การตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอนสำหรับ Apple ID

หากคุณไม่สามารถใช้การตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยกับบัญชีของคุณ ตัวอย่างเช่น หากอุปกรณ์ของคุณใช้ iOS 8 หรือ OS X Yosemite หรือเวอร์ชั่นก่อนหน้า คุณสามารถดูแล Apple ID ของคุณให้ปลอดภัยด้วยการตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอนแทน

หากคุณใช้ iOS 9 หรือ OS X El Capitan หรือใหม่กว่า คุณสามารถใช้การตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยแทนการตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอน หากคุณไม่แน่ใจว่าคุณใช้วิธีการรักษาความปลอดภัยแบบใด ให้ตรวจสอบด้วยขั้นตอนเหล่านี้

การตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอนเหมือนกับการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยหรือไม่

ไม่ใช่ การตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยคือวิธีการรักษาความปลอดภัยที่ใหม่กว่า ซึ่งสร้างขึ้นมาพร้อมกับ iOS, macOS, tvOS, watchOS รวมถึงเว็บไซต์ต่างๆ ของ Apple โดยตรง ซึ่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่คล่องตัวมากขึ้น และต้องใช้คุณสมบัติบางประการที่ต้องใช้ความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น การตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยมีให้ผู้ใช้ iCloud ใช้งานได้ โดยผู้ใช้ต้องมีอุปกรณ์อย่างน้อยหนึ่งเครื่องที่ใช้ iOS 9 หรือ OS X El Capitan ขึ้นไป

หากคุณมีอุปกรณ์ Apple ที่สามารถอัปเดตเป็น iOS 9 ขึ้นไปหรือ OS X El Capitan ขึ้นไปได้ คุณควรตั้งค่าการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยแทน หากคุณใช้การตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอนสำหรับ Apple ID แล้วคุณอัปเกรดเป็น iOS 11 หรือใหม่กว่า หรือ macOS High Sierra หรือใหม่กว่า การตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยของคุณอาจอัปเกรดเป็นการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยโดยอัตโนมัติ

การตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอนคือวิธีการรักษาความปลอดภัยที่เก่ากว่า ซึ่งมีให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้ที่ไม่มีอุปกรณ์ของ Apple ผู้ใช้ที่ไม่สามารถอัปเดตอุปกรณ์ของตนได้ หรือผู้ใช้ที่ไม่เข้าเกณฑ์ในการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัย คุณไม่สามารถตั้งค่าการตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอนสำหรับ Apple ID ของคุณได้อีกต่อไป แต่ถ้าคุณใช้แล้ว คุณสามารถใช้ต่อไปได้

การตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอนสำหรับ Apple ID คืออะไร

การตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอนคือคุณสมบัติด้านความปลอดภัยสำหรับ Apple ID ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นเข้าถึงหรือใช้บัญชีของคุณได้ แม้ว่าบุคคลเหล่านั้นจะทราบรหัสผ่านของคุณก็ตาม

โดยคุณจะต้องยืนยันตัวตนของคุณโดยใช้อุปกรณ์ของคุณเครื่องใดเครื่องหนึ่งหรือวิธีอื่นที่ได้รับอนุมัติแล้วก่อนจึงจะสามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้

  • ลงชื่อเข้าสู่หน้าบัญชี Apple ID ของคุณ

  • ลงชื่อเข้าใช้ iCloud บนอุปกรณ์เครื่องใหม่หรือที่ iCloud.com

  • ลงชื่อเข้าใช้ใน iMessage หรือ FaceTime*

  • ซื้อสินค้าใน iTunes, Apple Books หรือ App Store จากอุปกรณ์เครื่องใหม่

  • รับบริการช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องกับ Apple ID จาก Apple

* FaceTime อาจไม่สามารถใช้งานได้ในบางประเทศหรือภูมิภาค

มีการทำงานอย่างไร

เมื่อคุณตั้งค่าการตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอน นั่นคือคุณได้ลงทะเบียนอุปกรณ์ที่คุณเชื่อถือตั้งแต่หนึ่งเครื่องขึ้นไป อุปกรณ์ที่เชื่อถือได้คืออุปกรณ์ที่คุณควบคุมที่สามารถรับรหัสยืนยัน 4 หลักโดยใช้ SMS หรือค้นหา iPhone ของฉัน คุณต้องระบุหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถรับข้อความ SMS ได้อย่างน้อยหนึ่งหมายเลข

จากนั้น เมื่อใดก็ตามที่คุณลงชื่อเข้าใช้เพื่อจัดการ Apple ID ของคุณลงชื่อเข้าใช้ iCloud หรือซื้อสินค้าใน iTunes Store, Apple Books หรือ App Store จากอุปกรณ์เครื่องใหม่ คุณต้องตรวจสอบยืนยันข้อมูลประจำตัวของคุณโดยป้อนทั้งรหัสผ่านและรหัสยืนยันความถูกต้อง 4 หลัก

ชื่อผู้ใช้แสดงเป็น j.appleseed@icloud.com

คุณป้อน Apple ID และรหัสผ่านของคุณตามปกติ

โทรศัพท์แสดงเลข 1234

เราส่งรหัสยืนยันไปที่อุปกรณ์เครื่องใดเครื่องหนึ่งของคุณ

รหัสยืนยันแสดงเลข 1234

คุณป้อนรหัสเพื่อยืนยันตัวตนของคุณและลงชื่อเข้าใช้จนเสร็จสมบูรณ์

หลังจากคุณลงชื่อเข้าใช้แล้ว คุณจะสามารถเข้าถึงบัญชีของคุณหรือซื้อสินค้าตามปกติได้อย่างปลอดภัย หากไม่มีทั้งรหัสผ่านของคุณและรหัสยืนยันความถูกต้อง ระบบจะปฏิเสธการเข้าถึงบัญชีของคุณ

คุณยังจะได้รับรหัสการกู้คืน 14 อักขระเพื่อให้พิมพ์ออกมาเก็บไว้ในที่ปลอดภัยได้อีกด้วย ใช้รหัสการกู้คืนของคุณเพื่อให้ได้รับสิทธิ์การเข้าใช้งานบัญชีของคุณได้อีกครั้ง หากคุณไม่สามารถเข้าใช้งานอุปกรณ์ที่เชื่อถือหรือหมายเลขโทรศัพท์ที่รับ SMS ได้ หรือหากคุณลืมรหัสผ่าน

ฉันยังต้องจำคำถามรักษาความปลอดภัยใดๆ อีกหรือไม่

เมื่อใช้การตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอน คุณไม่จำเป็นต้องสร้างหรือจำคำถามรักษาความปลอดภัยใดๆ อีก ตัวตนของคุณจะได้รับการยืนยันโดยใช้รหัสผ่านของคุณ รหัสยืนยันที่ส่งไปยังอุปกรณ์ที่คุณเชื่อถือหรือหมายเลขโทรศัพท์ที่รับ SMS ได้ และรหัสการกู้คืนของคุณโดยเฉพาะเท่านั้น

ฉันควรยืนยันหมายเลข SMS ใดสำหรับบัญชีของฉัน

คุณต้องยืนยันหมายเลขโทรศัพท์ที่รับ SMS ได้อย่างน้อยหนึ่งหมายเลขสำหรับบัญชีของคุณ คุณควรใช้การตรวจสอบยืนยันผ่านหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถรับ SMS ได้ทุกหมายเลขที่คุณใช้ตามปกติกับ iPhone ของคุณหรือโทรศัพท์มือถือเครื่องอื่น คุณยังควรใช้การตรวจสอบยืนยันผ่านหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถรับ SMS ที่ผู้ใกล้ชิดของคุณใช้อีกด้วย อย่างเช่น คู่สมรสหรือสมาชิกคนอื่นในครอบครัวของคุณ คุณสามารถใช้หมายเลขนี้หากคุณไม่สามารถเข้าใช้งานอุปกรณ์ของคุณเองได้ชั่วคราว

คุณไม่สามารถใช้บริการโทรศัพท์แบบใช้สายหรือแบบผ่านเว็บไซต์ (VOIP) ในการตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอนได้

เพิ่มหรือลบหมายเลขสำหรับรับ SMS

  1. ไปที่ appleid.apple.com และป้อน Apple ID และรหัสผ่านของคุณ

  2. ในส่วนลงชื่อเข้าใช้และความปลอดภัย ให้คลิกความปลอดภัยของบัญชี

  3. คลิกเพิ่มหมายเลขโทรศัพท์ที่เชื่อถือได้No alt supplied for Image

  4. หากต้องการเพิ่มหมายเลข ให้ป้อนหมายเลขโทรศัพท์ แล้วคลิกดำเนินการต่อ

  5. ป้อนรหัสยืนยันที่ส่งข้อความไปยังหมายเลขโทรศัพท์

  6. หากต้องการลบหมายเลขออก ให้คลิกลบหมายเลขโทรศัพท์ที่เชื่อถือได้นี้No alt supplied for Image ซึ่งอยู่ถัดจากหมายเลขโทรศัพท์ที่คุณต้องการลบออก

ฉันจะใช้การแจ้งเตือน "ค้นหา iPhone ของฉัน" เพื่อรับรหัสยืนยันได้อย่างไร

สามารถใช้การแจ้งเตือนค้นหา iPhone ของฉัน เพื่อรับรหัสยืนยันบนอุปกรณ์ iOS ทุกชนิดที่เปิดค้นหา iPhone ของฉัน ดูวิธีตั้งค่าค้นหา iPhone ของฉัน

ฉันต้องจำอะไรบ้างเมื่อฉันใช้การตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอน

การตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอนทำให้รักษาความปลอดภัย Apple ID ของคุณได้ง่ายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น หลังจากคุณเปิดใช้งานการตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอนแล้ว ผู้อื่นจะไม่สามารถเข้าใช้งานและจัดการบัญชีได้นอกจากจะใช้รหัสผ่านของคุณ รหัสยืนยันที่ส่งให้อุปกรณ์ที่คุณเชื่อถือหรือหมายเลขโทรศัพท์ที่รับ SMS ได้ หรือรหัสการกู้คืนของคุณ เฉพาะคุณเท่านั้นที่จะสามารถรีเซ็ตรหัสผ่านของคุณ จัดการอุปกรณ์ที่คุณเชื่อถือ หรือสร้างรหัสการกู้คืนใหม่ได้ ฝ่ายบริการช่วยเหลือของ Apple สามารถช่วยคุณเกี่ยวกับเรื่องอื่นในการบริการได้ แต่จะไม่สามารถอัปเดตหรือกู้คืนรายการทั้งสามนี้แทนคุณได้ เมื่อคุณใช้การตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอน คุณจะเป็นผู้รับผิดชอบสิ่งต่อไปนี้

  • การจำรหัสผ่านของคุณ

  • การเก็บรักษาอุปกรณ์ที่คุณเชื่อถือให้ปลอดภัย

  • การเก็บรักษารหัสการกู้คืนของคุณไว้ในที่ปลอดภัย

หากคุณไม่สามารถเข้าใช้งานสองในสามรายการนี้ได้ในเวลาเดียวกัน คุณอาจถูกบังคับให้ออกจาก Apple ID ของคุณเป็นการถาวร

ฉันควรเก็บรหัสการกู้คืนของฉันไว้ที่ใด

เก็บรักษารหัสการกู้คืนของคุณไว้ในที่ที่ปลอดภัยในบ้าน ที่ทำงานหรือสถานที่อื่นๆ คุณควรพิมพ์สำเนามากกว่าหนึ่งฉบับเพื่อให้สามารถเก็บรักษารหัสของคุณได้มากกว่าหนึ่งที่ คุณสามารถค้นหารหัสของคุณได้ง่ายขึ้นหากจำเป็นต้องใช้ และคุณจะมีสำเนาสำรองเก็บไว้หากสำเนาหนึ่งสูญหายหรือถูกทำลาย คุณไม่ควรเก็บรหัสการกู้คืนของคุณไว้บนอุปกรณ์หรือคอมพิวเตอร์ของคุณ เนื่องจากอาจทำให้ผู้ใช้ที่ไม่ได้รับอนุญาตสามารถเข้าใช้งานรหัสของคุณได้ในทันที

หากคุณต้องการรหัสการกู้คืนใหม่ ดูวิธีสร้างรหัสการกู้คืนใหม่

ฉันควรทำอย่างไรหากทำรหัสการกู้คืนของตัวเองหาย

คุณสามารถลงชื่อเข้าใช้ในหน้าบัญชี Apple ID ของคุณ แล้วสร้างรหัสการกู้คืนใหม่โดยใช้รหัสผ่าน Apple ID ของคุณและอุปกรณ์ที่เชื่อถือได้เครื่องหนึ่งของคุณ

  1. ไปที่ appleid.apple.com

  2. ลงชื่อเข้าใช้ด้วยรหัสผ่านของคุณโดยใช้อุปกรณ์ที่เชื่อถือ

  3. ในส่วนการลงชื่อเข้าใช้และความปลอดภัย ให้คลิกรหัสการกู้คืน > เปลี่ยนรหัสการกู้คืน

เก็บรหัสการกู้คืนอันใหม่ของคุณในสถานที่ที่ปลอดภัย รหัสการกู้คืนเดิมของคุณจะใช้งานไม่ได้อีกต่อไปและคุณไม่สามารถใช้คีย์นั้นเพื่อรีเซ็ตรหัสผ่านของคุณหรือเข้าถึงบัญชีของคุณได้ หากคุณไม่เห็นรหัสการกู้คืนในส่วนลงชื่อเข้าใช้และความปลอดภัย แสดงว่าคุณไม่ได้ใช้การตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอนอยู่

ฉันจะลงชื่อเข้าใช้บัญชีของฉันโดยใช้แอปที่ไม่รองรับการป้อนรหัสการตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอนได้อย่างไร

คุณสามารถสร้างรหัสผ่านเฉพาะแอปได้จากหน้าบัญชี Apple ID ของคุณ แล้วป้อนลงในช่องรหัสผ่านของแอปที่คุณต้องการลงชื่อเข้าใช้ ขั้นตอนนี้จะช่วยให้คุณลงชื่อเข้าใช้ได้อย่างปลอดภัย แม้ว่าแอปที่คุณใช้จะไม่รองรับการป้อนรหัสยืนยันความถูกต้องก็ตาม ตัวอย่างเช่น คุณอาจใช้รหัสผ่านเฉพาะแอปเพื่อลงชื่อเข้าใช้ iCloud โดยใช้อีเมล สมุดที่อยู่ หรือแอปปฏิทินของผู้ให้บริการรายอื่น

ดูวิธีสร้างและใช้รหัสผ่านเฉพาะแอป

ฉันควรทำอย่างไรหากลืมรหัสผ่าน Apple ID

คุณสามารถรีเซ็ตรหัสผ่านได้ที่ iforgot.apple.com

ฝ่ายบริการช่วยเหลือของ Apple ไม่สามารถรีเซ็ตรหัสผ่านให้คุณได้ หากต้องการรีเซ็ตรหัสผ่าน คุณต้องมีรหัสการกู้คืนและสามารถเข้าใช้งานอุปกรณ์ที่คุณเชื่อถือได้อย่างน้อยหนึ่งเครื่อง

ฉันควรทำอย่างไรหากทำอุปกรณ์ที่ฉันเชื่อถือหายหรือยกให้กับผู้อื่น

หากคุณไม่สามารถเข้าใช้งานหนึ่งในอุปกรณ์ของคุณอีกต่อไป ให้ลบอุปกรณ์นั้นออกจากรายการอุปกรณ์ที่เชื่อถือได้ของคุณโดยเร็วที่สุด อุปกรณ์เครื่องนั้นจะไม่สามารถใช้เพื่อช่วยยืนยันตัวตนของคุณได้อีกต่อไป

ฉันควรทำอย่างไรหากไม่สามารถเข้าใช้งานอุปกรณ์ที่ฉันเชื่อถือได้เลยแม้แต่เครื่องเดียว

หากคุณไม่สามารถเข้าใช้งานอุปกรณ์ที่คุณเชื่อถือได้เลยแม้แต่เครื่องเดียว คุณยังสามารถเข้าใช้บัญชีของคุณโดยใช้รหัสผ่านและรหัสการกู้คืนของคุณได้ หรือใช้รหัสผ่านและหมายเลขโทรศัพท์ที่รับ SMS ได้

  1. ไปที่ appleid.apple.com

  2. ในหน้าจอตรวจสอบตัวตนของคุณ ให้เลือก "เข้าถึงอุปกรณ์ที่เชื่อถือของคุณไม่ได้ใช่หรือไม่"

  3. ในหน้าต่างที่ปรากฏ ให้ป้อนรหัสการกู้คืนของคุณ

  4. ไปที่ส่วนอุปกรณ์และลบอุปกรณ์ที่คุณไม่ต้องการใช้ยืนยันตัวตนของคุณอีกต่อไป

ฉันจะปิดการตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอนได้อย่างไร

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณยังคงลงชื่อเข้าใช้ iCloud ในอุปกรณ์แต่ละเครื่องของคุณ ระบบอาจขอให้คุณป้อนรหัสผ่าน Apple ID

  1. ลงชื่อเข้าใช้ appleid.apple.com

  2. ในส่วนลงชื่อเข้าใช้และความปลอดภัย ให้คลิกความปลอดภัยของบัญชี

  3. คลิกปิดการตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอน คลิกอีกครั้งเพื่อยืนยัน

  4. สร้างคำถามรักษาความปลอดภัย แล้วตรวจสอบยืนยันวันเกิดของคุณ

คุณจะได้รับอีเมลที่ยืนยันว่าการตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอนสำหรับ Apple ID ของคุณปิดอยู่

ฉันจะเปลี่ยนจากการตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอนเป็นการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยได้อย่างไร

หากคุณใช้การตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอน เราจะอัปเดตบัญชีของคุณเป็นการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยโดยอัตโนมัติเมื่อคุณลงชื่อเข้าใช้ iOS 11 หรือใหม่กว่า หรือ macOS High Sierra หรือใหม่กว่า คุณยังสามารถสลับบัญชีของคุณจากการตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอนเป็นการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยได้ด้วยตัวเองโดยทำตามขั้นตอนด้านล่าง

ตรวจสอบคุณสมบัติที่คุณกำลังใช้งานอยู่

หากคุณไม่แน่ใจว่าคุณตั้งค่าการตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอนหรือการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยไว้หรือไม่ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. ลงชื่อเข้าใช้ appleid.apple.com

  2. ในส่วนลงชื่อเข้าใช้และความปลอดภัย ให้มองหาการตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอนหรือการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยในส่วนความปลอดภัยของบัญชี

  3. หากคุณสมบัติการตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอนเปิดอยู่ ให้ดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อปิดคุณสมบัตินี้ จากนั้นให้เปิดคุณสมบัติการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัย หากการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยเปิดอยู่ แสดงว่าคุณตั้งค่าไว้เรียบร้อยแล้ว

เปิดการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัย

คุณต้องปิดคุณสมบัติการตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอนก่อน จึงจะสามารถเปิดใช้การตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยได้ นอกจากนี้ อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณยังลงชื่อเข้าใช้ iCloud ในอุปกรณ์แต่ละเครื่องของคุณ ระบบอาจขอให้คุณป้อนรหัสผ่าน Apple ID*

ดูวิธีตั้งค่าการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยสำหรับ Apple ID ของคุณ

* หากคุณเข้าสู่ระบบ Mac ด้วย Apple ID คุณจะต้องเปลี่ยนรหัสผ่านการเข้าสู่ระบบ Mac ก่อนที่จะตั้งค่าการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัย

การตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอนสามารถใช้งานได้ที่ใดบ้าง

สามารถใช้งานการตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอนได้ในประเทศและภูมิภาคต่างๆ ด้านล่างสำหรับบัญชีที่มีอยู่

  • แอลเบเนีย

  • แอลจีเรีย

  • แองโกลา

  • แองกวิลลา

  • แอนติกาและบาร์บูดา

  • อาร์เจนตินา

  • อาร์เมเนีย

  • ออสเตรเลีย

  • ออสเตรีย

  • บาฮามาส

  • บาห์เรน

  • บังกลาเทศ

  • บาร์เบโดส

  • เบลเยียม

  • โบลิเวีย

  • บอตสวานา

  • บราซิล

  • หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน

  • บัลแกเรีย

  • แคเมอรูน

  • แคนาดา

  • หมู่เกาะเคย์แมน

  • สาธารณรัฐแอฟริกากลาง

  • ชาด

  • ชิลี

  • จีนแผ่นดินใหญ่

  • โคลอมเบีย

  • สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก

  • สาธารณรัฐคองโก

  • คอสตาริกา

  • โกตดิวัวร์

  • โครเอเชีย

  • ไซปรัส

  • Czechia

  • เดนมาร์ก

  • โดมินิกา

  • สาธารณรัฐโดมินิกัน

  • เอกวาดอร์

  • อียิปต์

  • เอลซัลวาดอร์

  • เอสโตเนีย

  • Eswatini

  • ฟิจิ

  • ฟินแลนด์

  • ฝรั่งเศส

  • แกมเบีย

  • เยอรมนี

  • กานา

  • กรีซ

  • เกรเนดา

  • กวม

  • กวาเดอลูป

  • กัวเตมาลา

  • กินี

  • กินี-บิสเซา

  • กายอานา

  • ฮอนดูรัส

  • ฮ่องกง

  • ฮังการี

  • ไอซ์แลนด์

  • อินเดีย

  • อินโดนีเซีย

  • ไอร์แลนด์

  • อิสราเอล

  • อิตาลี

  • จาเมกา

  • ญี่ปุ่น

  • จอร์แดน

  • คาซัคสถาน

  • เคนยา

  • โคโซโว

  • คูเวต

  • ลาว

  • ลัตเวีย

  • เลบานอน

  • ลิกเตนสไตน์

  • ลิทัวเนีย

  • ลักเซมเบิร์ก

  • มาเก๊า

  • นอร์ทมาซิโดเนีย

  • มาดากัสการ์

  • มาเลเซีย

  • มาลี

  • มอลตา

  • มาร์ตินีก

  • มอริเชียส

  • เม็กซิโก

  • มอลโดวา

  • มอนต์เซอร์รัต

  • โมร็อกโก

  • นามิเบีย

  • เนเธอร์แลนด์

  • นิวซีแลนด์

  • นิการากัว

  • ไนเจอร์

  • ไนจีเรีย

  • นอร์เวย์

  • โอมาน

  • ปากีสถาน

  • ปาเลา

  • ปานามา

  • ปารากวัย

  • เปรู

  • ฟิลิปปินส์

  • โปแลนด์

  • โปรตุเกส

  • เปอร์โตริโก

  • กาตาร์

  • เรอูนียง

  • โรมาเนีย

  • รัสเซีย

  • เซนต์คิตส์และเนวิส

  • เซนต์ลูเซีย

  • เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์

  • เซาตูเมและปรินซิปี

  • ซาอุดีอาระเบีย

  • เซเนกัล

  • เซเชลส์

  • เซียร์ราลีโอน

  • สิงคโปร์

  • สโลวาเกีย

  • สโลวีเนีย

  • แอฟริกาใต้

  • เกาหลีใต้

  • สเปน

  • ศรีลังกา

  • ซูรินาเม

  • สวีเดน

  • สวิตเซอร์แลนด์

  • ไต้หวัน

  • แทนซาเนีย

  • ไทย

  • ตรินิแดดและโตเบโก

  • ตูนิเซีย

  • ตุรกี

  • หมู่เกาะเติกส์และเคคอส

  • ยูกันดา

  • ยูเครน

  • สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

  • สหราชอาณาจักร

  • สหรัฐอเมริกา

  • อุรุกวัย

  • เวเนซุเอลา

  • เวียดนาม

  • เยเมน

  • ซิมบับเว

การให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ผลิตโดย Apple หรือเว็บไซต์อิสระที่ Apple ไม่ได้ควบคุมหรือทดสอบไม่ถือเป็นการแนะนำหรือการรับรองใดๆ Apple จะไม่รับผิดชอบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเลือก ประสิทธิภาพการทำงาน หรือการใช้งานเว็บไซต์หรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทอื่น Apple ไม่รับรองความถูกต้องหรือความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ของบริษัทอื่น โปรดติดต่อผู้จำหน่ายหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

วันที่เผยแพร่: