Mac OS X: เกี่ยวกับ การบันทึกระบบไฟล์
การบันทึกเป็นคุณสมบัติที่ช่วยปกป้องระบบไฟล์จากกระแสไฟฟ้าขัดข้องหรือความล้มเหลวของส่วนประกอบฮาร์ดแวร์ ซึ่งลดความจำเป็นในการซ่อมแซมไดเรกทอรี เอกสารนี้อธิบายประโยชน์บางประการของการใช้คุณสมบัตินี้และวิธีการทำงาน
การบันทึกสำหรับระบบไฟล์ Mac OS Extended (HFS Plus) ช่วยเพิ่มความพร้อมใช้งานของคอมพิวเตอร์และความยืดหยุ่นต่อความผิดพลาด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเซิร์ฟเวอร์เป็นพิเศษ การบันทึกช่วยปกป้องความสมบูรณ์ของระบบไฟล์บน Xserve และคอมพิวเตอร์อื่นๆ ที่ใช้ Mac OS X Server ในกรณีที่มีการหยุดทำงานโดยไม่ได้วางแผนหรือไฟฟ้าขัดข้อง นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มเวลาในการทำงานของเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่เชื่อมต่อให้มากที่สุดด้วยการเร่งการซ่อมดิสก์โวลุ่มที่ได้รับผลกระทบเมื่อระบบรีสตาร์ท
เมื่อคุณเปิดใช้งานการบันทึกบนดิสก์ บันทึกการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของไฟล์บนดิสก์จะถูกเก็บไว้ในบันทึก หากคอมพิวเตอร์ของคุณหยุดทำงานเนื่องจากไฟฟ้าดับหรือปัญหาอื่นๆ ระบบจะใช้บันทึกนี้เพื่อกู้คืนดิสก์ให้เป็นสถานะที่มีประวัติว่าทำงานปกติเมื่อเซิร์ฟเวอร์รีสตาร์ท
แม้ว่าคุณอาจพบการสูญเสียข้อมูลของผู้ใช้ที่ได้รับการบัฟเฟอร์ในช่วงเวลาที่เกิดความล้มเหลว แต่ระบบไฟล์จะถูกส่งกลับไปเป็นสถานะที่สอดคล้องกัน นอกจากนี้ การรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ยังทำได้เร็วกว่ามาก อย่าลืมสำรองข้อมูลของคุณบ่อยครั้งตามความจำเป็นเสมอ
เหตุใดจึงต้องมีการบันทึก
ไฟฟ้าขัดข้องหรือความล้มเหลวของระบบจะขัดจังหวะกระบวนการอ่านและเขียน ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่สอดคล้องกันระหว่างไดเรกทอรีระบบไฟล์กับตำแหน่งจริงและโครงสร้างของไฟล์ที่เก็บไว้ ในระบบไฟล์ที่ไม่มีการบันทึก ไดรฟ์จะอยู่ในสถานะที่ไม่รู้จักหลังจากเกิดความล้มเหลว ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีการบันทึกกิจกรรมเอาไว้ก่อนที่เครื่องจะหยุดทำงาน ก่อนที่เซิร์ฟเวอร์จะสามารถเริ่มต้นและดำเนินการบริการต่อได้ เซิร์ฟเวอร์นั้นจะต้องดำเนินการตรวจสอบความสอดคล้องที่จะต้องทำผ่านระบบไฟล์ทั้งระบบทีละบล็อก กระบวนการนี้อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงบนดิสก์โวลุ่มขนาดหลายเทราไบต์ ซึ่งส่งผลให้เกิดระยะเวลาในการหยุดทำงานของเซิร์ฟเวอร์ที่ยอมรับไม่ได้
การบันทึกช่วยเร่งเวลาการกู้คืนหลังจากที่หยุดทำงานโดยไม่คาดคิด ซึ่งปรับปรุงความพร้อมใช้งานของเซิร์ฟเวอร์และระบบจัดเก็บข้อมูลได้อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเปิดการบันทึกบนไดรฟ์จัดเก็บข้อมูล เซิร์ฟเวอร์จะติดตามการทำงานของระบบไฟล์โดยอัตโนมัติ และจะเก็บรักษาบันทึกที่ต่อเนื่องของทรานแซคชันเหล่านี้ไว้ในไฟล์แยกต่างหาก ซึ่งเรียกว่าการบันทึก ระบบปฏิบัติการสามารถใช้การบันทึกเพื่อย้อนกลับระบบไฟล์ไปเป็นสถานะที่ทราบว่าเป็นปกติและมีความสอดคล้องกันหลังเกิดความล้มเหลวได้ ซึ่งช่วยทำให้ไม่จำเป็นต้องดำเนินการตรวจสอบความสอดคล้องกับระบบไฟล์ทั้งระบบในระหว่างที่เริ่มต้นระบบ แต่เมื่อเซิร์ฟเวอร์รีสตาร์ท Mac OS X จะย้อนทรานแซคชันล่าสุดซ้ำในบันทึก ซึ่งจะทำให้ระบบเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดและกลับมาทำงานที่ถูกขัดจังหวะในระหว่างที่เกิดความล้มเหลวได้ เมื่อใช้ระบบไฟล์ที่บันทึกไว้ การรีสตาร์ทเซิร์ฟเวอร์จะใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที ไม่ว่าจะมีจำนวนไฟล์หรือขนาดของดิสก์โวลุ่มเท่าใดก็ตาม
ใช้ร่วมกับระบบรุ่นเก่ากว่าได้
ระบบไฟล์ที่บันทึกไว้เป็นส่วนหนึ่งของชุดของการปรับปรุงแบบเพิ่มส่วนของระบบไฟล์ Mac OS Extended และเข้ากันได้แบบย้อนหลังกับระบบไฟล์ Mac OS Extended ผู้ใช้สามารถอ่าน เขียน และเข้าถึงดิสก์โวลุ่ม Mac OS Extended ที่บันทึกไว้บนคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีคุณสมบัติการบันทึกได้
และยังสามารถใช้ยูทิลิตี้ดิสก์ส่วนใหญ่ที่ออกแบบมาให้ทำงานกับระบบไฟล์ Mac OS Extended ได้เมื่อเปิดการบันทึก คุณควรตรวจสอบกับผู้ขายยูทิลิตี้ดิสก์ของคุณก่อนใช้ยูทิลิตี้ดิสก์เวอร์ชั่นก่อนหน้านี้กับระบบไฟล์ที่บันทึก
การใช้งานจริงและข้อมูลเพิ่มเติม
คุณอาจเห็นข้อความแสดง "ข้อผิดพลาด" บางอย่างที่ไม่เป็นอันตรายเมื่อเปิดการบันทึก หากต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับข้อมูลเหล่านี้ โปรดดูที่ "Mac OS X: fsck รายงานข้อความแสดงข้อผิดพลาดที่ไม่เป็นอันตรายเมื่อการบันทึกทำงานอยู่"
หากต้องการเปิดและปิดการบันทึกโดยใช้ยูทิลิตี้ดิสก์ ให้ทำดังนี้
เปิดยูทิลิตี้ดิสก์ (อยู่ใน แอปพลิเคชัน/ยูทิลิตี้)
เลือกดิสก์โวลุ่มเพื่อเปิดใช้งานหรือปิดใช้งานการบันทึก
หากต้องการเปิดใช้งาน ให้คลิกที่ปุ่ม เปิดใช้งานการบันทึก หรือเลือก เปิดใช้งานการบันทึก จากเมนู ไฟล์
หากต้องการปิดใช้งานการบันทึก ให้เลือก ปิดใช้งานการบันทึก จากเมนู ไฟล์
หมายเหตุ: ใน Mac OS X 10.4 ขึ้นไป ให้กด Option เพื่อแสดง ปิดใช้งานการบันทึก ในเมนู ไฟล์
ดูเพิ่มเติม
การบันทึกเปิดตัวครั้งแรกใน Mac OS X Server v10.2.2 แล้วเปิดตัวในระบบปฏิบัติการ OS ที่ไม่ได้ทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ใน Mac OS X v10.3 Panther
