Apple ID และความเป็นส่วนตัว

ข้อมูล Apple ID ของคุณจะถูกใช้เพื่อเปิดใช้งานบริการของ Apple เมื่อคุณลงชื่อเข้า ซึ่งรวมถึงข้อมูลสำรอง iCloud ซึ่งจะสำรองข้อมูลโดยอัตโนมัติบนอุปกรณ์ของคุณในกรณีที่คุณต้องเปลี่ยนหรือกู้คืนอุปกรณ์ อาจใช้หมายเลขประจำเครื่องของอุปกรณ์ของคุณเพื่อตรวจสอบว่าคุณมีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับบริการที่นำเสนอหรือไม่
 

Apple ID ได้รับการออกแบบมาเพื่อปกป้องข้อมูลของคุณและทำให้คุณสามารถเลือกสิ่งที่คุณต้องการแชร์ได้

Privacy Icon

  • เมื่อคุณลงชื่อเข้าด้วย Apple ID ของคุณ คุณจะเปิดใช้งานบริการต่างๆ เช่น iCloud, App Store, iMessage และ “ค้นหาของฉัน” บน iPhone เครื่องนี้
  • ข้อมูลบางอย่าง ซึ่งได้แก่ รายชื่อ ปฏิทิน รูปภาพ เอกสาร สุขภาพ กิจกรรม และข้อมูลแอปอื่นๆ จะถูกส่งไปที่ Apple เพื่อจัดเก็บและสำรองข้อมูลในนามของคุณ
  • นอกจากนี้ อุปกรณ์ของคุณยังผูกอยู่กับ Apple ID ของคุณเพื่อมอบบริการช่วยเหลือและบริการที่ดียิ่งขึ้นให้กับคุณ

Apple ID ของคุณและบริการทั้งหมดของ Apple ได้รับการออกแบบมาตั้งแต่ต้นเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เราทำงานอย่างหนักเพื่อเก็บรวบรวมเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นต่อการพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของคุณให้ดีขึ้น และเมื่อเราเก็บรวบรวมข้อมูล เราเชื่อว่าเป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะได้รับทราบว่าเราเก็บข้อมูลอะไรและเหตุใดเราจึงต้องการข้อมูลนั้น เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้โดยการได้รับข้อมูลที่เพียงพอ

Apple ID คือบัญชีส่วนบุคคลที่คุณใช้เพื่อเข้าถึงบริการของ Apple อย่างเช่น iCloud, App Store และร้านค้าออนไลน์อื่นๆ ของ Apple, iMessage และ FaceTime รวมทั้งเข้าถึงเนื้อหาของคุณในอุปกรณ์ทุกเครื่องของคุณและเว็บ Apple ID ของคุณจะมีข้อมูลที่คุณใช้ในการลงชื่อเข้า รวมทั้งรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับรายชื่อ การชำระเงิน และความปลอดภัย เช่น เบอร์โทรศัพท์ที่เชื่อถือแล้วหรือคำถามรักษาความปลอดภัยที่คุณใช้กับบริการต่างๆ ของ Apple โดย Apple จะเก็บบันทึกชื่อ หมายเลขประจำเครื่อง และข้อมูลจำเพาะอื่นๆ ของฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์คุณเพื่อให้คุณได้รับบริการและความช่วยเหลือที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงเพื่อความสะดวกในการแสดงสถานะการรับประกันของอุปกรณ์ของคุณและเพื่อตรวจสอบว่าคุณมีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับบริการที่นำเสนอหรือไม่เมื่อคุณเปิดใช้งานอุปกรณ์ คุณสามารถแก้ไขข้อมูล Apple ID และดูรายการอุปกรณ์และเบอร์โทรศัพท์ของคุณได้ในหน้าบัญชี Apple ID ของคุณที่ appleid.apple.com/th

เมื่อคุณลงชื่อเข้าด้วย Apple ID ของคุณ คุณจะเปิดใช้งานบริการต่างๆ เช่น iCloud, App Store, iMessage, FaceTime และ “ค้นหาของฉัน” บน iPhone เครื่องนี้ ข้อมูลบัญชี Apple ID ของคุณรวมถึงเบอร์โทรศัพท์ที่ผูกไว้ของคุณจะถูกใช้กับแต่ละบริการซึ่งจะสร้างข้อมูลการวิเคราะห์ที่อาจใช้เพื่อรักษาและปรับปรุงบริการเหล่านั้น นอกจากนี้ ข้อมูลบางอย่างจากอุปกรณ์ของคุณ ซึ่งได้แก่ รูปภาพโปรไฟล์ที่คุณเลือก, รายชื่อของคุณ, ปฏิทิน, รูปภาพ, เอกสาร, สุขภาพ, กิจกรรม, แถบ Safari และข้อมูลแอปอื่นๆ จะถูกส่งไปที่ Apple เพื่อจัดเก็บและสำรองข้อมูลในนามของคุณ

Apple จะเก็บรวบรวมข้อมูลที่ผูกกับ Apple ID ของคุณเกี่ยวกับว่าอุปกรณ์ของคุณสามารถใช้คุณสมบัติบางประการและบริการบางอย่างที่กฎหมายกำหนดไว้ได้หรือไม่ โดยอิงตามประเทศหรือภูมิภาคที่อุปกรณ์ของคุณอยู่ เรายังเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับแอปที่คุณติดตั้ง รวมถึงข้อมูลว่าคุณติดตั้งแอปจากที่ใด (ตัวอย่างเช่น เว็บไซต์หรือสถานที่ซื้อขายแอป) ที่ผูกกับ Apple ID ของคุณเพื่อจุดประสงค์ในการจัดทำบัญชี การรายงาน การวิเคราะห์ และการตรวจสอบการโจรกรรมซึ่งเกี่ยวข้องกับการเปิดใช้งานคุณสมบัติและบริการที่กฎหมายกำหนดไว้เหล่านี้

iCloud และความเป็นส่วนตัว

การลงชื่อเข้า iCloud

เมื่อคุณใช้ iCloud ข้อมูลบางอย่างที่คุณจัดเก็บไว้ในอุปกรณ์ของคุณจะถูกส่งและจัดเก็บโดย Apple โดยอัตโนมัติ การดำเนินการนี้จะอนุญาตให้คุณเข้าถึงข้อมูลบนอุปกรณ์หรือคอมพิวเตอร์ (“อุปกรณ์”) ทุกเครื่องของคุณที่สามารถใช้งาน iCloud ได้โดยอัตโนมัติ ข้อมูลนี้อาจจะรวมถึง:

  • รายชื่อ
  • ปฏิทิน
  • เตือนความจำ
  • ที่คั่นหน้า
  • แถบ Safari
  • ข้อมูลสุขภาพ
  • ข้อมูลแอปบ้าน
  • โน้ต
  • Freeform
  • รูปภาพ
  • เอกสาร
  • ข้อมูลกระเป๋าสตางค์
  • พวงกุญแจและรหัสผ่าน
  • เบอร์โทรศัพท์บนอุปกรณ์ของคุณ
  • การตั้งค่าอุปกรณ์และบัญชี
  • ข้อมูลจากแอปของบุคคลหรือบริษัทอื่นที่ใช้ iCloud

นอกจากนี้ ข้อมูลสำรอง iCloud ยังถูกเปิดใช้งานเพื่อช่วยให้มั่นใจว่าคุณมีข้อมูลสำรองปัจจุบันของข้อมูลบนอุปกรณ์ของคุณในกรณีที่คุณต้องเปลี่ยนหรือกู้คืนอุปกรณ์

คุณสามารถปรับว่าจะให้เปิดใช้งานคุณสมบัติ iCloud คุณสมบัติใดและส่งข้อมูลอะไรไปที่ iCloud ได้จากการตั้งค่าบนอุปกรณ์ของคุณตลอดเวลา

ความปลอดภัยข้อมูล iCloud

iCloud จะปกป้องข้อมูลของคุณโดยการเข้ารหัสข้อมูลในระหว่างที่ส่งต่อ จัดเก็บบน iCloud ในรูปแบบเข้ารหัส และใช้โทเค็นที่ปลอดภัยเพื่อตรวจสอบสิทธิ์ สำหรับข้อมูลบางอย่าง Apple จะใช้การเข้ารหัสแบบต้นทางถึงปลายทาง ซึ่งหมายความว่าจะมีเพียงคุณเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงข้อมูลนี้และเข้าถึงได้เฉพาะบนอุปกรณ์ที่คุณใช้ลงชื่อเข้า iCloud เท่านั้น โดยคนอื่นหรือแม้กระทั่ง Apple จะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เข้ารหัสแบบต้นทางถึงปลายทางได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความปลอดภัยข้อมูล iCloud ให้ไปที่ support.apple.com/kb/HT202303

ศูนย์ข้อมูลของทั้ง Apple และบุคคลหรือบริษัทอื่นอาจถูกใช้เพื่อจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลของคุณ เมื่อประมวลผลข้อมูลที่จัดเก็บอยู่ในศูนย์ข้อมูลของบุคคลหรือบริษัทอื่น กุญแจการเข้ารหัสจะเข้าถึงได้โดยซอฟต์แวร์ Apple ที่ทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ที่ปลอดภัยและในระหว่างดำเนินการประมวลผลที่จำเป็นเท่านั้น

พวงกุญแจ iCloud

พวงกุญแจ iCloud จะทำให้ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของเว็บไซต์ Safari ข้อมูลบัตรเครดิต และข้อมูลเครือข่าย Wi-Fi ในอุปกรณ์ทุกเครื่องของคุณอัปเดตตรงกันอยู่เสมอและสามารถใช้งานได้ นอกจากนี้ยังสามารถจัดเก็บข้อมูลบัญชีที่คุณใช้สำหรับเมล รายชื่อ ปฏิทิน ข้อความ Facebook ทวิตเตอร์ LinkedIn และบัญชีอินเทอร์เน็ตอื่นๆ รวมทั้งเพิ่มข้อมูลนี้โดยอัตโนมัติไปยังอุปกรณ์ทุกเครื่องของคุณได้

พวงกุญแจ iCloud จะใช้การเข้ารหัสแบบต้นทางถึงปลายทางและได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มีเพียงคุณเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงข้อมูลนี้และเข้าถึงได้เฉพาะบนอุปกรณ์ที่คุณใช้ลงชื่อเข้า iCloud เท่านั้น โดยคนอื่นหรือแม้กระทั่ง Apple จะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลพวงกุญแจ iCloud ของคุณได้ คุณสามารถเลือกปิดใช้พวงกุญแจ iCloud ในการตั้งค่า iCloud ได้ตลอดเวลา

ข้อมูลสำรอง iCloud

เมื่อคุณใช้ข้อมูลสำรอง iCloud ข้อมูลสำรองของคุณอาจประกอบด้วยรูปภาพ, วิดีโอ, ข้อความ (iMessage, SMS และ MMS), ข้อมูลสุขภาพและข้อมูลแอปอื่นๆ, การตั้งค่าตำแหน่งที่ตั้ง (เช่น เตือนความจำตามตำแหน่งที่ตั้งที่คุณตั้งค่าไว้), Visual Voicemail, การตั้งค่าอุปกรณ์, คุณลักษณะของอุปกรณ์ และข้อมูลอื่นๆ จากอุปกรณ์ iOS หรือ iPadOS ของคุณ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการตั้งค่าของคุณ

คุณสามารถหยุดการทำงาน iCloud ไม่ให้สำรองข้อมูลแอปสำหรับบางแอปได้โดยไปที่การตั้งค่า > [ชื่อของคุณ] > iCloud > จัดการที่จัดเก็บข้อมูล > ข้อมูลสำรอง เลือกอุปกรณ์ iOS หรือ iPadOS ของคุณในส่วนข้อมูลสำรอง จากนั้นแตะเพื่อปิดแอปที่คุณต้องการปิดใช้งานการสำรองข้อมูล

คุณสามารถปิดใช้ข้อมูลสำรอง iCloud ทั้งหมดจากการตั้งค่า iCloud และใช้ Finder (macOS Catalina 10.15 ขึ้นไป) หรือ iTunes (macOS Mojave 10.14 หรือก่อนหน้านี้) เพื่อสำรองข้อมูลอุปกรณ์ iOS หรือ iPadOS ไปยังคอมพิวเตอร์ของคุณได้ ในการเอาข้อมูลสำรองของคุณออกจาก iCloud โดยสมบูรณ์ คุณสามารถลบข้อมูลสำรองของคุณแต่ละรายการก่อนที่จะปิดใช้ข้อมูลสำรอง iCloud ได้ หรือไม่เช่นนั้น ข้อมูลสำรองจะถูกเก็บรักษาไว้เป็นเวลาไม่เกิน 180 วัน

การแชร์ข้อมูลกับ iCloud

ถ้าคุณใช้ iCloud เพื่อแชร์ไฟล์แบบสาธารณะหรือแชร์แบบส่วนตัวในโน้ต, Pages, Numbers, Keynote, Freeform และในแอปของบุคคลหรือบริษัทอื่นบางแอป Apple จะจัดเก็บและสามารถเข้าถึงไฟล์ที่แชร์ได้ ชื่อและนามสกุลของคุณที่ผูกกับบัญชี (หากมี) เบอร์โทรศัพท์บนอุปกรณ์ของคุณ และชื่อไฟล์จะถูกเปิดเผยกับทุกคนที่สามารถเข้าถึงลิงก์ที่แชร์ได้ไม่ว่าจะแชร์แบบสาธารณะหรือแบบส่วนตัวก็ตาม ข้อมูลประจำตัวของผู้เข้าร่วมแชร์แบบส่วนตัวจะไม่ถูกเปิดเผยกับคนที่ไม่ได้รับเชิญและไม่ได้ยอมรับการแชร์แบบส่วนตัว

ถ้าคุณสร้างหรือเข้าร่วมคลังที่แชร์ ผู้เข้าร่วมทั้งหมดสามารถเพิ่ม แก้ไข หรือลบรูปภาพและวิดีโอในคลังที่แชร์ผ่าน iCloud ได้ มีหลากหลายวิธีในการเพิ่มเนื้อหาไปยังคลังที่แชร์ด้วยตัวเองหรือด้วยการแชร์อัตโนมัติ คุณสามารถควบคุมวิธีที่คุณต้องการแชร์เนื้อหาได้โดยไปที่การตั้งค่า > รูปภาพ > คลังที่แชร์ > แชร์จากกล้อง บนอุปกรณ์ iOS หรือ iPadOS ของคุณ

iCloud และแอป

แอปบางแอปใช้ iCloud เพื่อจัดเก็บข้อมูลและเนื้อหาที่คุณให้ลงในแอป เพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลบนอุปกรณ์ทุกเครื่องที่เปิดใช้งาน iCloud ของคุณได้ โดยแอปอาจจะเลือกจัดเก็บข้อมูลของคุณบน iCloud บางส่วนหรือทั้งหมด แอปของบุคคลหรือบริษัทอื่นสามารถขอให้ค้นหาคุณได้ เพื่อให้ผู้ใช้อื่นที่ใช้แอปพลิเคชันนั้นสามารถเห็นชื่อและนามสกุลของคุณได้เมื่อพวกเขาค้นหาโดยใช้ Apple ID

คุณสามารถหยุดแอปไม่ให้จัดเก็บข้อมูลบน iCloud ได้โดยปิดใช้การเข้าถึง iCloud ของแอปนั้น ในการทำเช่นนั้น ให้ไปที่การตั้งค่า > [ชื่อของคุณ] > iCloud แล้วแตะเพื่อปิดใช้แอปที่แสดงอยู่ในรายการ

บริการต่างๆ ของ Apple ที่ต้องใช้ iCloud

ในการใช้บริการต่างๆ ของ Apple เช่น Apple Pay, การแชร์กิจกรรม, บ้าน, Handoff, คลิปบอร์ดกลาง และการปลดล็อคด้วย Apple Watch คุณจะต้องลงชื่อเข้า iCloud บนอุปกรณ์ของคุณ ซึ่ง Apple จะใช้แผน iCloud ของคุณเพื่อตรวจสอบยืนยันว่าคุณมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะตั้งค่าและใช้การบันทึกกล้องที่ปลอดภัยในแอปบ้าน โดย Apple จะไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาการบันทึกกล้องของคุณได้ คุณไม่ต้องใช้คุณสมบัติทั้งหมดของ iCloud ก็ได้ คุณสามารถปิดใช้คุณสมบัติ iCloud ใดๆ ที่คุณไม่ต้องการใช้ได้ในการตั้งค่า iCloud บนอุปกรณ์ของคุณ

การลงชื่อออกจาก iCloud

ถ้าคุณต้องการหยุดใช้ iCloud บนอุปกรณ์ iOS หรือ iPadOS และ Apple Watch ใดๆ ที่จับคู่อยู่ คุณสามารถลงชื่อออกจาก iCloud ได้โดยไปที่การตั้งค่า > [ชื่อของคุณ] แล้วแตะลงชื่อออก ในการหยุดใช้ iCloud บน Mac ของคุณ ให้ไปที่การตั้งค่าระบบ > [ชื่อของคุณ] แล้วคลิกลงชื่อออก ทั้งนี้คุณอาจต้องใช้รหัสผ่าน Apple ID ของคุณด้วย

การสื่อสารกับคุณ

Apple อาจใช้ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีของคุณ เช่น ผลิตภัณฑ์ของ Apple ที่คุณเป็นเจ้าของ อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้กับบัญชีของคุณ และการสมัครใช้บริการต่างๆ ของ Apple เพื่อสื่อสารกับคุณเกี่ยวกับ iCloud รวมถึงผลิตภัณฑ์ บริการ และข้อเสนออื่นๆ จาก Apple ที่คุณอาจสนใจ ซึ่งรวมถึง Apple One ด้วย อาจใช้หมายเลขประจำเครื่องของอุปกรณ์ของคุณเพื่อตรวจสอบว่าคุณมีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับบริการที่นำเสนอหรือไม่ ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มการแชร์กันในครอบครัว Apple อาจสื่อสารกับคุณเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ บริการ และข้อเสนอที่มีให้คุณผ่านการแชร์กันในครอบครัว ถ้าคุณซื้อการสมัครใช้บริการ Apple One เราอาจสื่อสารกับคุณเกี่ยวกับคุณสมบัติของบริการแต่ละรายการที่คุณสมัครใช้บริการ

การตลาดผ่านอีเมล
คุณอาจได้รับการสื่อสารเหล่านี้ผ่านอีเมลหากคุณยินยอมที่จะรับข้อมูลการตลาดผ่านอีเมล คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าอีเมลของคุณและเลือกไม่รับอีเมลเหล่านี้ได้โดยไปที่ appleid.apple.com/th หรือบนอุปกรณ์ iOS หรือ iPadOS ของคุณโดยไปที่การตั้งค่า > [ชื่อของคุณ] > ข้อมูลส่วนบุคคล

การแจ้งเตือนแบบผลักข้อมูล
คุณยังอาจได้รับการสื่อสารเหล่านี้ผ่านการแจ้งเตือนแบบผลักข้อมูลอีกด้วย ในการอัปเดตการตั้งค่าการแจ้งเตือนของคุณหรือเลือกไม่รับการแจ้งเตือนบนอุปกรณ์ iOS หรือ iPadOS ของคุณ ให้ไปที่การตั้งค่า > การแจ้งเตือน

การแชร์กันในครอบครัว

การแชร์กันในครอบครัวช่วยให้คุณสามารถแชร์เนื้อหาบางรายการ ตำแหน่งที่ตั้ง การสมัครใช้บริการ และข้อมูลการใช้งานหน้าจอกับสมาชิกครอบครัวได้ ผู้จัดการครอบครัวสามารถเลือกได้ว่าจะเปิดใช้งานคุณสมบัติที่แชร์ใดบ้าง ถ้าเปิดใช้งานการแชร์กันในครอบครัวสำหรับ Apple Music, Apple TV, Apple Arcade หรือ Apple News+ สมาชิกครอบครัวจะสามารถลงชื่อเข้าแต่ละบริการต่อไปได้โดยใช้ Apple ID ของตนเอง รักษาคลังและคำแนะนำของแต่ละคนให้เป็นส่วนตัวได้ พร้อมได้รับประโยชน์จากแผนบริการครอบครัว ในทำนองเดียวกัน การเปิดใช้งานการแชร์กันในครอบครัวสำหรับพื้นที่จัดเก็บข้อมูล iCloud จะทำให้สมาชิกครอบครัวแต่ละคนสามารถเข้าใช้แผนพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของครอบครัวได้ พร้อมรักษาบัญชีและไฟล์ของแต่ละคนแบบแยกต่างหาก

ถ้าเปิดใช้งานการแชร์สินค้าที่ซื้อ สมาชิกครอบครัวจะสามารถเข้าถึงสินค้าจำนวนมากที่คุณซื้อจาก App Store, Apple Books และ Apple Music ในอดีตและในอนาคตได้โดยอัตโนมัติ หากคุณไม่ได้เลือกที่จะซ่อนสินค้าที่ซื้อเหล่านั้น ในการซ่อนสินค้าที่ซื้อ คุณสามารถซ่อนสินค้าที่ซื้อจาก iTunes, Apple Books และ App Store แต่ละรายการ หรือปิดใช้งานแชร์สินค้าที่ซื้อของฉัน ภายในการตั้งค่าการแชร์กันในครอบครัวส่วนบุคคลของคุณ ผู้จัดการครอบครัวจะยังคงได้รับใบเสร็จสำหรับการซื้อสินค้าใน App Store, Apple Books และ Apple Music ต่อไป แม้ว่าคุณจะซ่อนสินค้าที่ซื้อแล้วก็ตาม

ถ้าคุณเลือกที่จะแชร์ตำแหน่งที่ตั้งของคุณกับครอบครัว สมาชิกทุกคนในครอบครัวจะสามารถดูตำแหน่งที่ตั้งของอุปกรณ์ทุกเครื่องของคุณได้ในแอป “ค้นหาของฉัน” เพื่อให้พวกเขาสามารถช่วยคุณค้นหาอุปกรณ์ที่สูญหายหรือดูตำแหน่งที่ตั้งปัจจุบันของคุณบนแผนที่ได้ คุณสามารถจัดการหรือปิดใช้การแชร์ตำแหน่งที่ตั้งกับสมาชิกครอบครัวเป็นรายบุคคลได้ในการตั้งค่า “ค้นหาของฉัน” บนอุปกรณ์ของคุณ

ถ้าคุณเป็นผู้จัดการครอบครัวและเปิดใช้งานเวลาหน้าจอสำหรับครอบครัว คุณจะสามารถดูข้อมูลบางรายการเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ของครอบครัวได้ ผู้จัดการครอบครัวยังสามารถเลือกที่จะตั้งขีดจำกัดเวลาหน้าจอสำหรับครอบครัวได้ด้วย ซึ่งการตั้งค่าดังกล่าวจะมีผลกับบุตรหลานโดยอัตโนมัติ ผู้จัดการครอบครัวสามารถอนุญาตให้สมาชิกครอบครัวดูข้อมูลเวลาหน้าจอของสมาชิกครอบครัวคนอื่นได้

iMessage, FaceTime และ iCloud

เมื่อคุณลงชื่อเข้าด้วย Apple ID บน iPhone ของคุณ คุณจะลงชื่อเข้า iMessage, FaceTime, iCloud และบริการอื่นๆ ของ Apple โดยอัตโนมัติ เบอร์โทรศัพท์บนอุปกรณ์ของคุณจะถูกตรวจสอบยืนยันและผูกกับ Apple ID ของคุณด้วย Apple ID หรือเบอร์โทรศัพท์ของคุณจะแสดงขึ้นมาให้คนที่คุณติดต่อหรือแชร์ข้อมูลด้วยเห็น และผู้คนสามารถติดต่อคุณได้โดยใช้ Apple ID ของคุณ รวมทั้งที่อยู่อีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์ในบัญชีของคุณ คุณสามารถเลือกวิธีที่ผู้คนสามารถติดต่อคุณได้โดยไปที่การตั้งค่า > [ชื่อของคุณ] > ข้อมูลส่วนบุคคล คุณยังสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ iMessage และ FaceTime และความเป็นส่วนตัวได้ด้วยโดยไปที่การตั้งค่า > ข้อความ แล้วแตะเกี่ยวกับ iMessage และ FaceTime และความเป็นส่วนตัว

iTunes Store และ App Store และเพลง

เมื่อคุณลงชื่อเข้าด้วย Apple ID ของคุณบน iPhone คุณจะลงชื่อเข้า iTunes Store, App Store และ Apple Music ไปโดยอัตโนมัติ เพื่อให้คุณสามารถซื้อสินค้าหรือเริ่มใช้งาน Apple Music ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย สินค้าที่คุณเลือกที่จะซื้อจะถูกบันทึกอยู่ในระบบของเรา คุณจึงสามารถดาวน์โหลดสินค้าเหล่านั้นได้อีกครั้งตลอดเวลา ถ้าคุณใช้ Apple Music ประวัติการฟังของคุณอาจถูกเก็บรักษาไว้และใช้เพื่อช่วยจัดหารายการแนะนำสำหรับคุณโดยเฉพาะใน “ฟังตอนนี้” คุณสามารถเลือกที่จะไม่แชร์ประวัติการฟังของคุณจากการตั้งค่า Apple Music ได้

ถ้า iTunes Match มีให้บริการในภูมิภาคของคุณและคุณใช้ iTunes Match ระบบ iCloud จะเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสื่อในคลัง iTunes ของคุณ และจับคู่สื่อกับเพลงที่มีให้ใช้งานอยู่ในตอนนี้ใน iTunes Store หรืออัปโหลดเพลงที่ไม่สามารถจับคู่ได้ หลังจากที่สามารถเข้าถึงเพลงเหล่านั้นได้โดยอุปกรณ์ของคุณที่เข้าเกณฑ์

Apple One

ถ้าผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ของคุณเสนอการสมัครใช้บริการ Apple One และการทดลองใช้ฟรีให้กับคุณ Apple อาจตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์เพื่อยืนยันว่าคุณเข้าเกณฑ์ผ่านทางคู่ค้าที่เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ถ้าคุณสมัครใช้บริการผ่านผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ เบอร์โทรศัพท์ของคุณจะถูกใช้เพื่อระบุบัญชีของคุณ และแจ้งให้ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ของคุณทราบว่าคุณได้เปิดใช้งานการสมัครใช้บริการของคุณแล้ว เราจะใช้เบอร์โทรศัพท์ที่ผูกกับการสมัครใช้บริการของคุณเพื่อตรวจสอบยืนยันบัญชีของคุณเมื่อคุณลงชื่อเข้าและเพื่อเชื่อมต่อการสมัครใช้บริการ Apple One ของคุณกับบัญชีของคุณ

วิธีการชำระเงิน บัตรของขวัญ และการเพิ่มยอดเงิน Apple ID

ในการซื้อสินค้าจาก App Store, iTunes, Music และอื่นๆ คุณต้องเพิ่มวิธีการชำระเงินที่ใช้งานได้ไปยัง Apple ID ของคุณ ในการเพิ่มวิธีการชำระเงินบน iOS ให้ไปที่การตั้งค่า > [ชื่อของคุณ] > การชำระเงินและการจัดส่ง แตะเพิ่มวิธีการชำระเงิน แล้วเพิ่มรายละเอียดการชำระเงินที่เกี่ยวข้อง คุณสามารถเพิ่มรายละเอียดการชำระเงินได้โดยป้อนข้อมูลด้วยตนเองหรือถ่ายรูปบัตรชำระเงินของคุณ ถ้าคุณเลือกเพิ่มรายละเอียดการชำระเงินโดยถ่ายรูปบัตรชำระเงินของคุณ อุปกรณ์ของคุณจะดึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากภาพเพื่อใส่ข้อมูลในช่องที่จำเป็น โดย Apple จะไม่เห็นหรือจัดเก็บภาพของคุณ Apple จะเก็บรวบรวมและจัดเก็บรายละเอียดวิธีการชำระเงินที่คุณให้ ซึ่งรวมถึงหมายเลขบัญชีและวันที่หมดอายุ เพื่อดำเนินการซื้อของคุณให้สมบูรณ์ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด และป้องกันการโจรกรรม คุณยังต้องแจ้งที่อยู่การเรียกเก็บเงินและที่อยู่การจัดส่งกับ Apple ซึ่งข้อมูลนี้อาจถูกใช้เพื่อจุดประสงค์ทางการตลาดและการวิเคราะห์ รวมถึงเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและป้องกันการโจรกรรม

เมื่อคุณใช้บัตรชำระเงิน Apple อาจเก็บรักษาและอัปเดตหมายเลขบัตรและข้อมูลการเรียกเก็บเงินของคุณโดยอัตโนมัติสำหรับการซื้อในอนาคต ธุรกรรมแบบประจำ หรือการใช้งานอื่นๆ ที่คุณอนุญาต Apple อาจได้รับข้อมูลนี้จากสถาบันการเงินหรือเครือข่ายการชำระเงินของคุณ และอาจใช้ข้อมูลนี้เพื่อเป็นการป้องกันการโจรกรรมและเพื่อการตรวจสอบยืนยันด้วย

ถ้าคุณเปิดใช้งาน Apple Pay ไว้ Apple ยังจะตรวจสอบว่ามีวิธีการชำระเงิน Apple Pay ใดที่เข้าเกณฑ์สำหรับเพิ่มเป็นวิธีการชำระเงินในระบบ Apple ID และจะแสดงวิธีการชำระเงินเหล่านั้นด้านล่างพบในกระเป๋าสตางค์ เมื่อคุณทำธุรกรรมด้วย Apple ID ของคุณ Apple อาจตรวจสอบว่ามีวิธีการชำระเงิน Apple ID ใดในระบบเข้าเกณฑ์สำหรับ Apple Pay หรือไม่ ถ้ามี ในการช่วยปกป้องข้อมูลการชำระเงินของคุณ Apple อาจเปิดใช้งาน Apple Pay สำหรับวิธีการชำระเงิน คุณสามารถแก้ไขวิธีการชำระเงินได้ตลอดเวลาโดยไปที่การตั้งค่า > [ชื่อของคุณ] > การชำระเงินและการจัดส่ง

คุณอาจซื้อ Apple Gift Card โดยใช้วิธีการชำระเงินที่ผูกอยู่กับ Apple ID ของคุณและแชร์บัตรของขวัญนั้นกับผู้รับโดยแจ้งที่อยู่อีเมลของผู้รับ ชื่อของคุณ และจำนวนบัตรของขวัญให้กับ Apple คุณอาจป้อนข้อความได้ด้วยหากคุณเลือก Apple จะใช้ข้อมูลผู้รับเพื่อจุดประสงค์ของการซื้อและแลกใช้บัตรของขวัญ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด และป้องกันการโจรกรรม

คุณยังอาจแลกใช้ Apple Gift Card โดยการเพิ่มเข้ายอดเงิน Apple ID ของคุณด้วยมูลค่าของบัตรของขวัญ เมื่อคุณแลกใช้ Apple Gift Card ข้อมูลเกี่ยวกับบัตรของขวัญจะผูกกับยอดเงิน Apple ID ของคุณและอาจถูกใช้โดย Apple เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและป้องกันการโจรกรรม ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับการแลกใช้บัตรของขวัญของคุณ เช่น จำนวนบัตรของขวัญที่คุณแลกใช้ อาจถูกใช้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การแลกใช้ให้เหมาะกับคุณและปรับปรุงการสื่อสารของ Apple กับคุณ คุณสามารถเลือกไม่ใช้ข้อมูลบัตรของขวัญเพื่อปรับให้เหมาะกับคุณได้โดยไปที่ iTunes Store เลื่อนลงไปด้านล่างสุด แตะ Apple ID > ดู Apple ID แล้วแตะเพื่อปิดใช้รายการแนะนำสำหรับคุณโดยเฉพาะ

คุณอาจเพิ่มยอดเงิน Apple ID ของคุณได้โดยตรงโดยใช้วิธีการชำระเงินในระบบ เมื่อคุณเพิ่มยอดเงิน Apple ID ของคุณ คุณอาจมีตัวเลือกสำหรับจำนวนเงินหรือช่วงระยะเวลาของการเพิ่มเงินในแต่ละครั้งโดยอัตโนมัติ เมื่อคุณตั้งค่าการเพิ่มเงินโดยอัตโนมัติ คุณจะได้รับการสื่อสารจาก Apple บนอุปกรณ์ของคุณหรือโดยอีเมลเกี่ยวกับยอดเงินหรือจำนวนเงินที่เพิ่มในแต่ละครั้ง (เช่น การแจ้งการยืนยัน ใบเสร็จ และการแจ้งเตือนเมื่อคุณลงทะเบียน) คุณสามารถอัปเดตหรือหยุดการเพิ่มเงินโดยอัตโนมัติได้ตลอดเวลาในการตั้งค่าบัญชี Apple ID ของคุณ

หลังจากที่คุณแลกใช้บัตรของขวัญหรือเพิ่มยอดเงิน Apple ID ของคุณ ยอดเงินในบัญชี Apple ของคุณที่มีการอัปเดตจะแสดงในกระเป๋าสตางค์เพื่อให้คุณสามารถใช้ยอดเงินในบัญชี Apple สำหรับซื้อสินค้าจาก Apple Store ได้อย่างง่ายดาย

ในการปรับปรุงประสบการณ์เกี่ยวกับวิธีการชำระเงิน บัตรของขวัญ และการเพิ่มยอดเงิน Apple ID ของคุณ Apple อาจเก็บรวบรวมข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับการโต้ตอบรวมทั้งการคลิกและการแตะกับการตั้งค่าการชำระเงินบัญชี Apple ID ของคุณ

ข้อมูลการใช้งาน

เรายังเก็บรวบรวมข้อมูลการใช้งาน iCloud ของคุณเพื่อให้บริการแก่คุณและปรับปรุงคุณภาพของบริการอีกด้วย ในการช่วยจัดการกับปัญหาของลูกค้าที่อาจเกิดขึ้น ข้อมูลเหล่านี้บางส่วนอาจถูกผูกกับ Apple ID ของคุณ เราอาจใช้ที่อยู่ IP ของคุณเพื่อพิจารณาว่าคุณเข้าถึงบริการจากเมืองและประเทศใด แต่เราจะไม่เก็บข้อมูลนี้ไว้

พื้นฐานทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

เราประมวลผล Apple ID ของคุณและข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามที่ได้อธิบายไว้ข้างต้นโดยทั่วไปเพื่อปฏิบัติตามสัญญาของคุณกับ Apple ตามความจำเป็นในการให้บริการ และเพื่อให้เป็นไปตามภาระผูกพันตามกฎหมายของเรา ในกรณีที่ความยินยอมเป็นพื้นฐานทางกฎหมายที่เหมาะสม เราขอยินยอมตามที่กฎหมายท้องถิ่นกำหนด

ถ้ากฎหมายที่บังคับใช้กำหนด เราจะประมวลผลหมวดหมู่ของข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปนี้ตามความจำเป็นเพื่อจุดประสงค์ด้านผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือเพื่อจุดประสงค์ของบุคคลหรือบริษัทอื่น รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับ:

  • บัญชี Apple ID ของคุณซึ่งมีข้อมูลที่คุณใช้ในการลงชื่อเข้า รวมทั้งรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับรายชื่อ การชำระเงิน และความปลอดภัย เช่น เบอร์โทรศัพท์ที่เชื่อถือแล้วหรือคำถามรักษาความปลอดภัยที่คุณใช้กับบริการต่างๆ ของ Apple
  • แอปที่คุณติดตั้ง รวมถึงข้อมูลว่าคุณติดตั้งแอปจากที่ใด (ตัวอย่างเช่น เว็บไซต์หรือสถานที่ซื้อขายแอป)
  • อุปกรณ์ของคุณสามารถใช้คุณสมบัติบางประการและบริการบางอย่างที่กฎหมายกำหนดไว้ได้หรือไม่ โดยอิงตามประเทศหรือภูมิภาคที่อุปกรณ์ของคุณอยู่
  • อุปกรณ์ของคุณ รวมถึงชื่อของอุปกรณ์ หมายเลขประจำเครื่อง และข้อมูลจำเพาะอื่นของฮาร์ดแวร์ของคุณ
  • การใช้และการสมัครใช้บริการต่างๆ ของ Apple ของคุณ เช่น iCloud, iTunes Store, App Store, Apple Music และ Apple One
  • รายละเอียดการชำระเงิน ซึ่งรวมถึงหมายเลขบัญชีและวันที่หมดอายุ ที่อยู่เรียกเก็บเงินและที่อยู่จัดส่ง และข้อมูลการแลกใช้บัตรของขวัญ

ผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายเหล่านี้รวมถึง:

  • ให้บริการและบริการช่วยเหลือที่ดียิ่งขึ้นกับคุณและผู้อื่น และเพื่อจุดประสงค์ในการจัดทำบัญชี การรายงาน และการวิเคราะห์
  • การกำหนดความพร้อมใช้งานและการเปิดใช้งานคุณสมบัติและบริการที่กฎหมายกำหนดไว้
  • การใช้ข้อมูลของคุณเพื่อส่งข้อเสนอที่คุณอาจสนใจให้กับคุณผ่านอีเมลและการแจ้งเตือนแบบผลักข้อมูล
  • การตรวจสอบสิทธิ์ในการรับข้อเสนอต่างๆ
  • การป้องกันการโจรกรรมและกิจกรรมอื่นที่ประสงค์ร้าย

การเก็บบันทึกข้อมูล

เมื่อคุณทำการซื้อ เช่น การสมัครรับ เราเก็บบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการซื้อของคุณเป็นระยะเวลาตามที่ระบุไว้ในกฎหมาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการแจ้งทางด้านการเงินที่แตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาค สำหรับลูกค้าส่วนใหญ่ที่ต้องเก็บบันทึกข้อมูลเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 10 ปี แต่ในภูมิภาค เช่น ประเทศจีน การเก็บบันทึกข้อมูลอาจมีระยะเวลา 30 ปี เรายังอาจเก็บบันทึกข้อมูลการโต้ตอบของคุณกับบริการที่เกี่ยวข้องกับ iCloud อีกด้วย โดยทั่วไปบันทึกเหล่านี้จะถูกจัดเก็บเป็นเวลา 30 วัน แต่อาจถูกจัดเก็บเป็นเวลาสูงสุดสามปีในรูปแบบที่รวบรวมข้อมูล เว้นแต่ว่าเราต้องดำเนินการตามกฎหมายหรือกระบวนการทางกฎหมายในการจัดเก็บข้อมูลเป็นระยะเวลานานขึ้น

ถ้าคุณลบบัญชี Apple ID ของคุณ เราจะเก็บบันทึกข้อมูลของบัญชีที่ลบตามภาระผูกพันตามกฎหมายของหน่วยงานรวมถึงตามที่อธิบายไว้ข้างต้น และเป็นระยะเวลานานตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของความปลอดภัยของบัญชี ถ้าคุณเลือกที่จะสร้างบัญชีใหม่ในภายหลัง คุณจะต้องใช้ที่อยู่อีเมลที่ไม่ผูกกับบัญชีที่คุณขอให้เราลบ ถ้าคุณใช้เบอร์โทรศัพท์ในการสร้างบัญชีของคุณ เบอร์โทรศัพท์นั้นจะไม่สามารถใช้ในการสร้างบัญชีอื่นได้ด้วยเหตุผลเดียวกัน คุณจะไม่สามารถเอาที่อยู่อีเมลหลักของบัญชีหรือเบอร์โทรศัพท์ออกได้หากคุณใช้ที่อยู่อีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์นั้นในการสร้างบัญชี เรายังอาจต้องเก็บบันทึกข้อมูลเพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงของศาลหรือกระบวนการอื่นที่ได้รับมอบอำนาจที่เทียบเท่าอีกด้วย

เมื่อเราลบบัญชี เราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อลบข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่ผูกกับบัญชีของคุณ ถ้าเราลบข้อมูลส่วนบุคคล เราจะเรนเดอร์ทั้งข้อมูลส่วนบุคคลบางอย่างเกี่ยวกับคุณที่ไม่สามารถกู้คืนได้อย่างถาวร และยังทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลบางอย่างไม่สามารถระบุตัวตนได้อีกด้วย

ข้อมูลที่เก็บรวบรวมโดย Apple จะได้รับการปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Apple เสมอ ซึ่งสามารถดูได้ที่ www.apple.com/th/privacy

วันที่เผยแพร่: 5 มีนาคม 2024