เกี่ยวกับขีดจำกัดเมื่อใช้ Apple Pay ในร้านค้า

ออสเตรเลีย

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 200 ดอลลาร์ออสเตรเลีย

จีนแผ่นดินใหญ่

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้า

ฮ่องกง

คุณอาจไม่สามารถใช้ Apple Pay สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 500 ดอลลาร์ฮ่องกง

ญี่ปุ่น

ในร้านค้าบางแห่ง คุณอาจไม่สามารถใช้ Apple Pay ได้ หรือคุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับร้านค้าอื่นๆ คุณอาจไม่สามารถใช้ Apple Pay สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 20,000 เยน

มาเก๊า

คุณอาจต้องเซ็นชื่อในใบเสร็จหรือป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้า

มาเลเซีย

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 250 ริงกิตมาเลเซีย

นิวซีแลนด์

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 200 ดอลลาร์นิวซีแลนด์

สิงคโปร์

คุณอาจต้องเซ็นชื่อในใบเสร็จหรือป้อน PIN ในร้านค้าบางแห่ง คุณอาจไม่สามารถใช้ Apple Pay สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 200 ดอลลาร์สิงคโปร์

เกาหลีใต้

คุณอาจต้องเซ็นชื่อสำหรับการซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 50,000 วอนเกาหลี

ไต้หวัน

คุณอาจต้องเซ็นชื่อสำหรับการซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 1,000 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่

เวียดนาม

คุณอาจต้องเซ็นชื่อในใบเสร็จหรือป้อน PIN สําหรับธุรกรรมที่มีมูลค่าเกิน 1 ล้านดองเวียดนาม

อาร์เมเนีย

คุณอาจไม่สามารถใช้ Apple Pay สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 20,000 ดรัมอาร์มีเนีย

ออสเตรีย

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 25 ยูโร

อาเซอร์ไบจัน

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 80 มานัตอาเซอร์ไบจาน

เบลารุส

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 120 รูเบิลเบลารุส (Visa) หรือ 100 รูเบิลเบลารุส (Mastercard)

บัลแกเรีย

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 100 เลฟบัลแกเรีย

โครเอเชีย

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 100 คูนาโครเอเชีย

ไซปรัส

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 50 ยูโร

Czechia

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 500 โครูนาเช็ก

เดนมาร์ก

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 350 โครนเดนมาร์ก

เอสโตเนีย

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 50 ยูโร

ฟินแลนด์

คุณอาจไม่สามารถใช้ Apple Pay สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 50 ยูโร

ฝรั่งเศส

คุณอาจไม่สามารถใช้ Apple Pay สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 50 ยูโร

จอร์เจีย

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 160 ลารี (Visa) หรือ 100 ลารี (Mastercard)

เยอรมนี

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 25 ยูโร (Visa) หรือ 50 ยูโร (Mastercard)

กรีซ

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 50 ยูโร

ฮังการี

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 15,000 โฟรินต์ฮังการี

ไอซ์แลนด์

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 7,500 โครนาไอซ์แลนด์

ไอร์แลนด์

คุณอาจไม่สามารถใช้ Apple Pay สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 50 ยูโร

อิตาลี

คุณอาจต้องเซ็นชื่อในใบเสร็จหรือป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 25 ยูโร

คาซัคสถาน

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 25,000 เทงเจคาซัคสถาน (Visa) หรือ 20,000 เทงเจคาซัคสถาน (Mastercard)

ลัตเวีย

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 50 ยูโร

ลิกเตนสไตน์

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 40 ฟรังก์สวิส

ลิทัวเนีย

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 50 ยูโร

ลักเซมเบิร์ก

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 25 ยูโร (Visa) หรือ 50 ยูโร (Mastercard)

มอลตา

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 50 ยูโร

มอลโดวา

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 1,000 ลิวโรมาเนีย

มอนเตเนโกร

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 25 ยูโร

เนเธอร์แลนด์

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 50 ยูโร

นอร์เวย์

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 400 โครนนอร์เวย์ (Visa) หรือ 500 โครนนอร์เวย์ (Mastercard)

โปแลนด์

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 100 ยูโร

โปรตุเกส

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 50 ยูโร

โรมาเนีย

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 100 ลิวโรมาเนีย

เซอร์เบีย

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 4,000 ดีนาร์เซอร์เบีย

สโลวาเกีย

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 20 ยูโร

สโลวีเนีย

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 15 ยูโร

สเปน

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 20 ยูโร (Visa) หรือ 50 ยูโร (Mastercard)

สวีเดน

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 400 โครนาสวีเดน

สวิตเซอร์แลนด์

คุณอาจต้องเซ็นชื่อในใบเสร็จหรือป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 80 ฟรังก์สวิส

ยูเครน

คุณอาจต้องเซ็นชื่อในใบเสร็จหรือป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 15,000 ฮริฟเนียยูเครน (Visa) หรือ 1,000 ฮริฟเนียยูเครน (Mastercard)

สหราชอาณาจักร

คุณอาจไม่สามารถใช้ Apple Pay สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 100 ปอนด์สเตอร์ลิง

อาร์เจนตินา

คุณอาจไม่สามารถใช้ Apple Pay สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 8,000 เปโซอาร์เจนตินา

บราซิล

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 50 เรอัลบราซิล

โคลอมเบีย

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 95,000 เปโซโคลอมเบีย

คอสตาริกา

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 30,000 โกลอนคอสตาริกา

เอกวาดอร์

คุณณอาจต้องเซ็นชื่อในใบเสร็จสําหรับการซื้อ

เม็กซิโก

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 1,000 เปโซเม็กซิโก

เปรู

คุณอาจไม่สามารถใช้ Apple Pay สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 150 นูโวซอลเปรู

บาห์เรน

คุณอาจไม่สามารถใช้ Apple Pay สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 50 ดีนาร์บาห์เรน

อิสราเอล

คุณอาจไม่สามารถใช้ Apple Pay สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 300 นิวเชเกลอิสราเอล

จอร์แดน

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 150 ดีนาร์จอร์แดน

คูเวต

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 25 ดีนาร์คูเวต

ปาเลสไตน์

คุณอาจไม่สามารถใช้ Apple Pay สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 75 ดอลลาร์สหรัฐ/นิวเชเกลอิสราเอล

กาตาร์

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 300 ริยัลกาตาร์

ซาอุดีอาระเบีย

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 300 ริยัลซาอุดีอาระเบีย

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

คุณอาจต้องป้อน PIN สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 100 เดอร์แฮมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

แคนาดา

คุณอาจไม่สามารถใช้ Apple Pay สำหรับซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 250 ดอลลาร์แคนาดา

สหรัฐอเมริกา

คุณอาจต้องเซ็นชื่อสำหรับการซื้อสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 50 ดอลลาร์สหรัฐ