AirPods Pro 3 - ข้อมูลทางเทคนิค

ใช้งานได้บนอุปกรณ์ที่ใช้งานร่วมกันได้ที่ใช้ iOS 18, iPadOS 18 หรือ macOS Sequoia และใหม่กว่า เมื่อจับคู่กับ AirPods Pro 2 และใหม่กว่า ที่ใช้เฟิร์มแวร์ล่าสุด

ประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์และคุณสมบัติการควบคุมเสียงรบกวน เช่น การตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ เสียงที่ปรับตามสภาพแวดล้อม และการฟังเสียงภายนอก อาจได้รับผลกระทบจากการสะสมของเศษต่างๆ หรือขี้หู ทำความสะอาดอุปกรณ์เป็นประจำเพื่อรักษาประสิทธิภาพและฟังก์ชั่นการทำงานที่สมบูรณ์ โปรดดูคำแนะนำเกี่ยวกับการทำความสะอาด AirPods Pro ได้ที่ support.apple.com/th-th/120409

ใช้งานได้บนอุปกรณ์ที่ใช้งานร่วมกันได้ที่ใช้ iOS 18, iPadOS 18 หรือ macOS Sequoia และใหม่กว่า เมื่อจับคู่กับ AirPods Pro 2 และใหม่กว่า ที่ใช้เฟิร์มแวร์ล่าสุด อัปเดตซอฟต์แวร์เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

ใช้งานได้บนอุปกรณ์ที่ใช้งานร่วมกันได้ที่ใช้ iOS 18, iPadOS 18 หรือ macOS Sequoia และใหม่กว่า เมื่อจับคู่กับ AirPods Pro 2 และใหม่กว่า ที่ใช้เฟิร์มแวร์ล่าสุด

ต้องใช้กับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ใช้งานร่วมกันได้ ใช้งานได้กับคอนเทนต์ที่ใช้ร่วมกันได้ในแอปที่รองรับ อาจไม่มีบริการคอนเทนต์บางชนิดในแบบ Dolby Atmos, จำเป็นต้องมี iPhone ที่มีกล้อง TrueDepth ในการสร้างโปรไฟล์ส่วนบุคคลสำหรับเสียงเชิงมิติพื้นที่ ซึ่งจะซิงค์ตรงกันระหว่างอุปกรณ์ Apple ที่ใช้ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการล่าสุด รวมไปถึง iOS, iPadOS, macOS และ tvOS

อ่านคำเตือนในฉลากและเอกสารกำกับเครื่องมือแพทย์ก่อนใช้ คุณสมบัติการทดสอบการได้ยินและคุณสมบัติอุปกรณ์ช่วยฟังใช้งานได้กับ AirPods Pro 2 ที่ใช้เฟิร์มแวร์ล่าสุดที่จับคู่กับ iPhone หรือ iPad รุ่นที่ใช้งานร่วมกันได้ที่ใช้ iOS 18 หรือ iPadOS 18 หรือใหม่กว่า และออกแบบมาเพื่อให้บุคคลอายุ 18 ปีขึ้นไปใช้งาน ทั้งนี้ คุณสมบัติอุปกรณ์ช่วยฟังสามารถใช้งานได้เช่นกันบน Mac รุ่นที่ใช้งานร่วมกันได้ที่ใช้ macOS Sequoia และใหม่กว่า โดยออกแบบมาเพื่อผู้คนที่รู้ตัวว่ามีความบกพร่องทางการได้ยินเล็กน้อยจนถึงปานกลาง คุณสมบัติด้านการได้ยินอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ คุณสมบัติบางประเภทอาจใช้ไม่ได้ในบางภูมิภาคหรือบางภาษา

ตัวตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่มาพร้อมเครื่องมีไว้สำหรับใช้ในระหว่างออกกำลังกายด้วยแอปฟิตเนสและแอปของบริษัทอื่นที่ใช้งานร่วมกันได้บน iPhone ที่ใช้ iOS 26 และใหม่กว่า ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ support.apple.com/th-th

มีให้ใช้งานในแอปพลิเคชันที่ใช้ได้ที่ใช้เฟิร์มแวร์ล่าสุด

ใช้งานได้บนอุปกรณ์ที่ใช้งานร่วมกันได้ที่ใช้ iOS 26 หรือ iPadOS 26 และใหม่กว่า เมื่อจับคู่กับ AirPods Pro 2 และใหม่กว่า

AirPods Pro 3 มีความสามารถในการทนฝุ่น เหงื่อ และน้ำ โดยเหมาะสำหรับกีฬาและการออกกำลังกายที่ไม่ใช่ทางน้ำ ผลิตภัณฑ์รวมถึงเคสชาร์จผ่านการทดสอบตามหลักเกณฑ์ของห้องปฏิบัติการที่ได้รับการควบคุม และมีการป้องกันอยู่ที่ระดับ IP57 ตามมาตรฐาน IEC 60529 ความสามารถในการทนฝุ่น เหงื่อ และน้ำจะไม่คงอยู่ถาวร ซึ่งความสามารถดังกล่าวอาจลดลงจากการใช้งานตามปกติ ห้ามชาร์จในขณะที่หูฟังยังเปียกอยู่ โปรดดูคำแนะนำเกี่ยวกับการทำความสะอาดและการทำให้แห้งที่ support.apple.com/th-th/HT210711

ขนาดและน้ำหนักอาจแตกต่างกันตามการปรับแต่งและกระบวนการผลิต

การใช้งานค้นหาของฉันต้องใช้กับ iOS 18 หรือใหม่กว่า

Apple ทำการทดสอบในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม 2025 โดยใช้ AirPods Pro 3 พร้อมเคสชาร์จ MagSafe รุ่นก่อนการผลิตจริง ซึ่งจับคู่กับ iPhone 17 Pro รุ่นก่อนการผลิตจริง ทั้งหมดใช้ซอฟต์แวร์รุ่นก่อนเปิดให้ใช้งานจริง เพลย์ลิสต์ประกอบด้วยไฟล์เสียง 358 ไฟล์ที่ไม่ซ้ำกันที่ซื้อจาก iTunes Store (เข้ารหัส AAC 256 Kbps) โดยมีการตั้งระดับเสียงที่ 50% และเปิดใช้งานการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ หากเปิดใช้งานเสียงเชิงมิติพื้นที่และการติดตามศีรษะจะสามารถใช้ฟังได้นานสูงสุด 7.5 ชั่วโมง ในการทดสอบมีการคายประจุแบตเตอรี่ของ AirPods Pro จนหมดขณะเล่นเสียงจนกว่า AirPods Pro ข้างใดข้างหนึ่งจะหยุดเล่น ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าอุปกรณ์ สภาพแวดล้อม การใช้งาน และปัจจัยอื่นๆ อีกหลายอย่าง

Apple ทำการทดสอบในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม 2025 โดยใช้ AirPods Pro 3 พร้อมเคสชาร์จ MagSafe รุ่นก่อนการผลิตจริง ซึ่งจับคู่กับ iPhone 17 Pro รุ่นก่อนการผลิตจริง ทั้งหมดใช้ซอฟต์แวร์รุ่นก่อนเปิดให้ใช้งานจริง เพลย์ลิสต์ประกอบด้วยไฟล์เสียง 358 ไฟล์ที่ไม่ซ้ำกันที่ซื้อจาก iTunes Store (เข้ารหัส AAC 256 Kbps) โดยมีการตั้งค่าระดับเสียงที่ 50% และเปิดใช้งานการฟังเสียงภายนอก ในการทดสอบมีการคายประจุแบตเตอรี่ของ AirPods Pro จนหมดโดยมีการเปิดใช้งานการตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างการเดินออกกำลังกายกลางแจ้ง พร้อมเล่นเพลงจาก iPhone จนกว่า AirPods Pro ข้างใดข้างหนึ่งจะคายประจุจนหมด ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าอุปกรณ์ สภาพแวดล้อม การใช้งาน และปัจจัยอื่นๆ อีกหลายอย่าง

การชาร์จแบบ MagSafe ต้องใช้กับที่ชาร์จ MagSafe ที่เข้ากันได้ การชาร์จแบบไร้สายต้องใช้กับที่ชาร์จแบบไร้สายที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Qi เคสชาร์จยังสามารถชาร์จกับที่ชาร์จสำหรับ Apple Watch หรือช่องต่อ USB-C ได้อีกด้วย

Apple ทำการทดสอบในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม 2025 โดยใช้ AirPods Pro 3 พร้อมเคสชาร์จ MagSafe รุ่นก่อนการผลิตจริง ซึ่งจับคู่กับ iPhone 17 Pro รุ่นก่อนการผลิตจริง ทั้งหมดใช้ซอฟต์แวร์รุ่นก่อนเปิดให้ใช้งานจริง เพลย์ลิสต์ประกอบด้วยไฟล์เสียง 358 ไฟล์ที่ไม่ซ้ำกันที่ซื้อจาก iTunes Store (เข้ารหัส AAC 256 Kbps) โดยมีการตั้งระดับเสียงที่ 50% และเปิดใช้งานการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ ในการทดสอบมีการคายประจุแบตเตอรี่ของ AirPods Pro จนหมดขณะเล่นเสียงจนกว่า AirPods Pro ข้างใดข้างหนึ่งจะหยุดเล่น จากนั้นชาร์จ AirPods Pro ที่แบตเตอรี่หมดให้เต็ม 100% แล้วเล่นเสียงต่อจนกว่า AirPods Pro ข้างใดข้างหนึ่งจะหยุดเล่น และทำเช่นนี้วนไปเรื่อยๆ จนกว่า AirPods Pro ทั้งสองข้างและเคสชาร์จจะคายประจุจนหมด ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าอุปกรณ์ สภาพแวดล้อม การใช้งาน และปัจจัยอื่นๆ อีกหลายอย่าง

Apple ทำการทดสอบในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม 2025 โดยใช้ AirPods Pro 3 พร้อมเคสชาร์จ MagSafe รุ่นก่อนการผลิตจริง ซึ่งจับคู่กับ iPhone 17 Pro รุ่นก่อนการผลิตจริง ทั้งหมดใช้ซอฟต์แวร์รุ่นก่อนเปิดให้ใช้งานจริง เพลย์ลิสต์ประกอบด้วยไฟล์เสียง 358 ไฟล์ที่ไม่ซ้ำกันที่ซื้อจาก iTunes Store (เข้ารหัส AAC 256 Kbps) โดยมีการตั้งระดับเสียงที่ 50% และเปิดใช้งานการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ และการทดสอบการชาร์จ 5 นาทีเป็นการทดสอบกับ AirPods Pro ที่แบตเตอรี่หมดและนำมาชาร์จเป็นเวลา 5 นาที จากนั้นเริ่มเล่นเสียงจนกว่า AirPods Pro ข้างใดข้างหนึ่งจะหยุดเล่น ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าอุปกรณ์ สภาพแวดล้อม การใช้งาน และปัจจัยอื่นๆ อีกหลายอย่าง

ต้องใช้กับ iOS หรือ iPadOS เวอร์ชั่นล่าสุด

ข้อมูลมีความถูกต้อง ณ เวลาที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์

วัสดุรีไซเคิลหรือวัสดุหมุนเวียนในผลิตภัณฑ์หมายถึงมวลของวัสดุรีไซเคิลที่ได้รับการรับรอง เมื่อเทียบกับมวลทั้งหมดของผลิตภัณฑ์ ซึ่งไม่รวมบรรจุภัณฑ์หรืออุปกรณ์เสริมภายในกล่อง

อ้างอิงจากบรรจุภัณฑ์สำหรับการจำหน่ายปลีกที่จัดส่งโดย Apple การแจกแจงรายละเอียดของบรรจุภัณฑ์สำหรับการจำหน่ายปลีกในสหรัฐอเมริกาตามน้ำหนัก ในขณะที่สารยึดติด หมึกพิมพ์ และตัวเคลือบไม่ได้นำมารวมในการคำนวณวัสดุที่เป็นพลาสติกและน้ำหนักของบรรจุภัณฑ์

อ้างอิงจากจำนวนกล่องบรรจุแบบหลายหน่วยที่สามารถจัดเรียงบนแท่นบรรจุสินค้า โดยเปรียบเทียบกับ AirPods Pro 2 ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นนี้ไม่รวมแท่นบรรจุสินค้าที่ขนส่งไปยังบราซิล

เราประเมินสัดส่วนของการปล่อยก๊าซจากการใช้ไฟฟ้าในการผลิตของเราที่ได้จากแหล่งไฟฟ้าคาร์บอนต่ำ โดยใช้โมเดลคาร์บอนของเราซึ่งคำนวณจากพลังงานคาร์บอนต่ำที่ซัพพลายเออร์ของเราจัดหามาในปีงบประมาณก่อนหน้า ซึ่งอ้างอิงจากการจัดสรรการผลิตของซัพพลายเออร์ในช่วงที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ การคำนวณนี้ประเมินจากซัพพลายเออร์สำหรับ AirPods Pro 3 ส่วนที่รวมอยู่ในตัวเลขนี้มีเพียงไฟฟ้าคาร์บอนต่ำที่ Apple หรือซัพพลายเออร์จัดหาโดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพลังงานสะอาดสำหรับซัพพลายเออร์ของ Apple

ประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานอ้างอิงจาก Federal Energy Conservation Standards for Battery Chargers ของกระทรวงพลังงานแห่งสหรัฐอเมริกา

ทุกไซต์งานที่ได้รับการยอมรับของซัพพลายเออร์ที่ดำเนินการประกอบ AirPods Pro 3 ขั้นสุดท้าย ซึ่งทั้งหมดเป็นซัพพลายเออร์ของ Apple มานานเกินหนึ่งปีนั้น ผ่านการรับรอง Zero Waste จาก UL LLC ซึ่งเป็นบริษัทภายนอก (มาตรฐาน UL 2799) UL กำหนดให้มีกระบวนการเปลี่ยนแปลงการจัดการขยะแทนการส่งไปยังพื้นที่ฝังกลบอย่างน้อย 90% เพื่อผ่านการรับรอง Zero Waste to Landfill (ระดับเงิน 90—94%, ระดับทอง 95—99% และระดับแพลตินั่ม 100%)

ข้อมูลจำเพาะว่าด้วยสารควบคุมของ Apple อธิบายข้อจำกัดของ Apple เกี่ยวกับการใช้สารเคมีบางประเภทในวัสดุในผลิตภัณฑ์ Apple รวมถึงอุปกรณ์เสริม กระบวนการผลิต และบรรจุภัณฑ์ที่ใช้สำหรับการจัดส่งผลิตภัณฑ์ถึงลูกค้าปลายทางของ Apple โดยข้อจำกัดดังกล่าวได้มาจากกฎหมายหรือระเบียบระหว่างประเทศ หน่วยงานกำกับดูแล ข้อกำหนดด้านฉลากสิ่งแวดล้อม มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม และนโยบายต่างๆ ของ Apple ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ Apple ปลอดสาร PVC และพทาเลท ยกเว้นสายไฟ AC ในอินเดีย ไทย (สำหรับสายไฟ AC แบบสองขา) และเกาหลีใต้ ซึ่งอยู่ในระหว่างการขออนุมัติการใช้วัสดุทดแทน PVC และพทาเลทจากรัฐบาล ผลิตภัณฑ์ Apple เป็นไปตามระเบียบสหภาพยุโรป 2011/65/EU และฉบับแก้ไข รวมถึงข้อยกเว้นการใช้ตะกั่ว เช่น การบัดกรีที่อุณหภูมิสูง โดย Apple กำลังพยายามเลิกใช้สารยกเว้นเหล่านี้สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เมื่อมีความเป็นไปได้ทางเทคนิค