จัดการพื้นที่จัดเก็บข้อมูล iCloud

ต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูล iCloud เพิ่มหรือไม่ คุณสามารถจัดการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของคุณเพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างหรืออัปเกรดเป็น iCloud+ ได้อย่างง่ายดาย

เมื่อคุณตั้งค่า iCloud คุณจะได้รับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลฟรี 5GB โดยอัตโนมัติ คุณสามารถใช้พื้นที่ดังกล่าวสำหรับข้อมูลสำรอง iCloud, เพื่อจัดเก็บรูปภาพและวิดีโอไว้ในรูปภาพ iCloud รวมถึงเพื่อให้เอกสารต่างๆ อัปเดตตรงกันอยู่เสมอใน iCloud Drive และอื่นๆ อีกมากมาย คุณสามารถตรวจสอบว่าคุณใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูล iCloud เท่าใดในขณะนี้ได้ในการตั้งค่าบนอุปกรณ์ของคุณหรือบน iCloud.com หากมีพื้นที่เหลือน้อย คุณสามารถจัดการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างหรืออัปเกรดเป็น iCloud+ ได้ทุกเมื่อ

ดูวิธีอัปเกรดเป็น iCloud+

หากไม่แน่ใจเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างความจุของพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ของคุณและพื้นที่จัดเก็บข้อมูล iCloud โปรด ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลและพื้นที่จัดเก็บข้อมูล iCloud

เพิ่มพื้นที่ว่างใน iCloud ให้มากขึ้น

หากพื้นที่จัดเก็บข้อมูล iCloud เต็มแล้ว อุปกรณ์ของคุณจะไม่สำรองข้อมูลไปยัง iCloud รูปภาพและวิดีโอใหม่ก็จะไม่อัปโหลดไปยังรูปภาพ iCloud และ iCloud Drive หรือแอป iCloud อื่นๆ ก็จะไม่อัปเดตในอุปกรณ์ต่างๆ ของคุณเช่นกัน และคุณจะไม่สามารถรับหรือส่งอีเมลด้วยที่อยู่อีเมล iCloud ของคุณได้

คุณสามารถเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลใน iCloud ได้ด้วยการลบคอนเทนต์ที่คุณไม่ได้ใช้ แต่ก่อนที่คุณจะลบข้อมูลใดก็ตาม คุณควรเก็บถาวรหรือสร้างสำเนาข้อมูลที่คุณจัดเก็บไว้ใน iCloud

หากต้องการลบเนื้อหาที่คุณไม่ได้ใช้ ให้เลือกหมวดหมู่ด้านล่างแล้วทําตามขั้นตอน

หากคุณมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลน้อยบน iPhone หรือ iPad ที่ใช้ iOS 17 หรือ iPadOS 17 หรือใหม่กว่า ให้ไปที่ "แนะนำสำหรับคุณ" ในการตั้งค่า iCloud จากที่นี่คุณสามารถลบสิ่งที่คุณอาจไม่ต้องการอีกต่อไป เช่น รูปภาพ ไฟล์ขนาดใหญ่ หรือข้อมูลสํารองเก่า

  1. เปิดแอปการตั้งค่า แตะชื่อของคุณ แล้วแตะ iCloud

  2. แตะ "แนะนำสำหรับคุณ" จากนั้นแตะตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่ง แล้วทําตามคําแนะนําบนหน้าจอเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูล

    หน้าจอ iPhone ที่แสดงคําแนะนํา "แนะนําสําหรับคุณ" ภายในการตั้งค่า iCloud

หากคุณไม่พบสิ่งที่ค้นหาใน "แนะนําสําหรับคุณ" ได้ คุณจะยังสามารถลบเนื้อหานั้นๆ ออกจาก iCloud ด้วยตนเองได้

ลดขนาดข้อมูลสำรอง iCloud ของคุณ

เมื่อคุณสำรองข้อมูล iPhone หรือ iPad ไปยัง iCloud ข้อมูลที่สำคัญที่สุดบนอุปกรณ์ของคุณจะถูกสำรองข้อมูลโดยอัตโนมัติ แอป หลายๆ แอปจะสำรองข้อมูลไปยัง iCloud โดยอัตโนมัติหลังจากที่คุณติดตั้งแอปเหล่านั้น คุณสามารถลดขนาดของข้อมูลสำรอง iCloud ของคุณและเพิ่มพื้นที่ว่างใน iCloud เมื่อคุณหยุดสำรองข้อมูลแอปที่คุณไม่ได้ใช้หรือลบข้อมูลสำรองเก่าใน iCloud ออก

ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลที่ iCloud สำรองข้อมูล

เลือกแอปที่จะสำรองข้อมูลบน iPhone, iPad หรือ Apple Vision Pro ของคุณ

  1. เปิดแอปการตั้งค่า แตะชื่อของคุณ แล้วแตะ iCloud

  2. แตะพื้นที่จัดเก็บข้อมูล หรือแตะจัดการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบัญชี จากนั้นแตะข้อมูลสำรอง

  3. แตะชื่อของอุปกรณ์ที่คุณกำลังใช้

  4. ปิดแอปใดๆ ที่คุณไม่ต้องการสำรองข้อมูล

  5. แตะปิด เพื่อยืนยัน

เมื่อคุณยืนยันว่าคุณต้องการปิดแอป ข้อมูลสำรอง iCloud สำหรับแอปนั้นจะปิดและข้อมูลทั้งหมดของแอปนั้นจะถูกลบออกจาก iCloud

แอปบางแอปจะสำรองข้อมูลไว้อยู่เสมอ ซึ่งคุณไม่สามารถปิดได้

ลบข้อมูลสำรองแล้วปิดข้อมูลสำรอง iCloud สำหรับอุปกรณ์ของคุณ

คุณสามารถลบข้อมูลสำรอง iCloud เก่าสำหรับอุปกรณ์ที่คุณกำลังใช้อยู่หรืออุปกรณ์เก่าที่คุณอาจไม่ใช้แล้วได้ ข้อมูลสำรอง iCloud จะสามารถใช้งานได้ 180 วัน หลังจากที่คุณปิดใช้งานหรือหยุดใช้การสำรองข้อมูล iCloud ไม่สามารถลบข้อมูลสำรองที่ใช้ในการกู้คืนอุปกรณ์ในปัจจุบันได้

iPhone, iPad หรือ Apple Vision Pro

  1. เปิดแอปการตั้งค่า แตะชื่อของคุณ แล้วแตะ iCloud

  2. แตะพื้นที่จัดเก็บข้อมูล หรือแตะจัดการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบัญชี จากนั้นแตะข้อมูลสำรอง

  3. แตะชื่อของอุปกรณ์ที่มีข้อมูลสำรองที่คุณต้องการลบ

  4. แตะปิดและลบออกจาก iCloud แตะปิดและลบเพื่อยืนยัน

เมื่อคุณลบข้อมูลสำรอง การสำรองข้อมูล iCloud ของ iPhone, iPad หรือ Apple Vision Pro ของคุณจะถูกปิดด้วยเช่นกัน คุณสามารถเปิดการสำรองข้อมูล iCloud อีกครั้งได้ในการตั้งค่า iCloud ต่างๆ บนอุปกรณ์ของคุณ

Mac

  1. เลือกเมนู Apple  > การตั้งค่าระบบ

  2. คลิกชื่อของคุณ แล้วคลิก iCloud

  3. คลิกจัดการ จากนั้นเลือกข้อมูลสํารอง

  4. เลือกหนึ่งในข้อมูลสำรองของอุปกรณ์ จากนั้นคลิกปุ่มลบเพื่อลบออก หากคุณต้องการปิดการสำรองข้อมูลและลบข้อมูลสำรองทั้งหมดของอุปกรณ์จาก iCloud เมื่อระบบขอให้คุณยืนยัน ให้เลือกลบ

เมื่อคุณลบข้อมูลสำรอง การสำรองข้อมูล iCloud ของอุปกรณ์ของคุณจะถูกปิดด้วยเช่นกัน คุณสามารถเปิดการสำรองข้อมูล iCloud อีกครั้งได้ในการตั้งค่า iCloud ต่างๆ บนอุปกรณ์ของคุณ

PC ที่ใช้ Windows

  1. เปิด iCloud สำหรับ Windows

  2. คลิกพื้นที่จัดเก็บข้อมูล

  3. เลือกข้อมูลสำรองจากรายการที่มีอยู่

  4. เลือกหนึ่งในข้อมูลสำรองของอุปกรณ์ จากนั้นคลิกลบ หากคุณต้องการปิดการสำรองข้อมูลและลบข้อมูลสำรองทั้งหมดของอุปกรณ์จาก iCloud เมื่อระบบขอให้คุณยืนยัน ให้เลือกลบ

เมื่อคุณลบข้อมูลสำรอง การสำรองข้อมูล iCloud ของอุปกรณ์ของคุณจะถูกปิดด้วยเช่นกัน คุณสามารถเปิดการสำรองข้อมูล iCloud อีกครั้งได้ในการตั้งค่า iCloud ต่างๆ บนอุปกรณ์ของคุณ

ลบรูปภาพในรูปภาพ iCloud

รูปภาพ iCloud จะใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูล iCloud ของคุณ เพื่อให้รูปภาพและวิดีโอทั้งหมดในอุปกรณ์ทุกเครื่องของคุณอัปเดตตรงกันอยู่เสมอ คุณสามารถเพิ่มเนื้อที่ iCloud ให้มากขึ้นได้ เมื่อคุณลบรูปภาพและวิดีโอที่คุณไม่ต้องการออกจากแอปรูปภาพบนอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณ

ก่อนที่จะลบอะไรก็ตาม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้สำรองข้อมูลรูปภาพและวิดีโอที่คุณยังต้องการไว้แล้ว เมื่อคุณใช้รูปภาพ iCloud แล้วลบรูปภาพหรือวิดีโอบนอุปกรณ์เครื่องหนึ่ง จะเป็นการลบรูปภาพหรือวิดีโอนั้นบนอุปกรณ์เครื่องอื่นๆ ทุกเครื่องที่ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Apple เดียวกันอีกด้วย

ทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อลบรูปภาพและวิดีโอออกจากรูปภาพ iCloud ของคุณ หากคุณไม่ได้ใช้รูปภาพ iCloud คุณสามารถลบรูปภาพออกจากคลังรูปภาพของคุณได้แทน

หากคุณเป็นส่วนหนึ่งของคลังรูปภาพที่แชร์ของ iCloud รูปภาพที่เพิ่มไปยังคลังที่แชร์จะนับรวมกับพื้นที่เก็บข้อมูลของบุคคลที่สร้างคลังที่แชร์นั้นเท่านั้น หากต้องการลบรายการที่นับเข้ากับพื้นที่จัดเก็บข้อมูล iCloud ของคุณ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณกำลังดูคลังส่วนบุคคลอยู่

iPhone, iPad หรือ Apple Vision Pro

  1. เปิดแอปรูปภาพ

  2. แตะทั้งหมดหรือรูปภาพทั้งหมด

  3. แตะเลือก จากนั้นเลือกรูปภาพหรือวิดีโอที่คุณต้องการลบ

  4. แตะปุ่มลบปุ่มลบ แล้วแตะลบรูปภาพหรือลบวิดีโอ

หากคุณไม่ได้ใช้รูปภาพ iCloud

หากคุณไม่ได้ใช้รูปภาพ iCloud คลังรูปภาพของคุณจะเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลสำรอง iCloud วิธีตรวจสอบพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ใช้ในข้อมูลสำรอง iCloud:

  1. เปิดแอปการตั้งค่า แตะชื่อของคุณ แล้วแตะ iCloud

  2. แตะพื้นที่จัดเก็บข้อมูล หรือแตะจัดการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบัญชี จากนั้นแตะข้อมูลสำรอง

  3. แตะชื่อของอุปกรณ์ที่คุณใช้ จากนั้นดูที่คลังรูปภาพ

หากต้องการลดขนาดคลังรูปภาพของคุณ ให้บันทึกรูปภาพและวิดีโอไปยังคอมพิวเตอร์ของคุณ จากนั้นสำรองข้อมูลอุปกรณ์ของคุณด้วยตนเอง หากคุณต้องการเก็บรูปภาพและวิดีโอไว้ในอุปกรณ์ คุณสามารถปิดแอปรูปภาพในข้อมูลสำรองอัปเกรดเป็น iCloud+

  1. เปิดแอปรูปภาพ

  2. เลือกรายการที่คุณต้องการจะลบ

  3. แตะปุ่มลบปุ่มลบ จากนั้นแตะลบรูปภาพ

Mac

  1. เปิดแอปรูปภาพ

  2. เลือกรูปภาพและวิดีโอที่คุณต้องการลบ

  3. กดปุ่มลบบนคีย์บอร์ดของคุณ จากนั้นคลิกลบเพื่อยืนยัน

iCloud.com

  1. จาก iPhone, iPad, Apple Vision Pro หรือคอมพิวเตอร์ของคุณ ให้ลงชื่อเข้าใช้ iCloud.com

  2. เลือกแอปรูปภาพ

  3. เลือกรูปภาพหรือวิดีโอที่คุณต้องการลบ

    • หากต้องการเลือกรูปภาพหรือวิดีโอหลายรายการ ให้แตะเลือกบน iOS, iPadOS หรือ visionOS หรือกดปุ่ม Command บน Mac ค้างไว้หรือ Control บน PC ค้างไว้เมื่อคุณเลือกรายการดังกล่าว

    • หากต้องการเลือกทั้งหมด ให้กด Command-A บน macOS ค้างไว้หรือ Control-A บน Windows หรือแตะเลือกทั้งหมดบน iOS, iPadOS หรือ visionOS

  4. แตะหรือคลิกปุ่มลบปุ่มลบ จากนั้นแตะหรือคลิกลบ

คุณสามารถกู้คืนรูปภาพและวิดีโอที่คุณลบออกจากอัลบั้ม "ที่เพิ่งลบล่าสุด" ได้ภายในเวลา 30 วัน หากคุณต้องการลบคอนเทนต์ออกจากอัลบั้มที่เพิ่งลบล่าสุดให้เร็วขึ้น ให้แตะเลือก แล้วเลือกรายการที่คุณต้องการลบ แตะลบ > ลบ หากคุณใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูล iCloud ครบหรือเกินที่มีให้ อุปกรณ์ของคุณจะลบรูปภาพและวิดีโอที่คุณลบออกทันที และจะไม่สามารถกู้คืนได้ในอัลบั้ม "ที่เพิ่งลบล่าสุด" ของคุณ

ลบโฟลเดอร์หรือไฟล์ใน iCloud Drive

คุณสามารถจัดการและลบโฟลเดอร์หรือไฟล์ที่จัดเก็บไว้ใน iCloud Drive ได้จาก iPhone, iPad, Apple Vision Pro, Mac หรือ PC ของคุณ หากคุณเป็นผู้เข้าร่วมในโฟลเดอร์ที่แชร์ของคนอื่น โฟลเดอร์ที่แชร์นั้นจะไม่นับรวมในพื้นที่จัดเก็บข้อมูล iCloud ของคุณ

iPhone

  1. ไปที่แอปไฟล์แล้วแตะเลือกหา

  2. ใต้ตำแหน่งที่ตั้ง ให้แตะ iCloud Drive

  3. หากต้องการลบโฟลเดอร์ ให้แตะปุ่มเพิ่มเติม จากนั้นแตะเลือก แล้วเลือกโฟลเดอร์ที่คุณต้องการลบ แตะปุ่มลบ หากต้องการลบไฟล์ เช่น ไฟล์ที่อยู่ในโฟลเดอร์ ให้แตะโฟลเดอร์เพื่อเปิด แตะปุ่มเพิ่มเติมปุ่มเพิ่มเติม จากนั้นแตะเลือก แล้วเลือกไฟล์ที่คุณต้องการลบ

  4. จากนั้นแตะลบเพื่อลบไฟล์หรือโฟลเดอร์ออกจาก iCloud Drive บนอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณ

คุณสามารถค้นหาโฟลเดอร์และไฟล์ที่ถูกลบได้ใน "ที่เพิ่งลบล่าสุด" เป็นเวลา 30 วัน

iPad หรือ Apple Vision Pro

  1. ไปที่แอปไฟล์แล้วเปิดแถบด้านข้าง

  2. ใต้ตำแหน่งที่ตั้ง ให้แตะ iCloud Drive

  3. หากต้องการลบโฟลเดอร์ ให้แตะเลือก จากนั้นเลือกโฟลเดอร์ที่คุณต้องการลบ แตะลบ หากต้องการลบไฟล์ เช่น ไฟล์ที่อยู่ในโฟลเดอร์ ให้แตะโฟลเดอร์เพื่อเปิด แตะเลือก จากนั้นเลือกไฟล์ที่คุณต้องการลบ

  4. แตะลบเพื่อลบไฟล์หรือโฟลเดอร์ออกจาก iCloud Drive บนอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณ

คุณสามารถค้นหาโฟลเดอร์และไฟล์ที่ถูกลบได้ใน "ที่เพิ่งลบล่าสุด" เป็นเวลา 30 วัน

Mac

  1. เปิด Finder และไปที่โฟลเดอร์ iCloud Drive

  2. ลากรายการไปที่ถังขยะ หรือย้ายไปที่โฟลเดอร์อื่นบน Mac ของคุณ หากคุณย้ายไปยังถังขยะ คุณสามารถค้นหารายการดังกล่าวได้ใน "ที่ลบล่าสุด" เป็นเวลา 30 วัน

PC ที่ใช้ Windows

บนพีซีที่มี iCloud สำหรับ Windows คุณสามารถจัดการไฟล์ iCloud Drive ของคุณโดยใช้ Windows Explorer คุณสามารถปักหมุดไฟล์หรือโฟลเดอร์ลงใน Windows Explorer หรือใช้ขั้นตอนเหล่านี้เพื่อเพิ่มโฟลเดอร์ iCloud Drive ใน Windows Explorer และลบออกจาก iCloud Drive โดยทำดังนี้

  1. ดาวน์โหลดและติดตั้ง iCloud สําหรับ Windows

  2. ลงชื่อเข้าด้วยบัญชี Apple ของคุณ

  3. เปิด iCloud Drive

  4. ไปที่โฟลเดอร์ iCloud Drive

  5. เลือกโฟลเดอร์หรือไฟล์ที่คุณต้องการลบ

  6. คลิกลบ คุณสามารถค้นหาไฟล์ดังกล่าวได้ใน "ที่ลบล่าสุด" เป็นเวลา 30 วัน

iCloud.com

  1. ลงชื่อเข้าใช้ iCloud.com จากนั้นเลือกแอป iCloud Drive

  2. เลือกไฟล์ที่คุณต้องการลบ จากนั้นแตะหรือคลิกปุ่มเพิ่มเติมปุ่มเพิ่มเติม จากนั้นแตะหรือคลิกลบรายการที่เลือก โดยไฟล์จะยังคงอยู่ใน "ที่ลบล่าสุด" เป็นเวลา 30 วัน

ลบข้อความและไฟล์แนบในแอปข้อความ

เมื่อคุณใช้แอปข้อความบน iCloud ข้อความตัวอักษรและไฟล์แนบทั้งหมดที่คุณส่งและรับจะใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูล iCloud ของคุณ คุณสามารถเพิ่มพื้นที่ว่างให้มากขึ้นได้เมื่อคุณลบข้อความและไฟล์แนบต่างๆ เช่น รูปภาพ วิดีโอ และไฟล์ที่คุณไม่ต้องการอีกต่อไป

ลบข้อความหรือไฟล์แนบบน iPhone, iPad หรือ Apple Vision Pro ของคุณ

  1. ในบทสนทนาข้อความ ให้แตะค้างที่ฟองข้อความหรือไฟล์แนบที่คุณต้องการลบออก

  2. แตะเพิ่มเติม

  3. แตะปุ่มลบปุ่มลบ แล้วแตะลบข้อความ

ลบไฟล์แนบหลายรายการออกจากรายชื่อหรือการสนทนา

  1. ในการสนทนาผ่านข้อความ ให้แตะชื่อของผู้ติดต่อที่ด้านบนสุดของหน้าจอ

  2. ในส่วนรูปภาพ ให้แตะดูทั้งหมด

  3. แตะเลือก แตะรูปภาพที่คุณต้องการลบ

  4. แตะลบ แล้วแตะลบไฟล์แนบเพื่อยืนยัน

ลบการสนทนาทั้งหมด

  1. ปัดการสนทนาที่คุณต้องการลบไปทางซ้าย

  2. แตะปุ่มลบปุ่มลบ

  3. แตะ "ลบ"​ อีกครั้งเพื่อยืนยัน

ลบข้อความหรือไฟล์แนบบน Mac

  1. เปิดการสนทนาข้อความ

  2. กดปุ่ม Control ค้างไว้แล้วคลิกฟองข้อความที่คุณต้องการลบ

  3. เลือกลบ

  4. คลิกลบ เพื่อยืนยัน

ลบไฟล์แนบหลายรายการออกจากรายชื่อหรือการสนทนา

  1. เปิดการสนทนาข้อความ

  2. คลิกปุ่มข้อมูลปุ่มข้อมูล

  3. เลื่อนไปที่ส่วนรูปภาพ

  4. คลิกที่ไฟล์แนบแล้วกดปุ่ม Command ค้างไว้เพื่อเลือกไฟล์แนบหลายไฟล์

  5. กด Control แล้วคลิกหรือคลิกขวา แล้วเลือกลบ

  6. คลิกลบไฟล์แนบเพื่อยืนยัน

ลบการสนทนาทั้งหมด

  1. กดปุ่ม Control ค้างไว้แล้วคลิกการสนทนา

  2. เลือกลบหรือลบการสนทนา

  3. คลิกลบ เพื่อยืนยัน

ลบข้อความและจัดการแอปเมล

คุณสามารถเพิ่มพื้นที่ว่างให้ iCloud ได้เมื่อคุณลบข้อความอีเมลออกจากบัญชีอีเมล iCloud ของคุณ คุณยังสามารถย้ายข้อความอีเมลจาก iPhone หรือ iPad ไปยัง Mac หรือ PC ของคุณได้ ซึ่งข้อความเหล่านี้จะไม่นับรวมอยู่ในพื้นที่จัดเก็บข้อมูล iCloud ของคุณอีกต่อไป

ใช้ขั้นตอนด้านล่างเพื่อลบข้อความออกจากบัญชีของคุณ โปรดจำไว้ว่าข้อความที่มีไฟล์แนบขนาดใหญ่จะใช้พื้นที่ว่างมากกว่าอีเมลข้อความธรรมดา

iPhone, iPad หรือ Apple Vision Pro

หากอุปกรณ์ของคุณมีการตั้งค่าเพื่อเข้าใช้งานอีเมล iCloud คุณสามารถลบข้อความจากกล่องเมลใดๆ แล้วล้างถังขยะเพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างได้ ดังนี้

  1. ปัดไปทางซ้ายบนข้อความใดก็ตามเพื่อลบข้อความนั้น

  2. ไปที่กล่องเมลแล้วเลือกโฟลเดอร์ถังขยะ

  3. หากต้องการลบข้อความทีละข้อความ ให้ปัดซ้ายบนแต่ละข้อความ หากต้องการลบทุกอย่าง ให้แตะแก้ไข แตะเลือกทั้งหมด แล้วแตะลบ แตะลบทั้งหมดเพื่อยืนยัน

Mac หรือ PC ที่ใช้ Windows

หากคุณกำลังใช้เมล iCloud ด้วยแอปอีเมลเดสก์ท็อป เช่น แอปเมล ใน Mac หรือ Microsoft Outlook ใน PC ให้ใช้ขั้นตอนเหล่านี้

  • แอปเมลใน Mac ของคุณ: ลบข้อความที่คุณไม่ต้องการอีกต่อไป จากนั้นเลือกกล่องเมล > ลบรายการที่ถูกลบ แล้วเลือกบัญชีอีเมล iCloud ของคุณจากเมนู จากนั้นคลิกลบข้อมูลเพื่อยืนยัน

  • Microsoft Outlook 2010 จนถึง Outlook 2016 (Windows): ลบข้อความที่คุณไม่ต้องการแล้ว Outlook จะลบข้อความของคุณอย่างถาวรในครั้งต่อไปที่คุณปิดและรีสตาร์ทแอป

iCloud.com

  1. ลงชื่อเข้าใช้ iCloud.com

  2. เลือกเมล แล้วเลือกโฟลเดอร์ถังขยะ

  3. หากต้องการลบข้อความทีละข้อความ ให้เลือกข้อความที่คุณต้องการลบ แล้วเลือกปุ่มถังขยะปุ่มถังขยะ หากต้องการลบหลายข้อความ ให้เลือกข้อความที่คุณต้องการลบ แล้วเลือกลบ

ลบเสียงบันทึก

เมื่อใช้เสียงบันทึกใน iCloud การบันทึกเสียงของคุณจะถูกเก็บไว้ใน iCloud คุณสามารถลบเสียงบันทึกได้ง่ายๆ หากคุณต้องการพื้นที่ว่างเพิ่ม

iPhone, iPad หรือ Apple Vision Pro

  1. เปิดแอปเสียงบันทึก จากนั้นแตะการบันทึกทั้งหมด

  2. เลือกเสียงบันทึกที่คุณต้องการลบ จากนั้นแตะปุ่มลบปุ่มลบ

  3. แตะ "ที่เพิ่งลบล่าสุด" แตะ "แก้ไข" เลือกเสียงบันทึก แล้วแตะ "ลบ"

  4. แตะลบอย่างถาวรเพื่อยืนยัน

Mac

  1. เลือกเสียงบันทึกที่คุณต้องการลบ

  2. คลิกปุ่มลบปุ่มลบ

  3. เปิด "ที่ลบล่าสุด" แล้วคลิกลบทั้งหมดหรือลบ

  4. คลิกลบอย่างถาวรเพื่อยืนยัน

ลบข้อมูล FaceTime ออกจาก iCloud

เมื่อคุณลบ FaceTime ออกจาก iCloud ข้อมูลทั้งหมดของคุณจะถูกลบออกจากแอป และข้อมูลบางอย่างจะถูกลบออกจากแอปโทรศัพท์ รวมถึงข้อความเสียงในโทรศัพท์และข้อความวิดีโอและเสียงของ FaceTime ด้วย คุณจะไม่สามารถกู้คืนข้อมูลได้หลังจากที่คุณลบ FaceTime ออกจาก iCloud ก่อนที่คุณจะลบ FaceTime ออกจาก iCloud คุณสามารถส่งออกข้อความวิดีโอจาก FaceTime เพื่อให้บันทึกลงในแอปรูปภาพของคุณ ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับเวอร์ชั่นซอฟต์แวร์ของคุณ ดูวิธีส่งออกข้อความวิดีโอ FaceTime

iPhone, iPad หรือ Apple Vision Pro

  1. เปิดแอปการตั้งค่า แตะชื่อของคุณ แล้วแตะ iCloud

  2. แตะพื้นที่จัดเก็บข้อมูล หรือจัดการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบัญชี

  3. แตะ FaceTime แล้วแตะลบข้อมูลออกจาก iCloud

Mac

  1. เลือกเมนู Apple  > การตั้งค่าระบบ

  2. คลิกชื่อของคุณ แล้วคลิก iCloud

  3. คลิกจัดการ > FaceTime จากนั้นคลิกลบออกจาก iCloud

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บถาวรและการสร้างสําเนาข้อมูลที่คุณบันทึกไว้ใน iCloud

การให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ผลิตโดย Apple หรือเว็บไซต์อิสระที่ Apple ไม่ได้ควบคุมหรือทดสอบไม่ถือเป็นการแนะนำหรือการรับรองใดๆ Apple จะไม่รับผิดชอบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเลือก ประสิทธิภาพการทำงาน หรือการใช้งานเว็บไซต์หรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทอื่น Apple ไม่รับรองความถูกต้องหรือความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ของบริษัทอื่น ติดต่อผู้จำหน่ายหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

วันที่เผยแพร่: