณ์ตั้งแต่หนึ่งเครื่องขึ้นไป จากนั้นเลือก "เพิ่มเติม"

5. เลือก “มอบหมายไปยังบริการ” จากนั้นเลือกบริการจัดการอุปกรณ์ที่คุณต้องการมอบหมายหรือมอบหมายอุปกรณ์ใหม่อีกครั้ง

6. เลือก "ดำเนินการต่อ"

7. อ่านข้อความอย่างละเอียด จากนั้นเลือก “ดำเนินการต่อ”

   กิจกรรมใหม่จะสร้างรายการอุปกรณ์ที่ได้รับมอบหมาย มอบหมายอีกครั้ง และไม่มอบหมายสำหรับบริการจัดการอุปกรณ์ที่เลือกหมายอีกครั้ง คุณสามารถรอให้กิจกรรมเสร็จสมบูรณ์ ดูกิจกรรม หรือเลือก “ปิด” เพื่อปิดหน้าต่าง