วิธีใช้ที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่กับ iPhone และ Apple Watch

เรียนรู้วิธีชาร์จ iPhone 12, iPhone 13 หรือ iPhone 14 และ Apple Watch แบบไร้สายด้วยที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่

ที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับ iPhone 12, iPhone 13 และ iPhone 14 ทุกรุ่น, Apple Watch ทุกรุ่น, อุปกรณ์เสริม MagSafe ของ Apple รวมทั้งอุปกรณ์และอุปกรณ์เสริมที่ได้รับการรับรอง Qi

ที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่หงายขึ้นบนพื้นผิวเรียบ

ใช้สาย USB-C to Lightning ที่ให้มาเพื่อเสียบที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่ของคุณเข้ากับอะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C ของ Apple* ที่มีกำลังไฟ 20 วัตต์ (W) ขึ้นไปที่แนะนำ หรืออะแดปเตอร์แบบ USB-C ของบริษัทอื่นที่ใช้งานร่วมกันได้ คุณสามารถต่อกับพอร์ต USB-C ใน Mac หรือ PC ได้เช่นกัน

วางที่ชาร์จ MagSafe Duo ให้หงายขึ้นดังภาพ โดยวางบนพื้นราบที่ไม่มีวัตถุโลหะหรือสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ อยู่

* อะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C ที่มีกำลังไฟ 29 วัตต์ของ Apple ใช้ร่วมกับที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่ไม่ได้

รับการชาร์จแบบไร้สายที่เร็วขึ้นสำหรับ iPhone 12, iPhone 13 และ iPhone 14 รุ่นต่างๆ

ที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่ออกแบบมาเพื่อชาร์จ iPhone 12, iPhone 13 หรือ iPhone 14 และ Apple Watch ของคุณแบบไร้สายได้พร้อมกันอย่างรวดเร็วและปลอดภัย โดยระบบจะปรับให้รับกับสภาวะอย่างชาญฉลาดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาร์จ iPhone โดยให้กำลังไฟสูงสุดถึง 14 วัตต์ กำลังไฟที่จ่ายจริงไปยัง iPhone จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับกำลังวัตต์ของอะแดปเตอร์แปลงไฟและสภาวะของระบบ สำหรับ iPhone 12 mini และ iPhone 13 mini ที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่ให้กำลังไฟสูงสุดถึง 12 วัตต์

คุณจำเป็นต้องเสียบที่ชาร์จเข้ากับแหล่งจ่ายไฟก่อนวาง iPhone บนที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่ เพราะจะช่วยให้ MagSafe ตรวจสอบยืนยันได้ว่าจะสามารถจ่ายกำลังไฟอย่างเต็มขีดความสามารถได้อย่างปลอดภัย หากคุณวาง iPhone บนที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่ก่อนที่จะเสียบเข้ากับแหล่งจ่ายไฟ ให้นำ iPhone ของคุณออกจากที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่ แล้วรอสามวินาที จากนั้นวางเครื่องกลับลงบนที่ชาร์จเพื่อรับกำลังไฟอย่างเต็มขีดความสามารถต่อไป

ที่ชาร์จ MagSafe Duo ออกแบบมาให้ปรับกำลังไฟเต็มขีดความสามารถสูงสุด 9 โวลต์ (V) และ 3 แอมป์ (A) ให้รับกับอะแดปเตอร์แปลงไฟที่ใช้งานร่วมกันได้กับ USB PD MagSafe จะเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายกำลังไฟไปยัง iPhone อย่างต่อเนื่อง กำลังไฟที่จ่ายไปยัง iPhone สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อโดยขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ อาทิ อุณหภูมิและกิจกรรมของระบบ

อะแดปเตอร์แปลงไฟทั้งหมดมีพิกัดปริมาณและอัตราการจ่ายกำลังไฟที่แตกต่างกันไป ที่ชาร์จ MagSafe Duo ต้องใช้พิกัดกำลังต่อไปนี้เพื่อมอบการชาร์จแบบไร้สายที่รวดเร็ว

  • ขั้วต่อ USB-C (ไม่รองรับ USB-A)

  • อะแดปเตอร์แปลงไฟ 9V/2.22A ให้กำลังไฟสูงสุด 11W

  • อะแดปเตอร์แปลงไฟ 9V/3A และสูงกว่าให้กำลังไฟสูงสุด 14W

  • iPhone 12 mini และ iPhone 13 mini สามารถชาร์จแบบไร้สายสูงสุด 12 วัตต์ได้เร็วขึ้นเมื่อมีพิกัดกำลังอย่างน้อย 9V/2.62A

  • อะแดปเตอร์ที่มีกำลังวัตต์ระดับ 9V/3A หรือสูงกว่า จะสามารถจ่ายกำลังไฟให้ iPhone ได้สูงสุด 14 วัตต์ด้วยเช่นกัน

หากต้องการใช้ทั้งที่ชาร์จ iPhone และ Watch พร้อมกัน ที่ชาร์จ MagSafe Duo ต้องใช้อย่างน้อย 15W (5V/3A หรือ 9V/1.67A) แต่จะส่งผลทำให้การชาร์จช้าลง

เมื่อเครื่องเชื่อมต่ออยู่กับอุปกรณ์เสริม Lightning อย่างเช่นหูฟัง ระบบจะจำกัดการชาร์จให้ไม่เกิน 7.5W เพื่อให้สอดรับกับมาตรฐานการกำกับดูแล

วิธีชาร์จ Apple Watch

คุณสามารถชาร์จ Apple Watch ของคุณได้ทั้งในตำแหน่งวางราบขณะถอดสาย หรือสามารถวางตะแคงข้างได้โดยยกขั้วต่อสำหรับชาร์จแบบเหนี่ยวนำ

วางด้านหลังของ Apple Watch บนขั้วต่อสำหรับชาร์จ โดยให้ขั้วต่อตั้งขึ้นหรือวางราบ เมื่อ Apple Watch เริ่มชาร์จ คุณจะเห็นตัวแสดงสถานะการชาร์จบนจอแสดงผล

ที่ชาร์จ MagSafe Duo วางหงายขึ้น โดยมี iPhone และ Apple Watch ชาร์จอยู่

หากคุณใช้ที่ชาร์จ Apple MagSafe Duo กับ Apple Watch รุ่นที่ใหญ่ขึ้น (44 มม., 45 มม. หรือ 49 มม.) คุณอาจต้องขยับตำแหน่งของที่ชาร์จ ขยับที่ชาร์จให้อยู่ในมุมอื่นหรือวางราบเพื่อให้ตำแหน่งของแม่เหล็กตรงกับแม่เหล็กของนาฬิกา หากคุณไม่เห็นตัวแสดงสถานะการชาร์จบนจอแสดงผลของ Apple Watch Ultra แม้ว่าเครื่องจะวางราบอยู่ ให้ลองถอดสายนาฬิกาออกก่อนวางนาฬิกาบนที่ชาร์จ

ดูเพิ่มเติม

  • ที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่ออกแบบมาให้ชาร์จ Apple Watch ได้ และเพื่อการชาร์จที่เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพที่สุดกับ iPhone 12, iPhone 13 และ iPhone 14 ทุกรุ่น และอุปกรณ์เสริม MagSafe ของ Apple

  • เมื่อนำอุปกรณ์ที่รองรับ Qi ซึ่งไม่ใช่ MagSafe มาชาร์จกับที่ชาร์จ MagSafe Duo กำลังไฟจะลดลงและระยะเวลาในการชาร์จอาจนานกว่าที่ชาร์จ Qi ทั่วไป

  • ที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่สามารถใช้ได้กับ iPhone 13 ทุกรุ่น แม่เหล็กในที่ชาร์จและใน iPhone ของคุณจะอยู่ในแนวเดียวกันเพื่อการชาร์จที่มีประสิทธิภาพสูงสุด การปรับตำแหน่งของ iPhone 13 หลังจากที่เริ่มชาร์จอาจทำให้ใช้เวลาในการชาร์จนานขึ้น

  • ที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่ไม่รองรับการชาร์จเร็วสำหรับ Apple Watch Series 7, Apple Watch Series 8 หรือ Apple Watch Ultra หากต้องการชาร์จ Apple Watch Series 7, Apple Watch Series 8 และ Apple Watch Ultra แบบเร็ว ให้ใช้สายชาร์จเร็วแบบแม่เหล็กเป็น USB-C ของ Apple

  • อย่าวางบัตรเครดิต บัตรรักษาความปลอดภัย หนังสือเดินทาง และกุญแจรีโมตคั่นระหว่าง iPhone กับที่ชาร์จ MagSafe Duo เพราะอาจทำให้แถบแม่เหล็กหรือชิป RFID ในสิ่งของเหล่านี้เสียหายได้ หากคุณใช้เคสที่มีที่เก็บสิ่งที่ไวต่อสนามแม่เหล็กเหล่านี้ ให้นำออกก่อนที่จะชาร์จ หรือตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งเหล่านี้คั่นอยู่ระหว่างด้านหลังของอุปกรณ์กับที่ชาร์จ

  • หาก iPhone ของคุณต่ออยู่กับทั้งที่ชาร์จ MagSafe Duo และแหล่งจ่ายไฟผ่านพอร์ต Lightning เครื่อง iPhone ของคุณจะชาร์จผ่านขั้วต่อ Lightning

  • เช่นเดียวกับที่ชาร์จแบบไร้สายอื่นๆ iPhone หรือที่ชาร์จ MagSafe Duo อาจอุ่นขึ้นเล็กน้อยระหว่างที่ iPhone ของคุณชาร์จอยู่ หากแบตเตอรี่อุ่นเกินไป ซอฟต์แวร์อาจจำกัดการชาร์จไว้ไม่เกิน 80 เปอร์เซ็นต์ เพื่อยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ของคุณ

  • หาก iPhone ของคุณสวมเคสหนังขณะชาร์จอยู่บนที่ชาร์จ MagSafe Duo เคสอาจมีรอยประทับเป็นวงกลมจากการกดทับของหนัง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ แต่หากคุณรู้สึกกังวล เราขอแนะนำให้ใช้เคสที่ไม่ได้ทำจากหนัง

  • เช่นเดียวกับวัสดุที่อ่อนนุ่มส่วนใหญ่ การหุ้มอุปกรณ์เสริมอาจสึกหรอตามปกติเมื่อเวลาผ่านไป ตรงส่วนพับของที่ชาร์จ MagSafe Duo อาจมีรอยยับเมื่อเวลาผ่านไปหากเก็บไว้ในตำแหน่งพับ การทิ้งที่ชาร์จ MagSafe Duo ของคุณไว้ในสภาพแวดล้อมที่ร้อนจัด (เช่นภายในรถในวันที่อากาศร้อน) ตำแหน่งที่พับอาจทำให้เกิดรอยลึกที่มองเห็นได้ชัดเจนขึ้นในบริเวณนั้น สิ่งนี้ไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์เสริม

  • ดูข้อมูลเกี่ยวกับแม่เหล็กในผลิตภัณฑ์ MagSafe

วันที่เผยแพร่: