ลอจิกบอร์ดของ iMac (รุ่น 24 นิ้ว, ปี 2023, 4 พอร์ต)
ก่อนที่คุณจะเริ่ม
ถอดชิ้นส่วนต่อไปนี้ก่อนที่คุณจะเริ่ม

เครื่องมือ
ไขควงหัวบ๊อกซ์หกเหลี่ยม 2.5 มม. (923-06028)
ไขควงปรับแรงบิด (10–34 Ncm) (923-02995)
เครื่องมือสายอากาศ
คีมหนีบป้องกันไฟฟ้าสถิต
เทป Kapton
โพรบไนลอน (แท่งสีดำ)
ชุดฐานรองรูปลิ่ม (076-00507)
ไขควงแรงบิด (สีเขียวอมฟ้า, 0.75 kgf cm) (923-08085)
ดอกไขควง Torx Plus 3IP ขนาด 25 มม. (923-07593)
ดอกไขควง Torx Plus 3IP แบบ Half-moon (923-08468)
ดูรายการเครื่องมือทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการซ่อม
ข้อสำคัญ
หากคุณเปลี่ยนชิ้นส่วนนี้ ขอแนะนำให้เรียกใช้ Repair Assistant เพื่อดำเนินการซ่อมให้เสร็จสิ้น Repair Assistant จะพร้อมให้เรียกใช้บนอุปกรณ์หลังจากที่คุณทำขั้นตอนการประกอบกลับครบถ้วนทั้งหมดแล้ว
การถอด
หมายเหตุ: หากคุณทําตามขั้นตอนการถอดเรียบร้อยแล้ว ให้ข้ามไปที่การประกอบกลับ
วางกรอบหุ้มโดยหงายลอจิกบอร์ดขึ้น
ใช้ไขควงแรงบิดสีเขียวอมฟ้ากับดอกไขควง 3IP แบบ Half-moon เพื่อถอดสกรู 3IP ห้าตัวออกจากตัวหนีบต่อสายดินของสายอากาศบนลอจิกบอร์ด
923-05174 (1)
923-05173 (2)
ใช้เครื่องมือสายอากาศยกปลายสายโคแอกเชียลของสายอากาศทั้งสามสายออกจากขั้วต่อ
ใช้คีมหนีบป้องกันไฟฟ้าสถิตลอกแถบฟิล์มโพลีเอสเตอร์บนสายแพพัดลมด้านซ้าย
ใช้ปลายด้านแบนของแท่งสีดำพลิกคันล็อคที่ปลายขั้วต่อสายแพพัดลมด้านซ้ายขึ้น
อ้าปากคีมหนีบป้องกันไฟฟ้าสถิตแล้วสอดด้านหนึ่งไว้ใต้ส่วนกว้างของสายแพพัดลมด้านซ้ายตามที่แสดง เพื่อคลายกาวระหว่างสายแพพัดลมกับลอจิกบอร์ด จากนั้นเลื่อนปลายสายแพพัดลมออกจากขั้วต่อ
ข้อควรระวัง: อย่าสัมผัสกับส่วนประกอบขนาดเล็กบนลอจิกบอร์ด ถือคีมให้ขนานกับลอจิกบอร์ดเพื่อป้องกันความเสียหาย
ทำซ้ำขั้นตอนที่ 4-6 กับอีกด้านของลอจิกบอร์ดเพื่อถอดสายแพพัดลมด้านขวา
ใช้ปลายด้านแบนของแท่งสีดำยกปลายสายลำโพงจากขั้วต่อ
ใช้คีมหนีบป้องกันไฟฟ้าสถิตลอกเทปฟิล์มโพลีเอสเตอร์ออกจากขั้วต่อสายแพแบ็คไลท์ของจอภาพ แล้วเก็บไว้ใช้ประกอบกลับ
หนีบด้านข้างของปลายสายแพแบ็คไลท์จอภาพและเลื่อนสายออกจากขั้วต่อ
ใช้ปลายด้านแบนของแท่งสีดำเพื่อกดปุ่ม "PUSH" ค้างไว้บนขั้วต่อสายแพไมโครโฟนแบบแรงแทรกเป็นศูนย์ (ZIF) และบอร์ดระบบเสียงและขั้วต่อสายแพของปุ่มเปิดปิด จากนั้นเลื่อนปลายสายออกจากขั้วต่อ
ดึงแถบเพื่อพลิกแถบล็อคขึ้นตรงปลายลอจิกบอร์ดของสายแพความเร็วสูง (1) เลื่อนปลายสายแพความเร็วสูงออกจากขั้วต่อบนลอจิกบอร์ด (2)
ใช้ปลายด้านแบนของแท่งสีดำเพื่อคลายกาวระหว่างสายแพความเร็วสูงกับกรอบหุ้ม
ดึงแถบเพื่อพลิกแถบล็อคขึ้นบนปลายบอร์ดอะแดปเตอร์ของสายแพความเร็วสูง (1) เลื่อนปลายสายแพความเร็วสูงออกจากขั้วต่อบนบอร์ดอะแดปเตอร์ (2) จากนั้นถอดสายแพความเร็วสูงออกจากกรอบหุ้ม
ดึงแถบเพื่อพลิกแถบล็อคบนกล้องและสายแพ Embedded DisplayPort (eDP) (1) ขึ้น เลื่อนปลายสายแพกล้องและ eDP ออกจากขั้วต่อ (2) จากนั้นถอดสายแพกล้องและ eDP ออกจากกรอบหุ้ม
ใช้ไขควงปรับแรงบิด 10–34 Ncm กับดอกไขควง 3IP ขนาด 25 มม. เพื่อถอดสกรู 3IP (923-05559) ห้าตัวออกจากตัวครอบสายแพความเร็วต่ำ จากนั้นถอดตัวครอบออก แล้วเก็บไว้เพื่อนำมาประกอบกลับ
ใช้ปลายด้านแบนของแท่งสีดำยกปลายสายแพความเร็วต่ำทั้งสองด้านออกจากขั้วต่อ
ดึงสายแพความเร็วต่ำอย่างเบามือออกจากกรอบหุ้ม เพื่อคลายกาวระหว่างสายกับกรอบหุ้ม ใช้ปลายด้านแบนของแท่งสีดำหากจำเป็น
ข้อควรระวัง: คุณต้องไม่พับสายแพในขณะที่ดึงสายอย่างเบามือออกจากกรอบหุ้ม
ใช้ไขควงหัวบ๊อกซ์หกเหลี่ยม 2.5 มม. ถอดสกรูหกเหลี่ยม 2.5 มม. เก้าตัวออกจากลอจิกบอร์ด
923-10011 (1)
923-05556 (2)
ขยับสายโคแอกเชียลของสายอากาศและสายแพให้พ้นทางในขณะที่คุณเอียงลอจิกบอร์ดไปด้านหน้า (1) จากนั้นยกลอจิกบอร์ดและสายแพความเร็วต่ำออกจากกรอบหุ้ม (2)
หมายเหตุ
สายแพความเร็วต่ำติดอยู่ที่ด้านหลังของลอจิกบอร์ด
หากจำเป็น ให้ใช้เทป Kapton เพื่อเก็บสายโคแอกเชียลของสายอากาศและสายแพให้พ้นทางในขณะกำลังถอดลอจิกบอร์ด
หากเอียงลอจิกบอร์ดไปด้านหน้าไม่ถนัด คุณอาจต้องถอดฐานรองโฟมรูปลิ่มออกจากฐานตั้งและดันลอจิกบอร์ดผ่านรูช่องต่อไฟ DC ที่ด้านหลังของกรอบหุ้ม ติดตั้งฐานรองโฟมรูปลิ่มกลับเข้าที่หลังจากที่คุณทำตามขั้นตอนนี้เสร็จแล้ว
การประกอบกลับ
หากกำลังติดตั้งลอจิกบอร์ดสำหรับเปลี่ยน ให้ดูคำแนะนำในการถ่ายโอนสายแพความเร็วต่ำจากลอจิกบอร์ดที่มีอยู่ไปยังลอจิกบอร์ดสำหรับเปลี่ยนในบทความสำหรับการซ่อมสายแพความเร็วต่ำ
หากกำลังติดตั้งลอจิกบอร์ดสำหรับเปลี่ยน ให้ลอกแผ่นพลาสติกใสที่ปิดเต้าเสียบไฟ DC ที่ด้านหลังของลอจิกบอร์ดออก
ขยับสายโคแอกเชียลของสายอากาศและสายแพให้พ้นทาง จากนั้นวางลอจิกบอร์ดและสายแพความเร็วต่ำลงในกรอบหุ้ม (1) จากนั้นเอียงลอจิกบอร์ดเข้าหากรอบหุ้ม (2)
หมายเหตุ: วางตำแหน่งช่องต่อเต้าเสียบไฟ DC ที่ด้านหลังของลอจิกบอร์ดให้ตรงกับรูในกรอบหุ้มเมื่อติดตั้งลอจิกบอร์ด
ลอจิกบอร์ดต้องอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องในกรอบหุ้ม และไม่มีสายโคแอกเชียลของสายอากาศหรือสายแพติดอยู่ใต้ลอจิกบอร์ด
ใช้ไขควงหัวบ๊อกซ์หกเหลี่ยม 2.5 มม. ไขสกรูน็อตหกเหลี่ยม 2.5 มม. เก้าตัวกลับเข้าไปในลอจิกบอร์ด
923-10011 (1)
923-05556 (2)
เดินสายโคแอกเชียลของสายอากาศที่สั้นกว่า (3) ใต้สายโคแอกเชียลของสายอากาศที่ยาวกว่า (2) ใช้ปลายด้านมนของเครื่องมือสายอากาศกดปลายสายโคแอกเซียลของสายอากาศสามสายเข้าไปในขั้วต่อ
ใช้ไขควงปรับแรงบิดสีเขียวอมฟ้ากับดอกไขควง 3IP แบบ Half-moon เพื่อติดตั้งสกรู 3IP ห้าตัวเข้าไปในตัวหนีบต่อสายดินของสายอากาศบนลอจิกบอร์ด
923-05174 (1)
923-05173 (2)
เลื่อนปลายสายแพพัดลมด้านซ้ายเข้ากับขั้วต่อ (1) แล้วดันคันล็อคลง (2)
กดเทปฟิล์มโพลีเอสเตอร์บนปลายสายแพพัดลมด้านซ้าย
กดสายแพพัดลมด้านซ้ายเพื่อติดเข้ากับลอจิกบอร์ด
ทำซ้ำขั้นตอนที่ 8-10 เพื่อต่อสายแพพัดลมด้านขวา
กดปลายสายลำโพงเข้ากับขั้วต่อ
เลื่อนปลายสายแพไฟแบ็คไลท์จอภาพเข้ากับขั้วต่อ
กดเทปฟิล์มโพลีเอสเตอร์กลับไปที่ขั้วต่อสายแพแบ็คไลท์จอภาพ
เลื่อนปลายสายแพไมโครโฟนและบอร์ดระบบเสียงและสายแพของปุ่มเปิดปิดเข้าไปในขั้วต่อ
กดปลายสายแพความเร็วต่ำทั้งสองด้านเข้ากับขั้วต่อบนบอร์ดอะแดปเตอร์
ข้อสำคัญ: หากคุณเปลี่ยนสายแพความเร็วต่ำ ให้ลอกแผ่นรองกาวออกจากด้านหลังของสายก่อนต่อปลายทั้งสองเข้ากับบอร์ดอะแดปเตอร์ แต่อย่าเพิ่งติดสายเข้ากับกรอบหุ้ม
หมายเหตุ: ขั้วต่อสายแพความเร็วต่ำต้องเชื่อมต่ออย่างสมบูรณ์
ข้อควรระวัง: ห้ามทำให้ขั้วต่อบิดงอ
วางตัวครอบสายแพความเร็วต่ำบนขั้วต่อ
ตั้งค่าแรงบิดของไขควงปรับแรงบิด 10-34 Ncm ไปที่ 11.5 Ncm ใช้ไขควงปรับแรงบิดกับดอกไขควง 3IP ขนาด 25 มม. เพื่อขันสกรู 3IP (923-05559) ห้าตัวกลับเข้าไปในตัวครอบสายแพความเร็วต่ำ
กดสายแพความเร็วต่ำให้ติดกับกรอบหุ้มในบริเวณที่แสดง
เลื่อนปลายสายแพความเร็วสูงที่อยู่ฝั่งบอร์ดอะแดปเตอร์เข้าไปในขั้วต่อบนบอร์ดอะแดปเตอร์ (1) จากนั้นพลิกแถบล็อคบนสายแพความเร็วสูง (2) ลง
เลื่อนปลายสายแพความเร็วสูงที่อยู่ฝั่งลอจิกบอร์ดเข้าไปในขั้วต่อบนลอจิกบอร์ด (1) จากนั้นพลิกแถบล็อคบนสายแพความเร็วสูง (2) ลง
กดสายแพความเร็วสูงให้ติดกับกรอบหุ้ม
เลื่อนปลายสายแพกล้องและ eDP เข้าไปในขั้วต่อ (1) จากนั้นพลิกแถบล็อคลงบนสายแพกล้องและ eDP (2)
ติดตั้งชิ้นส่วนต่อไปนี้กลับเข้าที่ให้เรียบร้อย
ข้อสำคัญ
Repair Assistant อาจพร้อมให้เรียกใช้บนอุปกรณ์เพื่อดำเนินการซ่อมให้เสร็จสิ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชิ้นส่วนที่เปลี่ยน ดูวิธีเริ่มการทำงานของ Repair Assistant