หากที่คั่นหน้าของ Safari หรือ iCloud ไม่ซิงค์

เรียนรู้สิ่งที่ควรทำเมื่อพบปัญหาในการใช้งานที่คั่นหน้า iCloud หรือรายการอ่าน เช่น หากคุณต้องการเข้าถึงที่คั่นหน้าที่คุณลบโดยบังเอิญ หรือคุณได้ทำการเปลี่ยนแปลงในเว็บเบราว์เซอร์ที่ไม่ได้อัปเดตบนอุปกรณ์เครื่องอื่นๆ ของคุณ เราสามารถช่วยได้

ก่อนจะเริ่มต้น

  • ให้ดูที่หน้าสถานะระบบ เพื่อดูว่ามีปัญหาที่ทราบที่ส่งผลต่อที่คั่นหน้า iCloud หรือไม่ เนื่องจากอุปกรณ์ของคุณอาจไม่ใช่สาเหตุของปัญหา

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการตั้งค่าวันที่และเวลาบนอุปกรณ์ iOS หรือ Mac ถูกต้องแล้ว คุณสามารถแก้ปัญหาที่เกิดจากการตั้งค่าวันที่และเวลาที่ไม่ถูกต้องได้ง่ายๆ ด้วยการป้อนข้อมูลให้ถูกต้องได้

  • ให้ทำสำเนาที่คั่นหน้าของคุณ

  • หากที่คั่นหน้าของคุณบนอุปกรณ์แต่ละเครื่องเรียงลำดับไม่เหมือนกัน ให้ตรวจสอบว่าในโฟลเดอร์มีที่คั่นหน้ากี่รายการ หากโฟลเดอร์นั้นมีที่คั่นหน้ามากกว่า 500 รายการ ลำดับของที่คั่นหน้าบนอุปกรณ์ทั้งหมดอาจไม่ตรงกัน

หากต้องการใช้ที่คั่นหน้าที่ลบไปภายใน 30 วัน คุณสามารถกู้คืนได้จาก iCloud.com คลิกการตั้งค่า และคลิกกู้คืนที่คั่นหน้าในส่วนขั้นสูง

ดูข้อมูลเพิ่มเติมหากคุณต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับการใช้แท็บ iCloud

Follow the steps for your device:

iPhone, iPad, iPod touch

หลังจากทำตามแต่ละขั้นตอนแล้ว ให้ตรวจว่ายังมีปัญหาอยู่หรือไม่

เปิดที่คั่นหน้าแล้วอัปเดตอุปกรณ์

ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณ

  1. เปิด Safari แล้วไปที่ www.apple.com/th/ หากคุณไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ที่คั่นหน้า iCloud และรายการอ่าน* ของคุณจะไม่อัปเดตในแอป Safari รับความช่วยเหลือเกี่ยวกับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณ

  2. เปิด เว็บไซต์ที่ปลอดภัย จากอุปกรณ์ iOS ของคุณเพื่อดูว่าคุณสามารถเข้าถึงพอร์ต 80 และ 443 ได้หรือไม่ Safari จำเป็นต้องเข้าใช้งานพอร์ต 443 เพื่อส่งข้อมูลการอัปเดตระหว่าง iCloud กับอุปกรณ์ของคุณ

* รายการอ่านรองรับเฉพาะในอุปกรณ์ iOS และ macOS

ตรวจสอบรายละเอียดบัญชีของคุณ

คุณต้องลงชื่อเข้าใช้ด้วย Apple ID เดียวกันกับที่คุณใช้บนอุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับ แตะการตั้งค่า > [ชื่อของคุณ]

รีสตาร์ท Safari

ปิดและรีสตาร์ทแอป Safari บนอุปกรณ์ iOS หากคุณไม่มั่นใจว่าต้องปิด Safari อย่างไร ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้

ปิดที่คั่นหน้า iCloud แล้วเปิดอีกครั้ง

  1. แตะการตั้งค่า > [ชื่อของคุณ] > iCloud

  2. ปิด Safari

  3. คุณสามารถเลือกลบออกจาก [อุปกรณ์] ของฉัน หากข้อมูลของคุณอยู่ในคอมพิวเตอร์ตั้งแต่หนึ่งเครื่องขึ้นไป ไม่เช่นนั้น ให้เลือกเก็บไว้ใน [อุปกรณ์] ของฉัน

  4. รอสักครู่ แล้วเปิด Safari อีกครั้ง

รีสตาร์ทอุปกรณ์

รีสตาร์ทอุปกรณ์ หากคุณไม่มั่นใจว่าต้องทำอย่างไร ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้

Mac

หลังจากทำตามแต่ละขั้นตอนแล้ว ให้ตรวจว่ายังมีปัญหาอยู่หรือไม่

เปิดที่คั่นหน้า iCloud แล้วอัปเกรดซอฟต์แวร์

ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณ

  1. ออกจาก Safari แล้วเปิด Safari อีกครั้ง

  2. ลองไปที่ www.apple.com/th/ หากคุณไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ที่คั่นหน้า iCloud และรายการอ่านของคุณในแอป Safari จะไม่อัปเดต รับความช่วยเหลือเกี่ยวกับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณ

  3. เปิดเว็บไซต์ที่ปลอดภัยจาก Mac เพื่อดูว่าสามารถเข้าใช้งานพอร์ต 80 และ 443 ได้หรือไม่ Safari จำเป็นต้องเข้าใช้งานพอร์ต 443 เพื่อส่งข้อมูลการอัปเดตระหว่าง iCloud กับอุปกรณ์ของคุณ

ตรวจสอบรายละเอียดบัญชีของคุณ

เลือกเมนู Apple  แล้วคลิก iCloud ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Apple ID เดียวกันกับที่คุณใช้บนอุปกรณ์อื่นๆ ของคุณที่รองรับ

ปิดที่คั่นหน้า iCloud แล้วเปิดอีกครั้ง

  1. ออกจาก Safari

  2. เลือกเมนู Apple  > การตั้งค่าระบบ หากคุณใช้ macOS Catalina ให้คลิก Apple ID คลิก iCloud

  3. ยกเลิกการเลือก Safari

  4. ปิดการตั้งค่าระบบแล้วรอประมาณหนึ่งนาที

  5. เปิดการตั้งค่าระบบ แล้วคลิก iCloud

  6. เลือก Safari

  7. เปิด Safari

รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์

รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์แล้วดูว่ายังคงมีปัญหาอยู่หรือไม่

Microsoft Windows

หลังจากทำตามแต่ละขั้นตอนแล้ว ให้ตรวจว่ายังมีปัญหาอยู่หรือไม่

ตรวจสอบความต้องการของระบบ

ตรวจสอบให้แน่ใจว่า PC และเบราเซอร์ของคุณตรงตามความต้องการของระบบสำหรับ iCloud

ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณ

  1. ลองไปที่ www.apple.com/th/ หากคุณไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ที่คั่นหน้า iCloud ของคุณจะไม่อัปเดต รับความช่วยเหลือเกี่ยวกับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณ

  2. เปิดเว็บไซต์ที่ปลอดภัยเพื่อดูว่าสามารถเข้าใช้งานพอร์ต 80 และ 443 ได้หรือไม่ Safari และ Internet Explorer จำเป็นต้องเข้าใช้งานพอร์ต 443 เพื่อส่งข้อมูลการอัปเดตระหว่าง iCloud กับอุปกรณ์ของคุณ

ปิดและเปิด iCloud สำหรับ Windows อีกครั้ง

หากคุณติดตั้งเบราว์เซอร์ขณะที่ iCloud สำหรับ Windows เปิดอยู่ คุณต้องออกและเปิด iCloud สำหรับ Windows อีกครั้ง จากนั้น เบราว์เซอร์ใหม่จะปรากฏขึ้นในรายการตัวเลือกที่คั่นหน้าในการตั้งค่า iCloud สำหรับ Windows

ตรวจสอบการตั้งค่าของคุณ

เปิด iCloud สำหรับ Windows และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Apple ID เดียวกันกับที่คุณใช้บนอุปกรณ์อื่นๆ ของคุณที่รองรับ

รีเฟรชเบราว์เซอร์

บางครั้งการเปลี่ยนแปลงล่าสุดที่คุณทำในเว็บเบราว์เซอร์อาจไม่อัปเดตบนอุปกรณ์เครื่องอื่นๆ (หรือในทางตรงกันข้าม) ออกและเปิดเว็บเบราว์เซอร์ใหม่อีกครั้งเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงมีผล

ที่คั่นหน้าใน Google Chrome อาจอัปเดตได้ไม่เร็วเท่าใน Internet Explorer* หรือ Firefox

*หากคุณใช้ iCloud สำหรับ Windows 10 เป็นต้นไปใน Internet Explorer ที่คั่นหน้าอาจไม่เรียงตามลำดับ

ตรวจสอบที่คั่นหน้าในเบราว์เซอร์อื่น

หากคุณไม่สามารถใช้ที่คั่นหน้า iCloud กับเบราว์เซอร์หนึ่งได้ ให้ลองใช้ที่คั่นหน้ากับเบราว์เซอร์อื่น

เบราว์เซอร์ Microsoft Edge ใน Windows 10 ไม่รองรับที่คั่นหน้า iCloud หากคุณต้องการใช้ที่คั่นหน้า iCloud ใน Windows 10 ให้ใช้เบราว์เซอร์ที่รองรับ เช่น Google Chrome, Mozilla Firefox หรือ Internet Explorer ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับความต้องการของระบบสำหรับ iCloud

เช่น หากปกติคุณมักจะใช้ Internet Explorer ให้ลองใช้ Firefox แทน หากคุณพบปัญหานี้เฉพาะกับเบราว์เซอร์ใดเบราว์เซอร์หนึ่งเท่านั้น ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนสำหรับเบราว์เซอร์ดังกล่าวที่ระบุอยู่ในส่วนนี้ หากปัญหาส่งผลต่อเบราว์เซอร์มากกว่าหนึ่งเบราว์เซอร์ ให้ตรวจสอบปัญหาในการตั้งค่าคอมพิวเตอร์และเครือข่าย รวมถึงการเชื่อมต่อ

ตรวจสอบตำแหน่งของโฟลเดอร์รายการโปรดของ Internet Explorer

หากคุณเปลี่ยนตำแหน่งที่บันทึกรายการโปรดของ Internet Explorer (ที่คั่นหน้า) เอาไว้ รายการโปรดของคุณจะไม่อัปเดตบนอุปกรณ์เครื่องอื่นๆ โดยอัตโนมัติ วิธีแก้ไขปัญหานี้

  1. เปิด iCloud สำหรับ Windows

  2. ยกเลิกการเลือกที่คั่นหน้า แล้วคลิกปรับใช้

  3. เปลี่ยนตำแหน่งที่ตั้งของโฟลเดอร์รายการโปรดกลับเป็นตำแหน่งที่ตั้งเริ่มต้น (ปกติคือ C:\Users\username\Favorites)

  4. กลับไปยัง iCloud สำหรับ Windows เลือก ที่คั่นหน้า แล้วคลิก ปรับใช้

ตั้งค่า Internet Explorer 10 หรือ Google Chrome ให้อยู่ในโหมดเดสก์ท็อป

วิธีตั้งโหมดเดสก์ท็อปเป็นค่าเริ่มต้นใน Internet Explorer 10

  1. เปิด Internet Explorer

  2. คลิกเครื่องมือ > ตัวเลือกอินเทอร์เน็ต จากนั้นคลิกแท็บโปรแกรม

  3. เลือกใน Internet Explorer บนเดสก์ท็อปทุกครั้ง คลิกตกลง

  4. เลือกช่องทำเครื่องหมาย "เปิดไทล์ Internet Explorer บนเดสก์ท็อป" คลิกตกลง

วิธีตั้งโหมดเดสก์ท็อปเป็นค่าเริ่มต้นใน Google Chrome

  1. เปิด Chrome

  2. คลิก Chrome จากนั้นเลือก เปิด Chrome ใหม่บนเดสก์ท็อป

    • หากคุณเห็นตัวเลือกที่ชื่อ เปิด Chrome ใหม่ในโหมด Windows 8 แสดงว่าคุณเรียกใช้ในโหมดเดสก์ท็อปตามค่าเริ่มต้นแล้ว

เปิดใช้งานส่วนขยายที่คั่นหน้า iCloud หรือโปรแกรมเสริมใน Google Chrome หรือ Firefox

Google Chrome:

  1. เปิด Chrome

  2. คลิกเมนู Chrome ที่มุมขวาบน จากนั้นเลือกเครื่องมือเพิ่มเติม > ส่วนขยาย

  3. เลือกช่องทำเครื่องหมาย เปิดใช้งาน ถัดจากที่คั่นหน้า iCloud

Firefox:

  1. เปิด Firefox

  2. คลิกเมนู Firefox ที่มุมขวาบน จากนั้นเลือกโปรแกรมเสริม

  3. คลิกส่วนขยาย

  4. คลิกเปิดใช้งานถัดจากที่คั่นหน้า iCloud

ปิดที่คั่นหน้า iCloud แล้วเปิดอีกครั้ง

  1. ปิดเบราว์เซอร์

  2. เปิด iCloud สำหรับ Windows

  3. ยกเลิกการเลือกช่องทำเครื่องหมาย "ที่คั่นหน้า" แล้วคลิกปรับใช้

  4. รอสักครู่ จากนั้นเลือก ที่คั่นหน้า แล้วคลิก ปรับใช้

  5. เปิดเบราว์เซอร์ของคุณ

รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์

หลังจากรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์แล้ว ดูว่ายังคงมีปัญหาอยู่หรือไม่

หยุดรายการอัปเดตที่คั่นหน้าอัตโนมัติใน Google Chrome หรือ Firefox

หากต้องการหยุดการอัปเดตที่คั่นหน้าโดยอัตโนมัติใน Google Chrome หรือ Firefox ให้ปิดใช้งานส่วนขยาย iCloud หรือโปรแกรมเสริมเบราว์เซอร์โดยทำดังนี้

  1. เปิด iCloud สำหรับ Windows

  2. คลิกตัวเลือกถัดจากที่คั่นหน้า

  3. ยกเลิกการเลือกช่องทำเครื่องหมาย Chrome หรือ Firefox คลิกตกลง

  4. คลิกปรับใช้ จากนั้นคลิกเอาออก

  • หากคุณปิด Chrome ใน iCloud สำหรับ Windows แท็บส่วนขยายจะเปิดใน Chrome หากต้องการปิดใช้งานส่วนขยาย ให้ลบเครื่องหมายในช่องเปิดใช้งานที่อยู่ถัดจากส่วนขยายที่คั่นหน้า iCloud หรือคลิกไอคอนถังขยะเพื่อลบส่วนขยายออก

  • หากคุณปิด Firefox ใน iCloud สำหรับ Windows ตัวจัดการโปรแกรมเสริม Firefox จะเปิดขึ้น คลิก ปิดใช้งาน ที่อยู่ถัดจากโปรแกรมเสริมที่คั่นหน้า iCloud เพื่อปิดใช้งานโปรแกรมเสริม หรือคลิก ลบ เพื่อลบโปรแกรมเสริม

ดูเพิ่มเติม

ดูวิธีใช้ที่คั่นหน้า iCloud กับ Firefox หรือ Google Chrome สำหรับ Windows

การให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ผลิตโดย Apple หรือเว็บไซต์อิสระที่ Apple ไม่ได้ควบคุมหรือทดสอบไม่ถือเป็นการแนะนำหรือการรับรองใดๆ Apple จะไม่รับผิดชอบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเลือก ประสิทธิภาพการทำงาน หรือการใช้งานเว็บไซต์หรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทอื่น Apple ไม่รับรองความถูกต้องหรือความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ของบริษัทอื่น โปรดติดต่อผู้จำหน่ายหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

วันที่เผยแพร่: