กระจกด้านหลังของ iPhone 16e
ก่อนที่คุณจะเริ่ม
คำเตือน
อ่านความปลอดภัยของแบตเตอรี่และปฏิบัติตามแนวทางการจัดการพื้นที่ทำงานและแบตเตอรี่ก่อนที่คุณจะเริ่ม
โปรดอ่านความปลอดภัยสำหรับกระจกที่แตกก่อนที่คุณจะเริ่ม
การเปลี่ยนที่ไม่เหมาะสม การจัดการชิ้นส่วนอย่างไม่เหมาะสม หรือการไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำที่ให้ไว้อาจทำให้เกิดความผิดปกติได้ นอกจากนี้ การชาร์จแบบไร้สายอาจดูเหมือนช้าหรือ iPhone อาจชาร์จอย่างไม่ถูกต้อง เหตุการณ์เหล่านี้อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือความเสียหายต่ออุปกรณ์ ชิ้นส่วน หรือทรัพย์สินอื่นๆ
เครื่องมือ
ถาดซ่อมขนาด 6.1 นิ้ว
คัตเตอร์ตัดกาว
เครื่องมือกำจัดกาว
ฝาครอบกล้อง
ถุงมือกันบาด
แท่นกดจอภาพ
คีมหนีบป้องกันไฟฟ้าสถิต
แผ่นทำความสะอาดเอทานอลหรือไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ (IPA)
ถุงมือทนความร้อน
ดอกไขควง Micro Stix
โพรบไนลอน (แท่งสีดำ)
แว่นตานิรภัยพร้อมแผ่นป้องกันด้านข้าง
ดอกไขควงสำหรับสกรูนิรภัย
ไขควงปรับแรงบิด (สีฟ้า, 0.65 kgf cm)
ไขควงปรับแรงบิด (สีเขียว, 0.45 kgf cm)
โปรดดูรายการเครื่องมือทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการซ่อม
ข้อสำคัญ
โปรดอ่านอุปกรณ์จับยึดสำหรับถอดจอภาพแบบทำความร้อน หากคุณกำลังจัดเตรียมอุปกรณ์จับยึดเป็นครั้งแรก
หากคุณเปลี่ยนชิ้นส่วนนี้ ขอแนะนำให้เรียกใช้ Repair Assistant เพื่อดำเนินการซ่อมให้เสร็จสิ้น Repair Assistant จะพร้อมให้เรียกใช้บนอุปกรณ์หลังจากที่คุณทำขั้นตอนการประกอบกลับครบถ้วนทั้งหมดแล้ว
การถอด
ใช้ไขควงปรับแรงบิดและดอกไขควงสำหรับสกรูนิรภัยเพื่อถอดสกรูนิรภัย 2 ตัวออกจากช่องต่อ USB-C ด้านละหนึ่งตัว แยกสกรูไว้ข้างๆ
ใช้อุปกรณ์จับยึดสำหรับถอดจอภาพแบบทำความร้อนเพื่อทำให้กาวที่ติดกระจกด้านหลังร้อน
โปรดดูคำแนะนำในคู่มือการทำงานของอุปกรณ์จับยึดสำหรับถอดจอภาพแบบทำความร้อน
นำ iPhone ออกจากอุปกรณ์จับยึดสำหรับถอดจอภาพแบบทำความร้อน และวาง iPhone ลงในถาดซ่อมโดยหงายกระจกด้านหลังขึ้น และช่องต่อ USB-C หันไปทางรอยตัด
ใช้คัตเตอร์ตัดกาวตัดไปตามแนวด้านข้างและด้านบนของ iPhone จากนั้นเอียงกระจกด้านหลังขึ้นให้ติดกับลูกยางดูดจับของถาดซ่อม
สอดคัตเตอร์ตัดกาวลงไประหว่างกระจกด้านหลังกับตัวเครื่อง โดนถือคัตเตอร์ตัดกาวทำมุม 45 องศา จากนั้นตัดไปตามแนวด้านข้างและด้านบนจนกว่ากระจกด้านหลังจะหลุดออก
ข้อควรระวัง: อย่าเอียงด้านล่างของกระจกด้านหลังขึ้นมาเกิน 5 องศาขณะตัดเพื่อไม่ให้สายแพเสียหาย
สอดลูกยางดูดจับลงในช่องในถาดซ่อม
หมายเหตุ: ไอคอนที่ด้านล่างของถาดจะแสดงทิศทางการยกกระจกด้านหลังและด้านที่ถูกต้องในการวางลูกยางดูดจับ
และแนะนำให้ปิดกล้องไว้เพื่อป้องกันการปนเปื้อน
หมายเหตุ: แนะนำให้สวมถุงมือยางไนไตรล์หรือถุงมือที่ไม่มีขุยขณะปิดกล้อง
ข้อควรระวัง: ระวังอย่าให้สายแพเสียหายขณะที่คุณเอียงกระจกด้านหลังขึ้นให้ติดกับลูกยางดูดจับ
คำเตือน
หากแบตเตอรี่บุบ ทะลุ หรือเสียหายแบบอื่นๆ ให้หยุดซ่อม คุณสามารถค้นหาตัวเลือกการให้บริการได้ที่ support.apple.com/repair
หากกระจกด้านหลังแตก ให้ตรวจสอบตัวเครื่อง หากมีเศษกระจกอยู่ในตัวเครื่อง ให้สวมแว่นตานิรภัยพร้อมแผ่นป้องกันด้านข้างและถุงมือกันบาด จากนั้นคีบเศษกระจกออกโดยใช้คีมป้องกันไฟฟ้าสถิต แล้วใช้แผ่นทำความสะอาดเอทานอลหรือ IPA เพื่อเช็ดเศษกระจกที่เหลือออกจากกาวบริเวณขอบของตัวเครื่อง และให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดเศษกระจกในพื้นที่ทำงานด้วย
ใช้ไขควงปรับแรงบิดและดอกไขควง Micro Stix เพื่อถอดสกรูสามแฉก 3 ตัวออกจากตัวครอบขั้วต่อตรงกลางและด้านล่าง จากนั้นถอดตัวครอบออกและเก็บไว้ใช้ประกอบกลับ แยกสกรูไว้ข้างๆ
ยกปลายสายแพแบตเตอรี่ออกจากขั้วต่อ (1) จากนั้นยกปลายสายแพกระจกด้านหลังออกจากขั้วต่อ (2)
ข้อควรระวัง
คุณต้องปลดสายแพแบตเตอรี่ออกก่อน เพื่อให้แน่ใจว่า iPhone ยังคงปิดอยู่
ใต้สายแพแบตเตอรี่มีกาวที่ติดแน่นมาก ระวังอย่าให้สายแพฉีกขาดขณะปลดออก
จับกระจกด้านหลังตรงขอบ แล้วดึงแถบบนยางดูดจับเพื่อปลดออกจากกระจกด้านหลัง จากนั้นวางกระจกด้านหลังคว่ำลงบนพื้นผิวที่สะอาดและเรียบ
การประกอบกลับ
นำลูกยางดูดจับออกจากถาดซ่อม
ใช้คีมหนีบป้องกันไฟฟ้าสถิตหรือเครื่องมือกำจัดกาวเพื่อคีบกาวของกระจกด้านหลังขึ้นมา จากนั้นดึงกาวโดยทำมุม 45 องศาเพื่อลอกออก และให้ทำขั้นตอนนี้ซ้ำจนกว่าจะลอกกาวรอบตัวเครื่องออกจนหมด
ข้อควรระวัง: อย่าสัมผัสชิ้นส่วนประกอบกล้อง สปริงกราวด์ของกล้อง TrueDepth หรือชิ้นส่วนที่อยู่ใกล้เคียง
ใช้แผ่นทำความสะอาดเอทานอลหรือ IPA เพื่อขจัดคราบกาวที่หลงเหลือทั้งหมดออกจากขอบกระจกด้านหลังและตัวเครื่อง
ข้อควรระวัง: อย่าใช้เครื่องมือกำจัดกาวบนกระจกด้านหลัง
ข้อควรระวัง: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ขจัดคราบกาวทั้งหมดออกจากกระจกด้านหลังและตัวเครื่องแล้ว ก่อนที่จะติดแผ่นกาวกระจกด้านหลังสำหรับเปลี่ยน
จัดแนวแผ่นกาวกระจกด้านหลังสำหรับเปลี่ยนให้ตรงกับตัวเครื่อง แผ่นกาวกระจกด้านหลังสำหรับเปลี่ยนจะมีวัสดุรองหลังอยู่ด้านบน ตรงกลาง และด้านล่าง ให้จับแถบดึงบนวัสดุรองหลังด้านล่าง จากนั้นค่อยๆ ดึงวัสดุรองหลังออกจากข้างใต้แผ่นกาวในขณะที่กดแผ่นกาวลงบนตัวเครื่อง
ข้อสำคัญ: อย่าเพิ่งลอกวัสดุรองหลังด้านบนออก
ตรวจสอบแผ่นกาวกระจกด้านหลัง หากแผ่นกาวติดอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องบนขอบริมตัวเครื่อง ให้ทำขั้นตอนที่ 6 ต่อได้เลย แต่หากติดไม่ดี คุณอาจต้องลอกแผ่นกาวออกแล้วทำขั้นตอนที่ 2 และ 3 อีกครั้ง จากนั้นทำขั้นตอนที่ 4 อีกครั้งโดยใช้แผ่นกาวแผ่นใหม่
ใช้ปลายด้านแบนของแท่งสีดำเพื่อติดแผ่นกาวกระจกด้านหลังเข้ากับตัวเครื่อง โดยขยับแท่งสีดำไปรอบๆ ขอบตัวเครื่องอย่างน้อย 3 รอบ เพื่อให้แน่ใจว่าแผ่นกาวติดแน่นสม่ำเสมอ
ลอกวัสดุรองหลังด้านบนออก
ข้อสำคัญ: ห้ามลอกวัสดุรองหลังส่วนที่เหลือบริเวณขอบของตัวเครื่องออก
ใส่ลูกยางดูดจับลงในถาดซ่อม
ข้อสำคัญ: เมื่อติดตั้งกระจกด้านหลังสำหรับเปลี่ยน ให้ลอกวัสดุรองหลังออกจากด้านบนและด้านล่างของกระจก
จัดแนวขอบด้านขวาของกระจกด้านหลังให้ตรงกับขอบด้านขวาของตัวเครื่อง จากนั้นกดเบาๆ ตามขอบของกระจกด้านหลังเพื่อยึดให้ติดกับลูกยางดูดจับ
กดปลายสายแพกระจกด้านหลัง (1) เข้ากับขั้วต่อ แล้วกดปลายสายแพแบตเตอรี่เข้ากับขั้วต่อ (2)
จัดตำแหน่งตัวครอบขั้วต่อตรงกลางให้อยู่เหนือปลายสายแพของกระจกด้านหลัง แล้วค่อยๆ ดันตัวครอบออกจากแบตเตอรี่ไปทางตัวเครื่อง พร้อมกับกดแท่งสีดำตรงกลางตัวครอบเพื่อให้เกี่ยวกับตะขอ จากนั้นใช้ไขควงปรับแรงบิดสีเขียวและดอกไขควง Micro Stix เพื่อติดตั้งสกรูสามแฉก (923-09820) ตัวใหม่หนึ่งตัวลงบนตัวครอบ
วางตัวครอบขั้วต่อด้านล่างให้อยู่เหนือรูสกรู จากนั้นใช้ไขควงปรับแรงบิดสีเขียวและดอกไขควง Micro Stix เพื่อติดตั้งสกรู Micro Stix ตัวใหม่ 2 ตัว (923-08382) เข้ากับตัวครอบ
ลอกวัสดุรองหลังแถบแรกตรงกลาง (1) ทวนเข็มนาฬิกา โดยเริ่มจากมุมล่างซ้ายของตัวเครื่อง ลอกแถบที่สอง (2) ตามเข็มนาฬิกา โดยเริ่มจากมุมล่างซ้ายของตัวเครื่อง ลอกแถบที่สาม (3) ทวนเข็มนาฬิกา โดยเริ่มจากมุมล่างขวาของตัวเครื่อง
ข้อควรระวัง: แถบที่สามของวัสดุรองหลังตรงกลางจะเดินลอดใต้สายแพเส้นหนึ่ง ระวังอย่าทำให้สายแพเสียหายขณะลอกวัสดุรองหลัง
ตรวจสอบแผ่นกาวกระจกด้านหลัง หากแผ่นกาวอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องและไม่เสียหายหรือย่น ให้ทำขั้นตอนที่ 15 ต่อได้เลย แต่หากแผ่นกาวเสียหาย ให้ทำขั้นตอนที่ 2 ถึง 6 อีกครั้ง จากนั้นทำขั้นตอนที่ 1 ถึง 14 อีกครั้งโดยใช้แผ่นกาวแผ่นใหม่
คำเตือน
ตรวจสอบตัวเครื่องเพื่อหาสกรูและชิ้นส่วนขนาดเล็กที่ตกหล่นหรือเกินมา ซึ่งอาจทำให้แบตเตอรี่เสียหายและทำให้เกิดปัญหาด้านความปลอดภัยได้
หากแบตเตอรี่บุบ ทะลุ หรือเสียหายแบบอื่นๆ ให้หยุดซ่อม คุณสามารถค้นหาตัวเลือกการให้บริการได้ที่ support.apple.com/repair
จับกระจกด้านหลังตรงขอบ จากนั้นดึงแถบบนลูกยางดูดจับเพื่อปลดออกจากกระจกด้านหลัง แล้วนำยางดูดจับออกจากถาดซ่อม
คำเตือน: ตรวจสอบกระจกด้านหลังและตัวเครื่องเพื่อหาสกรูหรือชิ้นส่วนเล็กๆ ที่อาจตกหล่นหรือเกินมาก่อนจะปิดกระจกด้านหลัง เนื่องจากชิ้นส่วนเล็กๆ เหล่านี้อาจทำให้ iPhone เสียหายและทำให้เกิดปัญหาด้านความปลอดภัยได้
ข้อควรระวัง
อย่าสัมผัสเลนส์กล้อง
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าลอกวัสดุรองออกหมดแล้วก่อนจะปิดกระจกด้านหลัง
ถอดฝาครอบกล้องหากยังติดอยู่ แล้ววางกระจกด้านหลังราบบนตัวเครื่อง
พลิก iPhone กลับด้านในถาดซ่อมเพื่อให้จอภาพหงายขึ้น แล้วกดจอภาพพร้อมกันทั้งสี่มุม จากนั้นกดไล่ไปตามขอบของจอภาพจนมีเสียงคลิกและจอภาพแนบสนิทกับตัวเครื่อง
ข้อควรระวัง: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายแพไม่ติดอยู่ระหว่างกระจกด้านหลังกับตัวเครื่อง สัมผัสขอบของกระจกด้านหลังเพื่อหาจุดที่รู้สึกแตกต่างหรือช่องว่าง หากกระจกด้านหลังไม่แนบสนิท ให้ทำขั้นตอนการถอดที่ 2 ถึง 6 อีกครั้ง และตรวจสอบสายแพว่าเสียหายหรือไม่ จากนั้นทำขั้นตอนการประกอบกลับที่ 1 ถึง 17 อีกครั้ง
จัดวางถาดซ่อมที่มี iPhone หงายขึ้นลงในแท่นกดจอภาพ ดึงคันโยกลงจนกว่าแท่นกดจอภาพจะล็อคเข้าที่
รอจนนาฬิกานับถอยหลังบนแท่นกดจอภาพแสดงเป็น 0 และแท่นกดจอภาพจะส่งเสียงบี๊บด้วย ให้กดคันโยกลง (1) และดึงลูกบิดเพื่อปลดออก (2) จากนั้นยกคันโยกขึ้น (3)
นำถาดซ่อมออกจากแท่นกดจอภาพ
ใช้ไขควงปรับแรงบิดสีฟ้าและดอกไขควงสำหรับสกรูนิรภัยเพื่อติดตั้งสกรูนิรภัย 2 ตัวใหม่ (923-09817, สีดำ หรือ 923-09818, สีขาว) โดยใส่ที่ช่องต่อ USB-C ด้านละหนึ่งตัว
ข้อควรระวัง: หากขันสกรูได้ไม่สุด ให้ถอดสกรูออกแล้วแยกไว้ข้างๆ จากนั้นขันสกรูนิรภัยชุดใหม่ หากสกรูชุดใหม่ยังคงไม่แนบสนิท ให้ทำขั้นตอนการถอดและประกอบกลับทั้งหมดซ้ำอีกครั้ง
ข้อสำคัญ
Repair Assistant อาจพร้อมให้เรียกใช้บนอุปกรณ์เพื่อดำเนินการซ่อมให้เสร็จสิ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชิ้นส่วนที่เปลี่ยน ดูวิธีเริ่มการทำงานของ Repair Assistant
หมายเหตุ: หากคุณไม่ได้เรียกใช้ Repair Assistant ประวัติชิ้นส่วนและบริการของอุปกรณ์อาจแสดงสถานะของชิ้นส่วนเป็น "สิ้นสุดการซ่อมแซม" และ Apple Diagnostics สำหรับ Self Service Repair อาจแสดงสถานะของชิ้นส่วนเป็น "ไม่รู้จัก"