ใช้ FaceTime บน Mac
FaceTime ช่วยให้การโทรแบบวิดีโอหรือการโทรแบบเสียงเป็นเรื่องง่าย สิ่งที่คุณต้องมีคือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ รวมถึงไมโครโฟนและกล้องในตัวหรือที่เชื่อมต่อ
โอนสายการโทร FaceTime ไปยังอุปกรณ์อื่น
ใช้การโต้ตอบ การซ้อนทับของผู้นำเสนอ และเอฟเฟ็กต์อื่นๆ
โทร FaceTime
เปิดแอป FaceTime
คลิก
หากคุณไม่เห็นใน FaceTime เวอร์ชั่นของคุณ ให้ข้ามขั้นตอนนี้กรอกชื่อ ที่อยู่อีเมล หรือหมายเลขโทรศัพท์ของบุคคลที่คุณต้องการโทรหา เมื่อใช้ macOS Mojave เป็นต้นไป คุณสามารถกรอกบุคคลได้มากกว่าหนึ่งคนเพื่อโทร FaceTime แบบกลุ่ม โดยกรอกได้สูงสุด 32 คน
คลิกปุ่ม FaceTime เพื่อโทรผ่านวิดีโอ หรือคลิก
แล้วเลือก FaceTime แบบเสียง หากคุณไม่เห็นปุ่มนี้ ให้คลิกปุ่มวิดีโอหรือเสียงแทนหากคุณกำลังโทรแบบกลุ่ม คุณควรเห็นช่องสำหรับแต่ละคนในกลุ่ม ช่องจะระบุว่า "กำลังรอ" จนกว่าบุคคลนั้นจะตอบ หากคุณไม่เห็นช่องใดๆ ให้คลิก
ในแถบด้านข้างเพื่อเริ่มการโทรหากต้องการออกจากสาย ให้คลิก
หากคุณออกจากการโทรแบบกลุ่ม ทุกคนในกลุ่มจะยังอยู่ในสายจนกว่าจะเลือกออกเอง
ระหว่างการโทร FaceTime แบบกลุ่ม ช่องวิดีโอจะทำงานดังนี้
ผู้พูดที่พูดมากที่สุดจะปรากฏในช่องวิดีโอสด ผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ จะปรากฏในแถวของช่องด้านล่าง ในมุมมองนี้ ช่องจะเคลื่อนที่และช่องของผู้พูดจะขยายใหญ่ขึ้นโดยอัตโนมัติ คุณสามารถป้องกันไม่ให้มีการเคลื่อนที่นี้ใน macOS Catalina เป็นต้นไปได้ จากแถบเมนู FaceTime ให้เลือก FaceTime > การตั้งค่า แล้วยกเลิกการเลือก "ขณะกำลังพูด"
เมื่อใช้ macOS Monterey เป็นต้นไป คุณสามารถแสดงช่องทั้งหมดในเส้นตารางที่เป็นแบบเดียวกันเมื่อการโทรมีผู้เข้าร่วมอย่างน้อย 4 คน คลิกปุ่มเส้นตารางบริเวณมุมขวาบนของหน้าต่าง ในมุมมองนี้ ช่องของผู้พูดจะไฮไลท์โดยอัตโนมัติ
คลิกช่องเพื่อแสดงชื่อบุคคลนั้น ดับเบิ้ลคลิกเพื่อทำให้ช่องใหญ่ขึ้น
ช่องจะแสดง
เมื่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไม่เร็วพอที่จะแสดงวิดีโอของบุคคลนั้นได้
เพิ่มบุคคลไปยังการโทร FaceTime
ใครก็ตามที่อยู่ในสายที่ใช้แอป FaceTime สามารถเพิ่มบุคคลอื่นในสายได้
ขณะที่การโทรกำลังดำเนินอยู่ ให้คลิก
ในแอป FaceTime จากนั้นคลิก ในแถบด้านข้างกรอกชื่อ อีเมล หรือหมายเลขโทรศัพท์ของบุคคลใหม่นั้น จากนั้นคลิกเพิ่ม
คลิกปุ่มกระดิ่งถัดจากชื่อของบุคคลนั้นในแถบด้านข้างเพื่อโทรหา
ถ้ามีการสร้าง ลิงก์ FaceTime ขึ้นสำหรับการโทร ทุกคนที่มีลิงก์สามารถแชร์กับคนอื่นๆ ที่ต้องการเข้าร่วมการโทรได้
ใช้ลิงก์ FaceTime
ลิงก์ FaceTime ช่วยให้วางแผนการโทร FaceTime ล่วงหน้าได้ง่ายขึ้น เพราะคุณสามารถส่งลิงก์ให้ผู้เข้าร่วมทุกคนได้ก่อนที่การโทรจะเริ่ม เมื่อใช้ลิงก์ FaceTime คุณสามารถเชิญเพื่อนที่ใช้อุปกรณ์ Android และ Windows ให้เข้าร่วมการโทรได้เช่นกัน เพื่อนของคุณสามารถใช้ลิงก์เพื่อเข้าร่วมจากเบราว์เซอร์เมื่อใช้ Chrome หรือ Edge เวอร์ชั่นล่าสุด
สร้างและแชร์ลิงก์ FaceTime
ต้องมี macOS Monterey เป็นต้นไป
เปิดแอป FaceTime บน Mac ที่ใช้ macOS Monterey เป็นต้นไป
คลิก
เพื่อเปิดเมนูการแชร์ จากนั้นคุณสามารถคัดลอกลิงก์หรือเลือกตัวเลือกการแชร์อื่นๆ ได้หลังจากสร้างลิงก์แล้ว ลิงก์จะปรากฏในแถบด้านข้างของหน้าต่าง FaceTime ตามภาพด้านล่าง
เมื่อคุณพร้อมเริ่มโทร ให้คลิกลิงก์ FaceTime สองครั้งในแถบด้านข้าง หรือคลิก
ถัดจากลิงก์ จากนั้นคลิกเข้าร่วมเมื่อผู้อื่นเปิดลิงก์ FaceTime แล้วคลิกเข้าร่วม จะต้องได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการโทร
หากต้องการให้พวกเขาเข้าร่วมการโทร ให้คลิก
ข้างชื่อบุคคลนั้นหากต้องการปฏิเสธคำขอเข้าร่วมการโทร ให้คลิก
ข้างชื่อบุคคลนั้นหากคุณต้องการนำบุคคลนั้นออกจากการโทรหลังจากเข้าร่วม ให้คลิก
ภายใน 30 วินาที
หากต้องการลบลิงก์ FaceTime ให้คลิก
ถัดจากลิงก์ในแถบด้านข้าง แล้วคลิกลบลิงก์ เมื่อคุณลบลิงก์ คุณจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนเมื่อมีผู้ใช้ลิงก์อีกต่อไป และใครก็ตามที่ใช้ลิงก์นั้นจะเห็นเพียงว่ากำลังรอให้เข้าร่วมได้คุณยังสามารถสร้างลิงก์ในแอปปฏิทินได้อีกด้วย เมื่อเพิ่มกิจกรรมใหม่ ให้คลิกปุ่ม FaceTime ถัดจาก "เพิ่มตำแหน่งที่ตั้งหรือการโทรแบบวิดีโอ" จากนั้นเลือก FaceTime ลิงก์ FaceTime สามารถแนบไปกับกิจกรรมในปฏิทินได้ง่ายๆ ทุกคนที่คุณเชิญจะรู้เวลาและสถานที่ในการโทร
เข้าร่วมการโทรโดยใช้ลิงก์ FaceTime
คลิกลิงก์ FaceTime หากคุณใช้อุปกรณ์ที่ไม่สามารถเปิดลิงก์ในแอป FaceTime ลิงก์นั้นจะเปิดขึ้นในเว็บเบราว์เซอร์ของคุณแทน สำหรับอุปกรณ์ Android และ Windows เบราว์เซอร์ Google Chrome และ Microsoft Edge เวอร์ชั่นล่าสุดรองรับลิงก์ FaceTime
เมื่อเข้าร่วมการโทรจากเว็บเบราว์เซอร์ ระบบจะขอให้คุณกรอกชื่อเพื่อเข้าร่วมการสนทนาก่อน จากนั้นคลิกดำเนินการต่อ
คลิกเข้าร่วมและรอรับอนุญาตให้เข้าร่วม
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้าร่วมการโทร FaceTime จากอุปกรณ์ Android หรือ Windows
รับสายการโทร FaceTime
คลิก "ยอมรับ" บนการแจ้งเตือนที่ปรากฏบน Mac เพื่อรับสายโทรเข้าในแอป FaceTime หากคุณคลิก
ถัดจาก "ยอมรับ" คุณจะสามารถเลือกยอมรับการโทรแบบเสียงแทนการโทรแบบวิดีโอได้ หากคุณคลิกลูกศรถัดจาก "ปฏิเสธ" จะสามารถเลือกส่งข้อความหาผู้โทรหรือตั้งเตือนความจำให้โทรกลับในภายหลังได้การแจ้งเตือนให้เข้าร่วมการโทร FaceTime แบบกลุ่มจะแสดงปุ่มเข้าร่วมแทน คลิกเพื่อเปิดแอป FaceTime จากนั้นเข้าร่วมการโทรจากภายในแอป
โอนสายการโทรไปยังอุปกรณ์อื่น
ต้องมี macOS Ventura เป็นต้นไป iOS 16 เป็นต้นไป และ iPadOS 16 เป็นต้นไป
การย้ายสายการโทรไปยัง iPhone, iPad หรือ Mac เครื่องอื่นๆ ทำได้เหมือนกับการย้ายงานอื่นๆ และยังใช้การแจ้งเตือน Handoff ที่แสดงบนอุปกรณ์อื่นที่อยู้ใกล้เคียงได้ด้วย คลิกการแจ้งเตือนนั้น แล้วคลิกเข้าร่วมหรือสลับเพื่อย้ายสายการโทร
หากคุณใช้ชุดหูฟัง Bluetooth เสียงจากสายการโทรจะย้ายไปยังอุปกรณ์อีกเครื่องหนึ่งไปพร้อมกัน อย่าลืมเลือกหมายเลขโทรศัพท์หรือบัญชี Apple ที่คุณใช้ในส่วน "จะสามารถติดต่อคุณทาง FaceTime ได้ที่" ในการตั้งค่า FaceTime ในอุปกรณ์ทั้งสองเครื่อง
ใช้การโต้ตอบ การซ้อนทับของผู้นำเสนอ และเอฟเฟ็กต์อื่นๆ
macOS มีคุณสมบัติเกี่ยวกับวิดีโอและเสียงจำนวนมากที่คุณสามารถใช้ใน FaceTime และแอปการประชุมทางวิดีโออื่นๆ อีกมากมายได้
ใช้การตอบโต้ การซ้อนทับของผู้นำเสนอ โหมดกล้อง และโหมดไมค์
ต้องมี macOS Ventura เป็นต้นไปและ Mac ที่มี Apple Silicon
คุณสมบัติคำบรรยายสดจะแสดงการถอดเสียงการสนทนาโดยอัตโนมัติ ซึ่งรวมอยู่ในการโทร FaceTime แบบวิดีโอ พร้อมระบุผู้พูด ทำให้ติดตามการสนทนากลุ่มได้ง่าย
จากเมนู Apple ให้เลือกการตั้งค่าระบบในแถบเมนู
คลิกการเข้าถึงในแถบด้านข้าง
คลิกคำบรรยายสดทางขวา
เปิดคำบรรยายสดใน FaceTime
ดูเพิ่มเติม
นอกจากนี้คุณยังสามารถขอให้ Siri โทร FaceTime ให้คุณได้ด้วย เช่นพูดว่า "FaceTime หา John” หรือ "FaceTime หา Lisa แบบเสียง”
หากต้องการหยุดรับสาย FaceTime บน Mac ให้เปิด FaceTime แล้วเลือก FaceTime > ปิด FaceTime
ดูสิ่งที่ควรทำหาก FaceTime ไม่ทำงาน กล้องในตัวไม่ทำงาน หรือคุณไม่สามารถลงชื่อเข้าใช้ FaceTime ได้
FaceTime อาจไม่สามารถใช้งานได้ในบางประเทศหรือภูมิภาค