Taptic Engine ของ iPhone 17 Pro Max

ก่อนที่คุณจะเริ่ม

null คำเตือน

อ่านความปลอดภัยของแบตเตอรี่ และปฏิบัติตามแนวทางการจัดการพื้นที่ทำงานและแบตเตอรี่ก่อนที่คุณจะเริ่ม

เครื่องมือ

  • ไขควงปรับแรงบิด (10–34 Ncm)

  • คีมหนีบป้องกันไฟฟ้าสถิต

  • ดอกไขควงแบบ Half-moon 44 มม. หัวแฉก

  • โพรบไนลอน (แท่งสีดำ)

  • ดอกไขควงซูเปอร์สกรูแบบ Half-moon ขนาด 50 มม.

  • ไขควงแรงบิด (สีเทา, 0.55 kgf cm)

  • ดอกไขควง Torx Plus 4IP 25 มม. (สําหรับรุ่นที่มีซิมการ์ดแบบใส่ในเครื่อง)

ดูรายการเครื่องมือทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการซ่อมทั้งหมด

การถอด

หมายเหตุ: หากคุณทําตามขั้นตอนการถอดเรียบร้อยแล้ว ให้ข้ามไปที่การประกอบกลับ

ข้อสำคัญ

ดำเนินการตามขั้นตอนการถอดจอภาพ ขั้นตอนที่ 1 ถึง 5 จากนั้นดำเนินการต่อที่ขั้นตอนที่ 1

  1. ใช้ไขควงปรับแรงบิดและดอกไขควงหัวแฉกเพื่อถอดสกรูหัวแฉก 13 ตัว จากนั้นทำตามขั้นตอนทั้งหมดก่อนที่จะไปยังขั้นตอนถัดไป

    • ถอดตัวครอบขั้วต่อแบตเตอรี่และตัวครอบขั้วต่อจอภาพ เก็บตัวครอบไว้เพื่อประกอบกลับ

    • ยกปลายสายแพแบตเตอรี่ออกจากขั้วต่อ

      • null ข้อควรระวัง: คุณต้องถอดสายแพแบตเตอรี่ออกก่อนเพื่อให้แน่ใจว่า iPhone ยังคงปิดอยู่

    • ยกปลายสายแพจอภาพและสายแพเซ็นเซอร์ตรวจวัดแสงโดยรอบออกจากขั้วต่อ

    • ถอดสปริงกราวด์ออกจาก Taptic Engine เก็บสปริงกราวด์ไว้ใช้ในการประกอบกลับ

      • ข้อสําคัญ: สังเกตการวางแนวสปริงกราวด์ไว้

    • จับจอภาพที่ขอบ ดึงแถบบนยางดูดจับออกเพื่อปลดออกจากจอภาพ จากนั้นวางจอภาพคว่ำลงบนพื้นผิวที่สะอาดและเรียบ

  2. สําหรับรุ่นที่มี eSIM ให้ข้ามไปที่ขั้นตอนการถอดที่ 4 สําหรับรุ่นที่มีซิมการ์ดแบบใส่ในเครื่อง ให้ถอดถาดใส่ซิมการ์ด จากนั้นทําตามขั้นตอนที่เหลือทั้งหมด

    • ใช้ไขควงปรับแรงบิดกับดอกไขควง Torx Plus 4IP เพื่อถอดสกรู 4IP จำนวน 14 ตัวออกจากเพลทแบตเตอรี่ตามลำดับที่แสดง

    • ยกแบตเตอรี่ออกจากตัวเครื่อง

  3. ใช้ไขควงปรับแรงบิดและดอกไขควงหัวแฉกเพื่อถอดสกรูหัวแฉก 2 ตัวออกจากชุดชิ้นส่วนประกอบซิมการ์ด จากนั้นทำตามขั้นตอนทั้งหมดก่อนที่จะไปยังขั้นตอนถัดไป

    • เอียงชิ้นส่วนประกอบซิมการ์ดเพื่อให้สามารถเข้าถึงสายแพด้านล่าง

    • ยกปลายสายแพของชุดชิ้นส่วนประกอบซิมการ์ดออกจากขั้วต่อ ถอดชุดชิ้นส่วนประกอบซิมการ์ดออก แล้วเก็บไว้ประกอบกลับ

  4. ใช้แท่งสีดําแยกแผ่นชิมแบตเตอรี่ Taptic Engine ออกจากลําโพงด้านล่าง

    • ยกลำโพงด้านล่างออกจากตัวเครื่องอย่างเบามือ

    • null ข้อควรระวัง: อย่าทำให้สปริงกราวด์บนลำโพงตัวล่างเสียหาย

  5. ค่อยๆ พับสายแพขั้วต่อ USB-C กลับ 90 องศาเพื่อให้สามารถเข้าถึงซูเปอร์สกรู 2 ตัว ใช้ไขควงแรงบิดและดอกไขควงซูเปอร์สกรูเพื่อถอดซูเปอร์สกรู 2 ตัวออกจาก Taptic Engine จากนั้นทําตามขั้นตอนทั้งหมด

    • ค่อยๆ เอียง Taptic Engine ขึ้นเพื่อให้สามารถเข้าถึงสายแพด้านล่าง

    • ยกปลายสายแพ Taptic Engine ออกจากขั้วต่อและถอด Taptic Engine ออกจากตัวเครื่อง

การประกอบกลับ

แผนภาพสกรู

  1. หากคุณกําลังติดตั้งรายการสำหรับเปลี่ยน Taptic Engine ให้ลอกแผ่นซับแถบกาวออกจากแผ่นชิมแบตเตอรี่ แล้วจัดแนวตามแนวด้านบนของ Taptic Engine ตามที่แสดง

  2. ถือ Taptic Engine ไว้เหนือตัวเครื่อง แล้วกดปลายสายแพ Taptic Engine เข้ากับขั้วต่อ จากนั้นวาง Taptic Engine ลงให้เข้าที่

  3. ตั้งค่าแรงบิดของไขควงปรับแรงบิด 10-34 Ncm ไปที่ 13 Ncm ใช้ไขควงปรับแรงบิดกับดอกไขควงซูเปอร์สกรูเพื่อขันซูเปอร์สกรู (923-13942) ตัวใหม่ 2 ตัวลงใน Taptic Engine

  4. ค่อยๆ พับสายแพขั้วต่อ USB-C ลง จัดแนวรูสกรูในสายแพให้ตรงกับซูเปอร์สกรูด้านล่าง

  5. ใช้แท่งสีดํากดสายแพลงให้อยู่กับที่ จากนั้นใช้ไขควงแรงบิดสีเทากับดอกไขควงหัวแฉกเพื่อติดตั้งสกรูหัวแฉก (923-13938) ตัวใหม่ 1 ตัวลงในสายแพขั้วต่อ USB-C

  6. ใช้ไขควงแรงบิดสีเทากับดอกไขควงหัวแฉกเพื่อติดตั้งสกรูหัวแฉก (923-13659) ตัวใหม่ 2 ตัวลงในสายแพขั้วต่อ USB-C

  7. จัดตําแหน่งสปริงกราวด์บนสายแพขั้วต่อ USB-C

    • ข้อสําคัญ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าใส่สปริงกราวด์โดยให้สปริงชี้ขึ้นตามที่แสดง

  8. ใช้ไขควงแรงบิดสีเทากับดอกไขควงหัวแฉกเพื่อติดตั้งสกรูหัวแฉก (923-13659) ตัวใหม่ 2 ตัวลงในสปริงกราวด์และ Taptic Engine

สําหรับรุ่นที่มีซิมการ์ดแบบใส่กับเครื่อง ให้ใส่ชิ้นส่วนต่อไปนี้กลับไปเพื่อประกอบกลับเข้าที่

สําหรับรุ่นที่มี eSIM ให้ใส่ชิ้นส่วนต่อไปนี้กลับไปเพื่อประกอบกลับเข้าที่

วันที่เผยแพร่: