รับการวัดที่แม่นยำที่สุดโดยใช้ Apple Watch
Apple Watch จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่คุณให้ไว้ เพื่อช่วยคำนวณตัววัดสำหรับกิจกรรมประจำวันของคุณ คุณสามารถปรับปุรงความแม่นยำของนาฬิกาได้มากยิ่งขึ้นโดยใช้เคล็ดลับต่อไปนี้
อัปเดตข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นข้อมูลล่าสุดและตรงกันอยู่เสมอ
Apple Watch จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคล อย่างเช่น ส่วนสูง น้ำหนัก เพศ และอายุเพื่อคำนวณปริมาณแคลอรี่ที่คุณเผาผลาญ และอื่นๆ
หากต้องการอัปเดตข้อมูลส่วนบุคคล ให้เปิดแอป Watch บน iPhone ของคุณ แตะแท็บ Apple Watch ของฉัน จากนั้นแตะสุขภาพ > รายละเอียดสุขภาพ แตะแก้ไข จากนั้นแตะรายการที่คุณต้องการเปลี่ยนแปลง
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้รับแต้มการเคลื่อนไหวและการออกกำลังกาย
การเคลื่อนไหวทุกๆ หนึ่งนาทีเต็ม ที่มีความหนักหน่วงเท่ากับหรือมากกว่าการเดินเร็ว จะนับรวมไว้ในเป้าหมายการออกกำลังกายและการเคลื่อนไหวประจำวันของคุณ โดยจะใช้ระดับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอของคุณเพื่อกำหนดการออกกำลังกายระดับเร็วสำหรับคุณ สำหรับผู้ที่ใช้เก้าอี้รถเข็น จะวัดการเคลื่อนไหวจากการเข็นด้วยความเร็ว กิจกรรมใดก็ตามที่อยู่ในระดับต่ำกว่านี้จะนับรวมในเป้าหมายการเคลื่อนไหวในแต่ละวันเท่านั้น
เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับแต้มการออกกำลังกายขณะเดิน คุณต้องปล่อยให้แขนข้างที่สวม Apple Watch แกว่งไปมาตามธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น ในขณะที่พาสัตว์เลี้ยงเดินเล่น ให้ปล่อยให้แขนข้างที่สวมนาฬิกาแกว่งไปมาอย่างอิสระ ขณะที่อีกข้างหนึ่งถือสายจูง
หากคุณจำเป็นต้องใช้มือทั้งสองข้างขณะที่เดิน เช่น เพื่อเข็นรถเข็น คุณยังสามารถได้รับแต้มการออกกำลังกายได้โดยใช้ แอปออกกำลังกาย. เปิดแอปบน Apple Watch ของคุณแล้วแตะเดินกลางแจ้ง แอปกิจกรรมจะอาศัยการเคลื่อนไหวของแขนและอุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวเพื่อติดตามการเคลื่อนไหว ในขณะที่แอปพลิเคชันการออกกำลังกายจะใช้อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหว เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจและ GPS
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการตรวจจับข้อมือเปิดอยู่
หากคุณสมบัติการตรวจจับข้อมือปิดอยู่ คุณจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนขณะยืน และ Apple Watch จะไม่สามารถติดตามความคืบหน้าการยืนของคุณได้ ค่าอัตราการเต้นของหัวใจในเบื้องหลัง (เช่น อัตราขณะพักและเดิน) จะไม่ทำงานหากการตรวจจับข้อมือปิดอยู่
หากต้องการตรวจสอบการตั้งค่านี้ ให้เปิดแอป Watch บน iPhone ของคุณ แตะแถบ Apple Watch ของฉัน จากนั้นแตะรหัส ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการตรวจจับข้อมือเปิดอยู่
ตรวจสอบความพอดี
การสวม Apple Watch โดยให้มีความพอดีในระดับที่เหมาะสม คือไม่แน่นเกินไป ไม่หลวมเกินไป และมีช่องว่างให้ผิวของคุณได้หายใจ จะช่วยให้คุณรู้สึกสบาย และทำให้เซ็นเซอร์ทำงานได้ดี
คุณอาจต้องปรับสาย Apple Watch ให้กระชับขึ้นเมื่อคุณออกกำลังกาย แล้วคลายออกเมื่อคุณออกกำลังกายเสร็จ นอกจากนี้ เซ็นเซอร์จะทำงานได้เฉพาะในกรณีที่คุณสวม Apple Watch ที่ด้านบนของข้อมือ
รับการวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่แม่นยำที่สุด
เพื่อให้การวัดอัตราการเต้นของหัวใจแม่นยำที่สุดเมื่อคุณใช้แอปพลิเคชันการออกกำลังกาย ให้ตรวจสอบว่าคุณสวม Apple Watch ได้พอดี เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจควรอยู่ใกล้กับผิวหนังของคุณ ดูเกี่ยวกับความแม่นยำและข้อจำกัดของเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
คุณยังสามารถ ติดตามระดับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอของคุณ เพื่อวัดว่าหัวใจของคุณทำงานหนักแค่ไหนระหว่างเดินกลางแจ้ง วิ่ง หรือเดินเขาในแอปออกกําลังกาย
หากคุณปิดอัตราการเต้นของหัวใจในการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว คุณจะไม่ได้รับการวัดอัตราการเต้นของหัวใจด้วย หากต้องการดูว่าอัตราการเต้นของหัวใจปิดหรือเปิดอยู่ ให้เปิดแอป Watch บน iPhone ของคุณ แล้วแตะความเป็นส่วนตัว
เลือกการออกกำลังกายที่ดีที่สุด
เมื่อคุณใช้แอปพลิเคชันการออกกำลังกาย ให้เลือกตัวเลือกที่เหมาะกับสิ่งที่คุณกำลังทำมากที่สุด ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังวิ่งบนเครื่องลู่วิ่ง ให้เลือกวิ่งในร่ม หากคุณออกกำลังกายแบบที่ไม่อยู่ในรายการ ให้แตะ "เพิ่มการออกกำลังกาย" แล้วเลือกการออกกายที่ตรงกับกิจกรรมที่คุณทำอยู่ที่สุด
ดูประเภทการออกกำลังกายที่มีให้ใช้งานบน Apple Watch
ปรับเทียบ Apple Watch
ปรับเทียบ Apple Watch เพื่อปรับปรุงความแม่นยำในการวัดระยะทาง เพซ และแคลอรี่ การปรับเทียบนาฬิกาของคุณยังช่วยให้นาฬิกาสามารถวัดระดับความฟิตและจังหวะการก้าวเท้าของคุณได้ดีขึ้นอีกด้วย
มีสิ่งใดอีกบ้างที่ส่งผลต่อค่าอัตราการเต้นของหัวใจ
มีหลายปัจจัยที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจของ Apple Watch การกำซาบของผิวหนัง (หรือปริมาณเลือดที่ไหลเวียนผ่านผิวหนังของคุณ) คือปัจจัยหนึ่ง การกำซาบของผิวหนังจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลและยังอาจได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมอีกด้วย เช่น หากคุณกำลังออกกำลังกายในสภาพอากาศที่หนาวเย็น การกำซาบของผิวหนังที่ข้อมือของคุณอาจจะต่ำเกินไป จนทำให้เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจไม่สามารถอ่านค่าได้
การเปลี่ยนแปลงอย่างถาวรหรือชั่วคราวบนผิวของคุณ เช่น รอยสักบางประเภท ยังอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อีกด้วย หมึก ลวดลาย และความเข้มของรอยสักบางประเภทอาจปิดกั้นแสงจากเซ็นเซอร์ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการอ่านค่าที่น่าเชื่อถือได้
การเคลื่อนไหวก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่อาจมีผลต่อเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ การเคลื่อนไหวอย่างเป็นจังหวะ เช่น การวิ่งหรือขี่จักรยาน จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับการเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นปกติ เช่น การเล่นเทนนิสหรือชกมวย
หากคุณไม่สามารถอ่านค่าได้อย่างสม่ำเสมอเนื่องจากปัจจัยเหล่านี้ คุณสามารถเชื่อมต่อ Apple Watch ของคุณแบบไร้สายไปยังจอภายนอกแสดงอัตราการเต้นของหัวใจ เช่น สายรัดหน้าอกบลูทูธ ได้ ดูวิธีจับคู่อุปกรณ์เสริมบลูทูธ
อัตราการเต้นของหัวใจเป็นหนึ่งในหลายปัจจัยที่ Apple Watch ใช้เพื่อวัดกิจกรรมและการออกกำลังกายของคุณ โดยจะเลือกข้อมูลป้อนเข้าที่เหมาะสมที่สุดสำหรับกิจกรรมนั้นๆ ตามการออกกำลังกายของคุณ เช่น เมื่อคุณกำลังวิ่งอยู่ในร่ม Apple Watch จะใช้อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวด้วย
