กระจกด้านหลังของ iPhone 16
ก่อนที่คุณจะเริ่ม
คำเตือน
อ่านความปลอดภัยเกี่ยวกับแบตเตอรี่ และปฏิบัติตามแนวทางการจัดการพื้นที่ทำงานและแบตเตอรี่ก่อนที่คุณจะเริ่ม
โปรดอ่านความปลอดภัยสำหรับกระจกที่แตก ก่อนที่คุณจะเริ่ม
การเปลี่ยนชิ้นส่วนอย่างไม่เหมาะสม การจัดการชิ้นส่วนอย่างไม่ถูกต้อง หรือการไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำที่ให้ไว้อาจทำให้เกิดการทำงานที่ผิดปกติได้ นอกจากนี้ การชาร์จแบบไร้สายอาจดูช้าหรือ iPhone อาจไม่ได้ชาร์จอย่างเหมาะสม เหตุการณ์เหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บหรือความเสียหายต่ออุปกรณ์ ชิ้นส่วน หรือทรัพย์สินอื่นๆ
เครื่องมือ
ไขควงแรงบิด (สีฟ้า, 0.65 kgf cm) (923-0448)
ไขควงแรงบิด (สีเขียว, 0.45 kgf cm) (923-00105)
หัวขันสกรูป้องกัน (923-0247)
ดอกไขควง Micro Stix (923-01290)
โพรบไนลอน (แท่งสีดำ) (922-5065)
คีมหนีบป้องกันไฟฟ้าสถิต
เครื่องมือกำจัดแถบกาว (923-09176)
คัตเตอร์ตัดกาว (923-01092)
แผ่นทำความสะอาดเอทานอลหรือไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ (IPA)
ถาดซ่อมขนาด 6.1 นิ้ว (923-10712)
ฝาครอบกล้อง (923-10716)
แท่นกดจอภาพ (661-08916)
ถุงมือกันบาด ถุงมืออาจแตกต่างกันไปตามภูมิภาค
ถุงมือทนความร้อน ถุงมืออาจแตกต่างกันไปตามภูมิภาค
แว่นตานิรภัยพร้อมแผงป้องกันด้านข้าง
ฟองน้ำเมลามีน (ไม่มีภาพ)
ดูรายการเครื่องมือทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการซ่อมทั้งหมด
ข้อสำคัญ
โปรดอ่านเครื่องยึดสำหรับถอดจอภาพแบบทำความร้อน หากคุณกำลังจัดเตรียมอุปกรณ์จับยึดเป็นครั้งแรก
หากคุณเปลี่ยนชิ้นส่วนนี้ แนะนำให้เรียกใช้ Repair Assistant เพื่อสิ้นสุดการซ่อม Repair Assistant จะพร้อมให้เรียกใช้บนอุปกรณ์หลังจากที่คุณทำขั้นตอนการประกอบกลับครบถ้วนทั้งหมดแล้ว
การถอด
หมายเหตุ: หากคุณทําตามขั้นตอนการถอดเรียบร้อยแล้ว ให้ข้ามไปที่การประกอบกลับ
ใช้ไขควงแรงบิดกับดอกไขควงสำหรับสกรูนิรภัยเพื่อถอดสกรูนิรภัยสองตัวออกจากด้านข้างช่องต่อ USB-C ด้านละหนึ่งตัว แยกสกรูไว้ข้างๆ
ใช้เครื่องยึดสำหรับถอดจอภาพแบบทำความร้อนเพื่อทำให้กาวที่ติดกระจกด้านหลังร้อน
นำ iPhone ออกจากเครื่องยึดสำหรับถอดจอภาพแบบทำความร้อน และวาง iPhone ลงในถาดซ่อมโดยหงายกระจกด้านหลังขึ้น และให้ช่องต่อ USB-C หันไปทางช่องตัด
ใช้เครื่องมือตัดกาวตัดตามแนวด้านข้างและด้านบนของ iPhone จนกว่ากระจกด้านหลังจะหลุดออก จากนั้นแกะเครื่อง iPhone ด้วยการเอียงกระจกด้านหลังลงบนยางดูดจับของถาดซ่อม
สอดเครื่องมือตัดกาวลงไประหว่างกระจกด้านหลังกับตัวเครื่อง โดยถือเครื่องมือตัดกาวทำมุม 45 องศา ตัดตามแนวด้านข้างจนกว่าคุณจะถึงแถบสายอากาศ

เลื่อนกระจกด้านหลังไปทางด้านล่างของ iPhone จนกว่าคุณจะเห็นช่องว่างเล็กน้อย สอดเครื่องมือตัดกาวเข้าไปที่ด้านบนของ iPhone โดยทำมุม 45 องศา และตัดตามแนวด้านบนจนกว่ากระจกด้านหลังจะหลุดออก ระวังอย่าให้ตะแกรงลำโพงเสียหาย
ข้อควรระวัง: เพื่อไม่ให้สายแพเสียหาย อย่าเอียงด้านล่างของกระจกด้านหลังขึ้นมาเกิน 5 องศา

สอดยางดูดจับลงในช่องในถาดซ่อม
หมายเหตุ: ไอคอนที่ด้านล่างของถาดจะแสดงทิศทางการยกกระจกด้านหลังและด้านที่ถูกต้องในการวางยางดูดจับ
แนะนำให้ปิดครอบกล้องไว้เพื่อป้องกันไม่ให้มีรอยเปื้อน
หมายเหตุ: แนะนำให้สวมถุงมือยางไนไตรล์หรือถุงมือที่ไม่มีขุยขณะครอบกล้อง
ข้อควรระวัง: ระวังอย่าให้สายแพเสียหายขณะที่คุณเอียงกระจกด้านหลังขึ้น
คำเตือน
หากแบตเตอรี่บุบ ทะลุ หรือเสียหายแบบอื่นๆ ให้หยุดซ่อม คุณสามารถค้นหาตัวเลือกการให้บริการได้ที่ support.apple.com/th-th/repair
หากกระจกด้านหลังแตก ให้ตรวจสอบตัวเครื่อง หากมีเศษกระจกอยู่ในตัวเครื่อง ให้สวมแว่นตานิรภัยพร้อมแผงป้องกันด้านข้างและถุงมือกันบาด จากนั้นคีบเศษกระจกออกโดยใช้คีมป้องกันไฟฟ้าสถิต จากนั้นใช้แผ่นทำความสะอาดเอทานอลหรือ IPA นำเศษกระจกที่เหลือออกจากกาวบนขอบของตัวเครื่อง และดูดฝุ่นเอาเศษกระจกออกจากพื้นที่ทำงาน


ใช้ไขควงแรงบิดกับดอกไขควง Micro Stix เพื่อถอดสกรูสามแฉกสองตัวออกจากตัวครอบกระจกด้านหลัง ถอดตัวครอบแล้วเก็บไว้ใช้ประกอบกลับ แยกสกรูไว้ข้างๆ

ยกปลายสายแพแบตเตอรี่ออกจากขั้วต่อ (1) จากนั้นยกปลายสายแพกระจกด้านหลังออกจากขั้วต่อ (2)
ข้อควรระวัง
คุณต้องปลดสายแพแบตเตอรี่ออกก่อน เพื่อให้แน่ใจว่า iPhone ยังคงปิดอยู่
ใต้สายแพแบตเตอรี่มีกาวที่ติดแน่นมาก ระวังอย่าให้สายแพฉีกขาดขณะปลดออก

จับกระจกด้านหลังตรงขอบ ดึงแถบบนยางดูดจับเพื่อปลดออกจากกระจกด้านหลัง จากนั้นวางกระจกด้านหลังคว่ำลงบนพื้นผิวที่สะอาดและเรียบ
การประกอบกลับ
นำยางดูดจับออกจากถาดซ่อม
ใช้เครื่องมือกำจัดกาวหรือแท่งสีดำดึงกาวออกจากตัวเครื่อง ใช้คีมหนีบป้องกันไฟฟ้าสถิตดึงกาว ทำกระบวนการนี้ซ้ำจนกว่าจะลอกแถบกาวรอบตัวเครื่องออกจนหมด
ข้อควรระวัง: อย่าสัมผัสชิ้นส่วนประกอบกล้อง สปริงกราวด์ของกล้อง TrueDepth หรือชิ้นส่วนที่อยู่ใกล้เคียง


ใช้แผ่นทำความสะอาดเอทานอลหรือ IPA เพื่อขจัดคราบกาวที่หลงเหลือทั้งหมดออกจากขอบกระจกด้านหลังและตัวเครื่อง
ข้อควรระวัง: อย่าใช้เครื่องมือกำจัดกาวบนกระจกด้านหลัง
วางตัวเครื่องลงในถาดซ่อม โดยให้ช่องต่อ USB-C หันไปทางช่องตัด
ข้อควรระวัง: ตรวจสอบว่าคุณได้ขจัดคราบกาวทั้งหมดออกจากกระจกด้านหลังและตัวเครื่องแล้ว ก่อนที่จะติดแผ่นกาวกระจกด้านหลังสำหรับเปลี่ยน
ข้อสำคัญ: เมื่อติดตั้งกระจกด้านหลังสำหรับเปลี่ยน ให้ลอกแผ่นรองหลังออกจากด้านบนและด้านล่างของกระจก
จัดแนวกาวกระจกด้านหลังสำหรับเปลี่ยนให้ตรงกับตัวเครื่อง
แผ่นกาวกระจกด้านหลังสำหรับเปลี่ยนมีแผ่นรองหลังด้านบน แผ่นรองหลังตรงกลาง และแผ่นรองหลังด้านล่าง จับแถบดึงบนแผ่นรองหลังด้านล่าง ค่อยๆ ดึงแผ่นรองหลังออกจากข้างใต้แผ่นกาวในขณะที่กดแผ่นกาวลงบนตัวเครื่อง
ข้อสำคัญ: อย่าเพิ่งลอกแผ่นรองหลังด้านบนออก

ตรวจสอบแผ่นกาวกระจกด้านหลัง หากกาวติดอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องบนขอบริมตัวเครื่อง ให้ดำเนินการต่อที่ขั้นตอนที่ 8 หากไม่ ให้ลอกกาวออก ทำความสะอาดขอบริมตัวเครื่องหากจำเป็น และทำซ้ำขั้นตอนที่ 5 และ 6
ใช้แท่งสีดำเพื่อช่วยในการติดกาวกระจกด้านหลังกับตัวเครื่อง เลื่อนปลายด้านแบนของแท่งสีดำไปรอบๆ ขอบของตัวเครื่องอย่างน้อยสามครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่ากาวติดอย่างสม่ำเสมอ

ลอกแผ่นรองหลังด้านบนออก
ข้อสำคัญ: อย่าลอกแผ่นรองหลังส่วนที่เหลือที่อยู่ตรงขอบของตัวเครื่องออก


ใส่ยางดูดจับลงในถาดซ่อม
จัดแนวขอบด้านขวาของกระจกด้านหลังให้ตรงกับขอบด้านขวาของตัวเครื่อง กดเบาๆ ตามขอบของกระจกด้านหลัง เพื่อยึดให้ติดกับยางดูดจับ
ข้อควรระวัง: อย่ากดที่ด้านหลังของจอภาพเพื่อให้ยึดติดกับยางดูดจับ การกดที่ด้านหลังอาจส่งผลต่อการทำงาน
กดปลายสายแพกระจกด้านหลัง (1) เข้ากับขั้วต่อ แล้วกดปลายสายแพแบตเตอรี่เข้ากับขั้วต่อ (2)

ค่อยๆ ดันตัวครอบออกจากแบตเตอรี่ไปทางตัวเครื่อง พร้อมกับกดแท่งสีดำตรงกลางตัวครอบเพื่อให้เกี่ยวกับตะขอ

วางตัวครอบกระจกด้านหลังไว้เหนือรูสกรู ใช้ไขควงแรงบิดสีเขียวกับดอกไขควง Micro stix ขันสกรูสามแฉก (923-11192) (2) ตัวใหม่หนึ่งตัวลงในฝาครอบแบบพอหลวม

ใช้ไขควงแรงบิดสีเขียวกับดอกไขควง Micro stix เพื่อขันสกรูสามแฉก (923-11192) (1) ตัวใหม่อีกหนึ่งตัวลงในฝาครอบด้านขวาล่างแบบพอหลวม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตะขอยึดแน่นดี ขันสกรูทั้งสองตัวให้เต็มค่าแรงบิด หรือจนกว่าคุณจะได้ยินเสียงคลิกสองครั้ง

ลอกแถบแรกของแผ่นรองหลังตรงกลาง (1) ตามเข็มนาฬิกา โดยเริ่มจากมุมล่างซ้ายของตัวเครื่อง ลอกแถบที่สอง (2) ทวนเข็มนาฬิกา โดยเริ่มจากมุมล่างซ้ายของตัวเครื่อง ลอกแถบที่สาม (3) ทวนเข็มนาฬิกา โดยเริ่มจากมุมล่างขวาของตัวเครื่อง
ข้อควรระวัง: แถบที่สามของแผ่นรองหลังตรงกลางจะเดินลอดใต้สายแพเส้นหนึ่ง ระวังอย่าทำให้สายแพเสียหายขณะลอกแผ่นรองหลัง

ตรวจสอบกาวกระจกด้านหลังเพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องและมีสภาพสมบูรณ์หรือไม่ย่น หากกาวได้รับความเสียหาย ให้ลอกกาวออกแล้วติดกาวสำหรับเปลี่ยน
คำเตือน
ตรวจสอบกระจกด้านหลังอย่างระมัดระวังว่ามีสกรูที่หลวมหรือเกินหรือไม่ รวมถึงชิ้นส่วนขนาดเล็กอื่นๆ ที่อาจติดอยู่กับบริเวณที่เป็นแม่เหล็ก ชิ้นส่วนขนาดเล็กเหล่านี้อาจทำให้ iPhone เสียหายและก่อให้เกิดปัญหาด้านความปลอดภัยหรือการทำงานเมื่อประกอบ iPhone กลับ


หากแบตเตอรี่บุบ ทะลุ หรือเสียหายแบบอื่นๆ ให้หยุดซ่อม คุณสามารถค้นหาตัวเลือกการให้บริการได้ที่ support.apple.com/th-th/repair
ดึงแถบบนยางดูดจับเพื่อปลดออกจากกระจกด้านหลัง เอียงกระจกด้านหลังลงเพื่อวางไว้บนตัวเครื่อง
วางกระจกด้านหลังราบบนตัวเครื่อง

นำยางดูดจับออกจากถาดซ่อม
ข้อควรระวัง: อย่าสัมผัสเลนส์กล้อง
พลิก iPhone กลับด้านในถาดซ่อมเพื่อให้จอภาพหงายขึ้น กดบริเวณที่แสดงบนจอภาพทั้งสี่บริเวณพร้อมกัน
ข้อควรระวัง: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายแพไม่ติดอยู่ระหว่างกระจกด้านหลังกับตัวเครื่อง สัมผัสขอบของกระจกด้านหลังเพื่อหาจุดที่รู้สึกแตกต่างหรือช่องว่าง หากกระจกด้านหลังไม่แนบสนิท ให้ทำขั้นตอนการถอดประกอบขั้นตอนที่ 4 ถึง 6 อีกครั้ง และตรวจสอบความเสียหายของสายแพ จากนั้นทำขั้นตอนการประกอบกลับขั้นตอนที่ 1 ถึง 19 อีกครั้ง แล้วดำเนินการต่อที่ขั้นตอนที่ 21

จัดวางถาดซ่อมที่มี iPhone หงายขึ้นลงในแท่นกดจอภาพ ดึงคันโยกลงจนกว่าแท่นกดจอภาพจะล็อคเข้าที่

รอจนนาฬิกานับถอยหลังบนแท่นกดจอภาพแสดงเป็น 0 และแท่นกดจอภาพจะส่งเสียงบี๊บด้วย ให้กดคันโยกลง (1) และดึงลูกบิดเพื่อปลดออก (2) จากนั้นยกคันโยกขึ้น (3)

นำถาดซ่อมออกจากแท่นกดจอภาพ
ใช้ไขควงแรงบิดสีฟ้ากับดอกไขควงสำหรับสกรูนิรภัยเพื่อติดตั้งสกรูนิรภัยชุดใหม่สองตัว โดยใส่ที่ด้านข้างช่องต่อ USB-C ด้านละหนึ่งตัว
หมายเหตุ: คุณต้องใช้สกรูให้ถูกต้อง
923-11208 (สีดำ)
923-11209 (สีขาว, สีชมพู, สีน้ำเงินอัลตร้ามารีน, สีเขียวอมฟ้า)
ข้อควรระวัง: หากขันสกรูได้ไม่สุด ให้ถอดสกรูออกแล้วแยกไว้ข้างๆ จากนั้นขันสกรูนิรภัยชุดใหม่ หากสกรูชุดใหม่ยังคงไม่แนบสนิท ให้ทำขั้นตอนการถอดและประกอบกลับทั้งหมดซ้ำอีกครั้ง
ข้อสำคัญ
Repair Assistant อาจพร้อมให้เรียกใช้บนอุปกรณ์เพื่อดำเนินการซ่อมให้เสร็จสิ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชิ้นส่วนที่เปลี่ยน ดูวิธีเริ่มการทำงานของ Repair Assistant
หมายเหตุ: หากคุณไม่ได้เรียกใช้ Repair Assistant ประวัติชิ้นส่วนและบริการของอุปกรณ์อาจแสดงสถานะของชิ้นส่วนเป็น "สิ้นสุดการซ่อม" และ Apple Diagnostics สำหรับการซ่อมแบบบริการตนเองอาจแสดงสถานะของชิ้นส่วนเป็น "ไม่รู้จัก"