บอร์ด Touch ID ของ MacBook Air (13 นิ้ว, ชิป M4, ปี 2025)
ก่อนที่คุณจะเริ่ม
คำเตือน
อ่านความปลอดภัยของแบตเตอรี่ และปฏิบัติตามแนวทางการจัดการพื้นที่ทำงานและแบตเตอรี่ก่อนที่คุณจะเริ่ม
ถอดชิ้นส่วนต่อไปนี้ก่อนที่คุณจะเริ่ม
เครื่องมือ
คีมหนีบป้องกันไฟฟ้าสถิต
เทป Kapton
โพรบไนลอน (แท่งสีดำ)
ไขควงแรงบิด (สีฟ้า, 0.65 kgf cm)
ไขควงแรงบิด (สีเขียวอมฟ้า, 0.75 kgf cm)
ดอกไขควง Torx Plus แบบ half-moon ขนาด 2IP 44 มม.
ดอกไขควง Torx Plus 3IP แบบ Half-moon ขนาด 44 มม.
ชุดเครื่องมือวางแนว Touch ID

ดูรายการเครื่องมือทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการซ่อม
ข้อสำคัญ
หากคุณเปลี่ยนชิ้นส่วนนี้ ขอแนะนำให้เรียกใช้ Repair Assistant เพื่อดำเนินการซ่อมให้เสร็จสิ้น Repair Assistant จะพร้อมให้เรียกใช้บนอุปกรณ์หลังจากที่คุณทำขั้นตอนการประกอบกลับครบถ้วนทั้งหมดแล้ว
หมายเหตุ: หลักปฏิบัตินี้อาจแสดงรูปภาพของรุ่นอื่น แต่ขั้นตอนจะเหมือนกัน ตรวจสอบว่าคุณใช้เครื่องมือที่ถูกต้องสำหรับรุ่นที่คุณกำลังซ่อม
การถอด
หมายเหตุ: หากคุณทําตามขั้นตอนการถอดเรียบร้อยแล้ว ให้ข้ามไปที่การประกอบกลับ
เปิดจอภาพและตั้งชิ้นส่วนประกอบคอมพิวเตอร์โดยหันส่วนข้างขึ้น
กดปุ่ม Touch ID คุณจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเมื่อคุณกดปุ่มนี้แล้วยังให้ความรู้สึกแบบเดียวกันกับที่คุณกดตอนนี้ ในระหว่างการประกอบกลับ
ปิดจอภาพและวางโดยหันด้านจอภาพคอมพิวเตอร์ลง
ใช้ไขควงแรงบิดสีฟ้ากับดอกไขควง 3IP ถอดสกรู 3IP (923-12556) ออกจากฝาครอบขั้วต่อบอร์ด Touch ID ถอดตัวครอบแล้วเก็บไว้ใช้ประกอบกลับ
ยกปลายสายแพบอร์ด Touch ID ออกจากขั้วต่อ (1)
ใช้ปลายด้านแบนของแท่งสีดำเพื่อลอกสายแพบอร์ด Touch ID ออกจากฝาครอบตัวเครื่องด้านบน (2)
ใช้ไขควงแรงบิดสีฟ้ากับดอกไขควง 2IP คลายสกรูชุด 2IP ของ Touch ID (923-12569) แบบหลวมๆ ด้วยการหมุน 1 รอบ
ใช้ไขควงแรงบิดสีฟ้ากับดอกไขควง 3IP เพื่อคลายสกรู 3IP จำนวน 6 ตัวจากตัวครอบสายแพบอร์ด Touch ID
สกรู 3IP มุมจำนวน 4 ตัว (923-12570) (1)
สกรู 3IP ตรงกลางจำนวน 2 ตัว (923-12571) (2)
ถอดตัวครอบยืดหยุ่นของบอร์ด Touch ID เก็บตัวครอบไว้เพื่อนำมาประกอบกลับ
ข้อสำคัญ: จดทิศทางของตัวครอบสายแพบอร์ด Touch ID ไว้สำหรับประกอบกลับ
เปิดจอภาพและตั้งชิ้นส่วนประกอบคอมพิวเตอร์โดยหันส่วนข้างขึ้น
จับบอร์ด Touch ID ไว้ขณะเดินสายแพบอร์ด Touch ID ผ่านช่องตามภาพ
การประกอบกลับ
วางคอมพิวเตอร์ด้านข้างขึ้นขณะที่จอภาพเปิดอยู่
หากคุณกำลังติดตั้งบอร์ด Touch ID สำหรับเปลี่ยน ให้ลอกฟิล์มป้องกันออกจากพื้นผิวของกระจกและสายแพบอร์ด Touch ID
สอดสายแพบอร์ด Touch ID ผ่านช่องในฝาครอบตัวเครื่องด้านบน จากนั้นวางบอร์ด Touch ID ในช่องเปิดของฝาครอบตัวเครื่องด้านบน
ปิดจอภาพและวางโดยหันด้านจอภาพคอมพิวเตอร์ลง
จัดตำแหน่งตัวครอบสายแพของบอร์ด Touch ID ตามที่แสดง
ใช้ไขควงแรงบิดสีฟ้ากับดอกไขควง 3IP ขันสกรู 3IP ที่มุม (923-12570) (1) จำนวน 4 ตัวกลับเข้าบอร์ด Touch ID แบบหลวมๆ
ข้อสำคัญ: หยุดขันสกรูเมื่อหัวสกรูสัมผัสกับตัวครอบสายแพบอร์ด Touch ID และก่อนที่คุณจะรู้สึกว่าเริ่มแน่น
ใช้ไขควงแรงบิดสีเขียวอมฟ้ากับดอกไขควง 3IP ขันสกรู 3IP ตรงกลาง (923-12571) (2) จำนวน 2 ตัวกลับเข้าบอร์ด Touch ID
ข้อสำคัญ: หยุดขันสกรูเมื่อหัวสกรูสัมผัสกับตัวครอบสายแพบอร์ด Touch ID และก่อนที่คุณจะรู้สึกว่าเริ่มแน่น
สกรู 3IP (923-12570) (1) จำนวน 4 ตัว
สกรู 3IP (923-12571) (2) จำนวน 2 ตัว
หันคอมพิวเตอร์ด้านขวาขึ้นขณะที่จอภาพเปิดอยู่ จัดกึ่งกลางปุ่ม Touch ID เพื่อให้ช่องว่างในแต่ละด้านปรากฏเท่ากัน และปุ่ม Touch ID เรียงตรงกับปุ่มแถบฟังก์ชั่น
จัดวางเครื่องมือวางแนวรูปตัว Y สองชิ้นเข้ากับปุ่ม Touch ID ใส่แถบที่ขอบมุมตามภาพ จากนั้น ยึดเครื่องมือให้แน่นด้วยเทปกาว Kapton
ตรวจสอบว่าปุ่ม Touch ID ยึดเข้าที่โดยใช้เเครื่องมือวางแนวทรงตัว Y ขณะที่ปิดจอภาพ จากนั้นวางจอภาพคอมพิวเตอร์คว่ำหน้าลง
ใช้ไขควงแรงบิดสีเขียวอมฟ้ากับดอกไขควง 3IP ขันสกรู 3IP ตรงกลาง 2 ตัวกลับเข้าในบอร์ด Touch ID
ใช้ไขควงแรงบิดสีฟ้ากับดอกไขควง 3IP เพื่อขันสกรู 3IP ด้านซ้ายล่าง (1) แบบพอหลวม
ข้อสำคัญ: หยุดขันเมื่อรู้สึกว่ามีแรงต้าน และก่อนที่ไขควงแรงบิดส่งเสียงดังคลิก
ใช้ไขควงแรงบิดสีฟ้ากับดอกไขควง 3IP เพื่อขันสกรู 3IP ที่มุมทั้ง 4 ตัวกลับเข้าที่จนสุดตามลำดับดังนี้
ขันสกรูด้านขวาบนกลับเข้าที่จนสุด (2)
ขันสกรูด้านซ้ายล่างกลับเข้าที่จนสุด (1)
ขันสกรูด้านขวาล่างกลับเข้าที่จนสุด (3)
ขันสกรูด้านซ้ายบนกลับเข้าที่จนสุด (4)
เปิดจอภาพและตั้งชิ้นส่วนประกอบคอมพิวเตอร์โดยหันส่วนข้างขึ้น
ดูที่ปุ่ม Touch ID ตรงๆ ช่องว่างที่แต่ละด้านควรเท่ากัน และปุ่ม Touch ID ควรตรงกับแนวของปุ่มแถวฟังก์ชั่น
ข้อสำคัญ
หากช่องว่างรอบด้านข้างเท่ากัน หากช่องว่างรอบด้านเท่ากัน ให้ลอกเทป Kapton และถอดเครื่องมือวางแนวทรงตัว Y ออก จากนั้นข้ามไปยังขั้นตอนการประกอบกลับขั้นตอนที่ 25
หากช่องว่างโดยรอบไม่เท่ากัน ให้ทำตามขั้นตอนที่ 16 ถึง 24 เพื่อจัดแนวปุ่ม Touch ID อีกครั้ง
เปิดจอภาพไว้ในขณะที่คอมพิวเตอร์ตั้งอยู่โดยหันด้านข้างขึ้น หมุนคอมพิวเตอร์เพื่อขันสกรู
ใช้ไขควงแรงบิดสีเขียวอมฟ้ากับดอกไขควง 3IP เพื่อคลายสกรู 3IP ตรงกลาง 2 ตัวในบอร์ด Touch ID
หมุนคอมพิวเตอร์เพื่อเข้าถึงบอร์ด Touch ID
ลอกเทป Kapton และถอดเครื่องมือวางแนวรูปตัว Y ออก
จัดวางปุ่ม Touch ID ให้อยู่ตรงกลางเพื่อให้รอบๆ มีช่องว่างเท่ากัน และปุ่ม Touch ID อยู่ตรงกับปุ่มต่างๆ ในแถวฟังก์ชั่น
จัดวางเครื่องมือวางแนวรูปตัว Y สองชิ้นเข้ากับปุ่ม Touch ID ใส่แถบที่ขอบมุมตามภาพ จากนั้นยึดเครื่องมือจัดตำแหน่งรูปตัว Y ให้แน่นด้วยเทป Kapton
เปิดจอภาพไว้ในขณะที่คอมพิวเตอร์ตั้งอยู่โดยหันด้านข้างขึ้น หมุนคอมพิวเตอร์เพื่อขันสกรู
ใช้ไขควงแรงบิดสีเขียวอมฟ้ากับดอกไขควง 3IP ขันสกรู 3IP ตรงกลาง 2 ตัวกลับเข้าในบอร์ด Touch ID
ดูที่ปุ่ม Touch ID ตรงๆ ช่องว่างที่แต่ละด้านควรเท่ากัน และปุ่ม Touch ID ควรตรงกับแนวของปุ่มแถวฟังก์ชั่น
ข้อสำคัญ
หากช่องว่างรอบด้านเท่ากัน ให้ลอกเทป Kapton และถอดเครื่องมือวางแนวทรงตัว Y ออก จากนั้นดำเนินการตามขั้นตอนการประกอบกลับขั้นตอนที่ 25
หากช่องว่างรอบๆ แต่ละด้านไม่เท่ากัน ให้ทำขั้นตอนการถอดประกอบขั้นตอนที่ 8 ถึง 11 อีกครั้ง จากนั้นทำขั้นตอนการประกอบกลับซ้ำอีกครั้ง
ใช้ไขควงแรงบิดสีฟ้ากับดอกไขควง 2IP เพื่อขันหรือคลายสกรูชุด 2IP ของ Touch ID (923-12569) ขณะกดปุ่ม Touch ID ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการกดปุ่มนี้ให้ความรู้สึกแบบเดียวกันกับตอนที่ยังไม่ได้ถอดออก
ข้อสำคัญ
หากรู้สึกว่าปุ่ม Touch ID แข็งเกินไปหรือไม่ขยับ แสดงว่าขันสกรูชุด 2IP แน่นเกินไป ใช้ไขควงแรงบิดสีฟ้ากับดอกไขควง 2IP เพื่อคลายสกรูชุด 2IP
หากปุ่ม Touch ID กดได้แต่ไม่มีเสียงคลิก แสดงว่าสกรูชุด 2IP หลวมเกินไป ใช้ไขควงแรงบิดสีฟ้ากับดอกไขควง 2IP เพื่อขันสกรูชุด 2IP ให้แน่น
ปิดจอภาพและวางโดยหันด้านจอภาพคอมพิวเตอร์ลง
กดปลายสายแพบอร์ด Touch ID เข้ากับขั้วต่อ
กดสายแพของ Touch ID เพื่อให้สายแพยึดติดกับฝาครอบตัวเครื่องด้านบน
วางตัวครอบขั้วต่อบอร์ด Touch ID ไว้บนปลายสายแพ
ใช้ไขควงแรงบิดสีฟ้ากับดอกไขควง 3IP เพื่อขันสกรู 3IP (923-12556) กลับลงในฝาครอบขั้วต่อบอร์ด Touch ID
ติดตั้งชิ้นส่วนต่อไปนี้กลับเข้าที่ให้เรียบร้อย
ข้อสำคัญ
Repair Assistant อาจพร้อมให้เรียกใช้บนอุปกรณ์เพื่อดำเนินการซ่อมให้เสร็จสิ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชิ้นส่วนที่เปลี่ยน ดูวิธีเริ่มการทำงานของ Repair Assistant