เกี่ยวกับจอแสดงผล Super Retina และจอแสดงผล Super Retina XDR บน iPhone

ดูวิธีใช้ประโยชน์สูงสุดจากจอแสดงผล Super Retina หรือจอแสดงผล Super Retina XDR บน iPhone

No alt supplied for Image

จอภาพ Super Retina บน iPhone X, iPhone XS และ iPhone XS Max และจอภาพ Super Retina XDR บน iPhone 11 Pro รุ่นต่างๆ และใหม่กว่า ยกเว้น iPhone SE (รุ่นที่ 2 และ 3) ได้รับการออกแบบโดย Apple เพื่อให้ได้มาตรฐานที่สูงอย่างไม่น่าเชื่อของเรา เราเชื่อว่าจอแสดงผลเหล่านี้คือจอแสดงผล OLED ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน ในขณะที่ให้ความแม่นยำของสีได้ดีเหลือเชื่อ จอแสดงผล Super Retina และ Super Retina XDR มีความต่างระดับสีที่น่าเหลือเชื่อ ให้ความสว่างสูง และมีขอบเขตสีที่กว้างแบบมาตรฐานโรงภาพยนตร์ อีกทั้งยังมีการจัดการสีของระบบที่ดีที่สุด ซึ่งจะปรับเทียบสีต่างๆ อย่างแม่นยำเพื่อมอบประสบการณ์การรับชมที่ยอดเยี่ยม

คุณสมบัติช่วงไดนามิกสูง

Super Retina และ Super Retina XDR ยังมาพร้อมคุณสมบัติช่วงไดนามิกสูง (HDR) ซึ่งช่วยขยายบริเวณที่มืดและสว่างในรูปภาพและวิดีโอได้หลายระดับ คุณสมบัตินี้จะช่วยให้คุณมองเห็นบริเวณที่มีสีดำสนิทและบริเวณที่มีสีขาวสว่างได้ โดยยังคงรักษาความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ ในบริเวณเหล่านั้นไว้ รูปภาพจะดูสดใสมากยิ่งขึ้น และเมื่อคุณรับชมในรูปแบบ Dolby Vision, HDR10 หรือ HLG ทุกอย่างจะสวยงามยิ่งกว่าเดิม

เทคโนโลยี OLED

จอแสดงผล Super Retina และ Super Retina XDR ใช้เทคโนโลยีไดโอดเปล่งแสงแบบออร์แกนิค (OLED) โดย Super Retina และ Super Retina XDR ได้รับการพัฒนาให้เหนือขึ้นไปกว่าจอแสดงผล OLED แบบเดิม เพื่อสร้างประสบการณ์การรับชมที่เหนือชั้น และเป็นครั้งแรกที่ตอบรับกับมาตรฐานของ iPhone อย่างแท้จริง

เทคโนโลยี OLED มีอัตราส่วนความต่างระดับสีและความละเอียดสูงอย่างยิ่ง และเมื่อไม่มีแบ็คไลท์ ก็ทำให้ OLED เปล่งแสงผ่านแต่ละพิกเซลได้ จนได้เป็นจอแสดงผลที่บางกว่าเดิม จอแสดงผล Super Retina และ Super Retina XDR เอาชนะความท้าทายเหนือจอแสดงผล OLED แบบเดิมด้วยระดับความสว่างสูง การรองรับช่วงสีที่กว้าง และให้ความแม่นยำของสีที่น่าทึ่ง

หากคุณมองจอแสดงผล OLED ในมุมต่างๆ คุณอาจสังเกตเห็นความแตกต่างของสีและโทนสีเล็กน้อย เมื่อระดับความสว่างของจอแสดงผลลดลงบนพื้นหลังสีดำ คุณอาจสังเกตเห็นความเบลอเล็กน้อยหรือการเปลี่ยนสีขณะเลื่อน นี่เป็นลักษณะของ OLED และเป็นพฤติกรรมปกติ เมื่อใช้งานในระยะยาว จอแสดงผล OLED อาจแสดงภาพที่ลักษณะเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยได้ด้วย ซึ่งก็เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้ และอาจมีอาการ “การค้างของภาพ” หรือ “การเบิร์นอิน” ร่วมด้วย ซึ่งเป็นอาการที่จอแสดงผลจะแสดงภาพค้างอยู่จางๆ แม้ว่าภาพใหม่จะปรากฏขึ้นบนหน้าจอแล้วก็ตาม อาการภาพค้างจะอยู่เพียงชั่วคราวและหายไปหลังจากใช้งานปกติไม่กี่นาที อาการเบิร์นอินอาจเกิดขึ้นได้ในกรณีที่ใช้งานอย่างหนักมาก เช่น เมื่อระบบแสดงภาพที่มีความต่างระดับสีสูงด้วยความสว่างสูงอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน

ทั้งนี้เราได้ออกแบบหน้าจอ Super Retina และ Super Retina XDR ให้ดีที่สุดในอุตสาหกรรม ในด้านการลดผลกระทบของ "เบิร์นอิน" บน OLED ซึ่งมีอัลกอริทึมพิเศษที่ตรวจสอบการใช้งานของแต่ละพิกเซลเพื่อสร้างข้อมูลการปรับเทียบสีหน้าจอ iPhone ของคุณจะใช้ข้อมูลนั้นเพื่อปรับระดับความสว่างสำหรับแต่ละพิกเซลโดยอัตโนมัติตามต้องการเพื่อลดเอฟเฟ็กต์ภาพจากการเบิร์นอิน และเพื่อคงประสบการณ์การรับชมให้สม่ำเสมอต่อเนื่อง ฟังก์ชั่นปรับความสว่างอัตโนมัติสามารถลดผลกระทบจากอาการเบิร์นอินและภาพค้างได้อีก

นอกจากนี้ จอแสดงผลทั้งหมด รวมทั้งแบบ OLED และ LCD อาจทำให้ระดับความสว่างลดลงได้ง่ายเมื่อจอแสดงผลมีอายุมากขึ้นตามกาลเวลา ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอุปโภคบริโภค

รับประโยชน์สูงสุดจากจอแสดงผล Super Retina และ Super Retina XDR

iPhone ของคุณที่ใช้ iOS เวอร์ชั่นล่าสุดได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อลดผลกระทบจากการใช้งานในระยะยาวและยืดอายุการรับชมของจอแสดงผล Super Retina และ Super Retina XDR โดยมีบางสิ่งเพิ่มเติมที่คุณสามารถปฏิบัติเพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากจอแสดงผล Super Retina หรือ Super Retina XDR ดังนี้

  • อัปเดต iPhone ของคุณให้เป็น iOS เวอร์ชั่นล่าสุด เมื่อมีรายการอัปเดตพร้อมให้ใช้งาน คุณจะเห็นข้อความแจ้งให้อัปเดต คุณยังสามารถตรวจหารายการอัปเดตได้ใน "การตั้งค่า > ทั่วไป > รายการอัปเดตซอฟต์แวร์" ได้อีกด้วย

  • ใช้การปรับความสว่างอัตโนมัติเพื่อปรับความสว่างจอแสดงผลของคุณโดยอัตโนมัติโดยอิงจากแสงสว่างโดยรอบในตำแหน่งที่คุณอยู่ โดยการตั้งค่านี้จะเปิดไว้ตามค่าเริ่มต้น หากต้องการตรวจสอบการตั้งค่านี้ ให้ไปที่การตั้งค่า > การช่วยการเข้าถึง > จอภาพและขนาดข้อความ จากนั้นเลื่อนลงแล้วเปิดปรับความสว่างอัตโนมัติ

  • ตั้งค่า iPhone ให้ปิดจอแสดงผลเมื่อคุณไม่ได้ใช้งาน และควรเลือกระยะเวลาที่สั้นลง หากต้องการปรับการตั้งค่านี้ ให้ไปที่การตั้งค่า > จอภาพและความสว่าง > ล็อคอัตโนมัติ

  • หลีกเลี่ยงการแสดงภาพนิ่งที่ระดับความสว่างสูงสุดเป็นระยะเวลานาน หากคุณใช้แอปที่เปิดจอแสดงผลไว้ตลอดเวลาเมื่อคุณไม่ได้ใช้งาน iPhone ของคุณ คุณสามารถลดระดับความสว่างโดยใช้ศูนย์ควบคุมเป็นเวลาชั่วคราวได้

เอกสารนี้จะมีการอัปเดตเมื่อมีข้อมูลเพิ่มเติม

การให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ผลิตโดย Apple หรือเว็บไซต์อิสระที่ Apple ไม่ได้ควบคุมหรือทดสอบไม่ถือเป็นการแนะนำหรือการรับรองใดๆ Apple จะไม่รับผิดชอบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเลือก ประสิทธิภาพการทำงาน หรือการใช้งานเว็บไซต์หรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทอื่น Apple ไม่รับรองความถูกต้องหรือความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ของบริษัทอื่น โปรดติดต่อผู้จำหน่ายหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

วันที่เผยแพร่: