เกี่ยวกับตัวช่วยเชื่อมต่อ Wi-Fi
เมื่อใช้ iOS 9 ขึ้นไป คุณจะสามารถใช้ตัวช่วยเชื่อมต่อ Wi-Fi เพื่อสลับไปใช้ระบบเซลลูลาร์โดยอัตโนมัติเมื่อการเชื่อมต่อ Wi-Fi มีสัญญาณอ่อน
วิธีการทำงานของตัวช่วยเชื่อมต่อ Wi-Fi
เมื่อใช้ตัวช่วยเชื่อมต่อ Wi-Fi คุณจะยังคงสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้แม้ว่าการเชื่อมต่อ Wi-Fi จะมีสัญญาณอ่อนก็ตาม เช่น หากคุณกำลังใช้ Safari ขณะที่การเชื่อมต่อ Wi-Fi มีสัญญาณอ่อน และโหลดหน้าเว็บไม่ได้ ตัวช่วยเชื่อมต่อ Wi-Fi จะเปิดใช้งานและสลับไปใช้ระบบเซลลูลาร์โดยอัตโนมัติ เพื่อให้การโหลดหน้าเว็บดำเนินต่อไป คุณสามารถใช้ตัวช่วยเชื่อมต่อ Wi-Fi กับแอพส่วนใหญ่ได้ เช่น Safari, Apple Music, เมล, แผนที่ และอื่นๆ
เมื่อเปิดใช้งานตัวช่วยเชื่อมต่อ Wi-Fi คุณจะเห็นไอคอนข้อมูลเซลลูลาร์ในแถบสถานะบนอุปกรณ์ของคุณ
เนื่องจากคุณจะคงการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตผ่านเซลลูลาร์ตลอดเวลาเมื่อการเชื่อมต่อ Wi-Fi ไม่ดี คุณจึงอาจต้องใช้ข้อมูลเซลลูลาร์มากขึ้น สำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่ การใช้ข้อมูลนี้น่าจะสูงกว่าการใช้งานก่อนหน้าเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้งานข้อมูล ให้ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลเซลลูลาร์ หรือติดต่อฝ่ายบริการช่วยเหลือของ Apple
คุณสามารถใช้ตัวช่วยเชื่อมต่อ Wi-Fi กับอุปกรณ์ iOS ทุกเครื่องที่ใช้ iOS 9 หรือใหม่กว่า ยกเว้นรุ่นต่อไปนี้ ได้แก่ iPhone 4s, iPad 2 Wi-Fi+Cellular, iPad (รุ่นที่ 3) Wi-Fi+Cellular และ iPad mini (รุ่นที่ 1) Wi-Fi+Cellular
เปิดหรือปิดตัวช่วยเชื่อมต่อ Wi-Fi
ตัวช่วยเชื่อมต่อ Wi-Fi จะเปิดอยู่ตามค่าเริ่มต้น หากคุณไม่ต้องการให้อุปกรณ์ iOS เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอดเวลาเมื่อการเชื่อมต่อ Wi-Fi ไม่ดี คุณก็สามารถปิดการใช้งานตัวช่วยเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ ไปที่การตั้งค่า > เซลลูลาร์ หรือการตั้งค่า > ข้อมูลมือถือ จากนั้นเลื่อนลง แล้วแตะที่แถบเลื่อนสำหรับตัวช่วยเชื่อมต่อ Wi-Fi
ดูเพิ่มเติม
ตัวช่วยเชื่อมต่อ Wi-Fi จะไม่สลับไปเป็นระบบเซลลูลาร์โดยอัตโนมัติ หากคุณใช้ดาต้าโรมมิ่ง
ตัวช่วยเชื่อมต่อ Wi-Fi จะทำงานเฉพาะเมื่อคุณมีแอพที่กำลังทำงานอยู่ในเบื้องหน้า และไม่ได้เปิดใช้งานโดยที่กำลังดาวน์โหลดคอนเทนต์อยู่ในเบื้องหลัง
ตัวช่วยเชื่อมต่อ Wi-Fi จะไม่เปิดใช้งานกับแอพของบริษัทอื่นบางแอพที่สตรีมเสียงหรือวิดีโอ หรือดาวน์โหลดไฟล์แนบ เช่น แอพอีเมล เนื่องจากแอพดังกล่าวอาจใช้ข้อมูลปริมาณมาก
